“สมรักษ์ คำสิงห์” เปิดใจครั้งแรกหลังไปปฎิบัติธรรม เพราะเจอเรื่องช็อก ด้านลูกสาว “เบสท์” เล่าโมเมนต์หวานกับ “ตงตง กฤษกร”

สมรักษ์ : สบายใจขึ้นในการเข้าไปปฏิบัติธรรม โดยการแนะนำของอาจารย์ไพโรจน์ รื่นวิชา เป็นอาจารย์ที่เราเคารพ เราไม่ได้ทำผิดอะไรแล้วเดิดเหตุการณ์ร้ายๆ มันน่าจะเป็นแต่ปางเก่า ชาติที่แล้ว น่าจะไปปฏิบัติธรรมให้จิตใจสงบ แล้วก็แผ่ส่วนบุญ ส่วนกุศล ไปให้เขา

สมรักษ์ : ก็ตกใจ เราก็เลยมีความรู้สึกว่าเอะ…เราเป็นต้นเหตุหรือเปล่า จริงๆ ก็เสียดายนะ ทำไมไม่นัดเราไปที่บ้านเลย ถ้าผมไปที่บ้านอาจจะไม่เกิดเกตุการณ์ร้ายแรงก็ได้ ผมอาจจะช่วยเหลือครอบครัวเขาได้ หรือผมอาจจะโดนยิงคนแรก อะไรอย่างนี้

สมรักษ์ : ใช่ๆ ถ้าผมเข้าไปบ้านมันอาจจะไม่เกิดเหตุร้ายแรงก็ได้

เบสท์ : ตอนแรกตกใจ เพราะหนูนึกว่าพ่ออยู่ในเหตุการณ์ แต่พ่อไปทีหลัง คือ ณ จุดนั้นเราไม่รู้ว่าสถานการณ์มันตึงเครียดขนาดไหน ถ้าพ่อไปอาจจะโดนหรือเปล่า ก็เป็นห่วง แต่ว่าพอพ่อไม่เป็นอะไรก็โอเค ตอนนั้นพอรู้ก็โทรหาพ่อเลยว่าเป็นยังไงบ้าง แต่พอพ่อไม่ได้เป็นอะไรก็โอเค ส่วนสภาพจิตใจพ่ออยู่กับหนูเขาเข้มแข็ง หนูไม่รู้ว่าข้างในพ่อคิดยังไง แต่สำหรับหนูเขาเข้มแข็งหนูก็โอเค

สมรักษ์ : คือเป็นเพราะเราหรือเปล่า คือมันเป็นเรื่องธรรมชาติที่แบบ สจ.เมื่อไหร่จะได้ครับ เพราะว่ามันเงินชาวบ้าน ไม่ใช่เงินผม

สมรักษ์ : ลอตเตอรี่ใช่ไหม มันก็มีการสั่งจองล่วงหน้า ราคา 80 บาทเนี่ยมันเป็นการจองล่วงหน้า ปกติที่โดนโกงกันเยอะๆ คือการจองล่วงหน้าในราคานี้ แต่พอลอตเตอรี่มันออกมา 90 กว่าหมด คือผมอะชาวบ้านมาขอร้องให้เราช่วยเหมือนเป็นกำแพง เป็นแบ็กให้ คือโอนเงินมานี่ แล้วนี่ก็โอนไป ในส่วนแรกเขามาเจรจาตกลงกันก่อน แต่การโอนเงินเขาโอนผ่านนี่ แล้วนี่ก็โอนไปนี่

สมรักษ์ : โทรตอนเช้าครับ ก็หัวเราะกันดี บอกว่าบาสเพื่อนรักวันนี้จะเคลียร์ 2 ล้านนะ สักบ่าย2 ไปรอที่ร้านอาหาร เขาก็บอกให้ไปคุยกับชาวบ้านให้หน่อย วันนี้จ่ายก่อน 2 ล้าน อีก 2-3 วัน จ่ายอีก 2 ล้าน เพราะทั้งหมดมัน 10 ล้าน วันนั้นบ่ายโมงผมก็ไป และระหว่างทางผมโทรไปแกก็ไม่รับ

