“ตู่ จารุศิริ” ที่วันนี้ ควง “บี นรินทร์” สามีวัยละอ่อน อายุห่างกันถึง 13 ปี เข้าสู่ประตูวิวาห์ไปหมาดๆ ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา พร้อมเปิดเส้นทางรักที่มีระยะทางหลายพันกิโลเป็นเดิมพัน หวิดเลิกกันแบบฟ้าผ่า งานแต่งเกือบล่ม ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี บูม สุภาพร และ ซินแสเป็นหนึ่ง เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
แต่งงานมากี่วันแล้ว?
ตู่ : 8 วัน
เป็นการออกงานคู่ครั้งแรก พี่บีตื่นเต้นมั้ย?
บี : ตื่นเต้น
ชินมั้ยเราเป็นสามีภรรยาแล้ว
ตู่ : จะบอกว่าแต่งงานเสร็จปุ๊บ เจ้าบ่าวก็กลับเชียงใหม่ ยังไม่ได้ไปไหน นี่ก็เพิ่งเจอกันหลังแต่งงาน เขาเพิ่งบินมาเมื่อเช้า เขามีงานต้องไปเคลียร์ ตู่ก็ถ่ายละครเหมือนกัน วันนั้นเลย
ในงานมีซุปตาร์เบอร์ใหญ่มาในงาน?
ตู่ : คุณอั้ม พัชราภาค่ะ บรรยากาศในงาน ตั้งแต่แรก เราเล่นละครกับอั้มเรื่องล่าสุดคือลมพัดผ่านดาว ตอนนั้นอั้มรู้ข่าวแล้วว่าเมื่อปีที่แล้วเราขอผู้ชายแต่งงาน อั้มเจอหน้าก็แซว เธอขอผู้ชายแต่งงานเหรอ ยินดีด้วยนะ เราก็บอกว่าถ้าเราแต่ง เชิญมางานเราด้วยนะ เพื่อเป็นเกียรติกับเรา เขาก็บอกว่าได้ๆ แต่ ณ ตอนนั้นเราก็ไม่มั่นใจว่าเพื่อนจะมาได้มั้ย เพราะงานเขาก็เยอะ แล้วใกล้ๆ วันเกิดของอั้มด้วย ล่วงหน้าสักเดือนนึงเลยอินบ็อกไปหาในไอจีว่าเราส่งการ์ดมาให้นะ ยังไงเรียนเชิญอั้มด้วย สักชม.นึงได้ก็ตอบมาว่าได้เลย ปรากฏว่าน้องอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของอั้มก็คุยกันว่าอั้มมาจริงหรือเปล่า เราจะได้เตรียมการต้อนรับ เขาก็บอกว่าอั้มมาแน่
ตอนที่เขาตอบว่าจะมา?
ตู่ : ก็ดีใจ ไม่คิดว่าอั้มจะมางานเล็กๆ ของเรา มันก็พูดไม่ถูก เราสนิทกันตอนเล่นเพลิงพระนาง เขาอวยพรว่าขอให้รักกันนานๆ มีเวลาคุยกันนิดเดียวค่ะ
สามีรู้มั้ยพี่อั้มจะมางาน?
บี : พอรู้ ก็ตื่นเต้นและดีใจที่เขาเสียสละเวลามาร่วมแสดงความยินดี ผมไม่ค่อยได้คุยอะไรกับเขา ไม่เคยเจอมาก่อน นี่เป็นครั้งแรก
ตื่นเต้นกว่างานแต่งคือได้เจอคุณอั้ม พัชราภา?
ตู่ : ใช่ ถึงขนาดช่างภาพยืนถ่ายรูปตรงแบ็กดรอปว่าเจ้าสาวเหงาแล้ว เพราะพออั้มมา ทุกคนก็ไปทางโน้นหมดเลย (หัวเราะ) เขาก็แซวกันเล่นๆ
นอกจากอั้มมีใครมาอีก?
