กลายร่างร่วมสู้ สิงสู่จนวันตาย “ทอม ฮาร์ดี้”  

 

ใน #Venom: The Last Dance 

#เวน่อม: มหาศึกอสูรอหังการ 

 

พุธที่ 23 ตุลาคมในโรงภาพยนตร์ 

 

VENOM: THE LAST DANCE 

Action/Thriller 

Releasing around the world from October 23, 2024 

ทอม ฮาร์ดี้ กลับมาอีกครั้งใน  Venom: The Last Danceเวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ              ภาพยนตร์แอ็คชั่นซูเปอร์ฮีโร่จากโซนี่และมาร์เวล ซึ่งนำเสนอเรื่องราวของคาแร็กเตอร์วายร้ายที่สุดแสนจะซับซ้อน เวน่อมเป็นหนึ่งในตัวละครแอนตี้ฮีโร่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดตลอดกาลในประวัติศาสตร์มาร์เวล ด้วยบุคลิกสุดอันตรายและสกิลการฆ่าที่โหดเหี้ยม แม้จะมีร่างดำทะมึน ดวงตาโตสีขาว ปากสุดแสยะที่เต็มไปด้วยเขี้ยวแหลมคมและลิ้นที่แลบยาวออกมา เวน่อมกลับมีชีวิตจิตใจคล้ายมนุษย์ปุถุชน  และมีอารมณ์ขันอันพิลึก พิลั่น ทำให้เขากลายเป็นที่จดจำและชื่นชอบของแฟนๆ ผู้ชมภาพยนตร์ทั่วโลก 

 

หลังจากเวน่อมได้เข้ายึดร่างของเอ็ดดี้ (ทอม ฮาร์ดี้) ในภาพยนตร์เรื่อง Venom ภาคแรก ทั้งคู่ต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกันอย่าง (เกือบ) สันติ    และผ่านการต่อสู้กับบรรดาเหล่าร้ายในภาพยนตร์ทั้งสองภาค และในปีนี้เอง เรื่องราวไตรภาคชุดนี้ก็ดำเนินมาถึงภาคสุดท้ายใน Venom: The Last Danceเวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ เมื่อเอ็ดดี้และเวน่อมเข้าตาจนและตกที่นั่งลำบาก ถูกตามไล่ล่าจากทหารทั้งกองทัพไม่พอ ยังถูกตามปลิดหัวจากบรรดาปรสิตซิมไบโอตต่างดาวตัวฉกาจ ทั้งสองจะต้องผ่านการสู้รบครั้งยิ่งใหญ่ และการตัดสินใจครั้งสำคัญ ซึ่งจะนำไปสู่การปิดม่านการต่อสู้ร่วมกันอันยาวนานของเอ็ดดี้และเวน่อม 

 

Venom: The Last Danceเวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ นำแสดงโดย ทอม ฮาร์ดี้ และกำกับภาพยนตร์โดย เคลลี่ มาร์เซล  ซึ่งเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากเรื่องราวที่เธอสร้างสรรค์ร่วมกับตัวของ ทอม ฮาร์ดี้เอง อำนวยการสร้างโดย เอมี่ พาสคาล ผู้อำนวยการสร้าง Spider-Man ทุกภาค  เตรียมพบกับ   

 

Venom: The Last Dance 

เวน่อม มหาศึกอสูรอหังการ  

พุธที่ 23 ตุลาคมศกนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ 

 

ข้อมูลงานสร้าง 

ใน Venom: The Last Dance ทอม ฮาร์ดี้กลับมารับบท เวน่อม หนึ่งในตัวละครที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนที่สุดของมาร์เวล สำหรับภาพยนตร์ภาคสุดท้ายของไตรภาคนี้ เอ็ดดี้และเวน่อมกำลังหนีตาย เมื่อถูกตามล่าจากโลกทั้งสองฝั่งของพวกเขาจนเกือบเอาตัวไม่รอด ทั้งคู่ก็ถูกบีบให้ต้องทำการตัดสินใจครั้งสำคัญที่จะเป็นการปิดฉากการเต้นรำครั้งสุดท้ายของเวน่อมและเอ็ดดี้ 

Venom: The Last Dance นำแสดงโดยทอม ฮาร์ดี้, ชิเวเทล เอจิโอโฟร์, จูโน เทมเปิล, ริส ไอฟานส์, สตีเฟน เกรแฮม, เพ็กกี้ ลูและอลันนา อูบัค ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเคลลี มาร์เซลจากบทภาพยนตร์ที่เธอเขียน ด้วยเรื่องราวโดยฮาร์ดี้และมาร์เซล ภาพยนตร์เรื่องนี้อำนวยการสร้างโดยอาวี อารัด, แมทท์ โทลม้ค, เอมี ปาสคัล, เคลลี มาร์เซล, ทอม ฮาร์ดี้และฮัทช์ ปาร์คเกอร์ 

Venom: The Last Dance ได้รับการจัดเรท PG-13 โดยสมาพันธ์ภาพยนตร์จากซีเควนซ์ที่มีแอ็กชันและการใช้ความรุนแรงอย่างหนัก ภาพการนองเลือดและการใช้ภาษาหยาบคาย ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วอเมริกาในวันที่ 25 ตุลาคม ปี 2024 

ผู้กำกับ เคลลี มาร์เซล พูดถึง ทอม ฮาร์ดี้                                                            ช่วงสร้างสรรค์ตัวละครเวน่อมและการให้เสียงเวน่อม 

ตัวละครเวน่อมไม่ได้แค่มาจากบทภาพยนตร์หรือการ์ตูน ระหว่างการถ่ายทำ Venom ภาคแรก ฮาร์ดี้มีบทบาทสำคัญในการปลุกชีวิตให้กับซิมบิโอตตัวนี้และเขาก็สานต่อหน้าที่นี้ตลอดทั้งแฟรนไชส์นี้ทอมเล่นกับเสียงที่แตกต่างกันมากมาย และเวน่อมก็เริ่มต้นจากจุดนั้นค่ะมาร์เซลกล่าวเขาเจอเสียงที่เหมาะ และพอเราได้ยินเสียงนั่น มันก็นำไปสู่ไดอะล็อคที่คุยโวโอ้อวดของเวน่อม เสียงนั้นมาจากบันทึกเสียงสั้นๆ ที่ทอมส่งมาบอกว่า ‘ผมคิดว่าเสียงเขาเป็นแบบนี้’ นะคะ 

ตั้งแต่บันทึกเสียงครั้งแรกนั้น ฮาร์ดี้ก็สามารถพัฒนาตัวละครเวน่อมขึ้นมาทั้งในหน้ากระดาษและในกองถ่าย “ฉันกับทอมเราอิมโพรไวส์กันเยอะเลยค่ะ” มาร์เซลกล่าว “ทอมสวมหูฟังในกองถ่ายที่คุณจะมองไม่เห็น แล้วเขาก็จะบันทึกสิ่งที่ถูกเขียนขึ่นมาสำหรับเวน่อมในหน้ากระดาษไว้ แล้วเราก็จะเปิดเสียงเวน่อมในหูของเขาเพื่อที่เขาจะได้ตอบโต้กับเสียงในหัวของเขาได้ แล้วฉันก็พูดกับเขาในหูของเขาได้ด้วย ดังนั้น ถ้าฉันเกิดขึ้นบทพูดดีๆ ขึ้นมาได้ตอนนั้น ฉันก็จะบอกเขา แล้วเขาก็จะตอบกลับมาแล้วแสดงฉากนั้นต่อค่ะ” 

