นักร้องลูกทุ่งแถวหน้าของเมืองไทย อัมพร แหวนเพชร  ที่วันนี้ต้องหันมาเก็บของเก่าข้างถนนขาย กลายเป็นนักร้องตกอับ แถมงานนี้เครียดมากเพราะต้องดูแลแม่ที่ป่วยหนักช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แถมเธอยังบอกอีกว่าช่วงนี้ยังมีหนุ่มๆ มาจีบ แต่ดันเจอแต่คนมีครอบครัว โดยเธอมาเปิดใจผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีหนิง ปณิตา, ชมพู่ ก่อนบ่าย และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

พิษโควิดถล่มชีวิตหนักมากๆ เลย?
อัมพร : อย่างที่รู้ เราไม่ได้โดนคนเดียว ต้องโดนกันทุกคน โควิดมารอบแรก เรารู้สึกว่ามันมาแรงแล้ว ต่อมายังมีรอบที่2 อีก ยังมีรอบที่3 อีก หนักกว่าเดิม มันรู้สึกว่ามันแย่มากๆ ตอนนี้

พี่อัมพรทำธุรกิจอะไรอยู่ตอนนี้ แล้วเราเสียหายต้อเดือนเท่าไหร่?
อัมพร : นอกจากร้องเพลงแล้วก็จะขายของออนไลน์ พอโควิดมากลายเป็นว่าขายของไม่ได้เลย เลยทำให้รู้สึกว่ามันแย่มากๆ เลย

ผลกระทบต่อเดือนเป็นตัวเลขกลมๆ เท่าไหร่?
อัมพร : มันค่อนข้างเยอะ ก็เป็นหมื่น รายได้จากที่เราหายไป

พี่อัมพรมีฐานแฟนคลัยที่เหนียวแน่นมาก แต่ก็ยังขายไม่ได้?
อัมพร : ขายไม่ได้ เราก็รู้ช่วงนี้ทุกคนน่าจะลำบาก คือมีแต่คนขายของ คนที่จะซื้อยาก

แต่ที่ทำให้ท้อที่สุดคือเรื่องของคุณแม่ที่ป่วย?
อัมพร : คุณแม่ป่วยเป็นโรคงูสวัสมาประมาณสัก 3 เดือนแล้ว ตอนนี้เดินไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด งูสวัสต้องเป็นแผลใช่ไหม แต่แผลของแม่หายหมดแล้ว เหลือแต่ความปวดที่มันเข้าเส้น เข้ากระดูกข้างใน ก็สงสารแม่มากที่แกเดินไม่ได้ แล้วกลางคืนก็นอนไม่ได้ กินข้าวอะไรมันก็ต้องมีข้อห้าม

การรักษาโรคนี้ใช้ค่าใช้จ่ายเยอะไหม?
อัมพร : ตอนแรกทั้งฉีดยาแก้ปวด ใครบอกตรงนี้รักษาดี เราก็ทำหมดทุกอย่าง แต่ก็ไม่หาย จนทุกวันนี้ก็ยังไม่หาย

คุณหมอว่ายังไงบ้าง?
อัมพร : ก็ปรึกษาหมอ หมอก็บอกว่าต้องใช้เวลานานนิดนึงในการรักษา แต่เราก็สงสารแม่ พอเห็นแม่เจ็บ ก็พยายามหายา ทั้งยากิน ยาทา แต่ก็ยังไม่หาย ต่อเดือนมันก็หลักหมื่น

ในบ้านพี่อัมพรเป็นเสาหลักเลยไหมในการหารายได้?
อัมพร : ใช่ เพราะพี่สาวออกจากงาน เนื่องจากโควิด ต้องกลับบ้านต้องไปดูแลแม่แทน ถ้าเราไปอยู่ด้วยกันทั้งหมดมันก็กม่มีอะไรทำ ก็เลยให้พี่สาวเป็นคนดูแล แล้วตัวเราเองก็มาขายของบ้างอะไรบ้า

