ยังมีนักเดินทางอีกหลายคนที่ชื่นชอบและอยากจะลองสัมผัสการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ที่แตกต่างอย่างลึกซึ้ง หรือเรียกอีกอย่างว่าเป็นการเดินทางแบบอินเทรนด์ในไลฟ์สไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร ดังนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผนึกกำลังกับ utu (ยูทู) แอปพลิเคชันที่ใช้ในการสะสมคะแนนเพื่อแลกรับเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือเดบิต ชวนสัมผัสเสน่ห์การท่องเที่ยวอีสานในกิจกรรม “เที่ยวอีสานไม่ตก Trend” เพื่อให้ทุกคนได้ออกไปครีเอทความอินเทรนด์ พร้อมกับการเช็คอิน ช้อป ชิม แชะ แชร์ บอกต่อกันแบบ Real Time ในสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตที่จะกระตุ้นต่อมเที่ยวแบบเท่ๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 15 กันยายน 2565 พร้อมรับคะแนนสะสมพิเศษ utu Points มากกว่า 300,000 คะแนน
การท่องเที่ยวของเหล่านักเดินทางที่สรรหาสถานที่ที่เป็นที่นิยม แปลกใหม่ จุดเช็คอินเพื่อแชร์ความชิค ความอินเทรนด์ และที่สำคัญยังถือเป็นอีกหนึ่งความสุขของนักเดินทางเพื่อแบ่งปันความสุขนี้แก่ผู้อื่น โดยการแนะนำสถานที่น่าเที่ยว น่าแวะพัก ให้กับเพื่อนๆ ในโครงการ “เที่ยวอีสานไม่ตก Trend” เป็นการนำเสนอการท่องเที่ยวแบบลึกซึ้งถึงประสบการณ์ต่างๆ ในจังหวัดภาคอีสาน เน้นการท่องเที่ยวเพื่อเข้าไปเรียนรู้ไปสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น วิถีชุมชน พร้อมเน้นการท่องเที่ยวไปในสถานที่ที่ได้รับมาตรฐาน SHA เป็นสำคัญเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพของนักท่องเที่ยวในช่วงสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม หรือการใช้รถส่วนตัวเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงคุณค่าจากการท่องเที่ยวในมุมมองที่เปิดกว้าง ผ่านการนำเสนอในมุมมองที่แตกต่าง จากทั้ง 20 จังหวัด ที่สำคัญยังถือเป็นการขยายตลาดตอบโจทย์นักท่องเที่ยวผู้รุ่นใหม่ให้มาร่วมออกเดินทางท่องเที่ยวตามสไตล์ที่ชื่นชอบ ซึ่งสิทธิพิเศษที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเมื่อจองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน ชำระค่าเติมน้ำมัน ค่าอาหารเครื่องดื่ม รวมถึง ช้อปปิ้งในร้านค้าที่ร่วมรายการ ผ่านบัตรเครติดหรือเดบิตที่ลงทะเบียนไว้ใน แอปพลิเคชัน utu คือ สามารถได้รับคะแนนสะสมพิเศษ utu Points เพื่อนำไปแลกเป็น cash back เริ่มที่ยอดใช้จ่ายขั้นต่ำ 500 บาท รับ 250 utu Points โดยสามารถใช้คะแนนสะสมพิเศษ utu Points แลกรับ cash back ได้สูงสุดถึง 100 % และยังรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าพันธมิตรในโครงการฯ ได้อีกด้วย ทั้งยังมีกิจกรรมพิเศษในการเช็คอินจุดอินเทรนด์ต่างในภาคอีสานเพื่อนลุ้นรับคะแนนสะสมพิเศษ utu Points ถึง 2,500 คะแนน ทั้งนี้เมื่อมีคะแนนสะสมพิเศษ utu Points 500 คะแนน สามารถแลกรับเครดิตเงินคืนมูลค่า 100 บาท พิเศษสุดๆ สำหรับใครที่โหลดแอป utu ลงทะเบียนบัตรเครดิตและเดบิต รับคะแนนฟรีสูงสุดถึง 350 utu Points ตามเงื่อนไขที่กำหนด
โดย นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวมีพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวในรูปแบบ New Normal เน้นการเดินทางแบบขับรถเที่ยวเองในภูมิภาคหรือเดินทางข้ามจังหวัดมากขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen-Y หรือวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 27-41 ปี เป็นกลุ่มที่เติบโตมาพร้อมเทคโนโลยี ชอบท่องเที่ยวเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ตื่นเต้นให้กับชีวิตใน Lifestyle ของตัวเอง ชอบท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นอาหารพื้นเมือง แหล่งท่องเที่ยวที่ยังไม่ตกเทรนด์ ไม่ชอบเที่ยวที่เดิมๆ และชอบค้นหาที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อที่จะสร้างประสบการณ์ให้กับตนเอง และชอบศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเอง ไม่ว่าจะจากเพื่อนหรือจาก Influencer/Blogger ที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวหนังสือ การรีวิวและติดตามข้อมูลจาก Social Media ต่าง ๆ จึงร่วมกับ utu (ยูทู) แอปพลิเคชัน เพื่อจัดกิจกรรม “เที่ยวอีสานไม่ตก Trend” ขึ้น ในแนวคิด “เที่ยวใกล้ เที่ยวง่าย ได้มาตราฐาน” เพื่อให้กิจกรรมนี้เป็นตัวกระตุ้นและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen-Y เลือกที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ่อยครั้งมากขึ้น”
ชวนออกไปสร้างคอนเทนต์ครีเอทการท่องเที่ยวแบบอินเทรนด์ทั่วภาคอีสานได้ทุกวัน ทั้งในสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่คุณจะสามารถปล่อยอารมณ์ไปกับความสโลไลฟ์หรือดื่มด่ำอาหารท้องถิ่นเลิศรส และของฝากสุดว้าว พร้อมรับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่ากับแอปพลิเคชัน utu เพียงแค่ดาวน์โหลดและลงทะเบียนบัตรเครดิตหรือเดบิตที่มีเครื่องหมาย Visa, Mastercard, UnionPay จากนั้นก็ช้อปปิ้งใช้จ่ายผ่านบัตรตามปกติ ทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรที่เพิ่มไว้แอปพลิเคชันในร้านที่ร่วมรายการจะได้รับ utu Points และนำกลับไปแลกเป็นเงินคืนเข้าบัตรเครดิต หรือเดบิตโดยการันตีเรื่องความปลอดภัยในการแอดบัตรเข้ามาในแอปพลิเคชั่น utu เพราะได้รับมาตรฐานรับรองตามข้อกำหนดของ PCI และไม่เก็บข้อมูลบัตรเครดิตเอาไว้ ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเหนือระดับ ได้ที่: https://app.utu.global สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://th.utu.global/ หรือ www.facebook.com/utuglobalth และ www.instagram.com/ututhailand