ในภาพยนตร์ส่วนใหญ่ที่มีตัวละคร CG ทีมวิชวล เอฟเฟ็กต์จะอยู่ในกองถ่ายด้วยเพื่อกำหนดจุดบอกตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้นักแสดงรู้ว่าระดับสายตาของพวกเขาควรจะอยู่ตรงไหน แต่ทีมผู้สร้าง Venom ได้ให้อำนาจในการตัดสินใจกับฮาร์ดี้ “เราไม่ได้กำหนดตำแหน่งหัวของเวน่อมตอนที่เขาอยู่นอกร่างของเอ็ดดี้ค่ะ” มาร์เซลกล่าวต่อ “เราให้อิสระกับทอมว่าเขาจะวางตำแหน่งเวน่อมไว้ตรงไหนตอนที่พวกเขามีปฏิสัมพันธ์กัน และเราก็คอยระวังให้เวน่อมอยู่ในกรอบภาพเสมอ ฉันไม่เคยเห็นใครที่ทำในสิ่งที่เขาทำได้ในช่วงเวลาเหล่านั้นเลยค่ะ” 

ทั้งเอ็ดดี้และเวน่อมต่างก็ทำให้ฮาร์ดี้มีโอกาสในการได้นำเสนอความสัมพันธ์ที่ทั้งน่าตื่นตาตื่นใจ น่าขันและน่าประทับใจอย่างแท้จริง “เอ็ดดี้กับเวน่อมรักกันค่ะ” มาร์เซลกล่าว “พวกเขาเป็นเพื่อนรักกัน คุณจะต้องเสียสละหลายๆ อย่างถ้าคุณจะยกร่างของคุณให้กับเอเลียน ถ้าคุณจะแบ่งปันตัวตนทั้งข้างนอกและข้างในให้กับเด็กโข่งคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเด็กที่ค่อนข้างจะอันตรายเป็นพิเศษซะด้วย เอ็ดดี้และเวน่อมต่างก็ดึงเอาส่วนที่ดีที่สุดออกมาจากกันและกันค่ะ” 

 

ผู้กำกับ เคลลี มาร์เซล                                                                                     พูดถึงการร่วมเขียนบทและการทำงานร่วมกันกับ ทอม ฮาร์ดี้ 

มาร์เซล ผู้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์ Venom สองภาคล่าสุด รวมทั้งรับหน้าที่ผู้ควบคุมงานสร้างใน Venom และผู้อำนวยการสร้างใน Venom: Let There Be Carnage ได้เปิดตัวผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกด้วย Venom: The Last Dance ในตอนที่เธอก้าวมารับหน้าที่ผู้กำกับ มาร์เซลรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สานต่อการร่วมงานอันยาวนานกับทอม ฮาร์ดี้ ผู้รับบทเป็นทั้งเอ็ดดี้และเวน่อม มาร์เซลและฮาร์ดี้ได้ร่วมกันพัฒนาเรื่องราวสำหรับ Venom: The Last Dance ซึ่งมาร์เซลใช้เขียนบทภาพยนตร์ “ฉันกับทอมมีแนวทางการสื่อสารที่เข้าอกเข้าใจกันเป็นอย่างดีค่ะ” มาร์เซลกล่าว “เขาเข้าใจงานเขียนของฉัน และฉันก็รู้วิธีการสร้างตัวละครให้กับเขา ที่จะทำให้เขาชื่นชอบแสดง สำหรับ The Last Dance เราใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์อยู่ในโรงแรมที่ลอนดอนเพื่อคิดเรื่องราวตั้งแต่เช้าและโต้รุ่งจนถึงเช้าอีกวัน ฉันกับทอมเห็นพ้องต้องกันว่าหนังเรื่องนี้จะต้องเป็น Venom ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและเพิ่มพลังมากที่สุดในบรรดาทุกภาค และเราก็โชคดีที่สตูดิโอไว้ใจให้เราสร้างมันในแบบที่เรามองและรู้สึกได้นะคะ” 

“การร่วมงานกับทอมสนุกจริงๆ ค่ะ” มาร์เซลกล่าวต่อ “เขาเป็นเพื่อนซี้ที่สุดคนหนึ่งของฉันและเขาก็ฉลาดอย่างเหลือเชื่อด้วย เขาเข้าใจตัวละครพวกนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง เขาเต็มไปด้วยไอเดียสารพัด และมันก็น่าทึ่งมาก” 

ผู้กำกับมาร์เซล พูดถึงความสัมพันธ์และพัฒนาการของตัวละคร เอ็ดดี้ และเวน่อม 

มาร์เซลและฮาร์ดี้ทำให้แน่ใจว่าจะทำให้การเล่าเรื่องของพวกเขาอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่แฟนๆ รักเกี่ยวกับตำนาน Venom เราได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากการ์ตูน และเราก็อยากจะฟังแฟนๆ และรับรู้ว่าพวกเขาต้องการให้เรื่องราวนี้เดินหน้าต่อไปทางไหนน่ะค่ะมาร์เซลกล่าวแต่เรารู้ว่าเรากำลังจะสรุปไตรภาคเรื่องนี้ และเราก็อยากจะทำให้มันสะเทือนอารมณ์ เราอยากจะนำความสัมพันธ์ระหว่างเวน่อมและเอ็ดดี้ไปสู่อีกระดับหนึ่งค่ะ  

หัวใจของความสัมพันธ์นั้นคือตัวเอ็ดดี้เองในตอนที่คุณได้พบกับเอ็ดดี้ บร็อค เป็นครั้งแรกใน Venom เขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างจะเห็นแก่ตัวมาร์เซลกล่าวเขาทำลายความสัมพันธ์ของตัวเองด้วยการโกหกคู่หมั้นและทำให้อาชีพของเธอจบลง เขาเป็นนักข่าวผู้ดื่มด่ำไปกับหน้าตาและชื่อเสียงของตัวเอง และเวน่อมก็ทำลายทั้งหมดนั้นลงอย่างสิ้นเชิงและทำให้เขาเหลือแต่ตัวเปล่าเล่าเปลือย ใน Venom: The Last Dance เอ็ดดี้อายุมากขึ้นและฉลาดขึ้น เขาได้เรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับความอดทนอดกลั้น เขาเรียนรู้ที่จะรักใครซักคนอย่างจริงๆ จังๆ แล้วค่ะ 

แต่บางสิ่งบางอย่างก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง เวน่อมไม่ได้สูญเสียตัวตนที่อิสรเสรี ไร้การเสแสร้ง ที่ทำให้ตัวเขาตลกเหลือเกินในสองภาคแรกไปเลย แม้ว่าตัวเขาจะมีวิวัฒนาการก็ตามเวน่อมไม่ได้มีความยับยั้งชั่งใจใดๆ ค่ะมาร์เซลกล่าวเขาก็แค่ทำตามที่ตัวเองต้องการ เอ็ดดี้เป็นคนที่พยายามจะฉุดรั้งตัวบ้าคลั่งที่มีความสุข ที่ไม่ได้รู้สึกกดดันไปกับขนบธรรมเนียมปฏิบัติของสังคมเอาไว้ แต่สิ่งที่น่าสนใจในหนังเรื่องนี้คือเวน่อมจะต้องเติบโตขึ้นซักหน่อย เขาได้เรียนรู้ความกลัวมาบ้างและเขาก็มีเรื่องให้ห่วงกังวล ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบากมากๆ ค่ะ 

 

 

ผู้กำกับเท้าความจากภาคที่แล้ว Venom: Let There Be Carnage สู่ภาคล่าสุด 

สำหรับผู้กำกับเคลลี มาร์เซล Venom: The Last Dance เป็นหลายสิ่งหลายอย่าง มันเป็นทั้งไคลแม็กซ์ของไตรภาคสุดระทึก เป็นการเผชิญหน้าความเสี่ยงสูงกับภัยคุกคามจากเอเลียนที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้…และโบรแมนซ์ที่ร้ายกาจที่สุดในห้วงจักรวาลนี้ 

