เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นางเอกหน้าเด็กหุ่นเป๊ะตลอดกาล ที่วันนี้จะมาอัพเดทความแสบของลูกสาวสุดน่ารักอย่างน้องโนล่า วัย 3 ขวบ 7 และกับการเปิดปากที่แรกเล่าย้อนเล่ามรสุมชีวิตที่เป็นข่าวดังชั่วข้ามคืนจนเกิดความคิดชั่ววูบหวิดคิดสั้น พร้อมเล่าจุดเปลี่ยนที่ทำให้กลับมาลุกขึ้นยืนและรักตัวเองได้อีกครั้ง ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร
โนล่าตอนนี้แสบมาก ?
เจนี่ : เป็นช่วงที่มีความคิดเป็นของตัวเอง เริ่มมีความคิดเห็นมีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้จิตวิทยาคุยกับเขามากขึ้น
เลี้ยงโนล่าจะมีเรื่องให้พีคทุกวัน ?
เจนี่ : สมมติเขาทำอะไรผิดแล้วเจนจะเป็นคนไม่ตีลูก เวลาเขาทำอะไรผิดมากๆ ด้วยนิสัยของเจน เจนจะเงียบ เขาก็จะเดินมา “หม่ามี๊ขาหนูขอโทษค่ะ”(ยกมือก้มไหว้)
3 ขวบกว่าตอนนี้เริ่มเถียงแล้วใช่ไหม ?
เจนี่ : เถียงจั๊กกะแร้แตกเลย เหมือนเขาจะมีเหตุผลที่เหนือเราอีกชั้นหนึ่ง จะทำอะไรในสิ่งตรงข้ามที่เราไม่ต้องการ อย่างเช่นวันนี้เจนบอกว่าเจนมาทำงาน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ต้องทำงาน บอกเขาว่าหมามี๊ต้องทำงานแล้วเอาสตางค์มาเลี้ยงดูหนู ถ้าหม่ามี๊ไม่มีสตางค์เลี้ยงดูหนู หม่ามี๊จะเอาเงินที่ไหนมาซื้อข้าวให้หนูกิน เขาถึงเข้าใจ เจนไม่เลี้ยงลูกแบบตามใจเลยแม้แต่นิดเดียว เจนไม่ใช่เด็กโดนสปอยมาตั้งแต่เด็ก เป็นเด็กที่ดูแลตัวเองเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เลี้ยงทุกคนในบ้าน ถึงเจนจะมีมากแค่ไหนเจนก็จะไม่ดูแลลูกแบบอยากได้ของเล่นชิ้นนี้ซื้อให้เลยเปย์ให้เลยแบบนี้ เจนจะไม่ทำเลย
พ่อสปอยไหม ?
เจนี่ : ขั้นสุด เจนพูดเลยว่าเราไม่ได้มีหมื่นล้าน ไม่ต้องซื้อเจ็ดสี เจ็ดศอกให้ลูกขนาดนี้ ให้เขาได้อะไรมายากๆบ้าง
แบบนี้ไม่เถียงกันหรอ ?
เจนี่ : จะเหลือ เถียงกันตลอด ทะเลาะกันทุกวัน พวกเรื่องจุกจิก มันเป็นเรื่องที่คนสองคนมาอยู่ด้วยกันแล้วไม่เคยมีลูก การเลี้ยงเด็กเราไม่ได้มีพี่เลี้ยง พอเราไม่มีพี่เลี้ยงมันเป็นเรื่องที่ใหม่มากแล้วเราต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน ซึ่งเจนหงุดหงิดบ่อยมากมันเป็นปัญหาที่ทำให้แม่อย่างเราไม่รู้จะทำยังไง บางทีก็อยากจะกรี๊ดออกมา แต่ก็กรี๊ดไม่ได้
3 ขวบ 7 เดือน อยากให้ลูกหาตัวเองให้เจอเลยส่งให้ลูกเรียนพิเศษเยอะมาก
เจนี่ : ใช่ ทุกอย่างเลย เทนนิส ฟุตบอลเล่นเก่งมาก ให้ออกกำลังกายทุกวัน เรียนบัลเล่ต์ เรียนเต้น เรียนทุกอย่างที่สามารถจะเรียนได้ที่นอกเหนือจากที่เรียนในโรงเรียน บางตนอาจจะบอกว่ามากไปสำหรับเด็กที่รับได้ แต่เจนรู้สึกว่าเจนโปรยให้เขาทุกอย่าง
เคยได้ยินเจนี่พูดกับโนล่าว่า โลกไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด มันมีที่มาที่ไปยังไงกับเด็ก 3 ขวบ 7 เดือน ?