สมรักษ์ : สบายใจนะ มันมีพลังจริงๆ ไปอยู่ในถ้ำแล้วก็ปฏิบัติธรรม กินเจวันละมื้อ แล้วก็สวดมนต์ มันทำให้จิตเราได้พักผ่อน

เบสท์ : ใช่ค่ะ ตอนนั้นจะไปเยี่ยม แต่ครบ 7 วันพอดี หนูก็ไม่รู้หรอกว่าพ่อไป 7 วันหรือยัง แต่ว่าหนูตั้งใจจะไปเยี่ยม พอไปถึงก็เป็นวันที่ออกได้พอดี ก็เลยได้รับคุณพ่อ พอออกมาสิ่งแรกที่พ่อบอกคือ หิว เราก็พาพ่อไปกินข้าว

สมรักษ์ : ไม่เคย อันนี้เป็นครั้งแรก

เบสท์ : จริงๆ หนูบอกตั้งแต่แรกๆ ที่เขามาทำลอตเตอรี่แล้ว หนูบอกว่าพ่ออยู่บ้านเฉยๆ วันนึงอยากใช้กี่บาท เดี๋ยวหนูเอาให้

สมรักษ์ : คือพ่อก็อยู่บ้านเฉยๆ แต่ชาวบ้านมาหาเรา

สมรักษ์ : พอแล้วแหละ เหนื่อย เพราะว่าใจเรามองคนในแง่ดี เราทำงานให้ประเทศชาติ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติ คงไม่มีใครคิดร้ายกับเรา แต่พอจังหวะชีวิตที่เป็นอย่างนั้น ผมเป็นคนง่ายๆ อยู่แล้ว

สมรักษ์ : จริงๆ ก็ทวงกับพ่อนี่แหละ แต่เขาเหมือขู่ ต้องได้วันนี้ ถ้าไม่ได้วันนี้เขาจะมาถึงบ้าน พ่อก็มาบอกเบสท์ เบสท์ก็โทรไปคุยเดี๋ยวหนูจะเอาเงินหนูให้ บางทีหนูก็ไม่ทันตั้งตัว แบบมาวันนี้ ต้องได้วันนี้ แบบสัก 2-3 วันได้ไหม เพราะเงินมันเป็นหลักล้าน เขาก็ไม่ยอม เขาก็บอกต้องภายในวันนี้ 6 โมงเย็น แล้วก็เลื่อนไป 2 ทุ่ม ถ้าไม่ได้เดี๋ยว 5 ทุ่มจะมาบุกถึงบ้าน

เบสท์ : ทั้งหมดอะเยอะ แต่อันนี้คือเป็นเจ้าเดียวที่โทรมาหาหนู หนูก็ต่อรองกับเขา แล้วให้เขาไป เขาก็ไม่ได้มาที่บ้าน หนูก็ไม่รู้ว่าเขาขู่หรือเปล่า ก็น่ากลัว

สมรักษ์ : ผมตัดปัญหาเบสท์ออกไปแล้ว ผมโดน 2 ครั้งแล้วไง ครั้งแรก 2 ล้าน ครั้งนี้อีก 2 ล้าน เป็น 4 ล้านแล้ว ผมก็เลยพอแล้วแหละ เดี๋ยวผมรับผิดชอบเอง ถ้าใครจะฟ้องเราก็ให้ไปฟ้องเลย ค่อยไปขอความเมตตาจากศาลเอา

เบสท์ : หนูโชคดีด้วย หนูทำยูทูบตั้งแต่เด็ก ก็เลยได้เงินมาจากยูทูบนี่แหละ

เบสท์ : ซื้อบ้านไปเมื่อต้นปี ล่าสุดไม่กี่วันเพิ่งออกรถคันใหม่ ตอนนี้มีรถ 3 คันแล้ว เป็นเงินของหนูเลยที่หามาจากยูทูบ หรือว่าทำรีวิวต่างๆ

