รันทุกวงการ ส่งทุกไอเทม จัดเต็มทุกออเดอร์
จะจ็อบคน หรือจ็อบผี เดลิเวอรีพร้อมบริการ
“สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล”
ส่งตรงภาพยนตร์สยองฮาของหนึ่งในอาชีพที่มีพนักงานเยอะที่สุด
ทำงานอย่างอิสระที่สุด และลือว่าน่าจะเป็น “อาชีพที่เจอผีบ่อยที่สุด”
เมื่อ “แก๊งไรเดอร์” ที่กลัวผีสุดชีวิต
ต้องมาเจอ “ออเดอร์สุดเฮี้ยน” ที่มี “ความรัก” เป็นเดิมพัน
มิชชันสยองนี้เลยต้องทั้งปลุกใจ ปลุกความกล้า และปลุกพระมาสู้
นำทีมบุกโลเคชันสุดหลอนโดยทีมนักแสดงแถวหน้า
“มาริโอ้ เมาเร่อ” / “ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ”
“อาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์” / “โน่-ภูวเนตร สีชมภู” (เซียนหรั่ง)
การันตีความสนุกคลุกวงผีโดยผู้กำกับมากฝีมือ
“กังฟู-นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ”
เตรียมตัวรับความบันเทิงกับภารกิจสู้ผี ตะลุยวิญญาณ งานนี้…เพื่อเธอ
10 ธันวาคมนี้ ทุกพิกัดโรงภาพยนตร์
แนวภาพยนตร์ ฮอร์เรอร์-ไรเดอร์-คอมเมดี้
บริษัทผู้สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทดำเนินงานสร้าง แฮปปี้ แมน สตูดิโอ
อำนวยการสร้างบริหาร สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมการสร้าง จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ
ร่วมควบคุมการสร้าง ศิรฎา บุตรดาจักร
กำกับภาพยนตร์ นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ
บทภาพยนตร์ แฮปปี้ แมน ทีม
กำกับคิวบู๊ ไพโรจน์ บุญเกิดวรนนท์
กำกับภาพ ณัฐพงศ์ ภักดีศรี, อังศุมาลี เสนาไชย
ลำดับภาพ ชัชชวาล ตริวนาการ
ออกแบบงานสร้าง นพพร เกิดศิลป์
ออกแบบเครื่องแต่งกาย วัลลภา ตั้งมิตรเจริญ
แต่งหน้า เบ็ญจวรรณ์ สกุลพงศ์ชัย, คณิดา ธีรการุญนันท์
ทำผม ปุญญพัฒน์ ธรรมาลา, สาวิตรี สลามเต๊ะ
แต่งหน้าเทคนิคพิเศษ ธัมอาร์ต สตูดิโอ
ดนตรีประกอบ บานาน่า ซาวด์ สตูดิโอ
เทคนิคภาพพิเศษ เซอร์เรียล สตูดิโอ
บันทึกเสียง ห้องบันทึกเสียงรามอินทรา
ฟิล์มแล็บ กันตนา โพสท์ โปรดักชั่น (ไทยแลนด์)
ทีมนักแสดง มาริโอ้ เมาเร่อ, สโรชา จันทร์กิมฮะ, มารุต ชื่นชมบูรณ์,
ภูวเนตร สีชมภู
เรื่องย่อ
เรื่องราวสยองของ “แก๊งไรเดอร์เพื่อนซี้” อย่าง “นัท” (มาริโอ้ เมาเร่อ), “น้าไก่” (อาร์ต มารุต) และ “เสือยอด” (โน่ ภูวเนตร) ที่พร้อมให้บริการเดลิเวอรีทุกที่ ทุกเวลา ไม่เกี่ยงงาน การส่งของตอนกลางวันก็ดูปกติทั่วไป แต่พอตกกลางคืนทีไรพวกเขามักจะเจอ “ออเดอร์ประหลาด” ที่ถ้าไม่ได้มีคำขอพิเศษแปลกๆ ชวนเหวอ ก็ต้องโดนวัดใจกับปักหมุดโลเคชันเฮี้ยนๆ อยู่เสมอ ไม่รู้ว่าดวงชงหรือดวงสมพงษ์กับวิญญาณกันแน่
จนกระทั่งเมื่อ “นัท” หนุ่มไรเดอร์หล่อเกินเบอร์ได้รู้จักกับ “พาย” (ฟรีน สโรชา) สาวสวยมากเสน่ห์โดยบังเอิญ เพราะเขาเอาโทรศัพท์มือถือไปซ่อมที่ร้านของเธอพอดี แค่สบตานัทก็อยากจัดออเดอร์เลิฟส่งให้พายไม่เว้นแต่ละวัน แต่ยังไม่ทันได้อินเลิฟกันจริงจัง พายก็ดันหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา ทำให้สามหนุ่มไรเดอร์ต้องช่วยกันออกตามหา