เจนี่ : ใช่ เราจะสอนเขาว่า โนล่าลูกดลกไม่ได้เป็นลาเวนแดอร์นะลูก มันไม่ได้เพอร์เฟค เจนพูดแบบนี้กับมิกด้วย เจนว่าเจนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เชื่อว่า 40 กว่าปีที่ผ่านมาในชีวิตเจออะไรมาเยอะมาก แล้วมันก็ไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิดไว้ในบางมุม เจนสอนโนล่าว่าอย่ามองโลกให้เป็นเรนโบว์มากนะลูก เราก็จะค่อยๆบอกเขา
หลังๆเจนี่เป็นคนที่ชอบเกี่ยวกับธรรมะ ไหว้พระ ปฎิบัติธรรม
เจนี่ : ชอบมาก
จุดเริ่มต้นมาจากไหน ?
เจนี่ : จริงๆก็นานมาแล้ว 8-9 ปี เป็นช่วงที่เจนรู้สึกว่าจะทำยังไงดีกับชีวิตที่มันดาวน์ มันเฟล เหมือนหาอะไรที่มายึดเหนี่ยวความรู้สึกไม่ได้เลย ความรู้สึกนี้ใครก็ช่วยไม่ได้เลย นอกจากตัวเราเอง
แสดงว่านั่นคือจุดที่พลิกผันที่สุดในชีวิตของเจนี่เลย ?
เจนี่ : เจนก็ไม่คิดว่าเจนจะล้มหรือจะรู้สึกแบบนี้ หรือจะมาเจอวันแบบนี้ เป็นวันที่เรามึนเลย เราจะไปขวาหรือจะไปซ้าย เจนไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย เราไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิตจริงๆ แล้วเจนไม่เคยแสดงออกเวลามีข่าวเจนไม่เคยออกมาแถลง เจนไม่พูด เจนไม่ร้องไห้ เพราะกำลังมึนอยู่ เหมือนเวลคนเสียใจมากๆน้ำตาซักหยดก็ไม่มี เพราะมันเหมือนกับช็อก
จุดพลิกผันที่พีคที่สุดในชีวิตเจนี่ คนทั้งประเทศเฝ้าติดตามข่าวนี้ ?
เจนี่ : 7 วัน 7 คืนเลย จำได้
เจนไม่คุยกับใครเลย ไม่ปรับทุกข์กับเพื่อน ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น อยู่คนเดียวเงียบๆทั้งที่เพื่อนรายล้อมเต็มไปหมด ?
เจนี่ : เพื่อนบุกบ้านมาเพราะกลัวจะฆ่าตัวตาย
ถ้าเปรียบเทียบเป็นมิวสิควีดีโอก็คงปิดไฟมืดๆ ไปนั่งอยู่ตามมุมหลืบๆ ข้างหน้าต่าง ?
เจนี่ : ใช่เลย ๆ
ร้องไห้ ผอมแห้งแรงน้อยกว่านี้ ?
เจนี่ : ติดกระดูกเลย หนังติดกระดูกเลย อยู่ในบ้านนั่งสงบสติอารมณ์ตลอดเวลา 24 ชั่วโมงไม่กินอะไรเลย เหมือนคนที่มึนตลอดเวลา ไม่รู้จะทำอะไรต่อในวันพรุ่งนี้
เป็นอยู่นานไหมที่อยู่ในมุมของเจนคนเดียว ในบ้านมุมมืดๆ ?
