ตลกชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทย สุเทพ สีใส ที่วันนี้ควงภรรยาป๊อบ ธณัฏฐ์ภรณ์ มาเปิดเผยเส้นทางความรักกว่า 24 ปีระหว่างลูกคุณหนูกับตลกคาเฟ่ พร้อมควงลูกสาวคนเก่ง น้องฟลุ๊ค ดีกรีนักวิทยาศาสตร์ มาเผยชีวิตครอบครัวสุดอบอุ่น ซึ่งงานนี้เจ้าตัวขอเคลียร์ข่าวเตรียมออกจากวงการ ไปขายกะปิ ผ่านทาง รายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
คบกันมา 24 ปีแล้ว? ป๊อบ : 24 ปีนี้พอดี คนนี้รักแรกพบเลยไหม? สุเทพ : รักแรกพบเลยไหมก็รักมาตลอด
ครั้งแรกเจอกันที่ไหน? สุเทพ : เจอกันที่พระราม9 พลาซ่า เป็นคาเฟ่พระราม9 ป๊อบ : พี่เรียนจบ แล้วเป็นช่วงที่รองาน แล้วสมัยเรามันต้องเที่ยวผับ เพื่อนชวนไปที่คาเฟ่ ตอนนั้นเป็นยุคที่คาเฟ่บูมมาก เราก็เปลี่ยนที่ไปดูตลก ไปโต๊ะแรกเลย วันนั้นก็รู้ว่าเขาขึ้นเล่น แต่พี่ไม่ใช่แฟนคลับเขา เขาไม่ใช่ตลกในดวงใจ ตลกที่เราตั้งใจไปดูคือใคร? ป๊อบ : ช่วงนั้นจะมีพี่โน๊ต พี่เป็ด ที่เราชอบ เชิญยิ้มอะไรอย่างนี้ ถามว่ารู้จักเขาไหม รู้จักแต่ไม่ได้อยู่ในสายตา อยู่นอกสายตาเลย สุเทพ : ตอนนั้นอยู่นอกสายตา แต่ตอนนี้อยู่ในใจ วันนั้นเราเล่นตลกแล้วเจอผู้หญิงสวยคนนี้รู้สึกยังไง? สุเทพ : ตื่นเต้นครับ ชีวิตตลกในช่วงนั้น แล้วผมเป็นคนโสดคนนึง ตลกอะไม่รู้เป็นที่ผมคนเดียวหรือเปล่าไม่รู้ ขึ้นไปเล่นที่ไหนก็มองหาแต่ผู้หญิงสวย ผมเป็นคนที่ปากเร็วนิดนึง ทักทายคนเก่ง พอเห็นเขามานั่งก็เห้ย…น้องคนนี้สวย น่ารักดี ผมก็มองเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ไม่คิดว่าจะมาจบที่คนนี้ วันนั้นมองพี่มีโอกาสลงไปทักไหม? สุเทพ : ผมก็ไปทัก พอผมเล่นเสร็จปุ๊บ ลงมารอเขาจะกลับตอนไหน ป๊อบ : กลับตี2 สุเทพ : วันนั้นผมลง 4-5 ทุ่ม แล้วไปเล่นที่อื่น แล้วกลับมารอที่พระราม9 เพราะผมถามผู้จัดการว่าแขกโต๊ะหน้ากลับไปหรือยัง เขาก็บอกยังอยู่ๆ ผมก็รีบขับรถกลับมา ป๊อบ : พอพี่ขึ้นรถจะปิดประตู เขาเอามือมาจับไว้ พี่ก็ตกใจ ตี2 นะ เราไม่คิดว่าจะเป็นเขา ถ้าเป็นตลกหล่อๆ หรือตลกในดวงใจมันก็จะอีกอารมณ์นึง แต่มันดันเป็น…คือตกใจมาก สุเทพ : ผมก็บอกว่า สวัสดีครับ ผมสุเทพ ศรีใส จะกลับแล้วเหรอครับ ป๊อบ : ชื่ออะไรครับ ขอเบอร์ได้ไหมครับ สุเทพ : แต่ไม่ได้เบอร์ ป๊อบ : พี่ก็บอกว่าไม่เป็นไร เขาก็บอกว่างั้นไม่เป็นไร งั้นเอาเบอร์พี่ไป แล้วล้วงนามบัตรออกมาหล่อๆ วางไว้ที่รถ สุเทพ : ไม่มีเบอร์ไม่เป็นไรนะน้อง งั้นเอาเบอร์พี่ไป เผื่อมีงาน หรือจะมาเที่ยวก็โทรหาพี่ก่อน
พี่ได้นามบัตรไป พี่เอาไปทำอะไร? ป๊อบ : คือเป็นรถเพื่อน แล้วเพื่อนก็ไปส่งที่คอนโด นามบัตรก็จะอยู่ที่รถเพื่อน ก็ขำกันในรถ ยิ่งกว่าเป็นเรื่องตลก เพื่อนก็แซวแบบขำมาก
แล้วโคจรกลับมาเจอกันได้ยังไง?
