ฝ่าฟันผ่านการแข่งขันในรายการ “ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์ ซีซั่น 1” มานานเกือบครึ่งปี สำหรับ 2 สาว ต้นน้ำ–บัณฑิฏา แห่งยูนิต “Protea” (โพรเทีย) และ มินนี่–นิชัญญา สุดประเสริฐ จากยูนิต “Aozora to T-shirt” (อาโอโซระ โตะ ทีเชิร์ต) จนปัจจุบันนี้ทั้ง 2 สาวกลายเป็นไอดอลที่มีคนติดตามผลงานต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า ต้นน้ำ–บัณฑิฎา และ มินนี่–นิชัญญา เคยผ่านงานในวงการบันเทิงมาก่อน !!!
เริ่มกันที่ ต้นน้ำ แห่ง “Protea” เธอคนนี้เคยผ่านงานโฆษณามาหลายต่อหลายชิ้น แต่ผลงานที่ทำให้เธอเป็นจดจำของแฟน ๆ ก็คือ การเป็นพิธีกรรายการเด็กชื่อดังของไทยอย่าง “ดิสนีย์ คลับ” ทางช่อง 7 HD และล่าสุดสาวต้นน้ำร่วมแสดงในซีรีส์ “XYZ” ที่นำแสดงโดย อนันดา เอเวอริ่งแฮม และ ออม–สุชาร์ มานะยิ่ง
ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ละคร “แก้วตาหวานใจ” ทางช่อง 3 เป็นละครที่แฟน ๆ ติดตามชมเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะได้คู่พระ–นางชื่อดังอย่าง บอย–ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ มิ้นต์–ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง แสดงนำแล้ว แฟน ๆ ยังตกหลุมรัก “มดตะนอย” กามเทพตัวจิ๋วที่เชื่อมใจคู่พระ–นางให้รักกัน จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเด็กน้อยในวันนั้น จะโตขึ้นมาเป็นไอดอลสาวไซส์มินิอย่าง มินนี่–นิชัญญา สุดประเสริฐ แห่ง “Aozora to T-shirt”
แล้วทำไมทั้ง 2 สาวถึงตัดสินใจพักงานแสดงและงานอื่น ๆ ที่พวกเธอถนัด แล้วหันมาเริ่มต้นใหม่กับเส้นทางสายไอดอลแทน ต้องลองไปฟังเหตุผลจากพวกเธอกัน
เริ่มที่ ต้นน้ำ–บัณฑิฎา กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้ต้นน้ำเคยผ่านงานแสดงหนังต่างประเทศและซีรีส์มาก่อน แต่ผลงานที่ทำให้ทุกคนรู้จักต้นน้ำน่าจะเป็นงานพิธีกรจากรายการ “ดิสนีย์ คลับ” ทางช่อง 7 ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจมาทำงานสายไอดอล จริง ๆ แล้วต้นน้ำไม่ค่อยรู้จักวงการนี้สักเท่าไหร่ แต่มีอยู่วันหนึ่งไปแคสท์แถว ๆ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน แล้วเห็นรายการ “ลาสต์ ไอดอล ไทยแลนด์” ประกาศรับสมัครผู้เข้าแข่งขัน ซึ่งต้นน้ำชอบโลโก้ของรายการมาก เลยตัดสินใจมาออดิชั่น ก็ไม่คิดว่าจะได้มาเป็นยูนิตที่ชนะและยังได้เป็นเซ็นเตอร์ด้วย ดีใจมากค่ะ แต่พอมาอยู่ “ลาสต์ ไอดอล” ชีวิตก็เปลี่ยนไปเลยตรงที่ ต้องทุ่มเทให้กับการซ้อมร้องและเต้นมากขึ้น จริงอยู่การเป็นไอดอลสไตล์ญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ แต่เราก็ต้องมีพัฒนาการให้แฟน ๆ ได้เห็น”
“ถามว่าต้นน้ำชอบงานอะไรในวงการบันเทิงมากที่สุด เลือกไม่ถูกเลย เพราะงานแสดง งานร้องเพลง เป็นศาสตร์ที่แตกต่างกันมาก และมีความท้าทายแตกต่างกันไป ถ้ามีโอกาสก็อยากลองทำทุกอย่างค่ะ แต่มีอีกงานที่หนูอยากลองทำมากที่สุด นั่นก็คือการเป็น แอ็คติ้ง โค้ช เพราะหนูชอบสังเกตแอ็คติ้งของคนอื่น ถ้าเราสั่งสมประสบการณ์ได้มากพอ ก็อยากจะลองทำงานด้านนี้ดูค่ะ แต่ตอนนี้ขอฝากผลงานของพวกเรา “ลาสต์ ไอดอล” เอาไว้ในอ้อมใจแฟน ๆ ทุกคนด้วยนะคะ” ต้นน้ำ กล่าว
ด้าน มินนี่–นิชัญญา เผยว่า “จริง ๆ หนูผ่านงานโฆษณาและละครมาพอสมควรค่ะ ทำงานในวงการตั้งแต่ 3 ขวบค่ะ แต่ผลงานที่เป็นที่รู้จักคือบท “มดดตะนอย” จากละคร “แก้วตาหวานใจ” ที่แสดงร่วมกับ พี่บอย–ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ และ พี่มิ้นต์–ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง แต่ด้วยความที่หนูชอบการร้องและเต้นด้วย เลยลองมาออดิชั่น “ลาสต์ ไอดอล” ก็เข้ารอบ 26 คน จากผู้สมัครกว่า 3000 คน หนูดีใจมากค่ะ ถามว่างานละครและการเป็นไอดอล งานไหนยากกว่ากัน ก็ยากเหมือนกันนะคะ เพียงแต่งานละครจะยากตรงที่เราต้องหาคาแร็คเตอร์ตัวละครนั้น ๆ ให้เจอ แต่ลาสต์ ไอดอล ต้องซ้อมร้องและเต้นจะเหนื่อยทางร่างกายมากกว่า และไทม์มิ่งในการทำงานจะต่อเนื่องกว่า งานละครจะเป็นพีเรียดสั้น ๆ ค่ะ แต่หนูชอบทั้ง 2 งานเลยนะคะ มีเสน่ห์คนละแบบเลยค่ะ”
“ล่าสุดตอนนี้กำลังมีผลงานเพลง “ผลไม้ที่เหนือจินตนาการ” มีมิวสิควีดีโอให้ชมด้วย เป็นเพลงสดใส ฟังแล้วน่ารักจั๊กกะจี้หัวใจแน่นอน เผื่อใครกำลังเหงา ๆ เศร้า ๆ ลองฟังเพลงนี้แล้วจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความสดใสที่ หนู,พี่ฟ้า–ชุติกาญจน์ และ พี่แจน–ลักษิกา สมาชิกยูนิต “อาโอโซระ โตะ ทีเชิร์ต” ตั้งใจจะส่งไปให้ทุกคนค่ะ ฟังได้แล้วตั้งแต่วันนี้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=vCH4SA8ySYI และสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและข่าวสารของพวกเรา 26 สาว “ลาสต์ ไอดอล” ได้ทางเพจเฟซบุ๊ค Last Idol Thailand นะคะ” มินนี่ กล่าว