“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” เคลียร์ ประชาธิปัตย์หมดน้ำยา ใกล้สูญพันธุ์ จริงหรือ! ลั่นไม่เคยแตกคอ อภิสิทธิ์ ยัน นโยบายอยู่กับความเป็นจริง ไม่ขายฝัน

เรียกว่าเป็นตำนานที่ยังมีลมหายใจสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ล่าสุดโดนกระแสพูดถึงหนักมากว่า หรือนี่จะมาถึงจุดอวสาน สูญพันธุ์ของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 พร้อมพูดคุย เคลียร์ถึงประเด็นดังกล่าวหมดเปลือก อีกทั้งยังมาเคลียร์ ประเด็นที่แตกคอกับ นาย อภิสิทธิ์ จริงหรือไม่ พร้อมพูดถึงนโยบายของพรรคไม่แจกเงิน เน้นอยู่กับความเป็นจริงไม่ขายฝันหลอกชาวบ้าน แฟน ๆ สามารถไปรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง8  https://youtu.be/3nLLmdGi4hQ เท่านั้น

กราบเรียนถามท่านในฐานะที่ท่านต้องเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคและก็บริหารหลังการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ดิฉันทราบว่าก็ไม่ประสบความสำเร็จไปบ้างเรื่อง เล็ก ๆ ท่านเหนื่อนไหมคะกับการที่ต้องมารับผิดชอบ สงสารท่านจังเลยค่ะ

ก่อนคราวที่แล้วเราเคยมีผู้แทน 150  กว่าคน 160 ตัวเลขกลม ๆ แล้วคราวที่แล้วก็ลงมาเหลือ 52 แล้วผมก็เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคก็แน่นอนเมื่อเราเข้ามาแล้วเป็นคนอาสาเข้ามาให้สมาชิกเขาเลือก เมื่อสมาชิกเขาเลือกก็แน่นอนว่ามันก็เป็นภาระที่เราก็ต้องรับผิดชอบ เป็นภารกิจที่เราต้องรู้อยู่แล้วว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แต่ผมมาเป็นหัวหน้า ผมมาก่อนที่จะรู้ว่ามันเป็น 52 เรารู้อยู่แล้วครับอาจารย์ฮะ เพราะนั่นเราก็รู้ว่าภารกิจของเรามีอะไรบ้างเราก็เลยทำงานหนักมาตลอด สี่ปีที่ผ่านมา และตอนนี้ผมก็เชื่อว่า ผลที่ปรากฏออกมามันก็ดีขึ้นนะครับกระเตื้องขึ้นเป็นลำดับ ในช่วงเวลานี้

มีคนเค้ามาแอบใส่ความท่านค่ะ เค้าบอกว่าพรรคท่านใกล้จะสูญพันธุ์แล้วคนโน้นคนนี้ก็เลยรีบชิ่งหนีไปกันหมด ท่านเจ้าขา ทำไมเค้ากล้าพูดไม่ดีกับพรรคเราอย่างงี้ละคะ

            เค้าไม่ได้อยู่พรรคเราหนิครับ ได้ยินครับที่เค้าพูดกันผมยืนยันนะครับ ไม่สูญพันธุ์หรอกครับในอดีตเราก็เคยโดนแบบนี้ไม่ใช่มาโดนกันตอนนี้ ถ้าจะสูญพันธุ์อดีตสมัยก่อนการมีคนบอกว่าเดี๋ยวประชาธิปัตย์สูญพันธุ์สุดท้าย พรรคการเมืองที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์เนี่ย สูญพันธุ์ไปแล้วตอนนี้ไม่อยู่แล้วครับ พรรคการเมืองเหล่านี้นะครับ

มีคำถามหนึ่งคำถามที่กราบรบกวน เกรงใจท่านจังเลยแต่ก็ต้องถามเพราะคนเค้าสงสัย ท่านจุรินทร์ กับท่าน อภิสิทธิ์แตกคอกันหรือเปล่าคะ

            ไม่เลยครับ รักนับถือกันดี ผมเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาท่าน เป็นรองหัวหน้าพรรคให้ท่านมา 14 ปีตอนท่านเป็นหัวหน้าพรรค รับใช้ทุกอย่าง ทำงานให้ท่านที่มอบหมายสั่งการแล้วก็รับใช้พรรคประชาธิปัตย์มาต่อเนื่องยาวนานไม่มีเป็นอย่างอื่นเลยครับ เพราะฉะนั้นมีอะไรกันหรือเปล่า ไม่มีครับยังมีแต่ความเคารพนับถือเหมือนเดิมทุกประการ