ป๊อบ : ประมาณ 3-4 เดือน เพื่อนก็ชวนอีกว่าไปดูไหม เราบอกว่าไปได้ แต่ขอไม่นั่งโต๊ะข้างหน้า เราก็ไปนั่งโต๊ะที่แบบทางเดินเข้าห้องน้ำผู้หญิงเลยนะ เป็นมุมมืดเลย เขาก็ขึ้นเล่นปกติ แต่ทำไมตามันมองมาทางนี้ เราก็คิดว่าไม่มีอะไรหรอก แล้วพอเขาเล่นเสร็จก็เดินมาที่โต๊ะเรา แล้วบอกว่ารอพี่ก่อนนะ เดี๋ยวพี่จะกลับมาเล่นที่สุดท้ายที่นี่ เราก็ตกใจ เขารู้ได้ยังไง คือเพื่อนแกล้ง เพื่อนโทรจะให้ สุเทพ : คือเหตุการณ์มันเป็นอย่างนี้ ก่อนคืนนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามา พี่สุเทพเหรอ นี่น้องป๊อบนะ ที่เจอที่หน้าพระราม9 คืนนี้จะเข้าพระราม9 กี่โมง เดี๋ยวป๊อบจะไปเที่ยวกันนะ ป๊อบ : เพื่อนแกล้งพี่ไง จากนามบัตรนั้น อารมณ์แบบมาจีบเพื่อนเราใช่ไหม ก็หลอกกินเลยแล้วกัน คืออารมณ์อายุ ณ ตอนนั้น 20 กว่าๆ สุเทพ : หน้ามือกับหลังมืออยู่แล้ว ผมกับป๊อบอะ เพื่อนก็แกล้งและคงไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ที่จะมาจบกันแบบนี้ ป๊อบ : วันนั้นพี่เทพกับเพื่อนพี่รู้กันวันนั้น แต่พี่อะไม่รู้ สุเทพ : พี่ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนแกล้ง พอลงไปปุ๊บเดินไปหา เขาก็ตกใจว่ามาได้ยังไง แล้ววันนั้นพี่สุเทพเลี้ยงไหม? สุเทพ : เลี้ยงครับ ป๊อบ : พอเขาบอกว่ารอพี่นะ เดี๋ยวกลับมสเล่นที่นี่ พี่กลับเลย แล้วโมโหเพื่อนด้วย วันนั้นรู้ไหม ถูกเพื่อนเขาหลอกกินฟรี? สุเทพ : เพิ่งเข้าใจ แต่อยู่ในใจ ความภูมิใจอะไรรู้ไหม เรามีเบอร์แล้ว ป๊อบ : เพื่อนให้ไง คงจะแบบว่าช่วงที่เขาคุยกัน คือเพื่อนไม่ได้คิดหรอกว่าเราจะมีมาถึงวันนี้ แล้วมีการโทรจีบต่อเลยไหม? สุเทพ : เราก็ต้องตามต่อ เพราะหมดไปเยอะแล้ว ก็โทรไปหานี่พี่สุเทพนะ ตื่นหรือยัง ไปไหน ทำอะไรต่อ ดูแลตัวเองนะครับ แล้วก็วาง พี่จะโทรแบบนี้ทุกวัน วันละครั่ง สองครั้ง การโทรของพี่ พี่จะไม่ยืดยื้อ ป๊อบ : เขาก็รายงาน วันนี้จะขึ้นที่นี่นะ จะไปถ่ายรายการนี่นะ จะกินข้าวนะ ป๊อบทำอะไรอยู่ แล้วก็วาง วันนึงเป็น 10 รอบ แล้วทุกวัน ไม่มีการคุยยาวๆ ลึกๆ เราก็รู้ว่าเขาจีบอยู่แล้ว ทำไมตอนนั้นถึงรับสาย? ป๊อบ : เราเลือกไม่ได้ เพราะมันเป็นโทรศัพท์บ้าน มันไม่โชว์เบอร์ พอเขาโทรมาคุยได้เราก็คุย สุเทพ : ผู้หญิงจะไม่เบื่อ คือเราคุยไม่ยืดเยื้อ ดูแลตัวเองนะ กินข้าวหรือยัง ป๊อบ : แล้วไม่ได้จีบ ไม่ได้หวาน ไม่ได้อะไรเลย