เคลียร์ชัดๆ คู่กันครั้งแรก ระหว่าง พชร์-อานนท์ และ เอิ๊ก พรหมพร แจงสาเหตุถูกยุบรายการดัง? ที่ทำด้วยกันมา 10 ปี แถมมีข่าวลือมีทัวร์ลงหนักมาก จนผู้ใหญ่สั่งปลดสายฟ้าแลบ ข้อหาไม่ปลื้ม สรุปแล้วลาออกเองหรือถูกไล่ออก ลั่นไม่ถูกชะตากันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก จนต้องขอเคลียร์คู่นี้สนิทกันจริงหรือแค่ปลอมใส่กัน พร้อมเปิดศึกแข่งกันอวดรวย?! ในรายการ คุยแซ่บShow ช่องวัน 31 ที่มีหนิง ปณิตา, บูม สุภาพร และอาจารย์เป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ที่ผ่านมาเป็นพิธีกรโดนทัวร์ลงหนักมาก?
เอิ๊ก : ก็โดนกันเป็นประจำ ข่าวบันเทิงมันก็มีโอกาสที่จะถูกใจและไม่ถูกใจ พชร์ อานนท์เขาชอบพูดตลก แล้วเราก็อดขำไม่ได้ บางทีเราหัวเราะคุณผู้ชมเขาก็ไม่เข้าใจ คิดว่าเราหัวเราะในเนื้อข่าว
เหมือนคนดูเขาไม่ขำด้วย?
เอิ๊ก : บางเรื่องมันคือโลกที่สามโลกสองใบ ซึ่งถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเรา เราเองก็เข้าใจมันเป็นช่วงที่อึดอัดหรือว่าเป็นช่วงที่ตกใจทำอะไรไม่ถูก เครียด และกังวล แต่สไตล์ข่าวมันไม่ใช่ข่าวอาชญากรรม แล้วบางทีพชร์ อานนท์เขาชอบพูดออกนอกเรื่องตลอดเวลา เราก็จะขำตรงนั้น
แล้วโดนหนักสุดขนาดไหน?
เอิ๊ก : ขำอะไร เห็นความทุกข์ของคนอื่นเป็นเรื่องสนุก ก็อะไรประมาณนี้ จังหวะการขำของเราเองบางทีมันก็ไม่ถูกต้องจริงๆแหละ
พชร์ อานนท์ : จัดรายการบันเทิงมันก็ต้องบันเทิงใช่ไหม บางทีในรายการเราพูดอีกเรื่องหนึ่ง หลังรายการบางทีเราพูดกันอีกเรื่องหนึ่งเราก็ขำ
เวลาเจอคอมเมนต์ทัวร์ลงเรากลับไปคิดไหม?
พชร์ อานนท์ : ฉันไม่คิดเลย ฉันก็ไปทัวร์คันอื่น ฉันไม่ไปทัวร์คันเดียวกับเขา ฉันจะไม่สนใจ
เอิ๊ก : เขาจะเป็นทำนองนี้ด่ามาด่ากลับ
พี่พชร์ จะฟ้องชาวเน็ตกลับด้วย?
พชร์ อานนท์ : ไม่ๆ ก็ลงให้ถูกจังหวะ ไม่ใช่ไปลงถึงพ่อแม่ เกิดมาอสุจิทะลุถุงยาง ทะลุถุงยางมาเกิด เราก็เลยบอกว่าถ้ากูทะลุมึงก็ทะลุกว่ากู
เรื่องนี้หนักสุดไหม?
พชร์ อานนท์ : ไม่ ฉันมีต้นตำรับบูลลี่ โดนดราม่ามาตลอด ตั้งแต่พ.ศ. 2535
เอิ๊ก : คือต่อให้ไม่มีดราม่า เขาก็พยายามหาดราม่าตลอด อยู่เฉยๆเหมือนเหงา
จริงไหม ที่อ่านข่าวไม่ขำแล้วมีดราม่าในโซเชียล จนผู้ใหญ่ต้องยุบรายการ?