แต่มันไม่ง่ายอย่างใจคิด เมื่อยิ่งตามหาก็ยิ่งมีผีแห่มาพัวพันให้หวีดกันไม่หยุดจาก GPS ลึกลับน่าขนลุกที่ขยันเด้งรัวสถานที่แปลกประหลาด ซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามันต้องมีอะไรเชื่อมโยงถึงการหายตัวไปของพายอย่างแน่นอน
แล้วงี้จะทำไงดี ผีก็ต้องหนี แต่สาวในฝันก็อยากเจอ สามหนุ่มไรเดอร์อย่างนัท, น้าไก่ และเสือยอด เลยต้องหาทางออกของมิชชันนี้ให้ได้ โดยไม่มีใครรู้เลยว่าความสยองที่อยู่ในเงามืดกำลังรอคอยพวกเขาอย่างใจจดใจจ่อ…
แก๊งแฮปปี้ไรเดอร์
“นัท” รับบทโดย “โอ้-มาริโอ้ เมาเร่อ”
หนุ่มหล่อแห่งวงการไรเดอร์ เป็นคนมองโลกในแง่ดี แถมมองเห็นผีอีกต่างหาก เขาจึงต้องคอยปักหมุดแจ้งจุดเฮี้ยนกะโหลกไขว้ เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้กับเพื่อนไรเดอร์ที่ต้องส่งของยามค่ำคืน และความคลั่งรักของนัททำให้เขาและเดอะแก๊งได้สัมผัสกับความหลอนซ่อนผีอย่างไม่คาดคิด
“คาแร็กเตอร์นี้มาจากตัว ‘พี่กังฟู’ (ผู้กำกับ) เลย พี่เขาเป็นคนเห็นผีคนหนึ่งก็จะดึงตรงจุดนี้มาใส่ในตัวละคร ‘นัท’ ด้วย เหตุการณ์บางอย่างในเรื่องก็เคยเกิดขึ้นจริงกับพี่เขา แต่การเห็นผีมาตลอดไม่ได้หมายความว่าเขาไม่กลัว เขาตกใจและกลัวอยู่ดี แต่ไม่ถึงขนาดที่กลัวจนทำอะไรไม่ได้ นัทไม่ได้มีภูมิหลังซับซ้อน เป็นคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำตามปกติ แต่เขายังไม่เคยมีความรัก พอเจอกับ ‘พาย’ (ฟรีน สโรชา) เขาก็เลยทุ่มเท จริงจัง จริงใจเต็มที่ เหมือนกับที่จริงใจและรักเพื่อนซี้อย่าง ‘น้าไก่’ (อาร์ต มารุต) และ ‘เสือยอด’ (โน่ ภูวเนตร)
เรื่องนี้ผมชอบความสัมพันธ์ของ ‘สามไรเดอร์’ ครับ เป็นความสัมพันธ์ที่ผ่านเวลามาเยอะ ใช้ชีวิตด้วยกันมาแล้ว เข้าใจในอาชีพ เข้าใจในสังคมที่เราอยู่กันแบบนี้ เป็นเพื่อนรักกัน ต่อให้สถานการณ์แย่มากแค่ไหน น่ากลัว หรือต้องแลกกับความเสี่ยงอะไรก็ยังอยู่ด้วยกัน สู้ไปด้วยกัน พร้อมที่จะลุยไปช่วยเพื่อนของเราเสมอทั้งๆ ที่ทุกคนก็กลัวผีกันมาก เรื่องนี้แค่ผีก็วาไรตี้แล้วครับ มันมีทั้งความน่ากลัว ความตื่นเต้น ความสนุกสนาน แล้วก็สยองขวัญรวมอยู่ด้วยกันครบเลยครับ”
“น้าไก่” รับบทโดย “อาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์”
ไรเดอร์จอมธรรมะทำมู ผู้มีของขลังเต็มคลังเครื่องราง น้าไก่เป็นเพื่อนที่อบอุ่นหุ่นหมีที่เหมือนจะเป็นที่พึ่งพาด้านคาถาอาคมได้ แต่สำหรับตัวเขาเองแล้วจะไล่ผีได้หรือไม่ได้ไม่รู้ กูขอร่ายมนตร์ใส่ไว้ก่อนไม่สนผีตัวไหน
“บทผมก็จะเป็นเป็นไรเดอร์รุ่นพี่รุ่นเก๋านิดนึง ‘น้าไก่’ จะเป็นคนที่มูเตลูมาก เครื่องรางของขลังเพียบ ธรรมมะทำมู มีคาถาอาคม คำสวดสารพัด อุปกรณ์ที่จะปราบผีมีเยอะมากครับ สายสิญจน์ พระเครื่อง ข้าวสารเสก มีดหมอ แต่ที่มีทุกอย่างเนี่ยก็เพราะเป็นคนกลัวผีมาก
