บ่าวสาวป้ายแดง เจี๊ยบ ชมพูนุช-ปูไข่ พงศ์สิรี ควงกันมาเปิดใจครั้งแรกหลังจัดงานแต่งสุดชื่นมื่นไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เปิดเส้นทางความรักสุดมาราธอนกว่า 11 ปีที่บอกลเยว่าไม่เคยทะเลาะกันเลย พร้อมเผยแพลนในอนาคตเรื่องลูกพร้อมมีเลยหรือไม่ ? ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ เบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกร

ตอนนี้เป็นสามี-ภรรยาสมบูรณ์แบบ คุ้นชินหรือยัง ?

เจี๊ยบ : ไม่ชินเลยค่ะ อีกนานมั้ย เรียกแฟนมาตลอด ตอนนี้สามีภรรยาแล้วมันดูเขินๆ

 

11 ปีที่คบกันแพลนการแต่งงานกันยังไงบ้าง ?

ปูไข่ : จริงๆคุยกันตั้งแต่ปีแรกแล้ว มันไม่มีอะไรจะบอกว่าพร้อมเมื่อไหร่จนกว่าจะถึงเวลาจริงๆ

เจี๊ยบ : ตอนที่เราคบกันไม่ได้อายุน้อยๆแล้ว เราอายุจะ 30+ แล้ว เลยมานั่งคุยกันว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้คิดว่าจะจริงจังกันมั้ย ถ้าไม่จริงจังอย่าคบดีกว่าเพราะว่าเสียเวลาไม่ใช่เด็กๆแล้ว เป็นการคุยกันตั้งแต่วันแรกมันมองไปในทิศทางเดียวกัน

 

จะแต่งกันตั้งแต่ปีแรก 11 ปี ยาวนานามากนะ ?

เจี๊ยบ : เหมือนถามกันว่าระยะยาวมองเห็นเจี๊ยบอยู่ปลายทางมั้ย เราไม่ได้ใช้คำว่าแต่งงาน ปูเห็นเจี๊ยบอยู่ปลายทางนั้นมั้ย คนที่จะอยู่ดูแลกัน ถามเพื่อความมั่นใจของเราด้วย 3ปี 2ปี เรามานั่งรีเช็คทีนึง

แล้วอะไรตัดสินใจในปีที่ 11 ว่าจะแต่งงาน ?

ปูไข่ : เคยคุยกันว่าถ้าโลกนี้ไม่มีโควิดอาจจะเร็วกว่านี้ แต่เผอิญโควิดมา ผมสะดุดใหญ่เลยจะหาตังค์ที่ไหนมาทำชีวิตให้ดีขึ้น พอมาถึงตอนนี้มันก็มีอะไรที่ดีขึ้น ชีวิตก็มีเส้นทางให้เลือกมากมาย คิดว่าตอนนี้น่าจะเหมาะที่สุด

 

เห็นว่าไม่ได้แพลนใช่มั้ย ไม่ได้มีการคุกเข่าขอแต่งงาน ?

ปูไข่ : ไม่ได้แพลน

เจี๊ยบ : ปูไข่คือไทป์ผู้ชายแบบ 100% ผู้ชายแบบให้เขาทำแบบนั้นไม่ได้แล้วเราก็ไม่ต้องคาดหวัง เคยคุยกันนานมากปูไข่บอกว่าเจี๊ยบจำไว้เลยนะ ขอเดียวที่ปูไข่จะขอเจี๊ยบคือโดดร่มลงมาแล้วก็ขอแต่งงาน

ปูไข่ : ถ้าทำเหมือนในทีวีในหนังมันก็มีคนทำเป็นล้านคนแล้วไง

แต่ก็ขอขึ้นมาจนได้แต่ขอด้วยวิธีแบบไหน เล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟังหน่อย ?