ท่านจุรินทร์คะ ดิฉันกราบเรียนถามหน่อยสิคะเห็นนโนโยบายพรรคอื่น ๆ เค้าเติมเงินให้กับประชาชนเจ็ดพันก็มี หมื่นนึงก็มี เดี๋ยนไม่เห็นพรรคประชาธิปัตย์ใจกล้าทุ่มพันสองหมื่นอะไรกับเค้าเลย

            ประชาธิปัตย์ยืนอยู่บนนโยบายความเป็นจริงครับ และประชาธิปัตย์ยืนอยู่บนนโยบายที่รับผิดชอบแล้วก็ไม่ได้เน้นเรื่องแจกแต่เน้นเรื่องสร้าง (อุ้ย แล้วประชาชนเค้าจะชอบหรอคะเค้าอยากได้เงินกัน) อาจารย์ครับวันเวลาจะพิสูจน์เองประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจหลอกชาวบ้าน แค่ขอให้ได้คะแนนเสียงเที่ยวหน้า พรรคก็หมดอายุไม่อย่างงั้นเราต้องอยู่ตลอดไปเราต้องพูดความจริงกับประชาชน อาจารย์ครับผมพึ่งถามในที่ประชุม ครม.ว่ารัฐบาลใหม่ถ้าเค้าจะมาทำนโยบายใหม่งบปี67 ที่เตรียมไว้จะมีเงินให้ใช้กี่ตังต์ ผ.อ.สำนักงบตอบชัดเลยไม่เกินสองแสนล้าน แล้วอาจารย์ไปดู ถ้าแจกหมื่นนึงบ้าง แจกสามพันบ้าง ห้าพันบ้างต้องใช้ ห้าหกแสนล้านแล้วจะเอาเงินจากไหนมาแจกครับ (งั้นแสดงว่านโยบายแจกเงินก็โกหกน่ะสิ) ก็อาจจะไม่โกหกแต่สุดท้ายต้องไปรีดภาษี สุดท้ายก็ต้องไปกู้ วนกลับมาที่เดิมอีกเราอยากเป็นอย่างนั้นไหมครับ ถ้าไม่อยากเป็นเราก็ต้องยืนอยู่บนนโยบายที่เป็นจริงได้และรับผิดชอบประชาธิปัตย์จึงมีนโยบายชัดเจนครับ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติอย่างน้อยถ้าเราได้เป็นนายก หรือเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลเราจะอัดฉีดเม็ดเงินหนึ่งล้านล้านแต่อันนี้ไม่ได้แปลว่าต้องไปกู้มา ไม่ได้แปลว่าต้องเอามาแจกแต่เอาเงินที่มีอยู่แล้วที่เก็บไว้เอามาใช้เพราะเรามองออกมองเห็นด้วยการดำเนินการ หนึ่งจัดตั้งธนาคารหมู่บ้านชุมชนขึ้นมา อันนี้จะสามารถได้เงินมาประมาณสองแสนล้านที่จะเอามาใช้เติมเงินเม็ดเงินสู่ระบบ สองกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการมีอยู่หนึ่งจุดสองล้านล้านเราจะเอามาสักแสนล้านเพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ข้าราชการเค้าเอาเงินมาใช้ก่อนได้เอามากู้ เอามาซื้อบ้านก็ได้มาใช้หนี้บ้างก็ได้เพราะหนี้บ้าน 50%ของหนี้ครัวเรือน กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของผู้ประกันตนมีอยู่หนึ่งจุดสี่ล้านล้าน ประมาณนี้เราก็จะเอามาสัก สองแสนล้าน แล้วเราจะตั้งกองทุนสตาร์ทอัพให้คนรุ่นใหม่ กับเอสเอ็มอีที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ กลุ่มแม่บ้าน วิสาหกิจชุมชน สามารถเข้าถึงแหล่งทุนในการที่จะสร้างเงินต่อเงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจประเทศได้อันนี้ก็ประมาณสามแสนล้าน ไม่ต้องไปกู้ใหม่อะไรมา

            แฟน ๆสามารถติดตามข่าวคราวทุกความเคลื่อนไหวของสังคมที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนได้ที่รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 16.00 น. ทางช่อง 8 กดเลข 27  และรับชมย้อนหลังได้ทางยูทูบช่อง 8 เท่านั้น!    

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