เจนี่ : เป็นเดือน จนเพื่อนเป็นห่วงเจนี่มาก จำได้ว่านานากับอลิชามาเคาะประตู เข้ามาไม่ปลอบไม่อะไรเลย แค่มานั่งเป็นเพื่อนจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน ไม่พูดกับใครเก็บตัวคนเดียว จนแม่ แม่คนเดียวแค่ทัช บ้านเจนี่กับบ้านหม่ามี๊จะอยู่ติดกัน เหมือนพี่เลี้ยงทำข้าวมาให้กินพอพี่เลี้ยงเก็บข้าวออกไป เหมือนแม่คงเห็นว่าเจนไม่กินข้าว แม่เลยเอาข้าวมาให้แต่เราก็ยังทำฟอร์มว่าแข็งแรง หม่ามี๊เดินเอาข้าวมาวางให้ที่โต๊ะ กำลังจะหยิบกินแบบไม่สบตาหม่ามี๊แล้วก็ทำเป็นเหมือนจะกินข้าวแต่ไม่กินนะ แล้วแม่ก็มาลูกหลัง ซึ่งแม่เป็นคนที่แข็งแรงมากไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้ลูกเห็นเหมือนกัน หม่ามี๊ก็ลูบหลังแล้วก็บอกว่า “อ่อนแอบ้างก็ได้นะลูก” เจนก็ยังไม่มองหน้าอีก แล้วก็พูดว่า “รู้ไหมว่าหนูอ่ะทุกข์มากเท่าไหร่ หม่ามี๊ทุกข์มากกว่าเจนี่อีก 10 เท่า” เจนน้ำตาหล่นใส่ข้าวแล้วไม่มองหน้าแม่ด้วย ไม่สะอึกด้วยนะเหมือนจะพยายามกลั้นให้ได้มากที่สุด แต่มันทนไม่ไหว ตอบกลับไป “ค่ะ” คำเดียว หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจนรู้เลยว่าวันนี้เจนจะอยู่เพื่อหม่ามี๊
แสดงว่าก่อนหน้านี้คิดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ ?
เจนี่ : เออใช่ เจนเคยคิดว่า เราไม่รู้จะอยู่ไปทำไม มันเหมือนใครๆก็ไม่รัก เคยรู้สึกว่าถ้าเราไปโลกมันก็คงจะดีขึ้นมั้ง สวยขึ้นมั้ง
แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่ออยากจะให้ตัวเองไป ?
เจนี่ : มันเป็นแค่ความคิดชั่ววูบมากๆ มันมีทั้งขาวกับดำวิ่งเข้ามา มันอยู่ที่ว่าเราหนึ่งวินาทีตอนนั้นเราจะขวาหรือจะซ้ายดี
ความโชคดีคือมีสติ ?
เจนี่ : ใช่ ฟ้ายังมีตา เทวดายังคุ้มครองจริงๆ
ถามจริง เรื่องนี้มันยังเป็นปมในใจเราไหม ?
เจนี่ : ไม่ มันเป็นบทเรียนมากกว่า มันทำให้เจนี่เป็นเจนี่อย่างทุกวันนี้ เราอย่าไปโทษอดีต ทุกอย่างเป็นบทเรียน ทำให้เจนเดินอย่างช้าๆ ค่อยๆเดิน แล้วรู้ว่าวันนี้เจนต้องไปทางไหน ถ้าเจนไม่มีวันนั้นเจนอาจจะสอนโนล่าอย่างวันนี้ไม่ได้นะ ทุกอย่างในชีวิตเจนไม่เคยรู้สึกเสียใจเลย เราขอบคุณสิ่งที่ต้องเจอเป็นบทเรียนที่ทำให้เราเป็นเราจนถึงทุกวันนี้
จุดไหนถึงจากแม่แล้วเป็นมาธรรมะ ?
เจนี่ : เราคิดว่าเราลองนั่งนิ่งๆซิ ว่าเราจะทำอะไรต่อได้ แล้วก็ลองสวดมนต์ดูเริ่มจากบทเล็กๆ แล้วก็ลองนั่งสมาธิ ในเมื่อตอนนั้นไม่รู้จะทำอะไรแล้ว ก็ลองซักนิดดูก่อน จาก 1 นาที เป็น 2 นาที จากบทเล็กเป็นบทใหญ่ ต้องบอกว่าสิ่งมหัศจรรย์มันเกิดขึ้นจริงๆ
ได้อะไรจากแค่การสวดมนต์ ?