เบสท์ : เกือบๆ 4 ล้าน ประมาณนั้น

สมรักษ์ : เขาจัดการก่อนจะเกิดเรื่องแล้ว

เบสท์ : หนูทำยูทูบด้วย พอมาเล่นละครช่องวันได้ปีนึง เวลาเราไปกองถ่าย แล้วเราต้องไปยูทูบต่อบางทีเราขับรถแล้วเนาก็เหนื่อย บอกแม่ว่ามีคนขับรถดีไหม แม่บอกว่างั้นก็ซื้อรถตู้ไปเลย จะได้มีคนขับรถแล้วให้เรานั่ง จะได้มีเวลานอนพักผ่อนในรถ

เบสท์ : ตอนแรกจะซื้อหลังเดียว แล้วพอไปดูหมู่บ้านอีกหลังนึงว่างอยู่พอดี เป็นบ้านติดกัน เราก็แบบถ้าได้สองหลัง แบบพ่ออยู่หลังนึง หนูอยู่หลังนึง เราก็เดินหากันได้ แล้วมีพื้นที่ บริเวณให้ถ่ายยูทูบได้ มีสวนกว้างขึ้น

เบสท์ : 30 ล้าน

สมรักษ์ : ถ้าคุยเรื่องลูก คุยได้ทั้งวัน

เบสท์ : เริ่มแรกหนูทำยูทูบมาถ่ายเองตัดเอง พอถึงจุดนึงที่หนูมาเข้าวงการ หนูรู้สึกว่าจุดเริ่มต้นของหนูมันมาจากยูทูบ รู้สึกว่าหนูทำแล้วหนูไม่เหนื่อย อยากทำตรงนี้มากกว่า แต่ว่าในเรื่องของการแสดง เรารู้สึกว่ามันเป็นอาชีพเสริม แต่อาชีพหลักของหนู หนูเอ็นจอยกับการตัดคลิปยูทูบมากกว่า เราเลยไม่อยากจ้าง

เบสท์ : หนูมองทาเก็ตหนู เหมือนเด็กๆ เขาจะชอบดูสไตล์ของหนู การตัดคลิปก็สำคัญ ถ้าเกิดเราเล่าของคลิปเป็นสไตล์ของเราเขาก็จะอินไปกับเรา ถ้าเกิดคนอื่นมาตัด เขาก็ไม่ได้รู้จักเรา ไม่รู้สไตล์เรา เขาก็อาจจะตัดไปอีกแบบ เราถ่ายอีกแบบ เขาตัดอีกแบบ คนดูเขาจะรู้สึกแปลกๆ หรือเปล่า

เบสท์ : คือหนูซื้อบ้านก่อนมาคุยกับพี่ตง บ้านนี้หนูตั้งใจจะซื้อให้ตัวเอง อยากมีห้องแต่งตัวสวยๆ มีห้องฟิตเนสสวยๆ พอพี่ตงเข้ามาปุ๊บ เขาก็มาจัดแจงให้ ฟิตเนสต้องมีเครื่องนั่น เครื่องนี้ ต้องมีทีวีไว้เล่นเกมได้ด้วย แล้วพอคบกันช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด พี่เขาก็มาหาเราตลอด แล้วเวลาเราถ่ายคลิปเราก็อยากให้พี่เขาสนุกกับเราด้วย ก็เลยชวนมาออกคลิปตลอด

สมรักษ์ : ช่วงตกแต่งบ้าน ตงตงมาดูหมดเลย เขาปรึกษากัน พ่อดูอย่างเดียว ตั้งแต่ตงตงมาเนี่ยไม่ปรึกษาพ่อเลย พ่อเนี่ยวิศวะเก่า

สมรักษ์ : พ่อไม่งอนอยู่แล้ว สบายๆ ชีวิตพ่ออยู่ง่ายๆ อยู่แล้ว ซื้อบ้านตามใจผู้อยู่ เจ้าของบ้านเขาอยากแต่งยังไงเขาก็แต่งไป

เบสท์ : ใช่ค่ะ หนูเพิ่งเข้าช่องวันเมื่อต้นปี แล้วเล่นละค่ พี่ตงก็มาเป็นพระเอกเรื่องแรก ก็เลยได้ร่วมงานกัน เรื่อง กู้ภัย หัวใจสู้