ก่อนมารับบทนี้ ผมพยายามสั่ง ‘ไรเดอร์’ มาส่งของทุกวัน แล้วคอยสังเกตพฤติกรรมของพี่ๆ เขา ถามบ้างคุยบ้าง ถ่ายรูปด้วยกันบ้าง มีความหลากหลายอยู่พอควร มันทำให้เราเข้าใจเขามากขึ้น แต่สิ่งที่ผมต้องปรับเลยคือบุคลิกของคนที่เขานับถือ บูชาพระ ควรทำตัวแบบไหน กลัวว่าการสวดหรือการแสดงอะไรออกไปมันไม่ถูกต้อง เลยต้องพยายามศึกษาและได้คำแนะนำของ ’กังฟู’ ผู้กำกับด้วยครับ
ถ้ามีคนจ้างให้เราส่งของที่บ้านมันโอเค แต่ถ้าไปส่งโลเคชันหลอน พูดยากเหมือนกันนะ ถ้าเราทิ้งของแล้วมีคนในนั้นจริงเราก็โดน Report อีกถูกมั้ย หรือว่าถ้าเราเข้าไปส่งแล้วไม่มีคนแล้วไปเก็บตังค์ที่ใครใช่มั้ย เอาเป็นว่าสู้ๆ นะพี่ ตัวใครตัวมัน แต่ถ้าเป็นผมผมไม่ขอเสี่ยงไปดีกว่า กลัวผีครับ”
“เสือยอด” รับบทโดย “โน่-ภูวเนตร สีชมภู”
ไรเดอร์สายซิ่งที่นอกจากอาชีพไรเดอร์แล้วเขายังเป็นติ๊กต็อกเกอร์ท่านหนึ่ง ชีวิตติดไลฟ์ไม่ติดแกลม ไลฟ์ด่วนได้ทุกที่แม้ผีจะตามมา ยอดวิวไม่สนแต่ทุกคนต้องได้เห็นพร้อมกัน ทุกปัญหาก็มีเขานี่แหละเป็นตัวต้นเหตุ เป็นคนไปไหนไปกันไม่ทิ้งเพื่อน แต่จะตัวใครตัวมันทันทีตอนผีโผล่มา
“ตัวละคร ‘เสือยอด’ จะคล้ายกับผมตรงที่วันๆ มีแต่เรื่องไร้สาระ พูดติดตลกทุกเรื่อง แต่ตัวเขาจะปากไวกว่าผม รีบร้อนกว่าผม และที่ต่างกันที่สุดตรงที่เสือยอดกลัวผีมาก แต่ต้องทำทุกอย่างที่เสี่ยงกับความสยองเพราะรักเพื่อนไม่ยอมทิ้งเพื่อน ในขณะที่ตัวจริงของผมไม่ค่อยกลัวผี เคยมีประสบการณ์ที่ออกตามหาผีด้วยซ้ำไป มาเรื่องนี้เราต้องเพิ่มความหวีดความกลัวที่จะแสดงออกมาให้มากกว่าปกติ แล้ว ‘พี่ฟู’ ผู้กำกับเขาก็ชอบ ปล่อยให้เราสนุกกับความกลัวได้เต็มที่ครับ
ผมว่าทุกวันนี้ ‘ไรเดอร์’ สำคัญมากครับ แทบจะเป็นอาชีพพื้นฐาน หลังๆ ผมใช้บริการตลอดเวลาในทุกวันนี้ถ้าตัดคำว่าไรเดอร์ออกไป เขาก็คือคนที่สารพัดรับจ้าง เขาส่งทุกอย่าง ไปไหนมาไหน ต่อคิว ทำธุระแทนเราได้แทบทุกเรื่อง ตอนนี้ไรเดอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้วครับที่ผมต้องใช้บริการ”
หนุ่มอีสานหน้าฝรั่งลูกครึ่งไทย-เบลเยียม “โน่-ภูวเนตร สีชมภู” ผู้โด่งดังมาพร้อมเพื่อนๆ แก๊งไทบ้านจากภาพยนตร์คุณภาพ “ไทบ้านเดอะซีรีส์ 1-2” (2560-2561) และภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลสุพรรณหงส์ปีล่าสุด “สัปเหร่อ” (2566) เขามีความสนใจด้านภาพยนตร์มากจนมีโอกาสเขียนบทและกำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรกใน “รักหนูมั้ย” (2563) ตามมาด้วย “เซียนหรั่ง เดอะมูฟวี่” (2566) ซึ่งทั้งสองเรื่องต่างก็ได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกเป็นอย่างมาก เขายังมีรายการออนไลน์ทางยูทูบชื่อ “เซียนหรั่ง” และ “เฮ็ดอย่างเซียนหรั่ง” ซึ่งแต่ละคลิปมียอดวิวเฉียดล้านแทบทั้งนั้น