ป๊อบเหรอ นี่พี่จะลงจากตรงนี้แล้วนะ พี่จะขึ้นตรงนี้นะ วันนี้พี่จะไปถ่ายนี่นะ พอเขาตื่นมาประมาณ 11 โมง เขาก็จะโทรมา ยังไม่ได้คุยอะไรเสร็จเลย เขาวางแล้ว สุเทพ : แล้วมันจะมาอยากรู้อะไรรู้ไหม มีอยู่ช่วงนึง ไม่โทรหาสัก 2-3 วัน พอวันต่อไปโทรไปปุ๊บ เป็นไงบ้าง สบายดีนะ ทานข้าวหรือยัง เขาก็พูดเลยไปไหนมา 2-3 วันไม่เห็นโทรมา เท่าที่รู้ตอนนั้นพี่ป๊อบก็มีแฟนอยู่? ป๊อบ : ใช่ค่ะ ถามว่าทำไมรับโทรศัพท์เขา คือเหมือนพี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขา แต่เรารู้แหละว่าเขาจีบ ต้องบอกว่าคนมาจีบเราก็เจอะนะสมัยนั้น พี่สุเทพรู้ไหมว่าพี่ป๊อบเขามีแฟนอยู่แล้ว? สุเทพ : ไม่รู้ครับ ผมก็จีบ สาวต่อกันไปปุ๊บ ก็พยายามดึงออกมาให้มันเป็นการส่วนตัวกับเรา ให้มันใกล้ชิดขึ้นมา คือชวนมากินข้าว กว่าจะงัดออกมาจากคอนโดได้ใช้เวลาหลายเดือน พอเริ่มกินข้าว เราก็รู้สึกว่าอยู่กับผู้หญิงคนนี้เราสบายใจ เราอบอุ่นดี ป๊อบ : เขาขายของ แบบผมโสดนะ สุเทพ : เราก็พยายามบอกว่าเราอยู่คนเดียวนะ เราทำงานอย่างนี้นะ เราไปถ่ายนู้น ถ่ายนี่ พยายามจะให้เขารู้ว่าชีวิตเราเป็นอย่างนี้ บางทีเขาอาจจะคิดว่าตลกมีเมียไว้นู้น ไว้นี่ มีเมียหลายคน เจ้าชู้ คือพอมาทานข้าวเสร็จเราก็ชวนเขาไปดูการทำงานที่ต่างจังหวัด ไปดูเราถ่ายละคร ป๊อบ : วันนั้นเป็นวันเสาร์ แล้วเพื่อนบางคนก็ทำงานไปแล้ว แต่เราว่าง เขาโทรมาเราก็ไหนลองไปดูสิมันเป็นยังไง สุเทพ : ผมก็ให้ไปดูการทำงานเรา ผมว่าวิธีนี้ ไปเห็นงานจริงๆ เวลาถ่ายละครข้างนอกมันร้อนแค่ไหน ป๊อบ : วันที่กินข้าวกัน เขาบอกพี่ป๊อบว่าเขาไม่มีรูขุมขน เวลาเขาร้อน เขาจะร้อนมาก เขาไม่มีเหงือออก เราเองเราไม่รู้ว่าเขาเป็นแบบนี้จริงไหม แล้วพอวันทั่เราไปดูเขาที่กองถ่ายละคร พอคัทปุ๊บ ทีมงานเขาจะยกกระติกน้ำแข็งใบใหญ่ๆ แล้วมีน้ำแข็งอันใหญ่ๆ แล้วเขายกขึ้นมาโดยไม่บิด แล้วมาคลุมหมดเลย เราตกใจ ที่เขาพูดมาในวันนั้นคือเรื่องจริงนี่หว่า คือเขาไม่ได้พูด เพื่อที่จะจับเรา แล้วภาพนั้นมันน่าสงสารมาก เราไม่รู้ว่ามันมีอย่างนี้อยู่บนโลกแบบนี้ แล้วโรคแบบนี้มีอยู่จริง จากความสงสารกลายเป็นความรักเหรอ? ป๊อบ : ใช่ จากวันนั้นเห็นแล้วคลุมทั้งตัวเลยนะ แล้วโลเคชั่นมันเป็นป่า จากวันนั้นความรู้สึกเราเปลี่ยนเลยไหม? ป๊อบ : เหมือนมันคุยกับเขาเยอะขึ้น ไปไหนด้วยมากขึ่น ผู้หญิงสวยขนาดนี้ พี่เอาความมั่นใจในการจีบมาจากไหน? สุเทพ : ตอนที่ยังไม่มีเขา ผู้หญิงสวยๆ ผมก็จีบไปทั่ว นามบัตรเมื่อก่อนผมพิมพ์เดือนนึงหลายร้อยใบนะ ไปไหนก็แจกๆ ป๊อบ : พอมาเป็นแฟนเขาแล้วผู้หญิงโทรมาแบบ พี่ต้อมองหน้าเขาอีกรอบ แบบเยอะมาก สุเทพ : คืออะไรรู้ไหม พอเราได้สัมผัสชีวิตกันแล้ว ผมเอาโทรศัพท์ที่ผมใช้อยู่ให้เขาใช้เลย ผมเอาเครื่องใหม่ ทีนี้การตัดปัญหาเราไม่ต้องมาอธิบาย แล้วอะไรทำให้พี่ป๊อบมั่นใจว่าเราเปิดใจคุยกับเขาดีกว่า? ป๊อบ : เขาค่อนข้างเป็นคนเสมอต้น เสมอปลาย แล้วเขาจะรายงานตลอด บอกพี่ทุกเรื่อง เราอยู่กับเขา 1.เราจะอบอุ่น แล้วเราจะไม่เหนื่อย เพราะเขาตามเรา เหมือนกับเราก็จะเฟดจากแฟนเราโดยอัตโนมัติ มันแทบไม่ได้ทะเลาะ เพราะเขาตาม และรายงานตลอดว่าอยู่ไหน ไปด้วยกันไหม เขาจะเอาเราไปทุกที่ ไปด้วยตลอดไม่มีไปคนเดียว สุดท้ายพี่ก็ยึดติดกับคนที่ว่ารักคนที่เขารักเราดีกว่า? ป๊อบ : ใช่ พี่ก็เลยถอยห่างจากแฟนเก่า แล้วตัวพี่เอง สเปคผู้ชายไม่มี มีแค่ว่าขอเป็นผู้ใหญ่ ไม่ได้มีว่าจะต้องหล่อ แต่ก็ไม่คิดนะว่าจะได้ขนาดนี้ พอคบกับเขาปั๊บ เพื่อนไม่เอาเราเลยเหรอ? ป๊อก : เพื่อนจะว่าโกรธก็หม่ เหมือนแบบกูเอาเล่นฟนะ ทำไมมึงเอาจริฝ ให้คิดดีๆ นะ เขาเลิกคบเลยเหรอ? ป๊อบ : เหมือนไม่ได้เลิกคบกัน เขายุ่ง แต่แค่ถอยห่างดีกว่า แต่ก็ยังคุยกันอยู่ พี่ป๊อบสามารถก้าวข้ามหน้าตาพี่สุเทพได้ยังไง? ป๊อบ : ลึกๆ พี่เทพเป็นคนจิตใจดี ถามว่าผู้หญิงที่เขาเคยจีบมา เคยเป็นแฟนเขามาอาจจะ อันนี้ตัวเขาพูดเองว่าส่วนใหญ่เขาจะโดนผู้หญิงหลอก ซึ่งพี่เองก็ได้สัมผัาตอนคบกันแรกๆ ถ้าเป็นสมัยนี้คือการบูลลี่นี่แหละ ด้วยคำพูดโดยการพูดว่า ไม่มีเงินไม่เอาหรอก สวยขนาดนี้อยู่กับคนนี้ก็เพราะมีเงิน ทั้งเด็กเสิร์ฟพูด พนักงานห้างพูเ เราก็เข้าใจผู้หญิงที่เข้ามาหาเขาก็เพราะเงิน เลยไม่ได้เห็นอะไรลึกๆ สมัยก่อนผู้หญิงเข้าทาหาเรื่องเงินเยอะไหม? สุเทพ : เยอะครับ แต่ไม่ได้อะไรจากผมหรอก ผมจะใช้เงินเป็นคนคิดตลอด เรารู้สภาพตัวเองว่าเราหน้าตาเป็นแบบี้ ถ้าคนสวยๆ เข้ามา ผมจะไม่ทุ่มเทกับผู้หญิงเรื่องเงิน ผมจะเป็นคนเก็บเงิน ใช้มนส่วนมที่ใช้ เก็บสวนที่เก็บ จะเป็นระเบียบกับตัวเอง นอกจากเพื่อนไม่เอาเราแล้ว อันนี้จริงไหม แม่มาหาเราถีงที่ ลากเรากลับบ้าน? ป๊อบ : ใช่ๆ วันที่เป็นข่าว น.1 ที่บ้านไม่รู้ เราเองก็ไม่กล้าบอก