ปูไข่ : พวกผมเดินไปดูโบสถ์จองวัดอะไรก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องแต่งงาน ซีเคว้นท์ไม่ได้เรียง

เจี๊ยบ : วันนั้นกินข้าวกับเพื่อน เพื่อนก็ถามสารทุกข์สุขดิบธรรมดา เพื่อนรอบตัวแต่งงานกันหมดแล้วหนูเป็นคู่สุดท้ายของกลุ่มแทบจะทุกกลุ่ม นี่ก็เงียบไปแล้วก็พูดกับเพื่อนว่าปีหน้าแล้วกัน เพื่อนถามก็พูดออกมาปีหน้าก็แล้วกัน เจี๊ยบก็หันไปถามว่านี่คือพูดจริงๆหรือเปล่า เขาก็บอกว่าจริงๆ เดี๋ยวปีหน้าแต่งแล้ว

ปูไข่ : เคยถ้ามคุณเจี๊ญบว่าอยากจะแต่งก่อนอายุเลขบางเลขของเจี๊ยบเพราะเจี๊ยบบอกว่าถ้าจะแต่งงานอยากอยู่ในสภาพที่สวยที่สุดได้อยู่ ถ้ามากกว่านี้จะเหี่ยวแล้ว อันนี้คือคุยไว้นานมากแล้วนะ บังเอิญมันเป็นช่วงเวลานี้พอดี เราเคยพูดไว้แล้วเราก็ต้องทำให้ได้

เราตั้งใจจริงๆมั้ยว่าจะปีหน้า ?

ปูไข่ : ตั้งใจจริงๆ จริงๆมันเลยในสิ่งที่เขาพูดไปแล้วประมาณปีนึง แต่มันไม่พร้อมจริงๆ ด้วยโควิดด้วยมันสะดุดนิดนึง มันกำลังกลับมา มันเลยมาแล้วแต่เรารับปากแล้วเราต้องทำให้ได้

 

แต่ละวันที่เลือกดูฤกษ์มาแล้วทั้งนั้น ?

ปูไข่ : ไม่ดูหรอก เอาสะดวก ผมคิดอย่างนี้ว่าแต่งงานคู่รักส่วนมากจะมีปัญหาเมื่อแต่งงานไปหลายๆปีเพราะจะมีคนนึงจำไม่ได้ว่าแต่งงานวันที่เท่าไหร่ ผมเลยเลือกวันเกิดผม ผมไม่ลืมแน่นอน

 

เราบอกผู้ใหญ่ก่อนมั้ยหรือเราตัดสินใจก่อนเลย ?

ปูไข่ : ตัดสินใจก่อนเลยแล้วค่อยบอกผู้ใหญ่

 

คุณพ่อคุณแม่แต่ละฝั่งว่ายังไง ?

ปูไข่ : ไม่ว่าอะไรเลย

เจี๊ยบ : ชิลค่ะ คือเหมือนบ้านเราชิลกันทั้ง 2 บ้าน อาจจะเพราะเราคบกันมานานแล้วเขาก็เห็นแล้วว่าพัฒนาการของเรามันดีขึ้นไม่ได้ไปทำอะไรที่ไม่ดี

 

เพื่อนๆล่ะตื่นเต้นมั้ย ?

เจี๊ยบ : ที่สุด

ปูไข่ : ตอนแรกไปจองก่อนวันเกิดผมปีนึงแต่คิดว่ายังไม่พร้อมจะบอกเพื่อน มานั่งคำนวนว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนจะไปต่างประเทศกลัวเขาไม่อยู่

เจี๊ยบ : รีแอคเพื่อนหนูคือร้องไห้ทุกคน พอบอกวก่าจะแต่งงานนะ ทุกคนสะอื้นหมด แล้วเราเป็นคนเห็นเพื่อนร้องไห้ไม่ได้เราจะร้องไห้ตาม จนปูไข่หันมาถามว่า เดี๋ยวนะอันนี้มาขอเจี๊ยบแต่งงานไม่ได้มาขอเจี๊ยบไปตาย ร้องไห้ทำไม

ปูไข่ : ไปบอกพี่เป้ วิศวะ พี่เป้ไม่เชื่อว่าจะแต่ง นั่งอยู่ครึ่งชั่วโมงเขาไม่เชื่อจริงๆนะ พี่เป้บอกว่าเพ้อเจ้ออะไร

 

มีจัดงานก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ?

