บ่าววี หรือ วีรยุทธิ์ นานช้า นักร้องขุนพลแดนใต้กับเส้นทางการเป็นศิลปินกว่า 15 ปี และเผยประสบการณ์เฉียดตายล้มป่วยด้วยโรคลิ้นหัวใจรั่วต้องรักษาตัวกว่าครึ่งปี พร้อมเปิดเผยเรื่องราวความรักกับแฟนสาวเป็นครั้งแรก ในรายการ “คุยแซ่บSHOW” ที่มี ตั๊กแตน ชลลดา “หนิง” ปณิตา และ “พีเค” ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร เป็นพิธีกร
แจ้งเกิดในเวทีเดอะสตาร์ซีซั่นไหน
บ่าววี : เป็นซีซั่น 2 แต่ตกรอบ คือซีซั่นแรกมีสน เดอะสตาร์ คือผมรู้สึกว่า หน้าตาและหุ่นของสนคล้ายเรา ถ้าสนมาเป็นนักร้องได้ก็คิดว่ามาลองดูสักครั้ง ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ประกวดอะไร เวทีที่ใหญ่สุดก็น่าจะเป็นเวทีเดอะสตาร์ วันออดิชั่นผมจำได้เลยว่าเข้าแถวสิบคน แล้วผมมาเป็นคนสุดท้าย คนที่ 5000 กว่า วันนั้นผมได้ร้องเพลง วอนพ่อขุน คือในสิบคนคนอื่นกลับบ้าน แต่ผมได้อยู่ต่อใน 10 คนนั้น แล้วเขาก็บอกว่าให้พรุ่งนี้ให้มาดูชื่อ ให้เตรียมเพลงมา ปรากฎว่าพอตอนเช้ามาเช็คชื่อ ไม่มีชื่อผม วันนั้นทั้งตัวเหลือเพียง 79 บาท นั่งปอ.2 กลับลพบุรี ตอนกลับน้ำตาไหลตลอดเวลา
ในชีวิตผมแค่การเป็นนักร้องในผับผมก็มีความสุขที่สุดแล้ว ผมไม่เคยคิดประกวดแต่อยากลองสักตั้งเพราะเราก็อยากจะเป็นดาว หลังจากนั้นมาผมก็ไม่เสี่ยงกับการไปประกวดแล้ว เพลงผมก็ทำเอง แต่งเอง มีเพื่อนผมที่เป็นนักดนตรีด้วยกันที่ลพบุรี เป็นโปรดิวเซอร์ให้ คือเราก็มีทำนองแล้ว และเราก็ไปเขียนเนื้อ เขียนไป 10 เพลงมีหลายแนวมาก ทั้งสายันต์ พงษ์พัฒน์ อ.ไข่มาลีฮวนน่า คือตอนนั้นเรายังหาตัวเองไม่เจอ
เห็นว่าส่งเพลงให้ค่ายเพลงไปแค่ 3 เดือน ค่ายตอบกลับมา
บ่าววี : ใช่ ก็คิดไม่ถึงเพราะผมส่งไปทุกค่ายเลย ทั้ง รถไฟดนตรี แกรมมี่ อาร์สยาม ค่ายที่ตอบกลับมาคืออาร์สยาม บังเอิญว่าคืนนั้นพี่หนูมิเตอร์ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ร้านที่ผมเล่น แกก็เลยบอกว่าส่งไปได้ สุดท้ายเขาโทรมาบอกให้เราเข้าไปคุย วันนั้นผมใจเต้นไปหมด วันนั้นผมมาแข่งกีฬาของกองทีพอากาศ ผมหยิกตัวว่าเราฝันหรือเปล่า ท้ายสุดก็ได้ออกกับค่ายอาร์สยาม เพลงที่ดังที่สุดในอัลบั้มคือเพลง “ฝากฟ้า” เพลงที่ผมเขียนขึ้นมาเอง
เห็นว่ามีแฟนอยู่แล้ว และแฟนก็ขี้หึงมาก แฟนอยู่ในระดับไหน ถ้าสูงสุดเป็น 10