โน่มีความสามารถหลากหลายด้าน นอกจากงานแสดงและกำกับแล้ว เขายังมีฝีมือด้านการทำเพลงขึ้นแท่นเป็น “นักร้อง 100 ล้านวิว” ในนามวง “NaraNo” (นาราโน่) จากเพลง “ต้องการอะไร” (2561) ซึ่งปัจจุบันมียอดวิวสูงถึง 236 ล้านวิว และอีกหลายเพลงที่มียอดวิวทะลุหลายสิบล้านไปจนถึงร้อยล้านวิว ไม่ว่าจะเป็น “แม่ของลูก” (2562 / 104 ล้านวิว), “เพื่ออะไร” (2562 / 31 ล้านวิว) และ “ยินดีที่จะทำ” (2562 / 35 ล้านวิว) รวมถึงกับการร่วมร้องเพลงฟีเจอริงกับ “โจอี้ ภูวศิษฐ์” ในเพลง “เสี่ยว” (2565 / 16 ล้านวิว)
ล่าสุด เขาจะมาสร้างสีสันความฮาสยองกับบทบาทนักส่งของตัวตึงผู้ติดโซเชียลเป็นชีวิตจิตใจในภาพยนตร์ไทยเรื่อง “ไรเดอร์” (Rider) ที่มีคิวเข้าฉาย 10 ธันวาคมนี้
“พาย” รับบทโดย “ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ”
สาวหวานซ่อนห้าวช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของใคร เธอกำลังจะเปิดใจให้กับหนุ่มไรเดอร์ที่เพิ่งรู้จักกัน แต่ก็กลับหายตัวไปโดยไม่รู้สาเหตุ ความลับของเธอเป็นเหตุให้สามหนุ่มไรเดอร์ต้องเจอผีไม่ทันตั้งตัว
“‘พี่กังฟู’ เค้าเข้าไปหาเพื่อนแล้วนั่งดูการถ่ายหนังทำเรื่องหนึ่งที่หนูเล่นอยู่ ตอนพักหนูมานั่งเหม่ออยู่คนเดียว กำลังเก็บเอเนอร์จีไว้เตรียมเข้าเซตต่อ พี่เค้าเล่าว่าพอเห็นคือใช่เลย ตรงกับคาแร็กตอร์ที่วางเอาไว้ พี่แล้วฟูก็ติดต่อมา เตรียมกล้องมาแคสต์เลย หนูรออยู่หลายสัปดาห์ลุ้นอยู่ว่าได้เล่นไหม แล้วพี่ฟูแจ้งกลับมาว่าเป็นหนู ดีใจมากค่ะ ถือว่าเป็นภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องแรกของหนูเลย พอรู้ว่าเล่นกับ ‘พี่โอ้-พี่โน่-พี่อาร์ต’ ก็ยิ่งตื่นเต้นค่ะ มันมีแต่เรื่องสนุก อยากมากองถ่ายทุกวันเพราะทุกคนตลกมาก
หนูเป็นคนกลัวผีระดับสูงสุดค่ะ แต่ส่วนใหญ่หนูจะกลัวไปเองมากกว่า สมมติว่าได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงแปลกๆ หนูจะคิดละว่าต้องมีผี ส่วนตัวเลยยังไม่เคยเจออะไรจังๆ แต่ก็กลัวอยู่ดี หนูมากองถ่ายนี้คุณแม่ก็ให้พระมาด้วย พกไว้อุ่นใจดีค่ะ แต่มาอยู่กองนี้ไม่เจอผีนะคะ ถึงแต่ละที่ที่ไปมันหลอนมากจริงๆ มันต้องมีแน่ๆ แต่สุดท้ายก็ไม่เจออะไรค่ะ”
นักแสดงสาวนัยน์ตาคมที่โด่งดังมาจากซีรีส์เกิร์ลเลิฟ “ทฤษฎีสีชมพู GAP The Series” (2565-2566) จนเป็นที่คลั่งไคล้ของแฟนๆ ทั้งไทยและต่างประเทศ “ฟรีน สโรชา” มีเสน่ห์น่าจับตามองมาตั้งแต่เป็นผู้เข้าประกวด “มิสทีนไทยแลนด์ 2016” โดยเข้ารอบ 15 คนสุดท้าย และได้รับ “ตำแหน่งหุ่นสวยสุขภาพดี” นอกจากนี้เธอยังมีความสามารถมากมายทั้งรำโขน, เต้น, ร้องเพลง, คทากร, พิธีกร, วาดภาพ ฯลฯ
ฟรีนมีผลงานการแสดงอันโดดเด่นหลากหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ยูเรนัส2324” (ภาพยนตร์, 2567), “แอบหลงรักเดอะซีรีส์” (ซีรีส์, 2565), “ทฤษฎีสีชมพู” (ซีรีส์, 2565-2566) และ “ปิ่นภักดิ์” (ซีรีส์, 2567)
และต้นธันวาคมนี้ ฟรีนจะมีภาพยนตร์สยองขวัญคอมเมดี้เรื่อง “ไรเดอร์” (Rider) ที่จะมอบการแสดงแปลกใหม่ชองเธอคู่กับ “มาริโอ้ เมาเร่อ” ออกฉายให้แฟนๆ ได้ชมกัน
เบื้องหลังภาพยนตร์
เปิดเส้นทาง “ไรเดอร์”