เจี๊ยบ : ใช่ค่ะ ครั้งแรกเป้นงานปาร์ตี้ที่แสมสาร พอดีเจี๊ยบมีพี่เคารพรักเขาเป็นเจ้าของรีสอร์ท เขาเคยพูดกับเจี๊ยบกับปูตั้งแต่ก่อนแต่งงานว่าถ้าวันไหนจะแต่งงานกันเขาจะปิดรีสอร์ทให้ 1 คืน พอเขารู้เขาก็บอกว่าเอาไปเลย เอาวันไหน เป็นของขวัญวันแต่งงาน เจี๊ยบก็เลยรวบรวมเพื่อนๆที่เขารู้เรื่องราวเราตั้งแต่วันแรกเหมือนเป็นการเลี้ยงขอบคุณก็จัดเป็นซิทดาวน์ดินเนอร์เล็กๆให้กับทุกคน อันนี้เพื่อนๆทำให้หมดเลย ชุดเพื่อนก็เอามาให้

 

เห็นว่ามีเสียน้ำตาด้วย ?

เจี๊ยบ : บรรยากาศทุกอย่างมันดีหมดเลย พอมันนั่งเป็นซิทดาวน์ดินเนอร์จริงจัง เจี๊ยบก็เลยขอเพื่อนที่สนิท 2 คนสปีชให้เจี๊ยบนิดนึง 1 ในนั่นก็มีพี่นุ่น วรนุช แล้วก็มี จอย ชลธิชา กับ ซาย กรรณิกาซาย ให้เป่ายิ้งฉุบกัน แต่ก็กังวลว่าพี่นุ่นจะพูดให้หรือเปล่าเพราะว่าด้วยความสนิทกันมากๆของเจี๊ยบกับพี่นุ่นเราไม่ใช่คนที่คุยเยอะทั้งคู่ พี่นุ่นก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ แต่ไปยกมือไหว้ว่า วอๆพูดให้เจี๊ยบหน่อยได้ไหม ขอแค่วันเดียวแล้วสรุปเขาพูดให้ มันมีค่ามากเลย แค่เขาพูดว่า “พี่” เจี๊ยบก็ร้องไห้แล้ว มันเป็นโมเม้นท์ที่มีความสุขมาก

แล้ววันจริงล่ะ ที่เพิ่งเกิดขึ้น ?

เจี๊ยบ : วันจริงๆ เจี๊ยบออเดอร์เพื่อนๆไว้ว่าห้ามร้องไห้ เจี๊ยบหันไปหาใครห้ามโช้ค เพราะถ้าเจี๊ยบหันไปแล้วเห็นโช้คคือเจี๊ยบจะร้องด้วย เมคอัพมันเสียหนูกลัวไม่สวย

 

เจ้าบ่าวล่ะมีน้ำตามั้ย ?

ปูไข่ : มีเสียงสั่น สำหรับผม ผมเชื่อมั่นในคำมั่นสัญญาในสิ่งที่ศาสนาผมพูดถึงมันเป็นการตั้งใจพูดจริงๆว่าสิ่งที่เราจะปฎิบัติกับเขาตลอดชีวิตมันเป็นยังไง อยากจะพูดให้มันชัดเจนแล้วทำมันให้ได้ มันก็เลยมีเสียงสั่น

 

อีกเรื่องนึงคือแหวนไม่มีการเซอร์ไพร์สกัน ?

ปูไข่ : ใช่ คือตอนที่บอกเพื่อนๆว่าจะแต่งงานยังไม่ได้ซื้อ แล้วผมรู้สึกว่าแหวนถ้าผมเลือกให้เขา เขาจะใส่หรอ มันต้องใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงมั้ย

เจี๊ยบ : หนูเลือกเองอ่ะดีแล้ว ปูไข่เป็นผู้ชายแบบ 100% หนูก็แฮปปี้ไงหนูอยากได้แบบที่หนูอยากได้

 

งานก็จัดเองหมดเลย ?