ตู่ : เจ้านายโดยตรง คือพี่หลุยส์ สยาม สังวริบุตร แล้วก็ป๊อก ปิยธิดา ป๊อกก็เหมือนกันไม่ได้เจอนานมาก พอไลน์ไปหาเพื่อนเขาก็บอกว่าได้เลย เจอกันคุณ ด้วยความที่นานแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าเพื่อนจะมีเวลาว่างมางานให้เราหรือเปล่า
เขาแนะนำมั้ยหลังแต่งจะเป็นยังไง?
ตู่ : ไม่ได้แนะนำอะไรค่ะ แค่บอกว่าดีใจด้วยนะเพื่อน ดีแล้วที่เลือกคนนี้ ฝากว่าดูแลเพื่อนฉันดีๆ
บีตอบยังไง?
บี : ยินดีครับ
มีเรื่องแอบน้อยใจกับการเชิญแขก?
ตู่ : ด้วยเราฟิกซ์แขก เราเชิญแขกประมาณ 150 คน บางคนเราก็เกรงใจเขา ไม่กล้าเชิญเขาแหละ บางคนอยู่ไกลเหมือนกัน บางคนเหินห่างกันไปเยอะแล้ว แต่รู้สึกว่าการแต่งงานของเรา เราอยากให้คนที่เขาเห็นเรามาตั้งแต่เด็กๆ เขามาจะอินกับความรักของตู่ กับบางคนที่ไม่ได้สนิทกับตู่มาก เขามาก็แค่อือๆ มันแต่งงานเหรอ เราอยากให้ทุกคนเห็นว่าในที่สุดเราก็แต่งงานแล้ว แล้วผู้ชายก็คือคนนี้ อิ่มเอมไปด้วยตรงนี้ บางคนไม่มา แล้วไม่บอกอะไรเลย จนถึงตอนนี้ก็ไม่บอกว่าสาเหตุที่ไม่มาเพราะอะไรเราก็นอยด์เหมือนกัน เพราะเกือบ 4 เดือนลงทุนทำเองทุกอย่าง เจ้าบ่าวอยู่เชียงใหม่ เขาก็ไม่ได้รู้จักแขกเพื่อนเราเท่าไหร่ ทุกอย่างเราต้องทำเองหมด เราเลยสตริกทุกอย่าง เราคิดแทนทุกคนหมด ทำให้เราเครียดเยอะมาก
อยากให้มีฟีดแบ็กหน่อย?
ตู่ : หลายคนเขาตอบว่าไป แต่พอถึงเวลาจริงๆ เขาไม่มา มีหลายคนนะ เช่น น้องเดียร์ ปริษา หรือพี่เงาะ กชกร อาจจะป่วยเลยมาไม่ได้ เขาก็ส่งไลน์มาว่าขอโทษนะ คุณมิ้งค์ กรรณสูตก็อีกคนนึงเหมือนกัน หลายท่านมาก เราแค่อยากให้ตอบเราสักนิดว่ามาไม่ได้ หรือมีเหตุการณ์อย่างนี้นะ แต่เขาหายไปเลย ตั้งแต่วันนั้นจนวันนี้ งง (หัวเราะ)
คนที่ไม่มา เรางอนๆ อยู่ในวงการมั้ย?
ตู่ : อยู่วงการก็มี ไม่อยู่ก็มีค่ะ เขาคงยังไม่รู้ตัว (หัวเราะ) ก็อยากบอกว่าจริงๆ แค่สะกิดมาหน่อยนึงก็พอว่ามาไม่ได้เพราะอะไรเราก็อยากให้มา อีกอย่างเราค่อนข้างสตริกคำพูดของคน ถ้าเขามาไม่ได้ อย่างบางคนเขาบอกเลยว่าผมมีคิวถ่าย หนูมีคิวถ่าย แม่หนูมาไม่ได้ จบแล้ว คนที่เราเชิญส่วนมากเป็นนักแสดง แต่อันนี้ไม่มาแล้วเงียบหาย ไม่บอกสักอย่าง เราก็เลยคิดว่าเขาไม่แคร์เราเหรอ งานแต่งงานของเรา เราเชิญแล้ว แล้วคุณตอบตกลงแล้ว อยู่ดีๆ คุณไม่มา ทิ้งไปเลยอย่างนี้เหรอ ก็นอยด์ เป็นคนขี้นอยด์อยู่แล้วด้วย
พี่บีปลอบใจมั้ย?