เจนี่ : สติ อย่างน้อยเจนก็รู้แล้วว่าอย่างน้อยเจนต้องแข็งแรง หัวใจเราต้องแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะแข็งแรงได้ เพราะถ้าเจนยังจับจุดและยังหาความแข็งแรงไม่ได้ใครก็พยุงเราไม่ได้ เจนอยากให้รู้ว่าชีวิตมันมีหวังมันมีทางสว่างทุกเส้นทาง มันอยู่ที่ว่าเราจะมองยังไง อยู่ที่ว่าเรารักตัวเราเองมากแค่ไหน รักแม่มากแค่ไหน เรารู้เลยว่าอย่าทำร้ายหัวใจตัวเอง ครั้งแรกที่ลุกขึ้นมาได้เจนพูดกับหัวใจตัวเองว่า เจนขอโทษ ขอโทษที่ผ่านมาทำให้หัวใจตัวเองเจ็บ ต่อไปนี้เจนจะไม่ทำให้หัวใจตัวเองเจ็บอีกแล้ว ไม่มีผู้ชายคนไหนที่รักเรามากกว่าตัวเราเอง เจนแค่อยากจะบอกผู้หญิงทุกคนว่าการที่เรารักตัวเราเอง รักหัวใจตัวเองมากที่สุด แล้วเราจะสวยค่ะ
เจนี่กับมิกกี้เจอกันได้ยังไง ?
เจนี่ : ก็เจอตามงาน ด้วยความที่ออกกำลังกายเหมือนกันไลฟ์สไตล์เหมือนกันเลยรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ
ความหวานเริ่มลดน้อยลงจริงหรือเปล่า ?
เจนี่ : เจนลดตลอดเลย เพราะโนล่านอนกลางด้วย เราสองคนต้องโฟกัสโนล่า ตอนนี้โนล่าเป้นเซ็นเตอร์มากๆ เราสองคนต้องแลเขาให้ดีที่สุดจริงๆ
มิกกี้น้อยใจไหม ?
เจนี่ : ก็คงมีน้อยใจบ้าง แต่ก็ไม่มีสิทธิ์น้อยใจ(ยิ้ม)
เป็นเพราะฮอร์โมนด้วย ?
เจนี่ : เคยได้ยินคำว่า “เหม็นผัว” ป่ะ มันก็มีบ้าง ทำอะไรก็ขัดหูขัดตา ยิ่งเวลาที่เจนทำงานกลับมาเหนื่อยๆแล้วต้องดีลกับโนล่าอีก เจนต้องทำงานด้วย ลูกก็ดูแล งานก็ต้องทำ เงินก็ต้องหา ชีวิตมันก็ไม่ได้หวานเหมือนกับตอนที่มีโนล่า ต้องจับมือกันตลอดเวลา
อยากจะบอกอะไรกับลูก ?
เจนี่ : ทำเพื่อลูกค่ะ วันนี้แม่ทำทุกอย่างเพื่อลูกเลย ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การกิน การตั้งใจดูแลตัวเอง ทุกอย่างมีเหตุและผลหมด เจนไม่ได้ทำเพื่อความฉาบฉวย เจนไม่ได้ทำเพื่อความอยากผอมอยากสวย ทุกสิ่งทุกอย่างมองหน้าลูกก่อนเลยเวลาจะทำอะไร เจนทำเพื่อเขาเลย
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาพยายามมาจะบอกว่า เจนี่เป็น Global Brand Ambassador ให้กับ Victoria’s Secret คนแรกของเมืองไทย ได้มาได้ยังไง ?
เจนี่ : เรื่องนี้เกิดตั้งแต่ปีที่แล้วแต่ต้องปิดเป็นความลับมาตลอด เจนก็เริ่มดูแลตัวเองแบบเอาจริงเอาจริง วันที่เขาบอกเจน เจนกรี๊ดและร้องไห้ จำได้ว่าวันนั้นถ่าย Victoria’s Secret ที่เมืองนอก เจนนอนร้องไห้อยู่บนเตียงคนเดียว ร้องไห้เหมือนเด็กที่ร้องเพราะเหนื่อยมากที่กว่าจะมีวันนี้ สองคือฝันหรือเปล่า วันนั้นได้รับข่าวดีๆหลายๆอย่าง ทุกอย่างถาโถมมาหลายอารมณ์ภายในวันเดียว คืนเดียว แล้วเก็บไว้อยู่คนเดียว บอกใครไม่ได้เลย ตอนนั้นเขาเลือกให้เจนเป็นแค่เอเชีย แต่เจ้านายที่อเมริกาบินมา เขาก็ถามเลยว่ายูสนใจจะเป็นโกลบอลไหม คือหน้าเราก็จะไปอยู่บนร้านทั้งใน America , UK และทั่วโลกเลย เจนเหมือนมดตัวเล็กๆที่พองเลย
อีกหนึ่งกำลังใจของเจนี่คือคนนี้เลย (วุ้นเส้น วิริฒิพา) ช่วงที่เจนี่เจอปัญหาวุ้นเส้นอยู่ด้วยไหม ?
