ถ้าพูดถึงวัดจีนที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทยนั้น คงต้องยกให้กับวัดเล่งเน่ยยี่ หรือวัดมังกรกมลาวาส ในย่านเยาวราช หรือไชน่าทาวน์ ที่ในแต่ละปีจะมีผู้คนหลั่งไหลมาไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคลตลอดปี และเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยรับปีกระต่ายทอง เพาเวอร์บาย โดย นายวรวุฒิ พงศ์ชินภัค กรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟทริปชวนลูกค้าแฟนพันธุ์แท้ผู้โชคดีของเพาเวอร์บาย ร่วมทริปไหว้พระเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตที่วัดเล่งเน่ยยี่ กับ “หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” ที่มาให้ความรู้พร้อมแนะวิธีไหว้พระอย่างไรให้ถูกต้อง เสริมความเฮงตลอดทั้งปี

ประเดิมทริปมงคลด้วยเกร็ดความรู้จาก หมอช้าง เกี่ยวกับประวัติของวัดเล่งเน่ยยี่ วัดมังกรกมลาวาส หรือที่เราชอบเรียกว่า ‘วัดเล่งเน่ยยี่’ ถ้าเรียกเป็นภาษาจีนกลางก็จะออกเสียงว่า ‘หลงเหลียนซื่อ’ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2414 ในรัชกาลของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีรูปแบบสถาปัตยกรรมของวัดแบบจีน ประกอบด้วยอาคารหลักคืออุโบสถตั้งอยู่ตรงกลาง ด้านหน้ามีวิหารจตุโลกบาล ด้านหลังเป็นวิหารบูรพาจารย์ ส่วนด้านซ้ายขวาก็มีวิหารอื่นๆ อีกหลายหลัง

มาถึงเวลาที่ทุกคนรอยคอย หมอช้าง ได้แนะนำวิธีและขั้นตอนการไหว้พระขอพรอย่างไรให้ถูกต้อง สำหรับการไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่นั้น เริ่มต้นจากการไหว้ฟ้าดินบริเวณด้านหน้าก่อน และยืนหันหน้าออกไปหน้าวัด ความสำคัญของขั้นตอนนี้คือ การกราบไหว้ฟ้าดิน พ่อแม่ ครูอาจารย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องให้เกียรติ และให้ความเคารพ หมอช้าง ได้แนะเคล็ดลับว่า ก่อนที่เราจะไปไหว้พระทำบุญทุกครั้งควรรวบรวมสมาธิและสติของตนเองก่อน เอ่ยชื่อนามสกุลแล้วจึงค่อยอธิษฐานกับฟ้าดิน ถือเป็นการเริ่มต้นไหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่

และเมื่อก้าวสู่ประตูทางเข้าห้องโถงของโบสถ์ จะได้สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมแบบวัดจีนอย่างเห็นได้ชัดจากวิหารของท้าวจตุโลกบาล ตามความเชื่อของชาวจีนที่ว่าท้าวจตุโลกบาลทั้ง ได้แก่ ท้าวเวสสุวรรณ หรือท้าวกุเวร เจ้าแห่งผีและยักษ์ ประจำทิศเหนือ ท้าวธตรฐ มีคนธรรพ์เป็นบริวาร เป็นเจ้าประจำทิศตะวันออก ท้าววิรุฬหก มีกุมภัณฑ์เป็นบริวาร ประจำทิศใต้ และ ท้าววิรูปักข์ มีนาคเป็นบริวาร ประจำทิศตะวันตก ซึ่งช่วยปกป้องดูแลทั้งสี่ทิศของวัด

ในลำดับต่อไปจะเข้าไปบริเวณอุโบสถซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธาน องค์ ประกอบด้วย ‘พระศรีศากยมุนี’ อยู่ตรงกลาง ฝั่งขวาเป็น ‘พระอมิตาภพุทธเจ้า’ ส่วนฝั่งซ้ายเป็น ‘พระไภษัชยคุรุไวฑูรย์’ โดยมี 18 อรหันต์ตั้งขนาบทั้งสองข้าง เมื่อเราไหว้กราบขอพรจากพระประธานทั้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องไปกราบสักการะองค์ไฉ่ชิงเอี๊ยะ หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ที่ชาวจีนให้ความศรัทธา และขอพรเรื่องโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา นิยมไหว้กันในคืนที่จะเข้าเทศกาลปีใหม่จีนหรือชิวอิก