บี : ปลอบบ้าง
พี่บีเป็นคนเหนือแบบร้อยเปอร์เซ็นต์?
บี : ก็บอกเขาว่าอย่าไปสนทุกคนก็ได้ เข้าใจภรรยาเป็นคนแคร์คนอื่น
ทำเองหมดเลย 4 เดือน ร้องไห้ทุกวัน?
ตู่ : ไม่ถึงขนาดทุกวัน แต่ด้วยเครียด เรื่องงานก็ถ่ายละครไปด้วย 2-3 เรื่องในเวลาเดียวกัน ต้องท่องบทด้วย แล้วต้องมาดูว่าต้องเชิญใครมั่ง ใครจะอยู่ตรงนี้ ของชำร่วยล่ะ ของรับไหว้ผู้ใหญ่ล่ะ ติดต่อหรือยัง ทุกอย่างมันคนเดียวหมด เหมือนตั้งความหวังไว้สูงมาก แต่พอถึงเวลาไม่ได้ดั่งหวังก็นิดนึงเฟล ก็บ่นให้สามีฟังตลอด
ทำไมไม่บินมาช่วยจัดการ?
บี : ก็โทรศัพท์คุยกัน เราเองก็ไม่รู้จักเพื่อนเขาเยอะ
พี่บีพูดน้อยอยู่แล้ว หลังแต่งงานพูดกันเยอะขึ้นมั้ย?
ตู่ : ไม่ค่ะ (หัวเราะ)
บี : เป็นคนเสมอต้นเสมอปลาย
ตู่ : จริงๆ แต่เห็นอย่างนี้เขาเถียงนะ เขาเป็นคนพูดน้อยต่อยหนัก จุก เราบ่นๆ ไป แต่เขาพูดมาประโยคะนึงก็ไปต่อไม่ได้แล้ว อย่างไปเชียงใหม่ ต้องรู้ว่าเพื่อนเยอะ และเราชอบสังคม ไปเชียงใหม่ 7 วัน 6 วันอยู่สถานบันเทิง เขาก็ไม่พูดเลยนะ จนวันที่ 6 เขาก็พูดว่าไม่ไปได้มั้ย กินเหล้าเนี่ย ทำหน้าเฉยๆ ตู่มานี่ตกลงมาหาใคร มาหาบีหรือมาหาเพื่อนกันแน่ ก็จ๋อย ไม่รู้จะไปยังไงต่อแล้วกัน ก็บอกว่าเดี๋ยวคราวหน้ามาใหม่ (หัวเราะ) แต่เราก็ไปอีกค่ะ
บี : เราก็ไปด้วยกัน ไม่ถึงกับคุม ดูแลเขา
เห็นว่าช่วงเวลาเตรียมงาน พี่ตู่พยายามลดน้ำหนัก ดูแลตัวเองตลอดเวลา ลงไปกี่กิโล?
ตู่ : ตั้งแต่ต้นปีจนถึงงาน ลงไปเกือบ 9 กิโล เคล็ดลับเอียงๆ ไปอยู่กับคุณน้ำผึ้ง ณัฐริกา แล้วก็กินอกไก่ ไข่ต้มด้วยค่ะ แล้วหยุดการดื่มใดๆ เลย เราหยุดได้เดือนครึ่งค่ะ สามีก็ปลื้มปิติ (หัวเราะ)
เจอสามีเดือนนึงกี่ครั้ง?
ตู่ : ส่วนมาก 2 เดือนนึงขึ้นไปทีนึง แล้วแต่เราค่ะ
เจอภรรยาน้ำหนักลดฮวบ?
