ทุกฝ่ายประสานเสียง กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่เป็นโอกาสใหม่ให้กับคนไทยในการรักษาโรค สร้างงานสร้างรายได้ และพลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศในอีกมิติ พร้อมเชิญชวนประชาชนเตรียมตัวให้พร้อม ศึกษา ทำความเข้าใจ ประโยชน์ของกัญชาที่สามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ร่วมแสดงพลังและเปิดโลกใหม่ในมหกรรม “พันธุ์บุรีรัมย์” ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายนนี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
นพ.สมยศ กิตติมั่นคง ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษามะเร็ง กล่าวว่า เมื่อก่อนเราเคยคิดว่ากัญชาเป็นยาเสพติด พอเราศึกษามากขึ้นจึงรู้ว่าตัวกัญชาไม่ได้มีฤทธิ์เสพติดเหมือนที่เคยพูดกันมา ที่สำคัญสมัยสมเด็จพระนารายณ์มีเขียนเอาไว้ชัดเจนว่ายาหลายๆ ตำรับมีการนำกัญชามาเป็นส่วนประกอบด้วย และผมบอกได้เลยว่าไม่เคยเห็นคนใช้กัญชาแล้วเกิดอาการคลุ้มคลั่งไปโดดตึกหรือโดดอะไรต่างๆ ในต่างประเทศก็ไม่เคยมีเหมือนกัน ดังนั้นยืนยันว่ากัญชาคือยารักษาโรคไม่ใช่ยาเสพติด ซึ่งหลายประเทศพิสูจน์มาแล้วจากงานวิจัย ผมว่าที่จริงเรายังก้าวช้าไปด้วย เพราะคนไข้เรากำลังทุกข์ทรมานเดือดร้อนแต่ยังต้องรอวิจัยอีก 5 ปีแล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้
“เราแก้ปัญหาง่ายๆ ได้หลายอย่าง ใช้ในรูปแบบสมุนไพร ประหยัดเงินค่ายา ไม่สะสมตกค้างในร่างกาย ไม่มีผลข้างเคียง จากการใช้ยาที่เป็นเคมี ผมเห็นว่างานพันธุ์บุรีรัมย์เป็นจุดเปลี่ยนของประเทศไทย ที่จะตอบคำถามว่า เราจะไปสู่กัญชาเสรีได้หรือไม่ ไปหาคำตอบกันว่า คนไทยจะใช้กัญชารักษาโรคด้วยตัวเองได้หรือไม่ มีวิธีการอย่างไรบ้าง”
ศ.ดร.สิริวัฒน์ วงศ์ศิริ ราชบัณฑิต ราชบัณฑิตยสภา กล่าวว่า อยากให้เลิกคิดว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ย้อนกลับไปในยุคฮิปปี้ กัญชาเป็นสัญลักษณ์ของความรักและสันติภาพ ช่วงสมัยสงคราม กัญชาเองมีประโยชน์มหาศาล โทษมีน้อยมาก ทั้งด้านอาหารและยา มีสาร 2 ชนิดหลักที่ถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ คือ สาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งมีฤทธิ์ลดอาการคลื่นไส้อาเจียนและการบวมอักเสบของแผล และ สาร THC (Tetrahydrocannabinol) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้ความรู้สึกผ่อนคลายและลดอาการปวด ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำกัญชามาสกัดเป็นน้ำมันเพื่อนำสารทั้ง 2 ชนิดนี้มาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคต่างๆ อาทิ โรคลมชัก โรคพาร์กินสัน โรคมะเร็งระยะสุดท้าย และ HIV
“ผมฝันไว้นานแล้ว อนาคตกัญชาจะเป็น “สตาร์ทอัพ” แบบออนไลน์ดีกว่า ถั่งเช่า จะทำให้ประเทศไทยและเด็กไทยสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ สามารถนำไปใช้พัฒนาต่อยอดประกอบธุรกิจได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น นำไปใช้ประกอบอาหาร เครื่องดื่ม ขนม ช็อกโกแลต ซอสปรุงรส ฯลฯ เด็กจะรวยแน่ ถ้าทำสตาร์ทอัพ ที่สำคัญลงทุนน้อย เป็นพืชเศรษฐกิจแสนล้าน สามารถส่งออกต่างประเทศได้กำไรมหาศาล เช่นเดียวกับที่ประเทศชั้นนำของโลกเริ่มลงมือกันแล้ว