วุ้นเส้น : อยู่ซิ
เจนี่ : อยู่ทุก Episode ค่ะ
มีโอกาสได้ไปปลอบหรือทำให้ดีขึ้นยังไง ?
วุ้นเส้น : จะมีเป็นช่วงที่เขาดาวน์มากๆที่บอกจะหายจากเพื่อนไปเลย แต่วันที่เขาเปิดใจว่าพร้อมแล้วที่จะบอกเพื่อนๆทุกคนว่าเขาเป็นอะไรก็นัดคุยกัน เอาตรงๆ ร้องไห้ทุกคน เกิดมาไม่เคยคิดว่าจะร้องไห้เพราะมันเลย สงสารมากตอนนั้น ทุกคนในกลุ่มตอนนั้นต่างก็มีปัญหาของตัวเอง แต่พอเจอของเจนี่คือเบาไปเลย
เคยมีข่าวว่าคู่นี้ทะเลาะกัน ?
วุ้นเส้น : คือไม่ได้ทะเลาะกันแบบเถียงกัน วุ้นรู้แล้วว่าเพื่อนรู้สึกยังไง เจนี่ก็รู้แล้วว่าเราเป็นยังไง แค่ไม่คุยกัน แต่ไม่มีการทะเลาะ ต่างคนต่างไปอยู่มุมของตัวเอง เราก็รู้สึกเสียใจ เขาก็น้อยใจหลายอย่าง มันเลยกลายเป็นหายไปช่วงหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับมานั่งคิดว่าพื้นฐานเรารักกันมาก มันเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถเสียกันไปได้เลยกลับมาคุยกัน
เขาฝันว่าเขาได้อุ้มเด็กผู้ชาย ?
วุ้นเส้น : ฝันเฉยๆ ปกติจะฝันไร้สาระ แต่เมื่อคืนฝันว่าท้องอยู่ดีๆกะพริบตาอีกทีลูกออกมาแล้ว
เจนี่ : แสดงว่าเขาพร้อมแล้ว
ฝันขนาดนี้ แต่งตอนไหน ?
วุ้นเส้น : ไม่รู้ค่ะ เป็นคำตอบที่ไม่รู้ เราไม่ได้คาดหวังอะไร ก็ใช้ชีวิตแบบนี้ไปก่อน เป็นเรื่องของอนาคตค่ะ เรื่องความรัก วุ้นจะพยายามพูดไม่เยอะ วุ้นก็ผ่านมาเยอะ ทุก Episode ทุกคนก็เห็น อยากให้มันดีแหละ แต่ว่าสุดท้ายวันนี้เราพูดว่าดีอนาคตเราก็ไม่รู้เป็นยังไง
เจนี่ : เขาเป็นผู้หญิง เขาตอบไม่ได้
วุ้นอยากจะบอกอะไรเพื่อนคนนี้ ?
วุ้นเส้น : เขารู้แหละ อยู่กันมานานขนาดนี้ เขารู้ว่าเรามีแต่หวังดีกับเขาเสมอ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร เหมือนเราแข็งแรงกันพอที่จะไม่ปล่อยมือกัน เราเข้าใจความเป็นตัวเขา เรารู้จุดอ่อนจุดแข็งเขาว่าตอนไหนเขาอยากอยู่คนเดียว ตอนไหนเขาต้องการเรา แต่อยากจะบอกว่า เราจะอยู่เสมอเมื่อเขาต้องการ เรื่องอะไรก็ตามในชีวิตถ้าหากต้องการเพื่อนซัพพอร์ตเสมอ
เจนี่ : ในกลุ่มไม่ว่าจะสุข ทุกข์ เศร้า พวกเราก็มีกันและกันเสมอ พร้อมจะเป็นผู้ซัพพอร์ตที่ดีจริงๆ แล้ววุ้นก็เป็นเพื่อนที่ซัพพอร์ตด้วยดีจริงๆ
ติดตามชมรายการ คุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์–วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