จากนักร้องดัง แต่วันนี้ถึงขั้นเก็บของเก่าขาย อันนี้เรื่องจริงไหม?
อัมพร : ก็จริง ก็คือที่บ้านเก็บมานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พี่ชายจะเสีย พี่ชายเป็นคนเริ่มต้นเก็บ เขาเป็นคนที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แล้วก็ทำงานอย่างอื่นไม่ได้ แล้วอยู่ที่บ้านเขาไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเก็บของเก่าสะสมแล้วเอามาขาย เป็นรายได้ของเขา

เมื่อก่อนราคาดีมาก ช่วงนี้ราคามันลดลง?
อัมพร : ถูกต้อง กองใหญ่มาก แต่ได้เงินแค่ร้อยกว่าบาท

แล้วไปเอามาจากไหน?
อัมพร : แถวบ้านบ้าง แล้วเราอยู่กรุงเทพ แล้วเรากลับบ้าน เราก็เก็บสะสม เอาหปให้เขาด้วย

แสดงว่าเราไม่ได้ไปเก็บตามบ้านแล้วนำไปขาย?
อัมพร : เก็บจากที่บ้านด้วย แล้วก็เดินไปข้างทาง ร้านค้า เห็นมันข้างทางก็เก็บมา

แล้วที่โดนเม้าท์ว่าตกอับจริงหรือไม่จริง?
อัมพร : ตกอับไหม มันก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ ตอนนี้ยังไม่ถึงขอรับบริจาค แล้วจริงๆ มันเป็นอาชีพที่ไม่น่าอาย เพราะว่าอันนี้สอนลูก สอนหลานได้ เพราะว่าหลานตัวเล็กๆ เขาก็รู้จักเก็บขยะเอามาให้ย่า ให้ยายขาย เหมือนเราสอนเขาไปในตัว

แต่ในโซเชียลก็มีการเม้าท์ว่าไม่อายเหรอมาเก็บขยะขาย ได้เข้าไปอ่านอะไรพวกนี้ไหม?
อัมพร : ก็ได้อ่านอยู่ค่ะ แต่ว่าก็มีหลายคนที่ให้กำลังใจเราก็มี มันเป็นอาชีพที่สุจริต เราไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใคร

เจอคอมเมนต์ที่ทำให้ท้อบ้างไหม?
อัมพร : ไม่ท้อนะ ถ้ามีคอมเมนต์เข้ามาเราก็ไม่รู้สึกท้อ เพราะว่าเราทำความดี เราไม่ได้ทำอะไรที่ไปเดือดร้อนคนอื่น เพราะว่าการเก็บของเก่าขายมันเป็นสิ่งที่ดีด้วย เพราะว่าของเก่าๆ ที่เขาไม่ได้ใช้แล้ว เราเก็บมาสามารถเอาไปรีไซเคิ้ลใหม่ได้

พี่ลำบากมาตั้งแต่เด็กๆ เห็นว่ากับข้าวที่ดีที่สุดของครอบครัวพี่คือปลากระป๋อง?
อัมพร : สมัยเด็กๆ ลำบากมากๆ ครอบครัวก็ทำไร่ ทำนา ไม่เคยได้กินอาหารดีๆ กับเขา หมู เห็ด เป็ด ไก่ ครอบครัวเราไม่มีโอกาสได้กินแบบนั้น ก็เก็บผักบุ้งเอามาแกงส้มใส่ปลากระป๋องบ้าง เป็นอาหารที่เริดที่สุดแล้ว ณ ตอนนั้น

รู้มาว่าพี่มีเคล็ดลับในการดูแลผิว?
อัมพร : อย่างที่บอกที่บ้านยากจน ก็ไม่มีโอกาสได้ซื้อโลชั่นดีๆ ลิปสติกมาใช้เหมือนคนอื่นเขา

ถ้าไม่ได้ใช้โลชั่นประทินผิว แล้วใช้อะไร?
อัมพร : มันเป็นน้ำมันหมู มันไม่มีโลชั่นใช่ไหม ผิวเราก็จะแตกเวลาหน้าหนาว เราก็จะเอาน้ำมันหมูมาทาให้ผิวชุ่มชื่น คือน้ำมันพืชเราก็ไม่มีปัญญาจะซื้อ ก็เลยซื้อหมูมาเจียว