บ่าววี : แฟนผมอยู่ในระดับ 8 ระดับ 9 แฟนคนนี้คบมา 20 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นคือผมไปทำงานที่ลพบุรีแล้วก็ไปเจอเขา ตอนนั้นเขาเรียนอยู่ม.5 ส่วนเราก็อายุ 20 กว่าๆ เรามาจากไม่มีอะไร คือคนอาจจะไม่ค่อยได้รรับรู้เพราะเขาอยากอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว แฟนผมชื่อ “แต๊ก” ครั้งแรกที่เจอคือเขามาเที่ยว เขาเห็นหน้าตาเขาน่ารักดี ก็มีคุย มีแอบไปหาบ้าง หลังจากนั้นเดือน 2 เดือน ก็เริ่มคบกัน
พอเรามีชื่อเสียง แฟนหึงอย่างไรบ้าง
บ่าววี : พอมีชื่อเสียง เราก็เป็นผู้ชาย ตั้งแต่ยังไม่ดังก็มีผู้หญิงมาชอบเรา เราก็เอารูปผู้หญิงคนอื่นมาใส่ในกระเป๋าแล้วลืมเอาออก แล้วแฟนมาเห็นพอดี ก็เลยเป็นเรื่องต้องไปคุยเคลียร์กัน ซึ่งมันก็ทำให้ผมรู้ว่าแฟนผมเขาจริงใจกับผม ขนาดผมมีวอกแวกเขาก็ยังให้โอกาส
เห็นว่าล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก
บ่าววี : จริงๆ แฟนผมกับผมไม่ค่อยไปไหนด้วยกัน บังเอิญวันนั้นผมไปทานข้าวเป็นร้านเล็กๆ แล้วก็ไปร้องคาราโอเกะบนเวทีในร้านทาน ข้าว แล้วไม่รู้ว่าผู้หญิงมาจากไหนคนหนึ่งมาถ่ายรูปเรา ซึ่งแฟนผมก็มาร้านนี้พอดี เราก็คิดว่ามันนัดกันมาหรือเปล่า พอเราร้องเสร็จผมก็เดินไปห้องน้ำ ผู้หญิงที่ถ่ายรูปผมก็เดินตามผมไปหน้าห้องน้ำมาขอถ่ายรูป แฟนผมก็เดินตามมาเพราะเขาคิดว่าเรานัดใครมาที่ร้านนี้ พอถ่ายรูปเสร็จผมก็อธิบายให้แฟนฟัง ก็ไม่มีอะไร
อะไรที่ทำให้แฟนที่คบกันมา 20 ปี ให้อภัยเราเสมอ และอยากอยู่กับเราตลอด
บ่าววี : อาจจเป็นเพราะเรามีเพื่อนมีพวกเยอะ เขาเข้าใจตรงนั้น และอีกอย่างคือผมรู้สึกว่าแฟนผมจริงใจกับผม ไม่ว่าอะไรที่เข้ามาในชีวิตเราเราก็เป็นห่วงเขาเหมือนกัน
อยากทราบว่าตัวตนบ่าววีเป็นคนเจ้าชู้ไหม
บ่าววี : ตัวผมก็มีบ้าง ส่วนเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องหึงหวงไม่มี ตั้งแต่มีแฟนมา ผมจะบอกแฟนเสมอว่าให้หนักแน่น ให้เชื่อมั่นในตัวเราและเชื่อมั่นตัวเอง เพราะว่าเราอยู่จุดนี้ ทุกอย่างจะโหมเข้ามา และที่เราอยู่กับเขาได้เพราะว่า เขาเข้มแช็ง เพราะจริงๆ แล้วเขาไม่เคยไปงานกับเราเลย เพราะเราไม่อยากให้เขาไปเห็นภาพบางอย่าง แม้ว่าเราจะไม่เคยคิดอะไรกับคนอื่นเพราะเรามีแฟนอยู่แล้ว ส่วนเรื่องมีคนมาชอบผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ของลูกผู้ชาย
แฟนผมไม่เคยไปคอนเสิร์ตของผมเลย คือเขาปล่อยให้ผมไปทำงาน ไม่ได้มาตาม แล้วเขาก็อยู่บ้าน ผมก็จะบอกเขาเสมอว่า ความรักไม่ใช่เจ้าของ การใช้ชีวิต ความรักนั้น ไม่มีใครเป็นเจ้าของกันและกัน เพราะเรามาอยู่ด้วยกันตรงจุดนี้ได้เพราะเราให้เกียรติกันและกัน