“ไตรภาค Venom เป็นรอมคอมแบบคลาสสิก จริงๆ นะคะ” มาร์เซลกล่าวพลางหัวเราะ “เอ็ดดี้ บร็อคและเวน่อมได้พบกันในภาคแรก ใน Venom: Let There Be Carnage พวกเขาเจอกับอาถรรพ์ 7 ปี และแยกย้ายกันไป ตอนนี้ที่เราสรุปเรื่องราวของพวกเขา ในที่สุด พวกเขาก็เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ในลักษณะของการพึ่งพาอาศัยกัน แต่พวกเขาจะอยู่ด้วยกันไปตลอดรอดฝั่งรึเปล่านะ” 

 Venom: The Last Dance เริ่มต้นจากตอนจบของภาคที่แล้ว ที่เอ็ดดี้และเวน่อมหลบหนีไปหลังจากโค่นคลีตัส คาซาดี้และคาร์เนจ ซึ่งเป็นซิมบิโอตของเขาลงได้ การเผชิญหน้ากันครั้งนั้นเปิดเผยตัวตนของเวน่อม ทั้งสำหรับฝ่ายรัฐบาลบนโลกและศัตรูตัวฉกาจที่เร้นกายอยู่ในห้วงจักรวาลด้วย “เอ็ดดี้และเวน่อมถูกเปิดเผยต่อสายตาโลกภายนอกเพราะการต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ที่วิหารเกรซค่ะ” มาร์เซลกล่าว “การหลบหนีของพวกเขาหมายความว่า The Last Dance จะเป็นหนังโร้ดทริป พวกเขาไม่เพียงถูกไล่ล่าจากคนจากโลกของเราเท่านั้น แต่ยังถูกไล่ล่าโดยกองกำลังจาก คลินทารร์ ซึ่งเป็นดาวบ้านเกิดของเวน่อมด้วย ยิ่งเอ็ดดี้และเวน่อมอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งเป็นภัยคุกคามต่อโลกทั้งใบมากขึ้นเท่านั้น” 

 

นักแสดงสมทบ 

ผู้ที่สนับสนุนเวน่อมและเอ็ดดี้คือกลุ่มตัวละคร ทั้งมนุษย์และเอเลียน ที่แสดงโดยนักแสดงระดับแนวหน้าอย่างคับคั่ง ผู้ที่ไล่ตามหาตัวเอ็ดดี้และเวน่อมคือนายพลสตริคแลนด์ ที่รับบทโดยชิเวเทล เอจิโอโฟร์ “นายพลสตริคแลนด์บริหารส่วนที่เป็นสถาบันลับของกองทัพครับ” เอจิโอโฟร์กล่าว “เขาเป็นคนเข้มงวด เจ้าระเบียบและยึดถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัดมากๆ เขาจะไม่ยอมรับความคิดนอกรีต หรือการเสี่ยงใดๆ ทั้งนั้น ตัวเขานี่เองที่ทำให้เราเริ่มเข้าใจกลอุบายและลูกเล่นการเบี่ยงเบนความสนใจที่กำลังเกิดขึ้นภายในกองทัพครับ”

ในภารกิจตามจับซิมบิโอตของเขา สตริคแลนด์ได้แสดงท่าทีต่อต้านฝ่ายวิทยาศาสตร์ของสถาบัน ซึ่งรวมถึงดร.เท็ดดี้ เพย์น ที่มองโลกแบบอุดมคติมากกว่า “ตัวละครของฉันมีอดีตที่เจ็บปวดค่ะ” จูโน เทมเปิล นักแสดงจาก Ted Lasso ผู้รับบทเท็ดดี้กล่าว “เธอมีน้องชายฝาแฝดที่หลงใหลในเรื่องจักรวาลอันไกลโพ้นและสิ่งมีชีวิตนอกโลก ทันทีที่เธอสูญเสียเขาไป เธอก็สาบานว่าเธอจะใช้เวลาทั้งชีวิตที่เหลือเพื่อพยายามหาคำตอบ ซึ่งนั่นทำให้เธอมาลงเอยด้วยการทำงานอยู่ที่สถาบันลับสุดยอดแห่งนี้ค่ะ” 

สตริคแลนด์เองก็ชื่นชอบเท็ดดี้ในแบบของเขาเอง” เอจิโอโฟร์กล่าว “แต่เขาพบว่าเธอทำตัวอิสรเสรีเกินกว่าที่เขาจะรู้สึกสบายใจกับมัน เธอและนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ทำสิ่งต่างๆ ในระดับอารมณ์ที่ตัวเขาเองไม่เข้าใจและเขาก็อยากจะทำให้แน่ใจว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ เขาอยากจะทำให้แน่ใจว่าทุกคนให้ความเคารพต่อสถาบันแห่งนี้อย่างที่เขาคิดว่าจำเป็นต่อการดำเนินงานอย่างถูกต้องน่ะครับ” 

สตริคแลนด์มีอำนาจมากกว่าเพย์นค่ะ” เทมเปิลกล่าว “และเขาก็มีความสามารถที่จะทำลายงานทั้งหมดของเธอ ห้องแล็บทั้งหมดของเธอ และปิดปากทุกคนที่ทำงานในนั้นได้ นั่นเป็นภัยคุกคามที่เธอต้องรับมืออยู่เสมอในการทำงานของเธอค่ะ” 

ระหว่างที่สตริคแลนด์ไล่ล่าซิมบิโอต เอ็ดดี้และเวน่อมกำลังเดินทางข้ามประเทศ ระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับมาร์ติน ที่รับบทโดยริส ไอฟานส์ พ่อผู้รับเอ็ดดี้และเวน่อมขึ้นรถมาด้วย “มาร์ตินหลงใหลในเรื่องของยูเอฟโอ เอเลียนและสิ่งมีชีวิตนอกโลกครับ” ไอฟานส์กล่าว “เขาก็เลยตัดสินใจออกจากงานสายไอทีที่น่าเบื่อหน่ายของเขาและพาครอบครัวเดินทางไปยังแอเรีย 51 เพื่อทดลองดูว่าพวกเขาจะเห็นเอเลียนได้บ้างมั้ย แต่เขาไม่ได้แค่ลากครอบครัวเขามาแบบเห็นแก่ตัวนะครับ เขาใส่ใจจริงๆ กับการที่พวกเขาจะใช้ชีวิตอย่างน่าสนใจ อิสรเสรี เต็มไปด้วยความใคร่รู้ ในแบบที่พวกเขาได้ทำตามความฝันของตัวเองน่ะครับ”  

เพ็กกี้ ลู กลับมารับบท คุณนายเฉิน เจ้าของร้านสะดวกซื้อขวัญใจแฟนๆ อีกครั้งหนึ่ง ใน Venom: Let There Be Carnage คุณนายเฉินได้กลายเป็นร่างให้กับเวน่อมและใน Venom: The Last Dance เลเวลของเธอก็สูงขึ้นไปอีก “คุณนายเฉินไม่ได้ทำงานที่ร้านสะดวกซื้อของเธออีกต่อไปแล้ว” ลูกล่าว “ตอนนี้ เธอกลายเป็นมือพนัน ที่ปาร์ตี้สุดเหวี่ยงในเวกัส แล้วเธอก็ไปเจอกับเวน่อมและเอ็ดดี้ และเรื่องราวก็เริ่มจากตรงนั้นค่ะ” 