เบสท์ : ใช่ค่ะ คือหนูคิดว่าพี่เขาเป็นพระเอกที่เฟรนลี่ เขาอาจจะดูแล เทคแคร์แบบนี้กับนางเอกทุกคน เราก็ใหใหม่ พอเรามาเจอพี่เขาในกอง เราก็คิดว่าเขาคงทำแบบนี้เป็นปกติ แต่พ่อกับแม่ก็จะสังเกต อย่างแม่ก็จะบอกว่าใช่เหรอ ถ้าเกิดทำปกติก็ต้องทำกับนักแสดงท่านอื่นสิ แต่ทำกับเราคนเดียว ดูแลเราคนเดียว

เบสท์ : ตอนแรกไม่ได้รู้สึกชอบหรือไม่ได้คิดว่าจะคุยเลย แค่รู้ว่าคนนี้พระเอกของเรา แค่นั้นไม่ได้คิดอะไรเลย

สมรักษ์ : ผมเพิ่งรู้ตอนดูคลิปที่ไปเที่ยวสวนสนุก พอดูคลิปก็ดูออกเลยนี่มันชอบลูกเรา ถามว่าตงตงไหนผมไม่รู้จัก เพราะผมไม่ค่อยรู้จักดารา ผมเจอตงตงผมจำแม่นเลย นี่อยู่หน้าตึกนี้มาอัดรายการ แล้วผมไปรอเบสท์ที่รถ ไอนี่เดินเข้ามา พ่อสวัสดีครับ เราก็สวัสดีครับ ผมเล่นคู่กับน้องครับ คือผมไม่รู้จัก

เบสท์ : คือพี่เขามาคุยกับเรา เหมือนไลน์มาคุย พ่อ กับแม่เคยบอกว่าเขาชอบ แล้วเพื่อนก็บอก เราก็ไม่อยากคิดเอง ก็ถามไปเลยตั้งแต่วันแรกที่เขาทักมาเลย หนูถามว่าพี่ชอบหนูเหรอ ถึงมาคุย เขาบอกว่าเขาชอบ หนูก็เลยบอกว่า อ่อ อย่างนี้นี่เองว่าทำไมถึงมาดูแลหนู หนูก็เลยบอกว่างั้นก็คุยกันไปก่อน เพราะหนูเพิ่งถามเขาเองว่าชอบหรือไม่ชอบ หนูก็ไม่ได้คิดว่าหนูจะชอบเขาไหมตอนแรก ก็ค่อยๆ ศึกษาพี่เขา เราก็เออชอบพี่เขาด้วย

เบสท์ : หลังจากที่พ่อรู้ ปกติพ่อไม่ได้ไปเฝ้าหนูที่กองถ่าย พอพ่อรู้วันนั้น อีกวันพ่อไปกองถ่ายเลย แล้วบอกว่ามาเยี่ยมเฉยๆ มาดู แต่ปกติเขาไม่มานะคะ พอเขามาปุ๊บเขาไม่คุยกับหนูด้วยนะ ไปคุยกับพี่ตงตง

สมรักษ์ : พ่อไม่ได้ไปคุยกับตงตง ตงตงมันมาเฝ้าพ่อ นั่งคุยกับพ่อ คือปกติเราไปกอง เราไม่ค่อยกล้าไปวุ่นวายกับกอง อยากให้ผู้กำกับทำงานอย่างเต็มที่ ขนาดผมเล่นเอง เวลาพักกอง ผมคุยกับช่างไฟ ตากล้อง ไม่ค่อยไปยุ่งกับใคร ผมไปกองก็เหมือนกัน ผมก็ยืนอยู่ไกลๆ ช่างไฟบ้าง ช่างอะไรบ้างก็ชอบมาคุยเรื่องมวยกับผม ตงตงมันก็มายืนเฝ้า เราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอไปดูคลิปที่ไปเที่ยวด้วยกัน เห้ยๆ มันใช่ ถามว่าหวงลูกสาวไหม คนเป็นพ่อก็หวงเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่เขาโตแล้ว แค่อย่าไปนอกลู่ นอกทาง มีอะไรมาคุยที่บ้าน