ตู่ : แต่ก่อนแต่งงานไม่ได้เจอกัน 4 เดือน เจอกันล่าสุดเดือนส.ค.
เจออีกทีตกใจมั้ย?
บี : สวยขึ้นครับ ก็ชมเขาตลอดว่าวันนี้สวยเนอะ
ตู่ : เขาชมในวิดีโอคอล บางทีเราไปทำงาน เขาก็ชมว่าเราสวยเนอะ
อยู่ห่างกัน การชมกันทำให้รักกันมากขึ้น?
บี : ก็เกี่ยวนิดหน่อย แต่ไม่เท่าไหร่
ตู่ : คู่เราไม่หวาน คบมา 5 ปีก็เป็นแบบนี้ หวานแหววน้อยมาก พูดทีก็กระดากปากตัวเอง
เส้นทางรักเจอกันได้ยังไง?
ตู่ : ครั้งแรกที่เราไปเชียงใหม่ แต่ช่วงนั้นตู่มีแฟน ตู่ไปเรียนเชียงใหม่ก็มีเพื่อนเยอะ จนวันนึงไปเที่ยวร้านของเพื่อน เราหันไปเห็นเขาก็รู้สึกว่าหน้าตาดีเนอะ แต่ทำอะไรไม่ได้ เรามีแฟนอยู่ ทำอะไรคงน่าเกลียดมาก ก็ทดไว้ในใจเฉยๆ (หัวเราะ) เขาเป็นคนหน้าตาดุมีซัมติง แต่คิดอะไรไม่ได้ เรามีแฟนอยู่ คืนนั้นแฟนเราก็ไปด้วย หลังจากนั้นประมาณ 3-4 เดือน เราเลิกกับแฟน เราก็ไปร้านนี้อีกเพราะเป็นร้านเพื่อนเรา ก็เจอเขาอีก นั่งโต๊ะติดกันเลย เขาก็ยิ้มๆ เราก็จำได้น้องคนนั้นนี่นา ก็ไปถามเขาว่ามีเฟซบุ๊กกันหรือยัง (หัวเราะ) เขาบอกว่าเดี๋ยวแอดไปครับ แล้วเขาก็แอด สักพักเขากลับ ด้วยบีอยู่กับคุณแม่สองคน สี่ทุ่มเที่ยวไหนก็ตาม ต้องกลับบ้านไปอยู่กับแม่
ตกใจมั้ยโดนรุกขนาดนี้?
บี : ตอนนั้นก็ชอบเขาครับ ก็คิดว่าพี่คนนี้ก็สวย
โมเมนต์แรกเจอกัน พี่บีเห็นพี่ตู่มากับแฟน จำได้มั้ย?
บี : ตอนนั้นยังไม่สนใจเพราะเขาอยู่กับแฟน ผมก็อยู่กับพี่อีกคน นั่งคุยกันเล่นๆ
ตู่ : คืนนั้นพอแยกย้ายเขาก็แมสเซนเจอร์มาว่า พี่มาเชียงใหม่อีกเมื่อไหร่ครับ เราก็บอกว่าคงมาอีกทีปีหน้า นางก็บอกว่าคิดถึงแย่เลยครับ นี่ไง (หัวเราะ)
ปิ๊งเขาตั้งแต่เจอรอบสอง?
บี : ใช่ พี่เขาน่ารักครับ
เรียกว่าพรหมลิขิตมั้ย?
ตู่ : ก็น่าจะได้นะ เขาเหมือนไม่น่ารอด ตอนนี้เราอายุ 47 แต่ตอนนั้นอายุ 42 เราแก่แล้ว คุยไปได้สองสามวันเราก็อยู่เชียงใหม่ต่อ จริงๆ ต้องกลับแต่เราไม่กลับ ทิ้งตั๋วเลยจ้า เราก็บอกว่าพี่อยู่ต่อนะ ไปกินข้าวกันมั้ย ก็ไปกินข้าวกัน และคุยกัน ก็ถามว่าน้องมีแฟนหรือเปล่า เขาบอกว่าไม่ได้คบใคร ก็เลยถามเขาเป็นแฟนกันมั้ย มาคบดูมั้ย
บี : ตอนนั้นผมอายุ 28-29
อายุห่างกัน 13 ปี คิดว่าจะมีช่องว่างระหว่างวัยมั้ย?