คบกันมา 20 ปี ทำไมไม่แต่งงาน
บ่าววี : ความจริงแล้วผมกับเขาได้ทำพิธีทางศาสนาไปแล้ว มันก็เหมือนแต่งงานแล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่ได้เป็นข่าวเพราะว่าแฟนไม่อยากเป็นข่าว เราก็อยากมีความสุขของเรา ถามว่าจดทะเบียนสมรสหรือยัง ยังไม่ได้จดทะเบียน
ประทับใจอะไรในตัวแฟนบ้าง
บ่าววี : ผมประทับใจเขาที่เขาจริงใจ และผมรู้สึกว่า ไม่ว่าเราจะเป็นอย่างไร แฟนผมก็ดูแลผมและให้เกียรติผมมาโดยตลอด มันทำให้เราคิดถึงวันแรกๆ ที่เรายังไม่มีอะไร เราอยู่กันมา 20 กว่าปี ทั้งๆ ที่ทั้งตัวเราและเขาต่างมีโอกาสเจอใครอีกเยอะ แต่ทุกวันนี้เรายังอยู่ด้วยกัน ผมรู้สึกว่าเคมีเราเข้ากัน ทั้งๆ ที่ผมไม่เคยมีความหวานให้เขาเลย และเวลาเขางอนผมก็ไม่เคยง้อ แต่จะทะลึ่งใส่ ถามว่าผมกลัวเมียไหม ไม่ได้กลัวนะ แต่ว่าเราให้เกียรติ
วาเลนไทน์ที่ผ่านมามีอะไรเซอร์ไพร์สแฟนบ้าง
บ่าววี : บอกตรงๆ ผมไม่มีวันวาเลนไทน์เป็นที่ตั้ง ไม่มีอะไรให้แฟนเลย วันนั้นแฟนก็มีถามแฟนว่าวันนี้เป็นวันวาเลนไทน์เธอไปไหนบ้างไหม เท่านั้นเอง เราก็จะพูดหยอกว่า วาเลนไทน์ มีความสุขนะ จริงๆ ก็อยากทำเซอร์ไพร์สเขานะ แต่มันเขิน บอกไม่ถูก
ถ้าเขาดูเราอยู่บอกรักผ่านทีวีได้ไหม
บ่าววี : คือผมเป็นคนที่มีเพื่อนมีพวกเยอะ ผมดีใจที่แฟนผมรับตรงนี้ได้ ทั้งๆ ที่เราไม่ค่อยมีเวลาให้เขา ผมก้รู้สึกว่าเขาเข้าใจเราซึ่งตรงนี้สำคัญ เพราะฉะนั้นเรื่องการบอกรักเรื่องอะไรต่างๆ เราก็อยากให้เขารู้ในใจ ว่าเราห่วงใย เราคิดถึงเขาเราก็จะคิดถึงวันแรกๆ ที่เรามาจากวันที่ไม่มีอะไร ถามว่ารักเขาไหม รักสิครับ รักเขามาก
อยู่กันมานานแล้ว ใจอยากมีลูกไหม
บ่าววี : ใจอยากมีลูกเพราะเห็นหลานๆ แล้ว แต่เราไม่ค่อยมีเวลาเพราะเป็นคนที่มีสังคมเยอะ ส่วนแฟนเขาก็คิดเพราะเขาอายุเยอะขึ้นแล้วเราไม่ค่อยมีเวลา คือเขาเป็นห่วงเรื่องนี้เรื่องเดียว ถามว่าได้ปรึกษาหมอไหม ยังเลย แล้วอีกอย่างผมป่วย ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ถ้ามีลูกได้ ผมอยากมีสักคนสองคน เป็นผู้ชายคน ผู้หญิงคน
ทราบว่าเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว
บ่าววี : คือไวรัสไปติดเชื้อที่ลิ้นหัวใจ มันก็เลยกลายเป็นลิ้นหัวใจรั่ว คุณหมอบอกว่า ตอนเด็กเราอาจจะเคยเป็นแล้วมันหายไป พอเราโตขึ้น ทำงานหนักขึ้น เราไม่รู้ตัวการพักผ่อนน้อยมันก็อาจจะกลับมาหาเรา ส่วนอาการแรกๆ คือเวลาเดินขึ้นบันไดธรรมดาเราเดินสบายเพราะเราเป็นคนออกกำลังกาย แต่กลายเป็นว่าเราหอบแล้วหายใจไม่ออก มันเหนื่อยมาก แล้วเราทำงานเยอะไม่ได้พักผ่อน แล้วมีอาการไอ คิดว่าไม่เป็นอะไรกินยาแก้ไอแต่ไม่หาย คิอเราประมาทตัวเอง อีกวันก็ไปโรงพยาบาลไปเช็คโดยการเอ็กซเรย์ทำให้ทราบว่าเป็นน้ำท่วมปอด คุณหมอบอกว่าจะขอส่งเคสนี้ขึ้นไปที่ศูนย์หัวใจ เขาส่งไปที่ศูนย์หัวใจ ผมรอ 2 ชั่วโมง หมอโรคหัวใจเรียกผมไปคุยแล้วก็บอกว่า คุณมีเชื่อไวรัสลงที่ลิ้นหัวใจทำให้ลิ้นหัวใจทำงานไม่ได้ 1 ลิ้น กำลังลามไปลิ้นที่ 2 ตอนนั้นผมตกใจมาก คุณหมอบอกว่าเคสของผมมันแรงมาก ต้องผ่าตัดด่วน คือคนที่ผ่าตัดส่วนใหญ่จะฉีดยาฆ่าเชื้อรักษาไป 2-3 ปี แล้วค่อยผ่าตัด แต่ของผมผ่าตัดก่อนแล้วค่อยมาฉีดยาฆ่าเชื้อตามหลัง เพราะถ้ารอนานไปกว่านั้น ลิ้นที่ 2 มันจะกินลิ้นไปหมด และถ้าลิ้นที่ 2 ทำงานไม่ได้ผมจะเสียชีวิต แล้วไวรัสมันจะลามไปที่อื่น เข้ามาในเลือด
ตอนนั้นกลัวตายไหม
บ่าววี : ผมไม่ได้กลัวตาย คือเราไม่เคยคิดเพราะเราไม่เคยป่วย พอเจอเคสนี้ไป ทุกวันนี้ผมนอนวันละ 8 ชั่วโมง และผมก็เลิกที่จะไปกับคนโน้นคนนี้ นอกจากจะไปเตะบอล หรือไปออกกำลังกาย แล้วเราก็กลับเข้าบ้าน ไม่เหมือนเมื่อก่อนใครชวนไปไหนผมก็ไป
ตอนนั้นอยู่ห้องผ่าตัดกี่ชั่วโมง
บ่าววี : พอเขาส่งเคสผ่าตัดด่วน ผมมาอยู่ห้องผ่าตัด 15 วัน ตอนแรกนะ ก่อนผ่าตัดก็ฉีดยาฆ่าเชื้อนิดหนึ่งเพื่อคลีนร่างกายเรา
รอยผ่ากรีดตรงกลางยาวเลย
บ่าววี : ผ่าเพราะว่าต้องเอาหัวใจออกมาซ่อมลิ้นหัวใจที่เสียไป คือต้องผ่านกระดูกซี่โครงเพื่อยกหัวใจออกมา ผมบอกตรงๆ เลยว่าผมตายไปแล้ว ผมได้คุณหมอดี ได้กำลังใจดี สุขภาพตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว แต่ยกของหนักๆ ไม่ได้ ตอนนี้เข้าปีที่ 3 แล้ว
ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน
บ่าววี : ผมโชคดีที่ผมออกกำลังกายบ่อย คุณหมอเลยบอกว่า ผ่าตัดแป๊บเดียว และฟื้นไวมาก คือผมผ่าตัด 4 โมง 6 โมงผมก็ออกมาแล้ว แต่ผมฟื้นตอนกลางคืนเพราะมันมียาสลบ ตอนฟื้นขึ้นมามันเจ็บแบบสุดยอดเลย ตื่นขึ้นมาเห็นคนอื่นนอนข้างๆ เห็นถังเลือด ถังอ๊อกซิเจน ก็คิดในใจว่าเราเป็นแบบเขาหรือเปล่า คือก็เป็นแบบเขาแหละ กระดิกตัวไม่ได้เลย เพราะว่ามันเจ็บ หลังจากผ่าตัดออกมา ผมก็ต้องไปอยู่ที่ห้องพักฟื้น คือผมอยุ่ห้องพักฟื้นเกือบ 2 เดือน ฉีดยาไป 54 เข็ม เป็นยาฆ่าเชื้อ แล้วก็มีเจาะเลือดอีก 3 วันครั้ง 2 วันครั้ง เพราะเขาต้องดูค่าเลือดของเราทุกวัน จนไม่รู้ว่าจะเอารูไหนแล้ว คุณหมอบอกว่า เป็นเพราะคุณออกกำลังกายร่างกายเลยแข็งแรง