เพราะว่าเขาส่งเราเรียนจนจบ แล้วเราก็ไม่ได้ทำงาน แล้วเราไม่ได้บอก ไม่ได้อะไรเลย แต่เราไปทำงานกับพี่เขา เหมือนไปบ่อยๆ แล้วนักข่าวเมื่อก่อนเขาจะแอบถ่าย แล้วพอมันชึ่น น.1 ปุ๊บ วันนั้นเขารับรางวัลเมฆขลา พี่ป๊อบก็เอาดอกไม้ไปให้ แล้วพอมันเป็นข่าวปุ๊บ แล้วแม่รู้ ให้พี่สาวมารับกลับบ้าน โดยที่เขาไม่รู้ แล้วพี่หายไปนานเท่าไหร่? ป๊อบ : ประมาณ 3 เดือน เขาไม่รู้จักเบอร์โทรศัพท์บ้านพี่ป๊อบ แล้วพี่ก็ไม่ได้โทร ไม่ได้อะไรเลย เพราะแม่ระงับหมดเลย ไม่ให้ติดต่อ ไม่ให้อะไรเลย ให้พี่ดู กลัวเราจะกลับมาหาเขา ซึ่งเราก็เข้าใจแม่แหละ เขาคงรับไม่ได้ แต่ตอนนั้นพี่ก็ยอมแม่ เพราะเราก็ยังกลับไปอยู่แล้วก็หนีกลับมาหาเขา ตอนที่อยู่ๆ เขาหายไป งงไหม? สุเทพ : ก็งง ระทึกกับตัวเองว่า เห้ย…ชีวิตเรามันเกิดอะไรขึ้น ความสุขกำลังจะราบรื่น จะได้เป็นตัวเป็นตน เป็นหลักเป็นแหล่ง กลับมาวูบหายไปแบบนี้ ก็งงกับตัวเอง ช็อกอยู่พักนึง มีออกตามหาไหม? สุเทพ : จะไปหาที่ไหน ป๊อบ : ตามไม่ได้ แล้วช่วงนั้นงานเยอะ พี่ก็เลยหนีออกจากบ้านมาหาเขา ยอมตัดแม่? ป๊อบ : มันไม่ได้ตัด เรานั่งรถทัวร์จากจันทบุรีมาหาพี่เขาที่อนุสาวรีที่ห้องเขา เขาเองเขาตกใจ เขาถามว่ามาที่บ้านรู้ไหม เราบอกไม่รู้ เขาบอกขอเคลียร์งานอาทิตย์นึง แล้วขับรถไปหาแม่ ไปสู่ขอ ที่บ้านพี่เป็นเจ้าของเหมืองแร่ ทำพลอย? ป๊อบ : ทำเหมือง ทำบ่อพลอย พี่เลือกใครก็ได้ทำไมถึงเลือกเขา? ป๊อบ : ตอนที่พี่เทพเขเามาพี่ก็มีแฟน 1.อยู่กับเขาแล้วมันสบายใจ 2.พอเขาเปิดกับเราหมดทุกอย่าง อย่างกับแฟนเรา คุณอยู่ไหน ทำไมเลิกงานแล้วไม่กลับ มันมีเรื่องให้ทะเลาะกัน แต่กับพี่เทพเขาเป็นฝ่ายรายงานเราหมดเลย เราสบายใจ เรื่องหน้าตาไม่รู้มันผ่านไปได้ยังไง ตอนนั้นมันไม่เห็นเลย ข้ามไปเลย วันนั้นที่ขับไปหา ไปเจอแม่เขาทำไง? สุเทพ : ก็จอดรถเข้าไปคุย ป๊อบ : คุยเองเลยนะ เลิกคาเฟ่ตี5 ไปกัน 2 คนไม่มีผู้ใหญ่ สุเทพ : ผมก็อธิบาย แล้วพอว่าได้เวลาแล้ว ผมจะให้ผู้ใหญ่มาทำตามประเพณี คุณแม่เขาก็แบบไหนๆ เป็นแบบนี้แล้วเขาก็ต้องยอม ป๊อบ : คือพี่เป็นคนหนีมา แสดงว่าเขาเคารพลูกเรา สุเทพ : คือบ้านเขามีพี่น้อง 3 คน ผู้หญิงหมดเลย คุณแม่จะมีความหวังกับคนนี้มาก แล้วได้เรียนที่สุดน้องฟลุ๊คเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะเป็นสาวเก่งเหมือนคุณแม่เลย เห็นว่าก่อนมีน้องเครียดมากๆ?