เจี๊ยบ : ทำเอง ตอนแรกที่คุยกันเรื่องแต่งงานเหตุผลที่ยังไม่อยากแต่งงานเพราะว่าค่าใช้จ่ายเยอะมากและของที่ใช้ในงานแต่งงานเราจะอยู๋กับมันแค่ 3 ชั่วโมงแล้วเราก็จะทิ้งมัน รู้สึกว่าโลกมันร้อนอะไรประหยัดได้ก็ประหยัด คีย์ของเจี๊ยบคืออยากเซฟตังค์ในการทำงานแต่งงาน มันต้องได้ภาพที่อยากได้แต่เจี๊ยบต้องเป็นคนคุมงบประมาณทุกอย่างเอง เลยทำทุกอย่างเองหมดเลย มันไม่ยากแต่มันเยอะแล้วมันเหนื่อย เจี๊ยบก็จะมีน้องๆที่เป็นรันเนอร์ เจี๊ยบก็จะกระจายงานทุกคนทำอะไรบ้าง วันรุ่งขึ้นพี่จะปล่อยจอยแล้ว พี่จะมีหน้าที่เดินเข้างาน เจี๊ยบทำทุกอย่างเองงานมันออกมาเป็นตัวเจี๊ยบแบบ 100% ทุกคนเดินเข้าไปในงานก็จะพูดว่านี่มันคืองานแต่งงานเจี๊ยบ

2 คนนี้ไม่ดื่มก็เลยตัดสินใจว่า ?

เจี๊ยบ :  ตอนแรกตัดสินใจว่าจะไม่มีเครื่องดื่มในงานแต่งงาน แต่เพื่อนสายดื่มทุกคน หนูก็เลยมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์พอให้เพื่อนเป็นกระสัยเส้น ซักบ่ายสองค่อยเริ่มจิบแล้วสามโมงครึ่งก็กลับบ้านกันไป ถ้าไม่ผิดมีคนบอกว่าคนที่ไปเปิดบูธเครื่องดื่มคนแรกคือคุณเอมี่ กลิ่นประทุม ใช่มั้ยคะ เพราะน้องบอกว่าเหมือนเห็นคนที่เปิดบูธคนแรกคือคุณเอมี่ กลิ่นประทุม

 

จะมีทายาทเลยมั้ย ?

ปูไข่ : ยังครับ ขอเที่ยวก่อน อัดอั้นมานานแล้ว เก็บตังค์ทุกบาททุกสตางค์เพื่อมาจัดงาน ตอนนี้ขอสัญญากับเจี๊ยบเลยว่าจะเที่ยวให้กระจายเลย

เจี๊ยบ : เที่ยวไปเรื่อยๆเลยค่ะ เที่ยวจนกว่าจะไม่มีแรง ยังอยากไปอีกหลายๆที่ที่มันจะต้องใช้แรงในการท่องเที่ยว หนูว่าหนูไม่พร้อมแล้ว กระดูกมันจะพรุน

 

วันจดทะเบียน ?

ปูไข่ : กะว่าจะวันคริสต์มาส

 

แล้วนามสกุลเปลี่ยนมั้ย ?

เจี๊ยบ : อยากให้เปลี่ยนมั้ยคะ

ปูไข่  : แล้วแต่ยูเลย

เจี๊ยบ : ถ้างั้นยังไม่ได้คิดค่ะ จนกว่าจะถึงวันจดทะเบียนอาจจะต้องคิดวิเคราะห์แยกแยะอีกที

รักกันมา 11 ปี เป็นสามีภรรยากันแล้ว บอกความในใจกันหน่อย ?

ปูไข่ : สัญญาว่าจะพาไปเที่ยวรอบโลกเหมือนเดิมตามที่เคยพูดไว้ก่อน 11 ปีที่แล้ว อย่างสุดท้ายคือยูต้องรู้จักยอมปูทุกเรื่องทุกอย่างตลอดไปเหมือนที่ปูพูดไว้ในวันงานเข้าใจมั้ย

เจี๊ยบ : เจี๊ยบไปเที่ยวกับปูทุกประเทศ ขอบคุณมากตรงนี้เลยที่จะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้ จะรอไปแบบเที่ยวฟรีสบายๆ ไม่ทำอะไรมีหน้าที่เที่ยวอย่างเดียว ปูอยากเป็นผู้นำให้เป็นเลย จะเป็นผู้ตามที่ดีมาก เพราะว่าไม่อยากใช้สมองแล้ว

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/HVBgPRYd2nI?si=RZ8WjH4qfWwxSipp