เนวิน ชิดชอบ หัวหอกที่ร่วมรณรงค์และต่อสู้ เพื่อให้กัญชาถูกกฎหมาย กล่าวถึงประโยชน์มากมาย หากนำกัญชามาใช้ได้อย่างเสรีมากขึ้น โดยระบุว่า ปัจจุบันนี้มีงานวิจัยทางการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศจำนวนมาก ยืนยันว่ากัญชาเป็นพืชที่มีคุณค่าทางการแพทย์ หลายประเทศในโลก รวมทั้งประเทศไทย อนุญาตให้มีการผลิตกัญชาเพื่อการแพทย์อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว อีกทั้งองค์การอนามัยโลกได้ศึกษาวิจัยและระบุว่า สารสกัดในกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แต่มีสรรพคุณรักษาโรค และมีองค์ความรู้ภูมิปัญญาพื้นถิ่นเกี่ยวกับการใช้กัญชาเพื่อการแพทย์
นาย เนวิน ยังกล่าวอีกว่า “ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุดประเทศหนึ่งในโลก และมีมาตรการควบคุมการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ด้านความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ ดีที่สุดประเทศหนึ่งของโลก ได้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มผสมกัญชา ในร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไปอย่างเปิดเผยและได้รับความนิยม ไม่น้อยกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างสินค้าที่คนไทยทำได้ และมีตลาดรองรับ อยู่ที่เราจะเลือกว่าเราเลือกเป็นผู้ผลิตเพื่อจำหน่าย สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ หรือ เลือกที่จะเป็นผู้ซื้อ ผู้บริโภค และต้องจ่ายเงินออกไป กัญชาไม่ใช่แค่ยาเพื่อผู้ป่วย แต่เพื่ออุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ยังเป็นโอกาสใหม่ของคนไทย”
ขอเชิญไปร่วมแสดงพลังและเปิดโลกใหม่ ในมหกรรม “พันธุ์บุรีรัมย์” ร่วมรับฟังเสวนาจากแพทย์ นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ นักกฎหมายระดับประเทศทุกแขนง ความรู้การนำกัญชาไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันกิจกรรมเวิร์คช็อปวิธีปลูกและแปรรูป นิทรรศการการใช้กัญชาทางการแพทย์แผนไทย จำลองการปลูกจนถึงกระบวนการสกัดเป็นน้ำมันกัญชา ชมกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ นิทรรศการอาหารจากกัญชารักษาโรค บูธขายสินค้าสมุนไพรไทยและสุขภาพ กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้กัญชา รวมถึงเปิดให้จดแจ้งครอบครองกัญชาแก่ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีใบรับรองแพทย์ เปิดลงทะเบียนและรับรักษาผู้ป่วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มหกรรมอาหาร ร้านอร่อยจากภาคอีสาน และคอนเสิร์ตศิลปินฮิปฮอป-เร็กเก้-อิเล็กโทรนิกส์ ชื่อดังกว่า 70 วง ระหว่างวันที่ 19-21 เมษายน นี้ ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
จำหน่ายบัตร 1 วัน ราคา 420 บาท บัตร 3 วัน ราคา 1,000 บาท สายปาร์ตี้ต้องบัตร VIP พันธุ์บุรีรัมย์ พร้อมสิทธิพิเศษ เครื่องดื่มฟรีไม่อั้น โซนส่วนตัวทั้ง 3 เวทีพร้อมห้องน้ำ ในราคา 4,200 บาท เข้างานได้ 3 วัน จองบัตรได้ที่ www.allticket.com หรือ เซเว่นทุกสาขา