พี่รักสวย รักงาม จนมีโอกาสได้โชว์ความสามารถ?
อัมพร : ทั้งครอบครัวเป็นคนที่ชอบร้องเพลง ทั้งพ่อ ทั้งแม่ พี่สาว คือเมื่อค่อนจะมีวิทยุทรานซิสเตอร์ เวลาทำงานเอาวิทยุไปด้วย แล้วก็ฟังวิทยุ

เราก็เลยใช้ความสามารถในการประกวดร้องเพลง?
อัมพร : ครั้งแรกตอนอยู่โรงเรียน ป.5-ป.6

ผู้ชายที่เข้ามาส่วนมากจะมีครอบครัวกันหมดแล้ว?
อัมพร : ใช่ค่ะ

แล้วคนที่เข้ามาเขาบอกเราไหม หรือเราไปรู้เอง?
อัมพร : บางคนก็บอก บางคนก็ไม่ได้บอก รู้ด้วยสัญชาตญาณของตัวเอง

แล้วมีไหมที่เราเผลอใจไปรักเขา แล้วต้องตัดใจ?
อัมพร : ส่วนใหญ่จะคุยกันก่อนมากกว่า ไม่คิดจะเป็นน้อยเขา ถามว่าเจ็บไหม ไม่ถึงกับเจ็บมาก

มีมาเสนอเลี้ยงดูเราเลยไหม?
อัมพร : ยังมี คือเขาอยากดูแลเรา แต่พอเรารู้ว่าเขาทีครอบครัวแล้ว เป็นพี่ เป็นน้องอะไรกันได้ แต่ถ้าให้เป็นครอบครัวกับเขาคงยาก

โปรโมชั่นที่เขาเสนอเรา คืออะไร?
อัมพร : ให้อยู่สุขสบาย มีทุกอย่างให้หมดเลย

ตอนนี้ก็มีนะ แต่ปฏิเสธ?
อัมพร : ตอนนี้เราคิดว่าเราอายุเยอะแล้ว เราไม่อยากคิดเรื่องตรงนั้น ขอทำงานดูแลแม่ ดูแลครอบครัว ดูแลพี่น้องเราดีกว่า คือตอนนี้โควิดก็ระบาด เราไม่อยากมาคิดเรื่องตรงนั้นด้วย แต่ว่าคุยกันเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้องได้ ช่วยเหลือกันในยามที่ลำบาก

ปิดตายความรักเลยไหม?
อัมพร : ตอนนี้มันไม่ได้คิดเรื่องตรงนั้น คิดว่าน่าจะปิดตายไปเลยดีกว่า

ถ้ามีเข้ามาแล้วเราถูกใจเขา เราจะเปิดไหม?
อัมพร : ก็อาจจะคุยกันไปก่อน คบกันก่อน บางทีไม่กี่เดือนเราเห็นก็ไปกันไม่ได้แล้ว

ไม่เปิดใจ แต่มีข่าวว่ามีลูกแล้ว?
อัมพร : มีจริงๆ 1 คน เป็นลูกสาว ตอนนี้อายุ 28 ปี เป็นลูกบุญธรรม จริงๆ เราไม่อยากเรียกลูกบุญธรรม เพราะว่าอยู่ด้วยกันเราก็รักเหมือนลูกจริงๆ เราก็อยู่ด้วยกันมาเป็น 10 ปีแล้ว

พี่ไม่เจอกันมานานแค่ไหนแล้ว?
มนต์สิทธิ์ : ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว

มีคนเชียร์ให้คุณสองคน?
มนต์สิทธิ์ : ก็มีเยอะนะครับ เชียร์เยอะมาก มนต์สิทธิ์ ร้องคู่อัมพร  อยากให้เป็นเนื้อคู่กันจริงๆ จังๆ แต่เหมือนเพื่อนกันมากกว่า

แต่ก็มีคนเม้าท์อีกว่าคุณสองคนเป็นสามี-ภรรยากันจริงๆ?
มนต์สิทธิ์ : มันไม่ใช่ พี่คือรักน้องเหมือนน้องคนนึง ไม่เคยจีบ ศิลปินค่ายเดียวกันไม่กล้าจีบ แต่ถ้าที่อื่นจีบหมดเลย
ติดตามชมรายการ “คุยแซ่บShow”  ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ อัมพร แหวนเพชร
https://youtu.be/AOWaWABUBWk

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