องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม เป็นหนึ่งในหลายพระโพธิสัตว์ตามคติความเชื่อของพุทธศาสนานิกายมหายาน มีสมญานามว่า “พระมหาโพธิสัตว์แห่งมหาเมตตาและมหากรุณา” รวมถึงยังมีความเชื่อที่หลากหลายเกี่ยวกับการบูชาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม วันนี้นับเป็นโอกาสดีที่ อาจารย์กิตติพงศ์ธนา นุตาลัย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์โรงเจฉื่อเต็กเจตั๊ว ตำบลหนองตีนนก อำเภอบ้านโพธิ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศาสนพิธีและศิลปวัฒนธรรมจีน ได้มาบอกเล่าให้ทราบถึงการบูชาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม บูชาอย่างไรให้ถูกต้อง บูชาแบบไหนถึงจะสัมฤทธิผล
ศาสนิกชนที่นับถือองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะไม่นิยมบริโภคสัตว์ใหญ่ แต่จริงๆ แล้ว ข้อห้ามก็ไม่ได้มีกำหนดตายตัว ผู้ศรัทธาที่ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ก็เพียงพอต่อการบูชา ในการกราบไหว้ขอพร สิ่งสำคัญต้องเริ่มที่ “ใจ” หรือ “จิต” หากมี “จิตที่ตั้งมั่น” ร่วมกับ “ศรัทธา” แล้ว การกราบไหว้ย่อมสัมฤทธิผลทุกประการ ผู้ที่มีจิตตั้งมั่นระลึกถึงองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมด้วยความศรัทธา ย่อมจะได้รับความสำเร็จและสมปรารถนา
สำหรับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่ประดิษฐาน ณ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี นี้ แกะสลักจากหยกขาวชิ้นเดียวที่ได้มาจากเหมืองในป่าลึกของเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า เฉพาะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมสูงถึง 2.62 เมตร หนัก 2.8 ตัน ฐานบัวสูง 0.45 เมตร หนัก 0.78 ตัน ฐานมังกรสูง 1.02 เมตร หนัก 4.95 ตัน และฐานแปดเหลี่ยมสูง 0.91 เมตร หนัก 5.9 ตัน แกะสลักโดยช่างชาวจีน แกะเป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางประทานพรประทับบนมังกร ที่มือของพระองค์ถือแจกันประทานน้ำอมฤต น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และกิ่งหลิว ไว้คอยชะล้าง ขจัดปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัยของผู้ที่มากราบไหว้ขอพร และยังเป็นเสมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมกายใจให้สะอาดบริสุทธิ์ ชุ่มฉ่ำด้วยน้ำพระทัยแห่งความเมตตาที่ยากจะหาใดเปรียบได้ องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมประทับยืนบนหลังพญามังกรเวียนว่ายกลางมหาสมุทร ซึ่งพญามังกรเปรียบได้กับความมั่งคั่งร่ำรวย สายน้ำเปรียบได้กับความลื่นไหลราบรื่น สำเร็จ ร่ำรวย คนที่มากราบไหว้บูชาอธิษฐานแล้วต้องไม่ลืมลูบพญามังกรด้วย เพื่อให้ได้ทั้งสมความปรารถนาและร่ำรวย
ตัววิหารนั้น ได้จำลองแบบมาจากวิหารเทียนถาน กรุงปักกิ่ง ที่จักรพรรดิราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง ใช้เป็นสถานที่บูชาฟ้า บวงสรวงเทพยดา เพื่อขอพรให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1998 ปัจจุบันได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งของจีน
ด้วยความเชื่อที่ว่าวงกลมหมายถึงโลกมนุษย์ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” จึงออกแบบมาให้เป็นรูปทรงกลมตามอาคารต้นแบบ สร้างซ้อนขึ้นไป 3 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องสีเขียว ที่หมายถึงความอุดมสมบูรณ์งอกงาม ภายในวิหารชั้นแรก มีเสา 12 ต้น เป็นตัวแทนของเดือนทั้ง 12 เดือน และ 12 ต้นอยู่ภายนอกสุดแทนความหมายของ 12 ชั่วยามในหนึ่งวัน ฝ้าเพดานเป็นรูปแมนดาลา ศิลปะภาวนาที่มีที่มาจากทิเบต อันเป็นเครื่องหมายแห่งจักรวาล มีภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆ โดยรอบภายในวิหาร ส่วนหลังคาของวิหารมุงด้วยกระเบื้องหลังคาแบบเซรามิก โซลาร์เซลล์ เพื่อผลิตพลังงานทดแทน นับเป็นวิหารแห่งแรกในประเทศไทยที่ใช้กระเบื้องโซลาร์เซลล์ รวมถึงติดตั้งสายล่อฟ้า ที่เปรียบเสมือนการรับพลังจากเบื้องบน เชื่อกันว่าคนที่มากราบไหว้ขอพรจะมีสุขภาพดี มีโชคลาภ ภายในตัวอาคารยังได้เสริมความวิจิตรตระการตาด้วยภาพเขียนลายต่างๆ ที่สื่อให้เห็นถึงแนวคิดเรื่องจักรวาล ภพภูมิ ความสมบูรณ์และมั่งมี รวมถึงภาพองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” นอกจากเป็นสถานที่สำหรับกราบไหว้ขอพรของผู้มีความศรัทธาในองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแล้ว ชั้นใต้ดินของอาคารยังใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสาธารณกุศลเป็นครั้งคราวอีกด้วย และทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี จะเป็นวันทำบุญประจำปีของวิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้”
นอกจากนี้ อาจารย์แมนยังแนะเคล็ดลับการบูชาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ณ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” ให้ประสบผลสำเร็จด้วยเคล็ด “สงบ สบตา สัมผัส ภาวนา รับพร”
สงบ ทิ้งเรื่องราวกลัดกลุ้มร้อนใจเพียงชั่วครู่ ดึงสติ สมาธิเข้าสู่จิตของเราให้นิ่ง
สบตา สบตาองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม มองให้เห็นถึงความเมตตาและกรุณาที่อยู่บนพระพักตร์ของท่าน
สัมผัส สัมผัสไปที่องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมแกะสลักจากหยกขาว รับพลังธรรมชาติ พร้อมอธิษฐานในใจ
ภาวนา ภาวนา งัน มา นี ปา มี ฮง / นะโมกวงซีอิมผ่อสัก / ขอนอบน้อมแด่พระโพธิสัตว์กวนอิม 9 จบ
รับพร รับพรอันเป็นมงคลกลับบ้านด้วยความอิ่มเอมใจ
วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2558 แต่ด้วยความใหญ่โตของอาคารและความกว้างของพื้นที่โดยรอบ ทำให้การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ศาสนิกชนผู้ที่มีจิตศรัทธา สามารถร่วมบุญร่วมสร้างวิหารแห่งนี้เพื่อให้อานิสงส์นี้ส่งผลให้กับทุกบุญที่เกิดขึ้น ผู้ประสงค์ร่วมบุญสามารถร่วมบริจาคได้ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชี มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสาธุประดิษฐ์ เลขที่บัญชี 068-292049-8 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา โทร. 02-293-9000 คุณยุรฉัตร เคียงศิริ มือถือ 081-890-8984 และคุณสลิลน์รดาส์ ธรรมวรพล มือถือ 061-636-1645