บี : เป็นบางครั้งครับ บางครั้งคิดว่ามันดีที่เรามีคนให้คำปรึกษา
ตู่ : เหมือนแม่
บี : เฮ้ย (หัวเราะ) ให้คำปรึกษากับบางเรื่องที่ผ่านมา
ชอบคนอายุเยอะกว่าหรือเปล่า?
บี : ไม่เกี่ยวครับ
ตู่ : เราไม่ได้คิดจะมีแฟนเด็กเลย แต่ผู้ชายอายุเยอะกว่าเราก็ต้อง 45 46 50 แล้วใครจะมาเอาเรา ก็ต้องหาเด็กอายุ 25 แล้วคาแรกเตอร์แบบนี้ ผู้ชายอายุเยอะไม่ชอบแน่นอน แล้วเราเป็นคนไม่ยอมคน ทำอะไรต้องเป็นผู้นำ เราก็เลยคิดว่าเราต้องรุกแบบนี้ เราอายุเยอะแล้ว เขาก็เซย์เยสเลย
กลัวมั้ย?
ตู่ : ตอนนั้นก็กลัวค่ะ เลยนำไปสู่ช่วง 5-6 เดือนแรก เป็นหายนะกับเขามาก (หัวเราะ)
บี : เหมือนเขารื้อประวัติอาชญากรรม ยังไงยังงั้น ต้องไปดูในเฟซบุ๊ก
ตู่ : ย้อนเฟซบุ๊กเขา 5 ปี ก่อนเจอเราค่ะ ไปย้อนดูแล้วแบบ เขาคุยกับใคร ผู้หญิงคนนี้มากดหัวใจ แล้วผู้หญิงคนนี้มาแซวอะไร ย้อนทุกอย่าง แล้วแคปไปถามเขา นี่ใคร ทำไมรู้จักกันเหรอ ซึ่งจริงๆ อันนั้นก่อนรู้จักเราไง แต่ความเราต้องการรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง
ถามเพื่อนง่ายกว่ามั้ย?
ตู่ : เพื่อนก็บอกว่าเห็นแค่ภายนอก น้องเขาก็เป็นเด็กดีนะ แต่ไม่รู้ว่าเขามีความเจ้าชู้หรือเปล่า เราย้อนไปดูไกลมากเลย จนเกือบจะหมดเฟซบุ๊กเขาแล้ว
มีอะไรสะกิดให้กลับไปดูข้อมูล?
ตู่ : ทั้งชีวิตหนูโดนผู้ชายทำร้ายมาเยอะ ง่ายๆ ผู้ชายเจ้าชู้ หลอกซ้ำหลอกซ้อน หลอกซ่อนเงื่อน จนไม่อยากเจอแบบนี้อีกแล้ว เหนื่อย ต้องเช็กจนเป็นบ้า ช่วงนั้นทะเลาะกันเยอะมาก
บีอึดอัดขนาดไหน?
บี : ก็อึดอัด เพราะเราเพิ่งเริ่มคุยกัน เขาไล่หมด
ผู้ชายโดนผู้หญิงจี้แบบนี้ 5-6 เดือนแรก คนอื่นเขาไปแล้วนะ ทำไมยังไปต่อ เลือกคนนี้?