เบสท์ : คนบอกหนูตั้งแต่หนูเล่นละครกับพี่เขา พอเขารู้ว่าพี่ตงเป็นพระเอกก็มีคนมาบอก ขนาดพี่ๆ ในช่องวันยังมาบอกหนูเลย วันนั้นหนูมาอัดรายการ ทีมงานมากระซิบแล้วว่าตงตงเจ้าชู้มากเลยนะ ระวังเขามาจีบ แต่ตอนนั้นหนูยังไม่ได้คุยกับพี่ตงด้วย คือไม่เชื่อ เขาจะมาจีบได้ไง ก็แค่เล่นละครด้วยกัน แต่พอเราไปถ่ายละครสักพักก็จีบจริงๆ

เบสท์ : ตอนแรกๆ ก็แอบกลัว กลัวตัวเองจะเสียใจ แต่พอผ่านไปสักพักพี่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเหมือนเจ้าชู้ หรือทำอะไรที่ผิดไปในด้านชู้สาวกับคนอื่น ก็ไม่มี เขาก็ดูแบบรักจริง

สมรักษ์ : พ่อผ่านมาก่อนแล้ว พวกนี้ไม่ทันพ่อ พ่อก็พระเอกเก่าเหมือนกัน

เบสท์ : ตอนแรกหนูไม่กล้าคบกับพี่เขา แต่พ่อก็บอกว่าอย่าไปกลัวเลยผู้ชายเจ้าชู้ ถ้าชอบก็คบไปเลย ถ้าวันไหนเขาเจ้าชู้ เสียใจก็ยังมีพ่อ แม่อยู่

สมรักษ์ : ถ้าเจอคนที่ใช่เดี๋ยวเขาก็หยุดเองแหละ มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนหน้าตาดีแล้วเป็นพระเอก มีคนรักเยอะ เป็นเรื่องธรรมชาติ

เบสท์ : พี่เขาทัศนะคติดี ไลฟ์สไตล์เหมือนกัน พี่เขาเป็นคนง่ายๆ กินง่าย อยู่ง่าย เป็นคนคิดบวก เหมือนมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งหนูชอบ เพราะว่าเหมือนหนูทำงานหาเลี้ยงครอบครัว หนูรู้สึกว่าการที่เราจะมีแฟน หนูอยากได้คนที่โตกว่า เพื่อจะได้เป็นที่ปรึกษาให้เรา เขาต้องเข้าใจในการทำงานหนู เข้าใจในภาระหนูว่าหนูจะต้องรับผิดชอบเรื่องอะไรบ้าง แล้วพี่เขามีตรงนั้น

เบสท์ : ตอนแรกเริ่มจากพี่เขาก่อน วันเกินหนูพี่เขาจุดพลุให้ พอหนูเห็นคือมันยิ่งใหญ่มากเลยจุดพลุกลางแม่น้ำ พอวันเกิดพี่เขาก็ไปซื้อบิวบอร์ดให้ก็หลายแสนอยู่

เบสท์ : อันนี้โดนมาตั้งแต่แรกๆ เลยมั้งคะเรื่องออกตัวแรง หนูจะบอกเสมอว่าหนูเป็นวัยรุ่นคนนึง ไม่อยากให้ทุกคนมามองว่าเป็นดารทแล้วทำไม่ได้ เป็นยูทูบเบอร์แล้วทำไม่ได้ เป็นคนมีชื่อเสียงแล้วทำไม่ได้ เรารู้สึกว่าเราคือมนุษย์ เราคือวัยรุ่น เกิดมาครั้งนึงอยากทำอะไรก็ต้องทำ ไม่งั้นพอแก่ตัวไปมานั่งเสียดายตอนนั้นน่าจะทำแบบนี้อะไรอย่างนี้ หนูเลยรู้สึกว่าถ้าหนูมีความรัก หนูอยากถ่ายรูปคู่กับพี่เขา อยากจะถ่ายคลิปกับเขา มันก็เป็นสิ่งที่เราอยากจะทำตอนนี้ ณ เวลานี้

