พระเอกดาวรุ่งช่องวัน พ้อยท์ ชลวิทย์ เผยชีวิตวัยเด็กลำบาก ถึงขั้นไม่มีเงินไปโรงเรียน และแม่ต้องกู้เงินเพื่อให้ลูกมาเรียนหนังสือ แถมก่อนเข้าวงการ ทั้งโดนหลอก โดนเอาเปรียบเรื่องเงิน เคยถึงขั้นไม่มีเงินติดตัวสักบาท ต้องกินแต่น้ำเปล่าเพื่อรอเงินออก ทั้งยังเล่าประสบการณ์ถ่ายละครเจอเรื่องลี้ลับ ในรายการคุยแซ่บSHOW ทางช่องวัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร
ชีวิตลำบากตั้งแต่เด็ก พ่อกับแม่แยกทาง?
พ้อยท์ : ตอนนั้นน่าจะ ป.6 กำลังจะขึ้น ม.1 เรารู้อยู่แล้ว เพราะว่าก่อนจะแยกทางกันเขาทะเลาะกันมาตลอด เราเห็นมาตลอด พอวันที่เขามาบอกเราว่าต้องแยกทางเราเข้าใจใช่ไหม พอเห็นแบบนั้นเราก็เข้าใจนะ คนเรารักกัน แต่ไม่เข้าใจกันไม่ได้หมายความว่าหมดรัก อยู่ด้วยกันไปต่อกันไม่ได้ จริงๆเราอยากอยู่กับพ่อ เพราะตอนเด็กเราอยู่กับพ่อบ่อย อยู่แล้วสนุกพ่อชอบพาซ้อนมอเตอร์ไซค์ ส่วนแม่เป็นคนหวงลูกมาก เอาเรามาเลี้ยงเองพี่สาวด้วย
พ่อแม่แยกทางเป็นปมไหม?
พ้อยท์ : สำหรับผมเองมันไม่ได้เป็นปมครับ มันทำให้เรามองเห็นอะไรมากขึ้น บางคนอยู่ด้วยกันเอาคำว่าลูกมายึดติดอย่าหย่ากัน อย่าเลิกกันเดี๋ยวลูกจะมีปัญหา ผมมองว่ามันไม่ใช่ครอบครัวผม เขาแยกกันแต่เขาก็รักกันเหมือนเดิม
ตอนนั้นชีวิตค่อนข้างลำบาก?
พ้อยท์ : ผมโตขึ้นมาในมุมมองก็มองว่าลำบากระดับนึง แต่ตอนเด็กเราไม่ได้รู้สึกว่าลำบาก แม่คนเดียวเลี้ยงผม เลี้ยงพี่สาว เลี้ยงยาย แล้วก็ลูกของน้องสาวแม่อีกคน แม่ทำงานคนเดียวหาเลี้ยงทุกคน เป็นหัวหน้าครอบครัว แม่เป็นข้าราชการ ซึ่งเงินน้อย ทุกคนต้องประหยัด
บางครั้งไม่มีเงินไปโรงเรียน?
พ้อยท์ : ถ้าขายขนมไม่ได้ก็ไม่มีเงินไปโรงเรียน ข้าราชการจะมีพักเบรกแม่ก็รับขนมมา กับต้มน้ำกระเจี๊ยบทำเองไป
ต้องกู้เงินมาให้เรียน?
พ้อยท์ : แต่ก่อนการที่พ้อยท์จะได้เงินไปโรงเรียน แม่จะเอาขนมซื้อมาให้ไปขายตามหมู่บ้าน ถ้าได้ตังค์มาก็เอาไปโรงเรียน แม่มีเงินให้พอประมาณแต่ไม่ได้เยอะขนาดนั้น ข้าราชการจะกู้เงินให้ลูกได้ ติดหนี้รัฐบาลไว้ก่อนเขาจะติดหนี้ตรงนี้เยอะ
หล่อตั้งแต่กี่ขวบ?
พ้อยท์ : มีชมปะปนไปหมด มีแมวมองมาครับ เดินแบบตั้งแต่ 14-15
เคยได้ยินข่าวไหม หล่อๆสูงๆ เข้ามากรุงเทพโดนหลอก?
พ้อยท์ : มันก็กลัว แต่เราไม่คิดว่าเราจะโดนหลอก เราไม่ชอบให้ใครมาลวนลามเรา แต่ถ้าผู้หญิงโอเค (หัวเราะ) เราเคยโดนลวนลาม ตอนเด็กๆไปเดินห้างจะมีกะเทยแก่ๆที่จิตๆหน่อยชอบมาจับมาลูบ
กลัวโดนหลอกไปถ่ายภาพนู้ดไหม?