บี : บางทีก็อยากสู้ อยากรู้ไปถึงเมื่อไหร่ ก็เลยคิดว่าลองดู เพราะไม่มีอะไรอยู่แล้ว
ตู่ : หลังจากเป็นบ้าได้ 5-6 เดือนก็หายไปเอง (หัวเราะ) เราคิดไว้เลยว่าคนนี้เป็นรถไฟขบวนสุดท้ายแล้ว ต้องบรู๊ฟให้เต็มที่ แล้วเรามีความเป็นบ้า ความจูเลี่ยนให้เขาเห็นตั้งแต่แรกว่าเราบ้า บรู๊ฟไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีอะไร เหมือนสมุดเปล่า มันหาไม่เจอ ค้นยังไงก็ไม่เจอ จนเราเหนื่อยเองค่ะ ค้นไปก็รังแต่ทำให้ประสาทเสีย สุดท้ายเราก็คิดว่าเขาก็คนดีนี่หว่า ถ้าคนเราจะเลว วันนึงก็เลวเอง รู้เองแหละ พอแล้ว เหนื่อยมาก
ไม่คิดไปค้นเขาบ้างเหรอ เขาค้นเราขนาดนี้?
บี : นิดหน่อยครับ เคยรื้อ แต่ไม่เจออะไรมาก ผมไม่เซ้าซี้ใคร
ยอมคน เขารื้อเราก็อดทน มีเหตุการณ์ไฝว้กัน ทะเลาะกันจนรู้สึกไม่ไหวแล้วมั้ย?
ตู่ : ช่วงนั้นแหละ แล้วเป็นคนคิดว่าตัวเองแก่ เป็นบ้าประชดเขาเอง เดอะเบสต์มาก
ถ้าสลับกันคิดว่าจะทนมั้ย?
ตู่ : ไม่ (หัวเราะ) มันเลยเป็นจุดเปลี่ยน ที่รู้สึกว่า ถ้ากลับกัน ง่ายๆ ถ้าทุกวันหนูเที่ยวกับเพื่อน มีการดริ๊ง บางครั้งเราลืม เรากลับมาเมาไม่ไหวแล้ว เราไม่ได้ไลน์บอกเขา เราก็คิดว่าโดนแน่ เขาก็แค่ถามว่าทำไมไม่ไลน์บอก ถ้าเป็นบีบ้างเนอะ คงไม่ได้อยู่กันแบบนี้แล้ว เขาก็เป็นแบบนี้มาตลอด เราก็สองสามรอบที่ไม่ไลน์
เรารู้ตัวว่าเราชอบพูดประชด เราก็ประชดเขาอยู่ บีรู้มั้ยเขาประชด?
บี : รู้ บางทีก็ไม่รู้ (หัวเราะ) ครั้งที่รู้ เขาก็ชอบประชดช่วงเวลาไปดื่ม เปลี่ยนร่าง อย่าง ใช่ซี้ คำแรกมาแล้ว เรารู้เลย เราก็บอกว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกันก็ได้ แต่เขาไม่ยอม
ตู่ : เวลาประชดก็ยกเรื่องอายุมาประชด เพราะเป็นปมของเรา แก่กว่ากันเยอะมาก รู้สึกว่าจริงๆ ควรปล่อยเขาไปเจอสาวๆ ดีกว่ามั้ย ดีกว่าอยู่กับเรามั้ย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายผีเข้าผีออก
พี่บีมีประโยคเด็ดตอบกลับมั้ย?
บี : มีครั้งนึง ผมตอบกลับไปว่า ทำยังไงได้ ทำให้ผมเกิดไวกว่านี้ไม่ได้
ตู่ : ตอนนั้นกำลังร้องไห้อยู่ เขาพูดคำนี้ เราก็นั่งเหวอไป อะไรอ่ะ (หัวเราะ) แต่มันโดนใจเรา สะกิดไปลึกมาก เราก็คิดได้ ปัญหาเรื่องอายุก็ลดลง
อีกปัญหา ระยะทางกรุงเทพฯ – เชียงใหม่?