ปฏิกิริยาที่แฟนๆ มีต่อคุณนายเฉินใน Venom สองภาคแรกน่ะบ้ามากค่ะ” มาร์เซลกล่าว “ผู้ชมรักเธอ แต่เราให้เธอสวมแว่นตาและชุดจืดชืด ในขณะที่เพ็กกี้เป็นคนที่น่าทึ่ง สดใสและปรากฏว่าเธอก็เต้นได้ด้วย ฉันก็เลยพาคุณนายเฉินออกจากซานฟรานซิสโก มันอาจจะเป็นฉากที่บ้าที่สุดในหนัง ที่เธอกับเวน่อมลงเอยด้วยการเต้นคู่กันน่ะค่ะ” 

ส่วนที่ดีที่สุดของฉากเต้นนั้นน่ะหรือ “ฉันได้เหินฟ้าค่ะ” ลูกล่าว 

 อลันนา อูบัค ได้ร่วมทีมนักแสดงด้วยในบทภรรยาของมาร์ติน “จังหวะการแสดงตลกของอลันนาเป๊ะมากค่ะ” มาร์เซลกล่าว “เธอทำงานมานานมากๆ และเธอก็มีเทคนิคที่น่าทึ่ง เธอและมาร์ตินมีลูกสองคนและหมาหนึ่งตัว ที่ตั้งชื่อตามหมาของทอม ฮาร์ดี้ และครอบครัวนั้นก็เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของหนังเรื่องนี้ร่วมไปกับเอ็ดดี้และเวน่อม ทั้งคู่ต่างก็ตลกและน่ารัก และอลันนาก็ยกระดับตัวละครได้จริงๆ ค่ะ” 

 

การสร้างโลกของเวน่อม 

ในฐานะหนึ่งในตัวละครที่มีศีลธรรมซับซ้อนที่สุดของมาร์เวล และตัวละครที่ถูกเนรมิตชีวิตด้วยวิชวล เอฟเฟ็กต์ เวน่อมจึงต้องการทีมวิชวล เอฟเฟ็กต์มือหนึ่ง 

หนึ่งในความท้าทายของเราคือการทำให้เวน่อมแสดงอารมณ์ออกมาจอห์น มอฟแฟทท์ ซูเปอร์ไวเซอร์ฝ่ายวิชวล เอฟเฟ็กต์กล่าวใบหน้าของเขามีลักษณะกายภาพที่แตกต่างออกไปทีเดียว เขามีรอยยิ้มที่ฉีกกว้าง ดวงตาโตและไม่มีหู ดังนั้น ในตอนที่คุณทำให้มันเป็นภาพเคลื่อนไหว คุณก็จะต้องใช้อากัปกิริยาต่างๆ สิ่งหนึ่งที่เคลลี, ทอมและผมพยายามกันอย่างมากคือการทำให้ตัวละคร CG ถ่ายทอดการแสดงที่มีอารมณ์ เนื่องด้วยส่วนใหญ่ในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ครับ 

ในการทำให้ได้การแสดงนั้น มอฟแฟทท์ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับฮาร์ดี้เราพยายามจะยึดการแสดงของทอมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เขาสามารถแสดงประกบเวน่อมได้มอฟแฟทท์กล่าวเขาให้ความร่วมมืออย่างดีจริงๆ เราปล่อยให้การแสดงของเขาขับเคลื่อนสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ แทนที่จะพยายามบอกว่า ‘นี่ วิชวล เอฟเฟ็กต์ต้องการแบบนั้นแบบนี้นะ’ ทุกอย่างเป็นเรื่องของการปรับเข้าหาการแสดงของทอมครับ 

นอกจากนั้น มอฟแฟทท์เองยังพัฒนาซิมไอโอตตัวอื่นๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ รวมถึงสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่เป็นร่างให้กับเวน่อมด้วยสำหรับร่างของเวน่อม ผมจำได้ว่าตอนที่อ่านบทครั้งแรก ผมรู้สึกแบบ ‘ว้าว ม้าเวน่อม! ปลาเวน่อม!’ เราสนุกกับลักษณะที่ซิมบิโอตสามารถแปลงร่างหรือผสมผสานกับสิ่งมีชีวิตแบบอื่นได้ เราจะถ่ายทอดอารมณ์ขันและพฤติกรรมของเวน่อมเข้าไปในสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ได้ยังไง มันจะส่งผลยังไงกับเอ็ดดี้บ้าง ฉากกับม้านั่นเจ๋งเป็นพิเศษเลย มันเป็นซีเควนซ์ที่ตลกจริงๆ ครับ

แน่นอนว่า Venom คงจะไม่ใช่ Venom ถ้าปราศจากฉากแอ็กชันอลังการ ที่ทำให้มันเป็นภาพยนตร์ที่ต้องดูบนจอยักษ์สงครามไคลแม็กซ์ในองก์ที่สามอาจจะเป็นงานที่มีสโคปใหญ่โตที่สุดครับมอฟแฟทท์กล่าวทุกอย่างอยู่ข้างนอก เป็นเวลากลางคืน และเราอยู่กันในสถานที่ถ่ายทำจริง มีซีเควนซ์อื่นๆ ที่เราจะไปเวกัส ไปเม็กซิโก หรืออยู่บนเครื่องบิน มีซีเควนซ์การต่อสู้กันทางเครื่องบิน เรามีซีเควนซ์การเดินไปคุยไปในทะเลทรายที่วิเศษสุดระหว่างทอมกับเวน่อม หนังเรื่องนี้มีสโคปที่ยิ่งใหญ่จริงๆ ครับ 

 นอกจากนี้ Venom: The Last Dance ยังอาศัยการออกแบบงานสร้างที่แข็งแรง โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกองทัพด้วยคริส โลว์ ผู้ออกแบบงานสร้างของเรา ต้องสร้างฉากจำนวนมหาศาลเลยค่ะมาร์เซลกล่าวฐานทัพทหารใต้ดินจะต้องให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสิ่งที่สามารถมีอยู่จริงในโลกของเราได้ แต่ก็มีกลิ่นอายแบบไซไฟนิดๆ ด้วย นั่นเป็นฉากที่ยากที่สุดสำหรับคริสเพราะมันใหญ่โตจริงๆ มันมีสามชั้น และด้วยความที่เราจะต้องสามารถเคลื่อนตัวผ่านส่วนต่างๆ ของฉากภายในฉากต่างๆ นั้นได้ เขาก็ต้องสร้างตึกทั้งหลังขึ้นมาค่ะ 

พวกเขาได้สร้างวิหารทางทหารที่กว้างใหญ่นี้ขึ้นมาท่ามกลางทะเลทรายครับไอฟานส์กล่าวและมันก็ให้ความรู้สึกที่สมจริงและน่าสะพรึงกลัวจริงๆ ผมคิดว่ามันเป็นหนึ่งในฉากที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่ผมเคยทำงานมาในแง่ของพื้นที่ มันเป็นเหมือนเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่งในตัวของมันเองเลยครับ 

เราได้สร้างฉากภายในทั้งหมดให้เป็นส่วนรวมองค์ประกอบต่างๆ ขนาดใหญ่โลว์กล่าวแต่มันก็จะต้องดูเหมือนว่ามันสามารถแพ็คเก็บและเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา มันเกือบเหมือนฐานทัพทหารเคลื่อนที่ได้น่ะครับ คุณจะเกิดแนวคิดที่ว่าพวกทหารและนักวิทยาศาสตร์มาถึง จัดเตรียมงาน และสามารถจากไปได้ภายในชั่วพริบตา 