เอิ๊ก : ไม่ใช่ต้องบอกว่าการกลับมาของเรา 2 คน ครั้งนี้เป็นการกลับมาครั้งที่ 2 คือก่อนหน้านี้เราเคยทำด้วยกันมา ก่อนหน้านั้น 7-8 ปี
กับพี่เอิ๊กเป็นเพื่อนกันมาก่อนไหม?
เอิ๊ก : คนที่เป็นเพื่อนเวลาว่างเขาจะโทรคุยกัน หรือว่าเจอกันเป็นครั้งคราว โทรปรึกษาหารือกัน แต่ของเราคือเจอกันเฉพาะในรายการ พอจบรายการก็ต่างคนต่างแยกย้าย แล้วก็ไม่คุยกันเลย แต่ไลน์คุยกันทุกวันเรื่องเดียว ว่าพรุ่งนี้จะใส่อะไรจบ
แกล้งตีกันหรือเปล่า เพื่อให้ขายได้ มีความผูกพันธ์อะไรกันไหม?
พชร์ อานนท์ : ไม่มี แต่ไม่ใช่ไม่ชอบ คือมันคนละสไตล์ของพี่ไปไหนมาไหนกินข้าวริมถนนได้หมด แต่เอิ๊กเขาจะไม่ได้เขาต้องกินข้าวดูดี
เอิ๊ก : ไลฟ์สไตล์คนละแบบกันมากกว่า
เรื่องแต่งตัวแบรนด์เนม?
เอิ๊ก : แรกๆ เขามากระแหนะกระแหน ว่าเธอซื้อชุดแพงๆเป็นแสน เธอไม่มีตังค์เยอะอย่างเดียวเธอต้องโง่ด้วย แต่พอมาเจอเขาอีกครั้งหนึ่ง เราก็เลยแซวเขาว่าโอ้โหตั้งแต่หัวจรดเท้า ยันกางเกงใน
พชร์ อานนท์ : เหมือนเป็นเวรกรรมไปด่าเขาเยอะ พอไปใส่แล้วรู้สึกชอบแล้วซื้อเป็นบ้าเป็นหลัง บางทีไปหมดเป็นล้าน ชิ้นแรกที่ซื้อก็คือกระเป๋า แรกๆ เราก็ประหยัดเงิน แต่พอคุณแม่เสียเราก็ใช้เงินเลย แต่ช่วงนี้ก็เบาลงเพราะโควิด
ไม่กล้าขาย เพราะกลัวคนเม้าท์ว่าตกอับจริงไหม?
พชร์ อานนท์ : ไม่จริง ไม่อยากขายเพราะเสียดาย ฉันรวย
พี่พชร์มีเด็กๆที่เลี้ยงเยอะไหม?
พชร์ อานนท์ : ไม่เยอะมีแค่คนเดียว เลี้ยงเยอะไม่ไหว เลี้ยงเยอะแค่ผ่าน
เอิ๊ก : เขาเลือกคนเปย์ ไม่ได้เปย์ทุกคน
เอาอะไรเปย์ผู้ชาย?
พชร์ อานนท์ : ก็ค่าเรียนหนังสือ โทรศัพท์ รถ บ้าน
เห็นว่าอายุห่างกัน 30 ปี?
พชร์ อานนท์ : ก็คบกันตั้งแต่เขาอายุ 17-18 พ่อแม่เขาตายไปแล้ว ก็เจอกันโดยบังเอิญ เราก็ไม่คิดว่าเขาจะมาเป็นแฟนเราหรอก เขาเป็นคนมาจีบเรา ฉันไม่ได้หรอกเขามาเอง ไม่ได้เป็นดารา
เปย์อะไรเขาบ้าง?
พชร์ อานนท์ : เราเป็นผู้ใหญ่เราก็ต้องรับผิดชอบชีวิตเขา อย่างค่าเล่าเรียน รถขับ บ้านก็ให้อยู่ ตอนนี้ก็ยังอยู่ คนนี้ 8-9 ปี อายุป่านี้ไม่ต้องการความรัก แค่ต้องการเพื่อน แต่ก็รักนะ รักอยู่คนเดียว เหมือนเจ้าชู้แต่รักอยู่คนเดียว
ติดตามชมรายการ “คุยแซ่บShow” ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ พชร์-เอิ๊ก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