สามารถฟังเพลง “Still Here” ได้ที่นี่

 

“iann dior” แรปเปอร์หนุ่มขวัญใจวัยรุ่นผู้มียอดขายระดับแพลทินัม ปล่อยโปรเจ็กต์พิเศษ Still Here” ภายใต้ค่าย “10K Projects” พร้อมดัน 2 เพลงใหม่ shots in the dark”

ที่เป็นการร่วมงานกันอีกครั้งกับ “Trippie Redd” ศิลปินร่วมค่ายเดียวกัน เรียกได้ว่าเป็นเพลงภาคต่อจากเพลง gone girl” ที่เขาเคยปล่อยเมื่อปี 2019

โดยในช่วงที่ทั้งคู่ทำเพลงร่วมกัน นับว่าถูกใจแฟน ๆหลายคน การันตีด้วยยอดขายระดับทองคำ ต่อด้วยอีกเพลงหนึ่งคือ don’t wanna believe” กับจังหวะฟังสบาย

 

และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา “iann dior” ยังปล่อยผลงานร่วมกับศิลปินดังมากมายได้แก่ Glass Animals ในเพลง “Heatwave Remix” , Illenium

เพลง “First Time” และ Clean Bandit ในเพลง “Higher” ส่วน still here” คือโปรเจ็กต์แรกของแรปเปอร์หนุ่มในปี 2021

และในปีนี้แฟนเพลงปักหมุดรอติดตามชมผลงานเพลงอื่น ๆ ของ “iann dior” ได้เลยรับรองไม่ผิดหวัง

เกี่ยวกับ “iann dior”

Michael Ian Olmo หรือ “iann dior” ศิลปินหนุ่มเชื้อสาย Puerto Rico ที่เติบโตใน Corpus Christi, Texas 

โดย “iann dior” ประสบความสำเร็จทันทีกับเพลงแรกที่เขาแต่งขึ้นด้วยตัวเอง เขาเคยพูดไว้ว่า ผมเรียนอยู่ไฮสคูลและเพื่อนก็บอกให้ผมทำเพลงเพราะเพื่อนๆรู้ว่าผมเก่งเรื่องการเขียนเนื้อหา

ซึ่งเพลงนี้ถูกนำไปเล่น หมื่นครั้งภายใน อาทิตย์หลังจากปล่อยออกมา หลังจากนั้นเขาก็ได้ทุ่มเทสุดตัวในการเขียนเพลงให้เป็นประจำ และปล่อยเพลงออกมาเรื่อย ๆ สัปดาห์ละครั้ง

ไม่นานเพลงของเขาเริ่มเป็นที่นิยม ความสามารถของแรปเปอร์หนุ่มก็ไปเตะตา “Taz Taylor” ผู้ก่อตั้ง “Internet Money” ก็เลยได้รับโอกาสในการบินมาทำเพลงร่วมกับทีมงานของ “Internet Money” ใน LA

ระหว่างเดินทางมา LA เข้าได้ตั้งชื่อในวงการให้ตัวเองว่า “iann dior” ซึ่งเป็นการนำชื่อกลางของตัวเองมาผสมกับชื่อดีไซเนอร์คนโปรดของเขา

ซึ่ง ณ ตอนนั้นเข้ายังไม่มีกำลังในการซื้อแบรนด์โปรดของเขาเลย และเขายังบอกว่า “ผมเคยเป็นกังวลว่าคนอื่นจะมองผมยังไงที่มัวแต่ยึดติดกับสิ่งที่เหมือนจะไม่มีประโยชน์ ผมอยากเป็นคนใหม่”

การใช้ชื่อใหม่ ทำให้แรปเปอร์หนุ่มโฟกัสที่จะพัฒนาตัวเองให้ตั้งต้นใหม่ เป็นคนใหม่ และการตัดสินใจบินไป LA ก็เปลี่ยนชีวิตเขาทันทีจาก นักเรียนไฮสคูลสู่ศิลปินที่เซ็นต์สัญญากับ Elliot Grainge เจ้าของค่ายเพลง 10K Projects เมื่อปี 2019

“iann dior” เริ่มจากการเป็นศิลปินแนวเพลง lo-fi hip hop ที่เห็นเด่น ๆ ในเพลงเก่า ๆ ของเขาอย่าง cutthroat” และ“emotions”

ซึ่งมียอดสตรีมรวมมากกว่าล้านครั้ง ต่อมาได้ปล่อยเพลง gone girl” ร่วมกับแรปเปอร์เพื่อนร่วมค่ายอย่าง “Trippie Redd” ที่ทำยอดขายระดับทองคำ และในที่สุดเขาก็ได้เดบิวต์อัลบั้มแรก Industry Plant” ที่มาพร้อม 15 เพลงที่มีศิลปินมาร่วมแจมมากมาย อาทิ มือกลองระดับตำนานแห่งวง Blink-182 อย่าง Travis Barker, Gunna, POORSTACY และ     อีกมากมายซึ่ง “iann dior” ได้เผยว่าเขาภูมิใจกับอัลบั้มดังกล่าว และเชื่อว่ามันคือ Statement ในบทสัมภาษณ์กับ NME

นอกจากนี้แรปเปอร์หนุ่มยังโชว์ศักยภาพในการเปลี่ยนสไตล์การแต่งเพลงจาก emcee สู่ emo rock ได้สุดพลิ้ว

“iann dior” กล่าวว่า “ผมเป็นคนค่อนข้างทำอะไรตามธรรมชาติ ผมชอบที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ สำหรับผมแล้วอนาคตมันไม่มีที่สิ้นสุด

ช่วงกลางปี 2020 ผมได้ปล่อย EP ‘I’m Gone’ และได้ร่วมงานกับ 24KGoldn” กับเพลงป็อปแรปอย่าง Mood” ที่กลายเป็นเพลงอันดับหนึ่งบน Billboard Hot 100 ชาร์ต ไปได้อย่างสวยงาม

และทำให้ “iann dior” กลายเป็นศิลปินหน้าใหม่ที่คนทั่วโลกให้ความสนใจมากที่สุด ซึ่งแรปเปอร์หนุ่มได้เผยว่า

ผมอยากเป็นศิลปินอันดับหนึ่งของโลก ผมก็ตั้งใจทุ่มสุดตัว และหลงใหลกับการเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดจากใครหลายคน

ติดตามความเคลื่อนไหวของ “iann dior” ได้ที่

FACEBOOK | TWITTER INSTAGRAM 

ติดตาม Universal Music Thailand ใน Platform ต่างๆ ได้ที่

FACEBOOK |  INSTAGRAM | TWITTER | TIKTOK

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