แม้ว่าฉากกองทัพจะน่าประทับใจแค่ไหน แต่ฉากโปรดของโลว์กลับเป็นเพนท์เฮาส์ในเวกัสที่คุณนายเฉินได้กลับมาพบเวน่อมอีกครั้งมันไม่สมบูรณ์แบบและมีความเป็นเวกัสมากๆโลว์กล่าวผมนำรายละเอียดหลายๆ อย่างมาจากโรงแรมปารีส ทั้งท้องฟ้าบนผนัง ราวบันไดทองคำ หินอ่อนและไฟนีออน มันเป็นหนึ่งในฉากที่ผมรู้สึกสนุกที่สุดเวลาออกแบบครับ 

ฉากและสถานที่ถ่ายทำที่หลากหลายทำให้งานสตันท์ของนักแสดงเป็นเรื่องท้าทายแต่ก็น่าตื่นเต้นด้วย ผู้ประสานงานฝ่ายสตันท์ เจมส์ เอ็ม. เชิร์ชแมนกล่าวทอมมีพรสวรรค์เป็นบ้าเลยครับเชิร์ชแมนกล่าวกลั้วหัวเราะเราให้เขานั่งมอเตอร์ไซค์ และเขาก็เป็นนักซิ่งที่เก่งพอตัวเลยล่ะ แต่การขี่บนดินลูกรังก็เป็นเรื่องใหม่สำหรับเขา แต่ภายในเวลาแค่วันเดียว เขาก็ตระเวนไปได้ทั่วด้วยมอเตอร์ไซค์ของเขาแล้ว เขาเรียนรู้ได้รวดเร็วมากๆ ทุกซีเควนซ์เป็นการผสมผสานกันระหว่างเอฟเฟ็กต์จริง แอ็กชันจริงและวิชวล เอฟเฟ็กต์ครับ 

ผู้กำกับภาพฟาเบียน แว็กเนอร์ พร้อมรับมือกับความท้าทายในการบันทึกองค์ประกอบทั้งหมดของแต่ละซีเควนซ์และแต่ละฉากเรามีสถานที่ถ่ายทำและลุคที่แตกต่างกันมากมายแว็กเนอร์กล่าวด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นหนังโร้ดทริป มันก็เลยมีการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการออกแบบการเคลื่อนไหวมากมาย แต่เราก็มีฉากที่มีความเป็นส่วนตัวที่งดงามมากๆ ด้วย เราใช้ทุกอย่างตั้งแต่เครนตามปกติเพื่อบันทึกภาพไวด์ช็อตที่อลังการ ไปจนถึงงานแฮนด์เฮลด์ด้วย มันเป็นการผสมผสานกันที่น่าสนใจมากๆ ครับ

แว็กเนอร์ยินดีเป็นพิเศษที่ผู้ชมจะได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้บนจอไอแม็กซ์ผมรักหนังและผมก็รักประสบการณ์ที่คุณได้จากการนั่งอยู่ในโรงหนังแว็กเนอร์กล่าวต่อมันเป็นประสบการณ์ที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิงกับการนั่งอยู่หน้าจอทีวีที่บ้าน ผมคคิดว่าหนังเรื่องนี้มีสโคปแบบใหม่ที่ผู้ชมจะชื่นชมกับมันบนจอไอแม็กซ์ครับ 

นักแสดงและทีมงานแต่ละคนต่างก็ตระหนักดีว่า Venom: The Last Dance เป็นมากกว่าภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง มันเป็นบทสุดท้ายของมหากาพย์เรื่องนี้ฉันรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ ที่ได้นำเรื่องราวนี้มาถึงบทสรุปมาร์เซลกล่าวมันเป็นบทสรุปที่สะเทือนอารมณ์จริงๆ สำหรับไตรภาคนี้ และฉันกับทอมก็รู้สึกอารมณ์อ่อนไหวมากๆ ที่ได้นำเสนอมันให้กับผู้ชม เพราะมันเป็นลูกรักของเราค่ะ ฉันก็แค่หวังว่าเราจะทำให้แฟนๆ ภูมิใจกับมันและมอบตอนจบที่คู่ควรให้กับตัวละครเหล่านี้ที่พวกเรารักมากเหลือเกินน่ะค่ะ 

 

 

ประวัตินักแสดง 

 

ทอม ฮาร์ดี้ (เอ็ดดี้/เวน่อม/ผู้อำนวยการสร้าง/เรื่องราวโดย 

 

อวอร์ด ชิเวเทล เอจิโอโฟร์ (สตริคแลนด์) เป็นทั้งผู้กำกับ มือเขียนบทและนักแสดงรางวัลบาฟตา เขามีผลงานที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมมากมายทั้งในละครเวทีและภาพยนตร์ 

 

จูโน เทมเปิล (เท็ดดี้) ผู้ได้รับรางวัลนักแสดงดาวรุ่งจากเวทีบาฟตาปี 2013 ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลเอ็มมีและรางวัลแซ็ก อวอร์ด เป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการแสดงที่ได้รับการเสนอชื่อชิงสามรางวัลเอ็มมีของเธอในบทคีลลีย์ โจนส์ในซีรีส์แอปเปิล ทีวีพลัสเรื่องTed Lasso” ซึ่งเธอแสดงประกบเจสัน ซูเดคิส, ฮันนาห์ แว็ดดิงแฮมและเบรทท์ โกลด์สไตน์ ซีรีส์นี้ทำลายสถิติในฐานะคอเมดีน้องใหม่ที่ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลสูงสุดในประวัติศาสตร์เอ็มมีและสร้างสถิติในฐานะซีรีส์ออริจินอลที่มีผู้ชมสูงสุดประจำปี 2023 

 

ริส ไอฟานส์ (มาร์ติน) เป็นนักแสดงมากพรสวรรค์ ที่เป็นที่รู้จักจากผลงานที่ยาวนานของเขา แนวทางการแสดงคอเมดีที่โดดเด่นของเขาและความสามารถของเขาในการดำดิ่งลงไปในบทบาทที่ซับซ้อน น่าติดตามและน่าจดจำเสมอได้อย่างสง่างาม 

 

เพ็กกี้ ลู (คุณนายเฉิน) เป็นนักแสดงอาชีพที่พูดภาษาจีนกลางได้คล่องแคล่ว เธอเป็นผู้รับบทคุณนายเฉิน เจ้าของร้านสะดวกซื้อผู้ไม่เหมือนใครในไตรภาค Venom แม้ว่าทั้งคู่จะแตกต่างกันสุดขั้ว แต่คุณนายเฉินและเอ็ดดี้/เวน่อมต่างก็มีทัศนคติต่อชีวิตที่ตรงไปตรงมาและจริงจัง ที่เต็มไปด้วยความจริงที่ซื่อสัตย์ เรียบง่ายและตรงไปตรงมาเหมือนๆ กัน และกลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว 

 

 