สมรักษ์ : ต่างคนต่างทำด้วยใจ สังเกตไหมหลายคู่ที่มีข่าวแล้วเลิกกัน เพราะว่าแอบกิน แอบแซ่บ แต่อันนี้คุยกัน เปิดตัวคบกัน มันมีความจริงใจต่อกัน แล้วทุกอย่างมันอยู่ในสายตาพ่อแม่หมด ผมดูว่ามันเป็นคํ่รักหนุ่มสาวที่คบกันด้วยใจจริงๆ ตรงไป ตรงมา

เบสท์ : ตอนแรกก็รู้สึก คือหนูไม่เคยอยู่ในวงการ ไม่เคยเจอคอมเมนต์ขนาดนี้ ก็รู้สึกเสียใจว่าทำไมการที่เรามีความรัก มันต้องมีคอมเมนต์มาแซะบ้าง มาแขวะบ้างคือเราก็เป็นคนธรรมดาที่มีความรัก แต่เราก็ไม่เคยตอบกลับ แต่ก็อ่าน เสียใจ พอเหมือนเวลามันผ่านไปเราเจอบ่อยๆ มันก็ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นจนตอนนี้ไม่ได้สนใจแล้วว่าคอมเมนต์จะว่ายังไง มันมีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด แต่ไม่ได้เก็บมาเสียใจร้องไห้แบบตอนแรกๆ

เบสท์ : พี่เขาหล่อมั้งคะ หนูก็ไม่รู้อะไรเรียกว่าคลั่งรัก หนูก็เป็นคนแบบนี้ กับเพื่อนหรือกับใครก็แล้วแต่ ถ้าให้ใจหนูก่อน หนูก็ให้กลับแบบ ถ้าซื้อของขวัญให้หนูเป็นชิ้นนี้ รอบหน้าหนูซื้อใหญ่กว่านี้อีก

เบสท์ : มีค่ะ ก็ทะเลาะ ง้องอนปกติแบบวัยรุ่นทั่วไป ความคิดเห็นตรงกันบ้างไม่ตรงกันบ้าง

เบสท์ : ใช่ค่ะ เหมือนตอนแรกๆ ที่คบกัน เหมือนหนูถ่ายรูปแล้วพี่เขาไม่อยากให้ลง เพราะว่ามันโป๊ แบบใส่ขาสั้น เอวลอย หนูเลยรู้สึกว่าถ้าพี่เขาห้ามหนูลงรูปเซ็กซี่ เขาก็ต้องห้ามถอดเสื้อ เขาก็โอเค เหมือนเป็นข้อตกลงร่วมกัน ถ้าหนูทำอย่างนี้ไม่ได้ พี่ก็ห้ามทำ ถ้าหนูกดไลก์รูปผู้ชายไม่ได้ พี่ก็ห้ามกดไลก์รูปผู้หญิง ก็แฟร์ๆ มีทะเลาะไม่คุยกันก็มีเป็นอาทิตย์เลย ก็เป็นเรื่องปกติ เวลามีอะไร พี่เขาง้อก่อน

เบสท์ : ไม่มีนะคะ ยังไม่ได้คุยกันถึงเรื่องนั้นเลย อย่างหนูมองไว้สักอายุ 30 ให้หนูผ่อนบ้าน ผ่อนรถหมดก่อน แล้วค่อยแต่ง แต่ของพี่เขาหนูไม่รู้ว่าเขามองไว้ที่อายุเท่าไหร่ หลักๆ ถ้าหนูอายุ 30 แล้วยังคบกับพี่ตงตงอยู่ก็คงเป็นคนนั้น

สมรักษ์ : ตอนนี้ 21 เองรีบไปไหน กำลังสนุกกับการทำงาน พอถึงจังหวะสมควรเดี๋ยวเขาก็มาปรึกษาเองแหละ

คลิปสัมภาษณ์  สมรักษ์ – เบสท์