เรียกว่าเป็นเหตุการณ์เฉียดตาย
บ่าววี : ใช่ครับ และทุกวันนี้ก็ต้องกินยาทุกคืน เป็นยาละลายลิ่มเลือด ถ้าไม่กิน จะทำให้เส้นเลือดอุดตันได้
แล้วมันมีผลกับการทำงานไหม
บ่าววี : ในจุดนี้ไม่มีผลเลย อยู่แค่เราต้องออกกำลังกายบ้าง แต่ออกหนักๆ ไม่ได้ และต้องพักผ่อนเยอะๆ ส่วนอาหารก็ทานได้ปกติ แต่อย่าทานอาหารที่เค็มหรือมันเยอะเกินไป ตอนพักฟื้นภรรยาก็อยู่ข้างกายตลอด เขาก็ดูแลเรา มีครอบครัว มีทุกคนดูแล คุณพ่อดูแลผมไม่ห่างเลย
ผ่ามากี่ปีแล้ว
บ่าววี : ผมผ่าปี 2560 ตอนนี้ปี 2564 ก็เกือบ 3 แล้ว ถามว่ามีโอกาสหายขาดไหม มันอยู่ที่เรา ผมต้องไปหาหมอทุก 6 เดือน เพื่อเช็คค่าเลือดและทานยา
อยากบอกอะไรกับอ.หมอ
บ่าววี : ผมขอบคุณอ.หมอมากๆ ครับ มันเหมือนให้ชีวิตผม ไม่ใช่แค่อ.หมอ แต่เป็นโรงพยาบาลทรวงอกทั้งโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสินแพทย์ที่ผมไปแรกๆ พอพูดเรื่องนี้ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าผูกพันธ์กับโรงพยาบาลทรวงอก เพราะผมนอนอยู่ที่นั่นประมาณเกือบ 2 เดือน และถ้ามีงานเรียกใช้ถ้าเป็นโรงพยาบาลทรวงอกผมจะไปตลอด วันนั้นเขาร้องเพลงหาเงินบริจาค พอดีผมไปตรวจสุขภาพพอดี ผมก็ขึ้นไปร้องเพลง เพราะผมรู้สึกว่าที่นั่นมีบุญคุณกับเรามาก ทำให้เรามีชีวิตถึงวันนี้
ความรู้สึกแบบนี้อยากบอกอะไรกับภรรยา
บ่าววี : อยากบอกว่าขอบคุณที่อยู่เคียงข้าง ตั้งแต่วันแรกจนวันที่ป่วยก็ยังอยู่ วันที่เราประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ จนวันที่ป่วยเขาก็อยู่ข้างเราตลอด
อยากบอกอะไรกับคนทางบ้างเรื่องการเจ็บป่วย
บ่าววี : อยากบอกทุกคนว่าการใช้ชีวิต คือผมประมาทเพราะผมคิดว่าผมแข็งแรง ผมออกกำลังกายทุกวัน สิ่งสำคัญคือต้องหมั่นไปตรวจสุขภาพและพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าคิดว่าตัวเองไม่ป่วย ทุกคนต้องมีวันป่วยแน่ๆ ผมถือว่าผมโชคดี ที่ไปเจอคุณหมอในจังหวะที่พอดี เพราะถ้าผมเจอหลังจากนั้น ผมอาจจะไม่ได้อยู่ในวันนี้
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.30-14.30 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ บ่าววี
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