ประวัติทีมผู้สร้าง 

เคลลี มาร์เซล (ผู้กำกับ/บทภาพยนตร์/เรื่องราว/ผู้อำนวยการสร้าง) แจ้งเกิดได้สำเร็จเมื่อซีรีส์ “Terra Nova” ตกเป็นที่แย่งชิงในการประมูล และลงเอยด้วยการที่สตีเวน สปีลเบิร์กเป็นผู้อำนวยการสร้างมันในฐานะซีรีส์ 13 เอพิโซด มูลค่า 60 ล้านปอนด์ สำหรับทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ หลังจากนั้น มาร์เซลก็ได้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง Saving Mr. Banks ที่เล่าเรื่องราวจริงที่ไม่ธรรมดาของการต่อสู้ดิ้นรนนานยี่สิบปีเพื่อนำ Mary Poppins สู่จอเงิน Saving Mr. Banks อำนวยการสร้างโดยวอลท์ ดิสนีย์ พิคเจอร์สและรูบี้ ฟิล์มส์ ภายใต้การกำกับของจอห์น ลี แฮนค็อกและนำแสดงโดยทอม แฮงค์, เอ็มมา ธอมป์สันและโคลิน ฟาร์เรล ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตาสาขาภาพยนตร์อังกฤษยอดเยี่ยมและตัวเคลลีเองก็ได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลบาฟตาสาขาผลงานเปิดตัวดีเด่น หลังจากนั้น เธอก็ได้ดัดแปลงผลงานที่เป็นปรากฏการณ์แห่งวงการวรรณกรรมของอี. แอล. เจมส์เรื่อง Fifty Shades of Grey ให้กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ถล่มทลายในบ็อกซ์ออฟฟิศสำหรับยูนิเวอร์แซล ด้วยรายได้ 571 ล้านเหรียญทั่วโลก มาร์เซลได้ทำงานในภาพยนตร์ดัดแปลงเรื่อง Venom ของโซนี พิคเจอร์สในฐานะหนึ่งในทีมเขียนบทและหลังจากนั้น เธอก็ได้ควบคุมงานสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ Venom กวาดรายได้ไปกว่า 855 ล้านเหรียญทั่วโลก เธอได้เขียนบทและอำนวยการสร้างซีเควลเรื่อง Venom: Let There Be Carnage ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับเจ็ดของปี 2021 ในปี 2023 ซีรีส์แปดตอนทที่มาร์เซลดัดแปลงจากนิยายเรื่อง “The Changeling” ของวิคเตอร์ ลาแวล ซึ่งเธอบริหารงานและควบคุมงานสร้าง ได้แพร่ภาพทางแอปเปิล ทีวีพลัส ผู้กำกับเมลินา มัตซูคาสและมาร์เซลได้รับรางวัลออเทอร์ อวอร์ดจากอินดี้ไวร์ในปี 2023 จากซีรีส์ดังกล่าว 

 

อาวี อารัด (ผู้อำนวยการสร้าง) ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการและซีอีโอของมาร์เวล สตูดิโอส์ ซึ่งเป็นแผนกภาพยนตร์และโทรททัศน์ของมาร์เวล เอนเตอร์เทนเมนต์และซีซีโอของมาร์เวล เอนเตอร์เทนเมนต์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2006 อารัดได้ออกไปก่อตั้งบริษัทโปรดักชันของตัวเองในนามของอารัด โปรดักชันส์, อิงค์. อารัดเป็นแรงขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังการนำตัวละครจากหนังสือการ์ตูนที่โด่งดังที่สุดของมาร์เวลามากมายขึ้นสู่จอเงิน ด้วยประวัติผลงานที่เต็มไปด้วยความน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ที่เปิดตัวด้วยการทำรายได้อันดับหนึ่งในบ็อกซ์ออฟฟิศหลายเรื่อง 

 

แมทท์ โทลมัค (ผู้อำนวยการสร้าง) ดำรงตำแหน่งประธานของโคลัมเบีย พิคเจอร์ส ที่ซึ่งเขาได้ดูแลงานภาพยนตร์และแฟรนไชส์ยอดนิยมมากมาย เช่น Spider-Man ของแซม ไรมี, The Da Vinci Code, Talladega Nights, Superbad, Moneyball และ ฯลฯ นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทโปรดักชันของตัวเอง เขาก็กลายเป็นหนึ่งในผู้อำนวยการสร้างที่ไว้วางใจได้มากที่สุดของแฟรนไชส์ภาพยนตร์และซีรีส์ที่พลาดไม่ได้ ผลงานของเขาในฐานะผู้อำนวยการสร้างและผู้ควบคุมงานสร้างกวาดรายได้ไปกว่า 8.5 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศ 

 

เอมี ปาสคัล (ผู้อำนวยการสร้าง) ได้ก่อตั้งปาสคัล พิคเจอร์สหลังจากที่เธอออกจากโซนีในปี 2015 นับตั้งแต่นั้นมา เธอก็ได้อำนวยการสร้างไตรภาค Spider-Man ซึ่งรวมถึง No Way Home ที่กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลเป็นอันดับหก 

 

ฮัทช์ ปาร์คเกอร์ (ผู้อำนวยการสร้าง) เป็นผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์และโทรทัศน์ ผู้ซึ่งผลงานภาพยนตร์กวาดรายได้ไป 3.69 พันล้านเหรียญในบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจาก Venom: The Last Dance แล้ว ปัจจุบัน เขายังอยู่ระหว่างการทำงานในขั้นตอนโพสต์ในภาพยนตร์เรื่อง The Amateur ที่นำแสดงโดยรามี มาเล็คอีกด้วย โปรเจ็กต์ล่าสุดของเขารวมถึง Lyle, Lyle, Crocodile, Venom: Let There Be Carnage และภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมเรื่อง Logan 

“VENOM: THE LAST DANCE” 

Production Information 

 

In Venom: The Last Dance, Tom Hardy returns as Venom, one of Marvel’s greatest and most complex characters, for the final film in the trilogy. Eddie and Venom are on the run. Hunted by both of their worlds and with the net closing in, the duo are forced into a devastating decision that will bring the curtains down on Venom and Eddie’s last dance.  

 

Venom: The Last Dance stars Tom Hardy, Chiwetel Ejiofor, Juno Temple, Rhys Ifans, Stephen Graham, Peggy Lu and Alanna Ubach. The film is directed by Kelly Marcel from a screenplay she wrote, with story by Hardy and Marcel. The film is produced by Avi Arad, Matt Tolmach, Amy Pascal, Kelly Marcel, Tom Hardy and Hutch Parker. 

 

Venom: The Last Dance has been rated PG-13 by the Motion Picture Association for intense sequences of violence and action, bloody images and strong language. The film will be released in US theaters nationwide on October 25, 2024.  

 

TIL DEATH DO THEY PART 

For director Kelly Marcel, Venom: The Last Dance is a lot of things: the climax of a thrilling trilogy, a high-stakes showdown against an unstoppable alien threat … and the most lethal bromance in the galaxy. 

 

“The Venom trilogy is a classic rom-com, really,” Marcel says, laughing. “Eddie Brock and Venom meet in the first film. In Venom: Let There Be Carnage, they’ve got the seven year itch and they break up. Now, as we conclude their story, they have finally learned to live with each other, they’ve finally reached symbiosis, but will they be able to stay together?” 

 

Venom: The Last Dance picks up where the previous film left off, with Eddie and Venom on the run after defeating Cletus Kasady and his symbiote, Carnage. That showdown revealed Venom’s existence – not just to authorities on Earth but to a ruthless adversary deep in the cosmos. “Eddie and Venom have been exposed to the outside world because of the massive fight at Grace Cathedral,” Marcel says. “Their escape means that The Last Dance is a road trip movie. They’re being chased not only by people from our world, but also by powerful forces from Venom’s home world, Klyntar. The longer Eddie and Venom stay together, the more of a threat they pose to the entire planet.” 

 

Marcel, who co-wrote the last two Venom films as well as served as Executive Producer on Venom and Producer on Venom: Let There Be Carnage, makes her directorial debut with Venom: The Last Dance. As she stepped into the role of director, Marcel was excited to continue her longtime collaboration with Tom Hardy, who plays both Eddie and Venom. Marcel and Hardy developed a story for Venom: The Last Dance, which Marcel used to write the screenplay. “Tom and I have a really good language with each other,” Marcel says. “He understands my writing, and I know how to build characters for him that he enjoys playing. For The Last Dance, we spent a week in a hotel in London just bashing out the story from morning ‘til morning. Tom and I agreed that this movie needs to be the biggest, most amped up Venom of them all, and we’re lucky the studio trusts us to make it in the way that we see it and feel it. 