จากเรื่องราวความสนุกสนานของภารกิจส่งของผจญผีใน “ตึกวิทย์เก่า” ตอนหนึ่งของ “เทอมสอง สยองขวัญ” (2565) ได้จุดประกายและต่อยอดสู่โปรเจกต์ภาพยนตร์ไทยน่าจับตาส่งท้ายปีนี้ของ “สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล” เรื่อง “ไรเดอร์” (Rider) หนึ่งในอาชีพสุดอินเทรนด์ในยุคปัจจุบันที่ทำงานอย่างอิสระที่สุด แต่ก็เล่าลือกันว่าน่าจะเป็นอาชีพที่เสี่ยงเจอผีบ่อยที่สุดด้วยเช่นกัน
โดยงานนี้ “จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ” ผู้บริหารและโปรดิวเซอร์ใหญ่ของภาพยนตร์ได้จับมือร่วมกับ “กังฟู-นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ” ผู้กำกับมากฝีมืออีกคนหนึ่งของวงการสานต่อและพัฒนาเรื่องราวของไรเดอร์เจอผีหลอกที่รอบนี้จะไม่ฉายเดี่ยว แต่จะพาแก๊งเพื่อนซี้ขี่มอเตอร์ไซค์เสียวสันหลัง เสี่ยงชะตากรรม บุกพิกัดร้าง บริการทั้งคนเป็นและคนตาย ถึงจุดหมายสุดวายป่วงไปกับ “มาริโอ้ เมาเร่อ”, “ดีเจอาร์ต-มารุต ชื่นชมบูรณ์” และ “โน่-ภูวเนตร สีชมภู” (เซียนหรั่ง) สามคาแร็กเตอร์แตกต่างที่พร้อมฉีกทุกกฎเดลิเวอรีสู่การส่งของที่ไม่มีไรเดอร์หน้าไหนกล้ารับกับคติ “ส่งของให้ผีดีกว่าอดตาย” เขากล้าสั่ง เราก็กล้าส่ง ถึงจะกลัวผีถึงขีดสุด แต่ปากท้องและไลฟ์สดย่อมสำคัญกว่า พร้อมได้หนึ่งสาวสวยนัยน์ตาคม “ฟรีน-สโรชา จันทร์กิมฮะ นักแสดงมากความสามารถรุ่นใหม่ขวัญใจแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศมาร่วมงานภาพยนตร์แนวสยองขวัญเป็นครั้งแรกของเธอในบทบาทหญิงสาวลึกลับตัวแปรสำคัญที่หนุ่มๆ แก๊งไรเดอร์ต้องช่วยกันออกตามหาจนเข้าไปพัวพันกับเรื่องราวแปลกประหลาดและปะทะกับเหล่าผีร้ายไม่มีอั้น
“จากความสำเร็จของ ‘เทอมสอง’ โดยเฉพาะตอน ‘ตึกวิทย์เก่า’ ที่หลายคนชื่นชอบ เราเห็นว่าคาแร็กเตอร์และเรื่องราวของ ‘ไรเดอร์’ สามารถต่อยอดออกไปได้อีก ด้วยอาชีพนี้ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าต้องไปแทบทุกที่ทุกเวลา แม้จะมีออเดอร์แปลกๆ ในสถานที่แปลกๆ พวกเขาก็ต้องไป ทางทีมสหมงคลฟิล์มฯ ก็เริ่มมองหาทิศทางของหนังโดยขยายจากการที่มีไรเดอร์คนเดียวกลายเป็นแก๊งไรเดอร์ที่ใหญ่ขึ้น มีเรื่องราวที่ทั้งสยองและสนุกมากขึ้น จนเราได้มีโอกาสคุยกับ ‘กังฟู’ (ผู้กำกับ) แล้วก็เห็นตรงกันว่ามันมีทิศทางที่จะไปต่อได้ เราเลยได้กังฟูมาทำหน้าที่ร่วมเขียนบทและกำกับ เราเห็นการทำงาน
ของเขามาตั้งแต่เป็นผู้ช่วยผู้กำกับ จนมาทำหน้าที่กำกับภาพยนตร์ให้กับสหมงคลฟิล์มฯ เมื่อหลายปีก่อน จนตอนนี้เขามีผลงานทั้งหนัง ละคร ซีรีส์หลากหลายเรื่อง และยังทีมโปรดักชันของตัวเองในชื่อ ‘แฮปปี้ แมน สตูดิโอ’ กังฟูเป็นคนอารมณ์ดี มีพัฒนาการ มีประสบการณ์ด้านกำกับที่สะสมมามากมาย มีความพร้อมและเหมาะกับแนวทางของหนังเรื่องนี้ค่ะ” โปรดิวเซอร์เผย