ป๊อบ : ถามว่าเครียด กลัวลูกออกมาหน้าตาอย่างพี่เทพ เขาจะใช้ชีวิตยังไง เหมือนกับลูกจะใช้ชีวิตลำบากไหม ยากไหม ตอนนั้นพี่สุเทพรู้สึกอย่างนั้นไหม? สุเทพ : ผมไม่ค่อยรู้สึกเท่าไหร่ แล้วอีกอย่างพอรู้ว่าเป็นลูกผู้หญิงด้วย โบราณบอกว่าส่วนมากผู้หญิงจะคล้ายพ่อ คือหน้าตาอย่างผมเนี่ย ผมไม่ลำบากไง ตั้งแต่เด็กมา ผมก็ใช้แบบนี้เป็นพรสวรรค์ทำมาหากินในวงการ คือผมเฉยๆ นะถ้าลูกออกมาแล้วหน้าคล้ายผม สุดท้ายมันก็มีทางออกจนได้ ตอนนั้นพ่อไม่ห่วงแต่แม่ห่วง? ป๊อบ : ใช่ กังวล ถ้าออกมาจริงๆ แล้วหน้าเหมือนพี่สุเทพ เรารับได้ไหม เรารับได้ แต่เรากลัวตัวเขาเอง เขาจะใช้ชีวิตยาก เห็นว่าตอนที่ฝากท้องก็ย้ายไปหลายโรงพยาบาล ปรึกษาคุณหมอตลอดเวลา คุณหมอว่ายังไง? ป๊อบ : คุณหมอบอกล้านเปอร์เซ็นต์คุณมีลูก 10 คนก็ไม่เป็น แล้วเขาก็เอาคลิปเมืองนอกซึ่งมีหน้าตาอย่างพี่เทพด้วย เอามาให้เราดูว่ามันไม่ได้เกิดแค่เมืองไทย มันเป็นโรคเกี่ยวกับโครโมโซมนะ หมอก็อธิบายให้เราสบายใจ ถ้าน้องฟลุ๊คหน้าตาเหมือนคุณพ่อเราจะรู้สึกยังไง? ฟลุ๊ค : เราเกิดมาแล้ว เราก็ต้องใช้ชีวิตไปตามนั้น หนูก็ไม่ทราบจริงๆ ว่าถ้าเป็นอย่างนั้นเราจะโดนว่าหรือโดนอะไรไหม แต่ว่าชีวิตมันก็ต้องดำเนินต่อไป นี่ก็คือพ่อเรา นี่ก็คือแม่เรา ตอนเด็กโดนล้อไหม? ฟลุ๊ค : ไม่โดนนะคะ ถ้าโดนจริงจังไม่เคยเจอ แต่จะมีบ้างที่เขามาขำมาอะไรพ่อเรา แต่เราก็เข้าใจ พ่อเราเป็นตลก พ่อเราสร้างเสียงหัวเราะให้คน ป๊อบ : วิถีเขาสองคนพ่อ ลูก กินข้าวเย็นน้องฟลุ๊คไปกับแม่ คุณสุเทพไปอีกคันนึง พอกินข้าวเสร็จเขาจะรู้ว่าพ่อเขาต้องไปทำงาน คือเขาเรียนรู้มาเองมากกว่า แล้วแม่อธิบายเรื่องโครโมโซนของพ่อให้กับลูกตอนไหน? ป๊อบ : จะคุยกัน จะเล่าให้เขาฟัง แต่เขาไม่เคยถามว่าทำไมพ่อถึงหน้าแบบนี้ แล้วเราก็ไม่เคยถามลูกว่าอายไหม ไปโรงเรียนมีเพื่อนล้อไหม จนทุกวันนี้ไม่เคยมีคำนั้นออกจากปากแม่เลย แล้วไม่รู้สึกด้วยว่าลูกอายหรือไม่อาย เราตอบได้ว่าลูกไม่อาย เพราะดูจากพฤติกรรมที่ลูกแสดงออก เขาไปห้างด้วยกันไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ เขานัวเนีย เขากอด จนหนังสือกอสซิบไปเห็นแล้วถ่ายข้างหลัง แล้วลงในหนังสือว่าตลกหน้าผีควงนักศึกษา