สิงห์ เอสเตท รายงานรายได้รวมจากการขายและการบริการสำหรับไตรมาส ปี 2567 จำนวน 4,034 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% YoY และกำไรสุทธิ จำนวน 104 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% YoY ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของผลประกอบการในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะความสำเร็จของการเปิดตัวโครงการที่พักอาศัยใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี รวมถึงกลยุทธ์ของธุรกิจโรงแรมในการผลักดันอัตราค่าห้องพัก และรายได้ที่ไม่ใช่ห้องพักเพิ่มตามเป้าหมาย เพื่อชิงโอกาสจากกระแสการใช้จ่ายสำหรับการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องตามแผนกลยุทธ์ที่ตั้งไว้

กรุงเทพฯ (14 พฤษภาคม 2567) – บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ S ประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาส ปี 2567 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,034 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 997 ล้านบาท ซึ่งมีการเติบโตเด่นกว่าเท่าตัว สืบเนื่องจากหลายปัจจัย อาทิ (1) การรับรู้ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ภายหลังการพัฒนาที่ดินและระบบสาธารณูปโภคแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 (2) การเริ่มต้นโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดในไตรมาสแรกของโครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไทรางน้ำ ขณะที่รายได้จากธุรกิจให้บริการจำนวน 3,037 ล้านบาท ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจาก (1) รายได้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าที่เติบโต 12% จากปีก่อนหน้า สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของอัตราการปล่อยเช่าอาคาร S-OASIS เสริมทัพด้วย (2) รายได้จากธุรกิจโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อนหน้า จากการมีห้องพักรูปแบบใหม่มานำเสนอ ซึ่งสามารถผลักดันให้อัตราค่าห้องพักเฉลี่ย (ADR) ทั้งพอร์ตเติบโตขึ้น 24% จากปีก่อนหน้า บรรลุเป้าหมายตามแผนการปรับปรุงสินทรัพย์ที่ตั้งไว้

โดยในไตรมาสดังกล่าว สิงห์ เอสเตท มีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งทั้งโรงแรมในประเทศไทย และโรงแรม แห่งในโครงการ CROSSROADS Maldives ที่สามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น ส่งผลให้มีอัตราเข้าพักสูงถึง 89% และสามารถบริหาร ADR เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาส ปี 2566 เช่นเดียวกันกับโรงแรมในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ที่มีการปรับปรุงโรงแรมในช่วงปีก่อน จึงมีความโดดเด่นและสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เน้นการสัมผัสประสบการณ์ เป็นผลให้ระดับรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPAR) เติบโตขึ้น 36% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนอกจากผลการดำเนินงานที่บรรลุตามเป้าหมายตามแผนแล้ว ในไตรมาส ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ด้วยยอดจองซื้อรวมมูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อการขับเคลื่อนผลประกอบการและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น สิงห์ เอสเตท ยังมุ่งมั่นและตั้งใจดำเนินงานในทุกมิติ เพื่อส่งมอบคุณค่าและคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการการันตีความสำเร็จ และสิงห์ เอสเตท ยังได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Company ในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากนิตยสาร BrandAge ในด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (Sustainable Development) อีกเช่นกัน

 

ด้านคุณฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า “สำหรับผลประกอบการในไตรมาส นี้ นับเป็นผลประกอบการที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จที่สิงห์ เอสเตท ตั้งใจส่งมอบให้ลูกค้ามาโดยตลอด เพื่อสร้างคุณค่าและการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยมาตรฐานคุณภาพระดับ ‘Best in Class’ รวมถึงกลยุทธ์การพัฒนาประสิทธิภาพของสินทรัพย์ในทุกพอร์ตโฟลิโอตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้ทุกผลิตภัณฑ์ของสิงห์ เอสเตท ได้รับความเชื่อมั่นและการตอบรับที่ดีจากตลาดในทุก ๆ ผลิตภัณฑ์และบริการ โดยสะท้อนจากการเปิดตลาดใหม่ที่ประสบผลสำเร็จจากหลายโครงการ อาทิ โครงการ สริน ราชพฤกษ์ สาย 1, โครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไทรางน้ำ ตลอดจนโครงการ นิคม อุตสาหกรรม เอส อ่างทอง ถือเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จจากการลงทุน และสร้างคุณค่าเพิ่มของสิงห์ เอสเตทได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ในส่วนของธุรกิจโรงแรมในหลาย ๆ ประเทศที่เราดำเนินธุรกิจอยู่ มีสัญญาณเชิงบวกต่อเนื่องจากในไตรมาสที่ 1 ที่มียอดจองห้องพักในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นเครื่องชี้วัดความสำเร็จของกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกของเรา ทั้งการเพิ่มช่องทางการขายให้สามารถเข้าถึงตลาดที่มีศักยภาพใหม่ ๆ มากขึ้น และกลยุทธ์การตั้งราคาที่มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของโรงแรม SO/ Maldives โดยเป็นโรงแรม Luxury แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปลายปี 2566 เริ่มมีทิศทางดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นแรงหนุนสำคัญให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายผลการดำเนินงานที่วางไว้ได้ในปี 2567”