ตู่ : ก็แค่หน้าปากซอย ส่วนใหญ่เราไปหาเขา เพราะเขาอยู่กับแม่สองคน ถ้าเขามากรุงเทพฯ ไม่มีอะไรให้พาเที่ยว แต่เราเคยอยู่เชียงใหม่ เราชอบไปเชียงใหม่ เราขับรถบ้าง ขึ้นเครื่องบ้าง รถไฟบ้าง เดือนนึงขึ้นไปที อาจอยู่ 7-10 วันค่ะ
พี่บีคบพี่ตู่ การพาพี่ตู่ไปแนะนำแม่ มาคุมั้ย?
บี : ไม่ครับ แม่บอกว่าลูกรักใคร แม่ก็รักด้วย
แม่ได้เพื่อน?
ตู่ : แหม ประโยคเดียวกับพ่อดิฉันเลยค่ะ พ่อจะบอกว่าหูย เด็กกว่าเยอะเลยเหรอ คุณแม่ก็เหมือนเขาเลย ไม่ค่อยพูด แต่แม่ไม่มีอะไรยิ้มๆ แต่ให้มานั่งคุยแม่ไม่ค่อยเป็นแบบนั้น คาแรกเตอร์เขาไม่ใช่
บี : ถ้าแม่อยู่ในกลุ่มเขาจะพูดมากหน่อย ถ้าไม่รู้จักจะเบาๆ
ตู่ : ตัดภาพมาที่บ้านเรา สนุกสนาน บันเทิงมาก
ตอนเจอพ่อแม่เขาครั้งแรก?
บี : เกร็งครับ
ทำไมถึงขอพี่บีแต่งงาน?
ตู่ : เราคบมา 4 ปีแล้ว เราคิดว่าอยากแต่งงานแล้ว ไม่ได้อยากมีงานวิวาห์ใหญ่โตอะไรมาก ด้วยคุณพ่อเป็นข้าราชการ เคยเล่นละคร ก็อยากแต่งงานให้ท่าน ลูกเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว ก็ถามพ่อว่าถ้าลูกจะขอบีแต่งงาน พ่อก็เฮ้ยนิดนึง ได้มั้ย พ่อก็หัวสมัยใหม่ แม่ก็หัวเราะๆ ด้วยปีที่แล้วน้องชายแต่งงาน เขายังอยู่ต่อ ก็เลยทำแผนการหลังน้องชายแต่งงาน ก็หลอกล่อเขาใดๆ เขาให้ร้องเพลงแพ้ใจบนเวที เพลงประจำตัว ยังไม่ทันจบครึ่งเพลงก็เดินลงมา ไม่คิดว่าตัวเองจะร้องไห้ เคยคิดว่าทำไมจะแต่งงานต้องร้องไห้ ควรดีใจมั้ย แต่ ณ เวลานั้น ร้องทำไมวะ เราก็บอกว่าไม่เคยขอใครแต่งงาน ขอแต่งงานได้เปล่า
บีรู้สึกยังไง?
บี : ตกใจไปแป๊บนึง เหมือนตะหงิดๆ ก่อนแล้ว เหมือนต้องมีอะไรสักอย่าง แต่ไม่คิดว่าเขาจะขอแต่งงาน
คิดวางแผนมั้ยจะแต่งกับคนนี้?
บี : ก็คุยกันก่อนว่าสักระยะนึง ขอเก็บตังค์
ตู่ : เราก็บอกว่าเก็บตังค์ไม่มีในโลก งั้นแต่งเลยแล้วกัน ไหนๆ พ่อแม่เราอนุญาตแล้ว เราก็เลยขอเขาแต่งงาน
ตอนนั้นเป็นไง พอเขาขอแต่งงาน?
บี : ช็อกนิดหน่อย ทำอะไรไม่ถูก มือสั่น ไม่คิดว่าเขาจะพูดก่อน
ตู่ : จากนั้นก็โดนกระแสเหมือนกันนะ ไม่คิดว่าเว็บไซต์จะเอาเราไปลงหรอก เพราะเราไม่ใช่ดาราเบอร์ใหญ่ เราโดนว่าเรื่องขอผู้ชายแต่งงาน ดารารุ่นใหญ่ เราโกรธตรงนี้แหละ (หัวเราะ) ที่ดีๆ เราก็ขอบคุณ แต่บางคนเข้ามาบอกว่าหน้าด้าน กล้าขอผู้ชายได้ไง แต่มันยากตรงไหน เราคุยกันอยู่แล้วว่าจะแต่งแน่นอน การขอไม่มีกฎว่าผู้หญิงห้ามขอนะ
มีไปฟาดมั้ย?