คือฮามาก มันคือลูก แล้วพี่อยู่ข้างหลัง พี่ไม่ได้เดินกับเขา มันเลยเป็นพฤติกรรมที่พี่คิดว่าลูกพี่ไม่น่าจะมีปัญหา ตอนนี้น้องฟลุ๊คทำงานอะไร? ฟลุ๊ค : เป็นนักวิทยาศาสตร์การแพทย์อยู่ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์โรคระบาดใหม่ โรงพยาบาลจุฬาฯ เราวิจัยค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องอะไร? ฟลุ๊ค : ตอนนี้กำลังวิจัยเกี่ยวกับตัวคัดกรองตรวจโควิดอย่างนึง อันนี้ยังเป็นวิจัยอยู่นะคะ เหมือนถ้าเขาเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่ๆ เจ้าของอาจจะไม่ได้มีกำลังมากพอที่จะส่งตรวจทุกคน เพราะว่าค่าน้ำยามันก็แพง อันนี้ก็เป็นอีกวิธีนึงที่มาช่วยคัดกรองเบื้องต้น อย่างสมมติว่าเราคัดกรองให้เขาแล้ว เขาพบแค่กลุ่มนี้ที่มีความเสี่ยง เขาถึงค่อยส่งแค่กลุ่มนี้ไป ก็จะช่วยลดคอร์สของเจ้าของโรงงานได้ การเป็นนักวิจัย เราอยากเป็นเอง หรือพ่อแม่อยากให้เป็น? ฟลุ๊ค : หนูอยากเป็นเอง เป็นคนชอบเรียนวิทยาศาสตร์เด็กๆ ชอบการทดลอง ค้นคว้า ภูมิใจกับลูกสาวขนาดไหน? ป๊อบ : ภูมิใจมาก เราไม่คิดว่าเขาจะมาได้ถึงขนาดนี้ ตั้งแต่เล็กเราบอกเขาเลยว่าหนูจะต้องฟังแม่จนถึง ม.3 พี่จะเติมให้เขาหมด ไม่ว่าเรียนหรือว่าดนตรี กีฬา คือเอาให้สุด พอม.4 ถ้าไม่ชอบค่อยเอามันออก แล้วตั้งแต่ม.4 จนถึงทุกวันนี้ไม่ยุ่งเลย วันแม่เขาก็มาขอบคุณพี่ ว่าเราทำตามอย่างที่เราพูด เพราะเราคิดว่าตั้งแต่เด็กๆ จนถึง ม.3เนี่ย เด็กมันยังไม่สามารถจะเลือกได้หรอก เพราะมันยังไม่รู้ว่าอะไรดีไม่ดี เราเป็นแม่ เราต้องเอาตรงนี้ไปให้เขา แล้วพอเขาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง ให้เขาเลือกเอง พ่อลูกเก่งขนาดนี้ว่าไง? สุเทพ : เขาจะเป็นเด็กที่แบบไปสอบ ไปอะไรเขาไม่ได้ปรึกษานะ เขาทำเอง ผมภูมิใจมาก จริงไหมที่จะออกจากวงการแล้วไปขายกะปิ? สุเทพ : จริงๆ กะปิก็ขาย แต่ออกจากวงการคงไม่ออก จะออกไปทำไม ก็ขายกะปิไปด้วย เล่นตลกไปด้วยติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.05-14.05 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ สุเทพ สีใส และ ครอบครัว
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