โดยในช่วงเขียนบท ผู้กำกับ “กังฟู นิติวัฒน์” และ “แฮปปี้ แมน ทีม” ก็ได้ค้นหาข้อมูลและเรื่องราวแปลกแต่จริงของเหล่าคนส่งของ ออเดอร์ที่แสนประหลาด ความสยองขวัญที่มีการบันทึกเอาไว้จริง จนได้รู้ว่าอาชีพ “ไรเดอร์” นี้ถือเป็นอาชีพที่เจอผี พบเรื่องประหลาด และต้องผ่านเส้นทางวัดใจมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง บวกกับประสบการณ์ในชีวิตจริงของตัวผู้กำกับเองในด้าน “การเห็นผี” และพบเจอสิ่งลี้ลับที่มาในรูปแบบต่างๆ ก็ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งในคาแร็กเตอร์ของตัวละครไรเดอร์และสถานการณ์ในเรื่องราวสุดสยองระหว่างทางของภารกิจไรเดอร์ในเรื่องนี้ด้วย รวมไปถึงเหตุการณ์ชวนขนลุกของทีมงานเบื้องหลังที่เดินหน้าเปิดทางลุยความรกร้างของโลเคชันจนเจอดีตั้งแต่วันแรกๆ ก่อนการถ่ายทำ
“ตอนที่เราได้โปรเจกต์นี้มาก็มีการรีเสิร์ชเรื่องราวและประสบการณ์ตรงของไรเดอร์ที่เขาเจอมาจริง มีการจัดอับดับให้กับอาชีพที่เจอผีบ่อยที่สุดนั่นก็คืออาชีพ ‘ไรเดอร์’ ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่ง เพราะด้วยความที่เขาต้องเดินทางทั้งวันทั้งคืน ได้ไปในแทบทุกซอกทุกมุม บางทีเขาก็ไปเจอสถานที่แปลกๆ และออเดอร์ประหลาดๆ เราก็มีการสอบถามพูดคุย ได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ได้เห็นแง่มุมหลายๆ อย่าง เราก็มีฐานข้อมูลเรื่องพวกเขาค่อนข้างเยอะ รวมถึงประสบการณ์หลอนๆ ก็เอามาปรับให้มันสนุกยิ่งขึ้น ทำให้เหตุการณ์มันมีปมที่สนุกและสยองมากขึ้นกว่าการส่งของแบบไรเดอร์ธรรมดา
ซึ่งผมก็เชื่อพวกเรื่องลี้ลับอยู่แล้วครับ เพราะผมสามารถสัมผัสสิ่งเหล่านี้มาได้ตลอด เรื่องนี้แล้วแต่วิจารณญาณเลยนะครับ จริงๆ ผมเป็นคนเห็นผีคนหนึ่ง ใช่ครับ มันทำให้ผมเชื่อแบบ 100% ว่ามีสิ่งนี้เกิดขึ้นในโลกของเรา บางคนอาจจะคิดว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่ผมก็เจอมาหลายครั้งแล้ว อาจจะไม่ได้เห็นเป็นตัวเป็นตนขนาดนั้น แต่มันก็มาเป็นควัน มาปลายตา เป็นกลิ่น เป็นเสียง เจอจนรู้สึกเชื่อจริงๆ ผมทำหนังผีด้วยความกลัวและด้วยความเคารพเสมอ อย่างบางสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตจริง ผมก็เอามาใช้ในหนังด้วย อย่างที่เล่าให้ฟังว่าวันที่มาดูโลเคชันแล้วเห็นขาคนวิ่งขึ้นไปที่โรงพยาบาล ผมก็เอามาใช้ในเรื่องด้วย” ผู้กำกับกล่าว
ชุมชน “ไรเดอร์” และมอเตอร์ไซค์เรืองแสงคู่ชีพ
“โอ้-อาร์ต-โน่” สามนักแสดงหลักผู้ชื่นชอบการขับขี่ตัวจริง เรียกว่าคัดมาแล้วเป็นอย่างดีกับแก๊งสายซิ่ง หนุ่มรักรถ หลงใหลในเสียงสตาร์ตของเครื่องยนต์และคันเร่ง โดยเฉพาะ “มาริโอ้” และ “โน่ เซียนหรั่ง” ที่มีความคุ้นเคยและเคลื่อนไหวมอเตอร์ไซค์ได้เหมือนอวัยวะส่วนหนึ่ง ด้าน “ดีเจอาร์ต” แม้จะไม่ค่อยมีโอกาสได้ขับขี่ (เพราะภรรยาห้าม) แต่เรื่องการควบมอเตอร์ไซค์ก็ไม่ใช่อุปสรรคแต่อย่างใด และเพื่อให้แก๊งไรเดอร์ส่งของพิสดารแก๊งนี้มีความเท่ไม่เหมือนใคร มอเตอร์ไซค์ของพวกเขาในยามค่ำคืนจึงมีแสงสว่างวาบสะดุดตาคนและดึงดูดผีเป็นที่สุด จากการดีไซน์ไฟรอบรถให้มีความแตกต่างจากไรเดอร์ทั่วไป และเป็นความชอบส่วนตัวของผู้กำกับเพื่อให้ภาพยนตร์มีสีสัน สดใส สนุกสนาน แม้ว่าจะเป็นหนังผีภารกิจหลอนขนาดไหนก็ตาม