 

“Working with Tom is just really fun,” Marcel continues. “He’s one of my best mates, and he’s incredibly smart. He understands these characters inside and out, and he’s a fountain of ideas. It’s amazing.” 

 

Marcel and Hardy made sure to keep their storytelling grounded in what fans love about the Venom saga. “We’re very inspired by the comics, and we wanted to listen to the fans and see where they want this story to go next,” Marcel says. “But we knew that we were going to be concluding this trilogy, and we wanted to make it emotional. We wanted to take Venom and Eddie’s relationship to the next level.” 

 

At the heart of that relationship is Eddie himself. “Eddie Brock is a pretty selfish guy when you first meet him in Venom,” says Marcel. “He destroys his relationship by lying to his fiancée and ending her career. He’s a journalist who enjoys his own face and fame, and Venom completely destroys all of that and strips him down to his basic self. In Venom: The Last Dance, Eddie is older and wiser, and he’s learned so much more patience and tolerance. He’s learned how to really love someone.” 

 

But some things never change. Venom hasn’t lost the pure, unbridled id that made him so much fun in the first two films—although he has evolved. “Venom doesn’t have a filter,” says Marcel. “He just does what he wants. Eddie is the one that’s constantly trying to rein in this mad, joyful creature who isn’t burdened by societal norms. But what’s interesting in this movie is that Venom has had to grow up a bit. He’s learned some fear, and he does have some worry. He ultimately has to make a very tough decision.” 

 

Venom’s character didn’t just come from the script or comics. During production on the first Venom film, Hardy played a pivotal role in bringing the symbiote to life—and that has continued throughout the series. “Tom played around with lots of different voices, and that’s where Venom started,” says Marcel. “He hit on the right voice, and once we heard it, it lent itself to Venom’s bombastic dialogue. That voice came from a little voice note recording that Tom sent, saying, ‘I think he sounds like this.’” 

 

From that first voice memo, Hardy was able to develop Venom’s character both on the page and on the set. “Tom and I do a lot of improvisation,” says Marcel. “Tom wears an earpiece on the set that you can’t see, and he’ll record what is written for Venom on the page. Then we put Venom into his ear so that he can play to the voice in his head. I can also speak to him in his ear, so if I come up with a good line in the moment, I can put that line down in his ear, and he’ll bat it back and continue the scene.”  

 

On most films with CG characters, the VFX team is on set to place specific markers so the actor knows where their eyeline should be, but the Venom filmmakers put this decision in Hardy’s hands. “We don’t mark the location of Venom’s head when it’s outside of Eddie’s body,” Marcel continues. “We let Tom be free with where he places Venom while they’re interacting, and we just stay on our toes to keep Venom in frame. I’ve never seen anybody do what he’s able to do in those moments.” 

 

Together, Eddie and Venom give Hardy a chance to portray a relationship that’s part spectacular, part absurd, and genuinely moving. “Eddie and Venom love each other,” Marcel says. “They’re best friends. You’ve got to sacrifice a lot if you’re going to give up your body to an alien, if you’re going to share your inner and outer self with a great big toddler – albeit an especially dangerous one. Eddie and Venom bring out the best in each other.” 

 

Supporting Venom and Eddie is a star-studded cast of characters, both human and alien. Searching for Eddie and Venom is General Strickland, played by Chiwetel Ejiofor. “General Strickland runs the military wing of a highly secret facility,” says Ejiofor. “He’s very stringent, very organized, and by the book. He’s not going to suffer any kind of wayward thinking, any kind of risk-taking. It’s through him that we begin to understand the subterfuge and misdirection that’s going on in the military.” 

 

In his mission to capture symbiotes, Strickland butts up against the scientific wing of the facility, including the more idealistic Dr. Teddy Paine. “My character has a traumatic past,” says Juno Temple, the Ted Lasso star who plays Teddy. “She had a twin brother who was absolutely fascinated with the great beyond and extraterrestrials. The minute she lost him, she swore that she would spend the rest of her life trying to get answers, and that’s how she ends up working at this top-secret facility.” 

 

“Strickland is charmed by Teddy in his own way,” says Ejiofor. “But he finds her to be more laissez-faire than he’s comfortable with. She and the other scientists are running things on these emotional levels that he doesn’t understand, and he wants to make sure everything’s done efficiently. He wants to make sure everybody gives this facility the respect he thinks it needs in order to operate correctly.” 

 

“Strickland has more power than Paine does,” says Temple. “And he has the ability to literally destroy all of her work, her entire lab, and silence all the people that work in it. That’s a threat she’s constantly navigating in her work.” 

 

As Strickland pursues symbiotes, Eddie and Venom are traveling across the country. Along the way, they meet Martin, played by Rhys Ifans, a father who gives Eddie and Venom a lift. “Martin is fascinated by UFOs and aliens and extraterrestrial life,” says Ifans. “So he decides to pack in his humdrum job in IT and take the family on the road to Area 51 to see if they can spot an alien. But he isn’t just selfishly dragging his family along. He’s genuinely invested in them living a curious and free and interesting life where they get to follow their dreams.” 

 

Peggy Lu reprises her role as the fan-favorite convenience store owner Mrs. Chen. In Venom: Let There Be Carnage, Mrs. Chen becomes a host for Venom, and in Venom: The Last Dance, she levels up again. “Mrs. Chen isn’t working at her convenience store anymore,” says Lu. “She’s now a high roller, partying in Vegas. Then she runs into Venom and Eddie and the story goes from there.” 

 

“The fan reaction to Mrs. Chen in the first two Venom films was crazy,” says Marcel. “People love her. But we put her in these spectacles and this drab costume, and Peggy’s such a vibrant, amazing person who, it turns out, can dance. So, I took Mrs. Chen out of San Francisco. It’s probably the craziest scene in the movie, where she and Venom end up doing a little dance routine together.” 

 

The best part of that dance scene? “I get to fly,” Lu says. 

 

Alanna Ubach joins the cast as Martin’s wife. “Alanna’s comedy timing is spot on,” says Marcel. “She’s been working for so long and she has an amazing technique. She and Martin have two children and a dog, who was named after Tom Hardy’s dog, and that family is the heart and soul of the movie alongside Eddie and Venom. They’re both funny and sweet, and Alanna really brought both those levels.” 

 

CREATING THE WORLD OF VENOM 

As one of Marvel’s most morally complicated characters—and a character who is brought to life through visual effects—Venom needed a first-rate VFX team. 

 

“One of our challenges is getting Venom to emote,” says VFX supervisor John Moffatt. “He’s got quite a different biology to his face. He’s got a massive smile, huge eyes, and no ears. So when you animate that, you have to use different gestures. One of the things that Kelly, Tom, and I have been working hard on is getting a CG character to portray an emotional performance, since so much of this movie is an emotionally charged story.” 

 

To get that performance, Moffatt worked closely with Hardy. “We’re trying to lean into Tom’s performance as much as possible to allow him to play against Venom,” Moffatt says. “He’s really collaborative. We let his performance drive what we’re doing, rather than trying to say, ‘Hey, visual effects needs this or that.’ It’s all about keying into Tom’s performance.” 

 

Moffatt also developed the other symbiotes in the film, and the variety of creatures that host Venom. “As for Venom’s hosts, I remember on first reading the script, I was like, ‘Wow, a Venom horse! A Venom fish!’ We’re having fun with the way that a symbiote can morph or combine with another creature. How do we portray Venom’s sense of humor or behavior into those other creatures? What effect does that have on Eddie? The scene with the horse is especially cool. It’s a really fun sequence.” 

