“เลียม นีสัน” ถือเป็นแอ็กชันสตาร์ฮอลลีวูดที่มีครบทุกคุณสมบัติและความสามารถที่ไม่เป็นสองรองใคร เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากผลงานภาพยนตร์ที่ผ่านมามากมาย ทั้งการแสดงสุดเข้มข้นจากหนังคุณภาพยืนหนึ่งอย่าง Schindler’s List (1993), Michael Collins (1996), Kinsey (2004) รวมถึงหนังบล็อกบัสเตอร์ที่กวาดรายได้มหาศาลอย่าง Star Wars: Episode I – The Phantom Menace (1999), Batman Begins (2005), The Dark Knight Rises (2012) และแน่นอนที่ขาดไม่ได้คือเหล่าหนังแอ็กชันที่เขาทุ่มเทและแสดงด้วยตัวเองแทบทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นหนังชุดไตรภาคอย่าง Taken (2008-2014), Non-Stop (2014), The Commuter (2018), Honest Thief (2020) และอีกมากมาย
ล่าสุด กับ “The Ice Road เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง” อีกหนึ่งบทบาทสุดท้าทายของเจ้าพ่อแอ็กชันคนนี้ที่พูดถึงปฎิบัติการท้านรกของ “ไมค์” (เลียม นีสัน) คนขับรถ 18 ล้อมากประสบการณ์ที่ต้องฝ่ามรสุมเข้าไปช่วยชีวิตชาวเหมืองหลังจากเหมืองเพชรที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดาเกิดถล่ม เขาต้องเร่งนำทีมกู้ภัยซิ่งข้ามมหาสมุทรเยือกแข็งเพื่อช่วยเหลือชาวเหมืองที่ติดอยู่ใต้ดินก่อนที่ออกซิเจนจะหมด พร้อมฝ่าทุกอุปสรรคเพราะสภาพอากาศที่เลวร้ายไม่ใช่อันตรายเพียงหนึ่งเดียวที่ต้องเผชิญหน้า
“ผมติดรถไปกับคนขับมืออาชีพอยู่หลายครั้ง เขาคอยแนะนำผม พอคอยสังเกตเขาในฐานะผู้โดยสาร ผมเคยคิดว่ารถคันขนาดนี้พวงมาลัยมันต้องหนัก สับเกียร์ทีต้องปวดแขนแน่ๆ แต่พวกเขาทำมันได้อ่อนช้อยอย่างกับเต้นบัลเลต์ เครื่องจักรขนาดยักษ์คันนี้ตอบสนองการสั่งการแทบจะทันที สิ่งแรกที่ทำให้ผมประทับใจเลยคือพวกเขานอนกันที่หลังรถ มันมีพื้นที่เหลือเฟือมาก ขนาดผมสูงเกือบสองเมตร หัวผมยังไม่ติดเพดานเลย ผมเคยไปอพาร์ตเมนต์ในนิวยอร์กที่แคบกว่านี้ซะอีก”
นอกจากนี้ “The Ice Road” ยังได้ “มาร์ก แวนเซโลว์” เป็นผู้ออกแบบคิวบู๊ ซึ่งนั่นยิ่งทำให้เลียมสบายใจในการทำงานเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
“มาร์กเป็นนักออกแบบคิวบู๊ เขาเป็นนักแสดงแทนของผมด้วย เราซี้่กันมาก ผมคิดว่านี่เป็นหนังเรื่องที่ 24 ที่เราทำงานด้วยกัน ผมไว้ใจเขา เราถ่ายฉากแอ็กชันด้วยกันมาเยอะ เราลุยมาด้วยกันทั่วโลกแล้วถ้าเขามีไอเดียอะไร เขาจะลองกับทีมสตันต์แมนแล้วใช้มือถืออัดส่งมาให้ผมดู ผมมักจะบอกเขาว่า ‘มาร์กคุณคิดว่าผมจะเล่นแบบได้เองจริงๆ เหรอ’ ซึ่งเขามักจะตอบว่า ‘แน่นอน คุณน่าจะเล่นได้ 95% จากทั้งหมดนี่’ ผมชอบเล่นฉากบู๊เองนะ มันสนุกดี ผมพยายามเล่นเองมากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ถ้าต้องกระโดดผ่านกระจกหรือพุ่งออกจากรถ ผมยกให้มาร์กเลย”
และเมื่อหนังเล่าถึงการฝ่ามรสุมมหาสมุทรเยือกแข็ง ฉากไฮไลต์อีกหนึ่งฉากที่แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทของ “เลียม นีสัน” คือเขาต้องแช่บ่อน้ำแข็งท่ามกลางอุณภูมิสุดโหด
“ผมและมาร์คัสต้องแสดงฉากที่รถของเราจมน้ำ เราเลยต้องลงไปแช่น้ำอุณหภูมิเกือบติดลบ เราอาจสวมชุดดำน้ำ แต่มือเปล่าไม่มีอะไรป้องกัน และตัวผมต้องพยายามช่วยชีวิตน้องชาย เราต้องดำผุดดดำโผล่อยู่ครั้งละ 10-20 วินาที ผมยอมรับเลยว่ามันทำให้ผมนึกถึงเหยื่อในเหตุการณ์ไททานิก ผมหยุดคิดถึงมันไม่ได้ เพราะมือผมปวดชาจนไร้ความรู้สึก ถ้าคุณตกลงไปในน้ำเย็นเฉียบขนาดนี้ คุณมีเวลาแค่ 60 วินาทีเพื่อเอาตัวรอด ไม่งั้นก็บอกลาได้เลย”
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