“มอเตอร์ไซค์ถือเป็นอุปกรณ์หลักอีกชิ้นของความเป็น ‘ไรเดอร์’ ทุกคนต้องขี่มอเตอร์ไซค์กันตลอดเวลา ตอนที่ได้ตัวทีมนักแสดงมาแล้ว ผมต้องเช็กเลยว่าแต่ละคนขี่ได้ไหมเป็นยังไง ‘มาริโอ้’ นี่สบายมาก เป็นนักขับอยู่แล้ว ‘เซียนหรั่ง’ สบายขี่ได้แน่นอน แต่ ‘ดีเจอาร์ต’ เขาไม่ได้ขี่เป็นกิจวัตรแต่ขี่ได้ ทุกคนก็สามารถขี่กันได้อย่างปลอดภัยครับ แต่เราอยากให้มีความพิเศษมากกว่าไรเดอร์ทั่วไป ด้วยความเป็นภาพยนตร์ที่มีทั้งความสยองและภารกิจสนุกสนานของพวกเขา เราก็นึกภาพว่าถ้าทั้ง 3 คนขี่รวมกันแล้วมีแสงไฟมันจะดูสวยดีเหมือนกัน เหมือนพวกรถตุ๊กตุ๊กที่มีไฟติดตอนกลางคืน แล้วก็ได้มอเตอร์ไซค์ไดหมึกแบบที่เห็นในภาพ ทั้ง ‘โอ้-อาร์ต-โน่’ ขี่กันสนุกสนานมากขึ้น ยิ่งเราพาไปตระเวนแถวเยาวราช สะพานพุทธ เขาเหมือนเพื่อนที่ได้ขี่มอเตอร์ไซค์ร่วมกันจริงๆ ท่าตลกๆ ก็เพียบเลย ใส่กันมาเต็มไปหมด ไม่รอเพื่อนอาร์ตเลย ซนกันมาก”
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้นักแสดงหนุ่มทั้งสามคนมีความเชื่อมจิตต่อติดกันได้อย่างรวดเร็วตั้งแต่วันแรกที่อยู่ในกองถ่าย แม้เรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกที่ทั้งสามคนได้ทำงานร่วมกัน เพราะพวกเขาได้สนุกกับการขี่มอเตอร์ไซค์ คุยเรื่องรถ ซ่อมรถ มีความชอบที่เหมือนๆ กัน มีเคมีเพื่อนซี้วิ่งหนีผีตัวติดกัน บ่งบอกมิตรภาพที่มีให้กันทั้งในและนอกจอได้เป็นอย่างดี
พิกัดร้างสิบกะโหลก สถานที่ถ่ายทำหลอนจริงของแทร่
นอกจากจะสวมวิญญาณ “ไรเดอร์” ออกส่งของตามปกติแล้ว ผู้กำกับฯ ยังได้พาทีมนักแสดงนำเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศสุดหลอนของสถานที่รกร้างไร้ผู้คนของจริง ไม่ว่าจะเป็น “โรงพยาบาลร้าง” ที่ยังมีกลิ่นของยาและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ทางการแพทย์ของโรงพยาบาล รวมไปถึงห้องเก็บศพที่พวกเขาต้องเข้าไปตะลุยกันอย่างจริงจัง
“บ้านร้าง” ที่ถูกทิ้งมานานย่านชานเมืองหลบสายตาผู้คนและเงียบสงัดสุดวังเวง เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ที่มีอยู่จริง เต็มไปด้วยฝุ่น เถาวัลย์ ซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ในทุกซอกหลืบและทุกมุมมืดอับชื้นของบ้าน
รวมไปถึงการพาเหล่านักแสดงย่องเงียบ “หน้าเจดีย์เก็บกระดูกของจริง” ในบริเวณวัดอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี รวมไปถึงการเซตฉากป่าช้าที่เต็มไปด้วยโลงศพในเขตวัดที่เป็นป่ารกร้าง เพื่อให้นักแสดง “อิน” จนขนลุกเกลียวถึงขีดสุด เรียกว่าแต่ละโลเคชันมีระดับความหลอนสิบกะโหลกกันไปเลยที่ทีมนักแสดงต้องเข้าไปสัมผัสดินแดนไร้กลิ่นมนุษย์ของแท้แบบไม่ต้องเซตอัปเยอะ เพราะทุกสถานที่ล้วนร้างจริงหลอนจริง