ตู่ : ตอบเหมือนกัน เป็นคนชอบตอบ สามีก็บอกว่าไม่ต้องไปสนใจ กำลังขึ้นๆ อยู่ ก็พูดภาษาเหนือว่าไม่ต้องไปสนใจ ช่างเขาเถอะ แต่ฉันส่งไปเรียบร้อยแล้วจ๊ะ
บี : ปล่อยวาง
เจอแต่ผู้ชายทำให้เสียใจ ครั้งนี้กับการตัดสินใจใช้ชีวิตคู่กับเด็กผู้ชายที่อายุห่างเรา 13 ปี ไม่กลัวเหรอ?
ตู่ : มันผ่านมา 5 ปีแล้ว เราคิดว่าอุปสรรคมันผ่านมาหมดแล้ว เราไม่สามารถบอกได้ว่า เราจะรักเธอจนชั่วฟ้าดินสลาย โลกสวยเกินเหตุ แต่ถือซะว่าวันนี้เราสองคนทำดีที่สุดแล้ว อนาคตให้เป็นเรื่องอนาคต แต่นั้นเองค่ะ
บี : เราก็รักเขาครับ
เกิดอะไรขึ้นเกือบไม่ได้แต่ง?
ตู่ : ด้วยความเขาหน้านิ่ง หน้าเดียว การแสดงออกเขาไม่ได้มีจริตจก้าน ช่วงที่เครียดๆ เกือบเดือนที่ทะเลาะกัน วิดีโอคอลคุยกันทุกวัน ด้วยความเราเป็นห่วงคุณแม่เขา เพราะต้องมากรุงเทพฯ กับเขาด้วย เราก็ถามว่าถ้าแม่ง่วงก่อน 4 ทุ่ม แม่จะอยู่โรงแรมได้มั้ย ถ้าเป็นคนอื่นอาจตอบว่าแม่ก็อยู่ได้แหละ งานเราจัดครั้งนึง แต่ตาคนนี้ไม่มีการประณีตใดๆ หน้าเขาก็บอกว่าแม่ก็ต้องอยู่ได้แหละ แต่เราก็ปรี๊ดมาก ทำไมต้องทำหน้าขนาดนี้ด้วย ไม่แต่งก็ได้นะ เราก็สวนกลับเดี๋ยวนั้นเลย ความรู้สึกนั้นเราเป็นห่วงแม่เขา
บี : ความหมายมันคนละอย่าง เหมือนความหมายเราอีกอันนึง ความหมายที่เขาคิดก็อีกอย่างนึง จริงๆ วันนั้นเราพยายามให้เขาเข้าใจว่าเราไม่ได้ทำหน้า ไม่ได้ไม่พอใจหรือยังไง ความหมายคือแม่ก็ต้องอยู่ แต่เราประดิษฐ์คำพูดไม่เป็น
จบยังไง?
ตู่ : เราเล่นละครเยอะ เราสามารถดูรีแอ็กเขาแล้วคิดไปตามละคร (หัวเราะ) เราคิดไปเยอะแยะ สุดท้ายพอเราวางโทรศัพท์แล้วมานั่งทบทวน งานก็มีแหละ จะยังไงดี เขาก็พยายามไลน์มาขอโทษ เขาไม่ได้ทำหน้าอะไรเลย ไม่ได้คิดอะไรเลยในหัวจริงๆ โล่งๆ
วางแผนมีลูกมั้ย?
ตู่ : ไม่น่ามีแล้วค่ะ ไม่ทันแล้ว
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง https://youtu.be/qvW57UU_t4g?si=R39ZQA5qjrGDaQ8a