พ้อยท์ : ไม่กลัวครับ เพราะว่าถ้าโดนถ่ายนู้ดเราก็น่าจะเห็น ตอนนั้นจะเดินแบบเชียงใหม่อย่างเดียวเลยครับ ไม่มีงานถ่ายแบบอะไรเลย
ส่วนใหญ่โดนหลอกไปทำงานฟรี?
พ้อยท์ : ใช่ครับ ไม่เชิงว่าทำงานฟรี เราไม่ได้สนใจเรื่องเงินมากกว่า แต่ก่อนเขาบอกมีงานนี้ได้เงินเท่านี้ แต่ก่อนได้เงินน้อยมากพี่ แต่เรารับ เพราะได้เจอเพื่อนทำสักปีได้ 1400 แต่เราไม่ได้ซีเรียสเพราะมันเดินทางฟรีข้าวฟรี
มาลง elle fashion week ได้ยังไง?
พ้อยท์ : หลังจากที่ทำงานฟรีมาบ่อย เราอยากได้เงินก็ไปถามโมเดลลิ่ง ว่าเงินที่ผมทำงานมาผมเบิกเอาไปใช้ได้ไหม เขาบอกว่าเป็นเด็กเป็นเล็กใช้เงินอะไรเยอะแยะ ผมเลยรู้สึกว่าหลังจากนั้นผมทำงานต้องได้เงิน แล้วมีพี่คนนึงที่เขาทำงานเครื่องสำอางแบรนด์ดัง เขาไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วรู้จักพี่ ถามว่ามีน้องสูงๆ ไหมไปเป็นโมเดลให้แบรนด์เครื่องสำอาง เขาก็ติดต่อมา ลองไปดู ทำงานแรกเราได้เงินประมาณ 4-5 พันบาท เราก็ตกใจ แล้วเขามีอาทิตย์นึง 2 งาน เราก็คิดว่าจะทำตรงนี้ เขาบอกว่ามันมีงาน elle fashion week เขาก็เอาผมไปแคส ได้เดินทั้งหมด 4 แบรนด์ คนก็สนใจเอาไปถ่ายนิตยสาร ป้าตือก็ให้โอกาสเยอะ
มีช่วงชีวิตที่ไม่เหลือเงินซักบาท?
พ้อยท์ : มันเป็นช่วงซื้อคอนโดมาพอดี ไม่มีเงินผ่อน ตอนนั้นมีซิทคอมเราก็เล่นมาเรื่อยๆไม่คิดว่ามันปิดตัวลง แล้วมันปิดตัวลง เงินที่เราต้องจ่ายเราก็ยังต้องจ่ายอยู่แต่รายได้เราหายไป เรายืมเงินแม่บ่อยมากเลยไม่อยากยืม เรารู้ว่าเงินมันจะออก 2 อาทิตย์ให้หลังแต่เราไม่มีเงินเหลือแม้แต่บาทเดียวแล้ว เราติดเงินแม่ด้วย อีก 2 วันจะมีงานเราก็อดกินน้ำเปล่า ตอนนั้นเดือนชนเดือน เหมือนเราหาเงินมาก็ต้องจ่ายออก ตอนนี้ดีขึ้นแล้วครับ
ไปถ่ายละครเจอเรื่องลี้ลับ?
พ้อยท์ : ผมเล่นอยู่แล้วผมต้องเล่นฉากนอน ได้ยินเสียงคัทผมก็ลุกขึ้นมาคิดว่าถ่ายเสร็จแล้ว แล้วผู้กำกับก็วอลล์มาบอกว่าพี่ยังไม่ได้สั่งคัทเลยลุกขึ้นมาทำไมนอนลงไปก่อน พ้อยท์ก็ตกใจ ซึ่งคนเข้าฉากกับผมคือเฌอเบลล์ ผมก็หันไปถามเขาได้ยินไหม เฌอเบลล์ก็บอกได้ยินเหมือนกันแต่คนอื่นก็ไม่ได้ยิน แต่ก่อนหน้านี้ก็มีอุบัติเหตุเราก็ยังไม่ได้เชื่อเรื่องพวกนี้ แต่พอได้ยินเสียงวันนั้นก็ยกกันทั้งกองละครไปบวงสรวงเจ้าพ่อเขาใหญ่เลย ราบรื่นขึ้นครับมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ตามกองปกติ แต่ปัญหาใหญ่ๆ ไม่มีครับ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