อีกหนึ่งจุดที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชงคือ วิหารแห่งองค์ไท้ส่วยเอี๊ย หรือเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา ส่วนวิธีการไหว้นั้น เริ่มจากการเขียนรายละเอียดส่วนตัวในชุดไหว้ หลังจากนั้นนำชุดไหว้ไปไหว้เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย บอกชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิด อธิษฐานขอบารมีคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัย หลังจากนั้นก็ทำพิธีนำชุดไหว้ปัดตัวตั้งแต่บริเวณหน้าผากลงมา จำนวน 13 ครั้ง และนำชุดไหว้ใส่ในกล่องที่ทางวัดเตรียมไว้ ระหว่างทำพิธีต้องตั้งใจมีสมาธิ สำหรับผู้ที่ไม่ได้มาแก้ปีชงก็สามารถไหว้ขอพรเสริมสิริมงคลกับเทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ยได้เช่นกัน อย่างไรก็ดียังมีเทพเจ้าอื่นๆ เช่น ปึงเถ่ากงม่า องค์ฮั่วท้อเซียงซือ

ส่วนถัดมาที่หมอช้าง พาไปชมคือ วิหารพระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ และวิหารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หรือคนไทยรู้จักในนามของเจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์กวนอิม” เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความเมตตา ขอพรอะไรก็สมปรารถนา อีกหนึ่งจุดสำคัญบริเวณด้านหลังอุโบสถ เป็นวิหารบูรพาจารย์ สถานที่ประดิษฐานรูปของพระอาจารย์สกเห็ง หรือพระอาจารย์จีนวังสสมาธิวัตร ปฐมบูรพาจารย์ผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ และเจ้าอาวาสลำดับที่ และ นอกจากนี้ยังมีเทพเจ้ากวนอู ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน การค้าขาย เสริมมิตรภาพที่ดี

โดยทริปนี้ “หมอช้าง” ได้นำลูกค้าคนสำคัญของเพาเวอร์บายไหว้พระขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ในวัดเล่งเน่ยยี่อย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองสร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นทริปที่ทุกคนอิ่มเอมด้วยความสุข อิ่มบุญ พกความเฮงกลับบ้านกันทั่วหน้า แถมยังได้เกร็ดความรู้ดีๆ ในการไหว้พระเสริมมงคลอีกด้วย

เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล 

บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าหลากหลายประเภทผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format and Multi-category) ในประเทศไทย และมีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยเป็นผู้นำในประเทศอิตาลีและเป็นหนึ่งในผู้นำในประเทศเวียดนาม เครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,543 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565) อาทิ ห้างสรรพสินค้าร้านสะดวกซื้อร้านขายสินค้าเฉพาะทางซูเปอร์มาร์เก็ตไฮเปอร์มาร์เก็ตพลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Omnichannel โดยธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่  (1) กลุ่มฮาร์ดไลน์ ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าตกแต่งและปรับปรุงบ้าน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน หนังสือ และ e-Book ภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ไทวัสดุ บ้าน แอนด์ บียอนด์ / บีเอ็นบี โฮม เพาเวอร์บาย ออฟฟิศเมท บีทูเอส เมพ และเหงียนคิม (2) กลุ่มฟู้ด ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภค และสินค้าที่มักพบได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ แฟมิลี่มาร์ท บิ๊กซี / GO! ลานชี มาร์ท ท็อปส์ มาร์เก็ต เวียดนาม และมินิ โก (go!) (3) กลุ่มแฟชั่น ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายสินค้าเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับภายใต้แบรนด์ค้าปลีกต่าง ๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเต ซูเปอร์สปอร์ต และ เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป และ (4) กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งมุ่งเน้นการให้เช่าพื้นที่สำหรับร้านค้าของกลุ่มบริษัทฯ และร้านค้าและบริการของบุคคลภายนอก เช่น โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ท็อปส์ พลาซ่า และ บิ๊กซี / GO! เวียดนาม (5) กลุ่มเฮลธ์แอนด์เวลเนส ซึ่งมุ่งเน้นการจำหน่ายและให้บริการด้านสุขภาพคนและสัตว์เลี้ยง เช่น ท็อปส์แคร์ ท็อปส์วีต้า และ เพ็ทแอนด์มี โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 2565 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 59 จังหวัดประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 41 จังหวัดและประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2565)