 

Of course, Venom wouldn’t be Venom without the colossal action scenes that make it a must-see on the big screen. “The climactic battle in the third act is probably the work with the most scope,” Moffatt says. “It’s all outside, it’s at night, it’s all on a practical location. There are other sequences where we’re going to Vegas, we’re going to Mexico, we’re on an airplane. There’s a sequence with a dogfight. We’ve got fantastic walk-and-talk sequences in the desert with Tom and Venom. The movie is massive in scope.” 

 

Venom: The Last Dance also relies on strong production design, especially in the military installation. “Chris Lowe, our production designer, had to create a whole plethora of sets,” says Marcel. “The underground military base had to feel like something that could exist in our world while having that slight sci-fi edge. That was the hardest set for Chris because it was absolutely massive. It was three stories. We wanted to be able to move through different parts of the set within scenes, so he built the entire complex.” 

 

“They’ve built this vast, militarized citadel in the middle of the desert,” says Ifans. “And it feels really authentic and sinister. I think it’s one of the biggest sets in terms of land mass that I’ve ever worked on. It’s very much its own little city.” 

 

“We built the whole of the interior as a big composite,” says Lowe. “But it also had to look like it could be packed up and moved at any time. It was almost like a military base on wheels. You get this idea that the soldiers and scientists arrived, set up, and could leave at a moment’s notice.” 

 

Despite the impressive military set, though, Lowe’s favorite set is the Vegas penthouse where Mrs. Chen reunites with Venom. “It’s very kitsch, very Vegas,” says Lowe. “I took lots of tropes from the Paris Hotel—the sky on the ceiling, the gold balustrades, the marble and neon. That was one of the most fun sets to design.” 

 

The variety of sets and locations made the actors’ stunt work challenging but exciting, says stunt coordinator James M. Churchman. “Tom is frustratingly talented,” Churchman laughs. “We put him on a motorcycle, and he’s a pretty accomplished street rider, but the dirt he was riding on was foreign to him. Still, within a day he’s sliding the bike around. His arc for learning is so fast. If you don’t keep up with him and keep pushing him, then he’s going to move on. I love it.”  

 

One of Churchman’s favorite sequences takes place in river rapids. “We created a big river piece tank in the back lot,” Churchman says. “Tom did most of his own stuff in the river. He was chased by six special operatives who had all kinds of tech. They had underwater jet packs, stun guns, sound guns, net guns. We flew them in on wires, simulating them coming in on an Osprey. Every sequence is this marriage of practical effects, practical action, and visual effects.” 

 

Director of Photography Fabian Wagner was up to the challenge of capturing all the elements of each sequence and scene. “We have lots of different locations and lots of different looks,” Wagner says. “Since this movie is a road trip, there’s constant movement with a lot of choreography, but we also have some very intimate scenes, which are beautiful. We’ve been using everything from the usual cranes doing some epic wide shots, but also a lot of handheld work. It’s a very interesting mixture.” 

 

Wagner is especially happy that audiences can see the film in IMAX. “I love the cinema and I love the experience you get from sitting in the cinema,” Wagner continues. “It’s a completely different experience to sitting at home in front of your TV. I think this movie has a whole new scope to it that audiences will appreciate on the IMAX screen.” 

 

Each member of the cast and crew is keenly aware that Venom: The Last Dance is more than just one movie. It’s the final chapter of an odyssey. “It’s a real honor to bring this story to an end,” says Marcel. “It’s a really emotional conclusion to the trilogy, and it feels very emotional for me and Tom to bring it to the audience, because it’s our baby. I just hope we’ve done the fans proud and given a fitting ending to these characters that we love so much.” 

 

 

ABOUT THE CAST 

 

Tom Hardy (Eddie / Venom / Producer / Story by) 

 

BAFTA Award winning actor, writer and director Chiwetel Ejiofor (Strickland) has a breadth of critically acclaimed work across stage and screen.  

 

Juno Temple (Teddy), recipient of the 2013 BAFTA EE Rising Star Award, an Emmy nominee and a SAG Award nominee, became widely known for her three-time Emmy nominated performance as Keeley Jones in Apple TV+’s “Ted Lasso,” in which she starred alongside Jason Sudeikis, Hannah Waddingham, and Brett Goldstein, among others. The show broke records as the most-nominated freshman comedy in Emmy history, and set a streaming record for most viewed original series in 2023.  

  

Rhys Ifans () is a gifted actor known for his enduring presence, his distinctive approach to comedy and his ability to elegantly disappear into compelling and complex roles that are always memorable.  

 

Peggy Lu (Mrs. Chen) is a professional actor fluent in Mandarin Chinese who can be seen as the incomparable Mrs. Chen, owner of a convenience store, in the Venom trilogy. Though they couldn’t be more different, Mrs. Chen and Eddie/Venom share the same straightforward, no-nonsense approach to life filled with blunt, simple, and honest truths and become fast friends. 

 

ABOUT THE FILMMAKERS 

 

Kelly Marcel’s (Director / Screenplay / Story / Producer) breakthrough came when her TV show “Terra Nova” was the subject of a bidding war, culminating in Steven Spielberg producing it as a £60m 13-episode series for Twentieth Century Fox. Marcel subsequently wrote the feature screenplay Saving Mr. Banks, charting the extraordinary and true story of the twenty year struggle to bring Mary Poppins to the screen. Saving Mr. Banks was produced by Walt Disney Pictures & Ruby Films, directed by John Lee Hancock, and starred Tom Hanks, Emma Thompson, and Colin Farrell. The film was nominated for a Best British Film BAFTA and Kelly was nominated for the BAFTA for Outstanding Debut. She followed that by adapting E.L. James’ literary phenomenon Fifty Shades of Grey into an international box-office smash for Universal, taking $571 million worldwide. Marcel came on to work on Sony Pictures’ Venom adaptation as one of the writers, and subsequently executive produced the film.  Venom earned more than $855 million globally.  She wrote and produced the sequel, Venom: Let There Be Carnage, which was the seventh-highest grossing film of 2021. In 2023, Marcel’s eight-part television adaption of Victor Lavelle’s novel “The Changeling,” which she showran and executive produced. aired on Apple TV+. The director Melina Matsoukas and Marcel received IndieWire’s 2023 Auteur Award in recognition of the series. 

 

Avi Arad (Producer) was the Chairman and Chief Executive Officer of Marvel Studios, the film and television division of Marvel Entertainment, and Chief Creative Officer of Marvel Entertainment. In June of 2006, Arad branched off to form his own production company – Arad Productions, Inc. Arad has been a driving force behind bringing many of Marvel’s most famous comic book characters to the screen, with a track record that has been nothing short of spectacular, including a string of No. 1 box office openings. 

 

Matt Tolmach (Producer) was the longtime president of Columbia Pictures, where he oversaw numerous hits and franchises such as Sam Raimi’s Spider-Man films, The Da Vinci Code, Talladega Nights, Superbad, Moneyball, and many others. Since launching his production company, he has become one of the most reliable producers of franchise movies and must-see series. His body of work as a producer and executive producer exceeds $8.5 billion in box office. 

 

Amy Pascal (Producer) founded Pascal Pictures following her departure from Sony in 2015. Since then, she has produced the trilogy of Spider-Man movies, including No Way Home, which has become the sixth-highest-grossing movie of all time.  

 

HUTCH PARKER (Producer) is a film and television producer whose films to date have garnered $3.69 billion in worldwide box office. In addition to Venom: The Last Dance, he’s currently in post on The Amateur starring Rami Malek. His recent projects include Lyle, Lyle, Crocodile, Venom: Let There Be Carnage, and critically-acclaimed features Logan