สิงห์ เอสเตท มีความมั่นใจในการผลักดันรายได้สูงสุดใหม่ภายในปีนี้ แตะ 18,000 ล้านบาท ให้ได้สำเร็จ ด้วยสัญญาณการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่องจากปลายปี 2566 ของธุรกิจที่พักอาศัย อาทิ โครงการบ้านแบรนด์ศิรนินทร์ เรสซิเดนเซสและสริน รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้ของ โครงการ ดิ เอ็กซ์โทร พญาไทรางน้ำ ในช่วงท้ายของไตรมาส ที่ผ่านมา และในวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 นี้ สิงห์ เอสเตท พร้อมเปิดตัว โครงการใหม่ SHAWN ปัญญาอินทรา และ SHAWN วงแหวนจตุโชติ บ้านเดี่ยวในเซ็กเมนต์ Premium Luxury เพื่อเจาะกลุ่มตลาดใหม่ในทำเลศักยภาพย่านรามอินทรา นอกจากนี้ในช่วงท้ายของปี บริษัทฯ วางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 2 โครงการ และโครงการคอนโดฯ 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 2567 นี้ บริษัทฯ จะมีโครงการที่พัฒนาและรอการขายรวมทั้งหมด 14 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 37,000 ล้านบาท ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ธุรกิจที่พักอาศัยในปี 2567 เพิ่มขึ้นประมาณ 50% จากปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากยอดขายที่รอการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ที่อยู่ในมืออีกราว 3,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นรายได้เข้ามาภายในปี 2567

 

โดยอีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญในการขับเคลื่อนผลประกอบการของสิงห์ เอสเตท คือธุรกิจโรงแรมที่ขยายตัวไปพร้อมกับการท่องเที่ยวทั่วโลก มีจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้ง และตำแหน่งทางการตลาดของโรงแรมในพอร์ตโฟลิโอของบริษัทฯ ซึ่งโดดเด่นทั้งในด้านประสบการณ์เข้าพักที่ตอบโจทย์กระแสนิยมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ (Experiential Tourism) ในปัจจุบัน และการพักผ่อนอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Ecotourism) ตลอดจนการส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าประทับใจ มากไปกว่านั้นในปี 2567 นี้ ยังมีกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกเพื่อดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลากหลายขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของพอร์ตโฟลิโอ โดยการปรับปรุงโรงแรมศักยภาพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรงแรมในประเทศไทย และพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร รวมไปถึงแผนการพัฒนาสินค้าและบริการ เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

คุณฐิติมาเสริมว่า สำหรับอีก สินทรัพย์ ที่อยู่ในช่วงการขยายตลาด ได้แก่ อาคารสำนักงานเอส โอเอซิส และการขายพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม เอส อ่างทอง สามารถต่อยอดจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การทยอยเข้าใช้พื้นที่ของผู้เช่ารายหลัก และการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรม จะช่วยผลักดันให้อัตราเร่งในการขายพื้นที่ในระยะถัดไปมีแนวโน้มที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ผลประกอบการของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้า และนิคมอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน สร้างรายได้ตามเป้าหมาย สำหรับสิงห์ เอสเตทแล้ว ในปี 2567 นี้ ถือเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวผลผลิต จากรากฐานและโครงการลงทุนที่บริษัทฯ ได้พัฒนาไว้ในช่วง 2 – 3 ปีก่อน เราจึงมีความมั่นใจต่อการบรรลุเป้าหมายรายได้รวมของบริษัทฯ สู่ระดับสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง ด้วยอัตราการทำกำไรที่เติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง และการรักษาระเบียบวินัยทางการเงินได้อย่างเคร่งครัด เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วน

 

——————————-

 

เกี่ยวกับ สิงห์ เอสเตท (SET:S)

บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนระดับสากล ที่มุ่งสร้างความหลากหลายของธุรกิจและพัฒนาโครงการพร้อมการบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำรวมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิต ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างความเติบโตที่ยั่งยืน และส่งมอบคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รับผิดชอบต่อสังคมบนหลักธรรมาภิบาล ภายใต้แนวคิด Go Beyond Dreams อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://investor.singhaestate.co.th/th/home   

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน)

123 อาคารซันทาวเวอร์ส บี ชั้น 22 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900

โทร +66 (0) 2050-5555 www.singhaestate.co.th