“ในการเลือกสถานที่ถ่ายทำแบบรกร้างจริง เราไม่ได้หวังจะทำคอนเทนต์อะไร แต่อยากได้ความน่ากลัว ความรู้สึกของนักแสดงได้สัมผัสกับของจริง ได้บุกลุยโรงพยาบาลร้างจริง มีความเรียลมากขึ้น จนนักแสดงแซวกันว่าทำไมต้องมาถ่ายที่จริงกันขนาดนี้ครับ แต่จุดหนึ่งที่คิดว่าหลอนสุดน่าจะเป็นตรงห้องเก็บศพ ทั้งๆ ที่เราบอกแล้วว่าห้องนี้มันเซตขึ้นมานะ แต่นักแสดงยังยกมือไหว้กันตลอด ขนาดผมไปวันแรกผมยังยกมือไหว้เลยครับ อย่างที่บอกว่ากลิ่นมันใช่ บรรยากาศมันได้ เอื้อกับการถูกผีหลอกมาก
ส่วนวัดผมชอบโครงสร้างมาก มีอายุเก่าแก่กว่า 400 ปี มีความโบราณ ตรงที่เป็นเจดีย์บรรจุอัฐิข้างเมรุทำงานได้สะดวก ชาวแก๊งไรเดอร์ต้องเข้าไปลุยเจดีย์นี้กันจริง มีการขอขมายกมือไหว้ขอทำงานกันก่อน แต่ย้ายมาด้านหน้าวัดที่ทีมอาร์ตไปเซตฉากสุสานเอาไว้ มันเหมือนจริงมากจนใครที่มาเจอต่างถามกันว่าอันนี้ของจริงไหม ถึงจะบอกว่าเซตขึ้นมาก็ไม่เชื่อกัน ยกมือไหว้เซตเหมือนเดิม อย่างที่ผมบอกพอบรรยากาศมันได้ ความกลัวจริงๆ ความรู้สึกของทุกคนก็มาเต็ม แล้วตอนที่ถ่ายฉากตรงนี้ก็ตี 1 ตี 2 เลย บรรยากาศทุกอย่างมาเต็ม” ผู้กำกับเผยเบื้องหลังความหลอน
เตรียมพบกับเรื่องราวความสนุกสุดสยองและมิตรภาพของ “นัท-น้าไก่-เสือยอด” สามไรเดอร์เพื่อนซี้ที่ไม่เคยทอดทิ้งกัน แต่ขอวิ่งหนีผีให้ทันกันก็พอ กับออเดอร์สุดเฮี้ยนในภารกิจสุดหลอนที่มีความรักของ “สาวพาย” เป็นเดิมพัน
งานหลักส่งของ งานรองเจอผี งานนี้เพื่อเธอ… “ไรเดอร์” (Rider) 10 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
กำกับภาพยนตร์และร่วมเขียนบทโดย “กังฟู-นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ”
เป็นอีกหนึ่งผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือที่สั่งสมประสบการณ์ในวงการบันเทิงมามากกว่า 15 ปี รวมถึงด้านงานสอนในฐานะอาจารย์พิเศษคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยเอกชนอีกหลายแห่ง
“กังฟู-นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ” เริ่มต้นงานกำกับและเขียนบทจากภาพยนตร์ตลกอารมณ์ดีเรื่อง “กะปิ ลิงจ๋อไม่หลอกจ้าว” (2553 / สหมงคลฟิล์ม) ตามมาด้วยหนังผี “ตีสาม Aftershock ตอน TV Direct” (2561 / ไฟว์สตาร์) รวมทั้งก่อนหน้านี้เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของหนังรักดราม่าเรื่องดังอย่าง “รักแห่งสยาม” (2550 / สหมงคลฟิล์ม) ในฐานะผู้ช่วยผู้กำกับด้วย
ถัดจากนั้น เขาก็มีงานกำกับทั้งละครทีวีและซีรีส์ที่โดดเด่นอีกหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น “ผู้กองยอดรัก” (2558 / ช่อง 3), “ไม่เคย ตอน ลืมรัก ไม่ลืมเธอ” (2560 / ช่อง GMM25), “Love Songs Love Series สบาย สบาย” (2561 / ช่อง GMM25), “รักนี้หัวใจเราจอง” (2562 / ช่อง GMM25), “สายลับจับกลิ่น” (2562 / ช่อง one31), “นางนาค สะใภ้พระโขนง” (2566 / ช่องเวิร์คพอยท์ 23), “สืบลับหมอระบาด” (2566 / ช่อง 3) และ “เพราะเธอคือรักแรก” (2567 / ช่อง GMM25)
นอกจากนี้ยังมีงานกำกับมิวสิกวิดีโอโออีกหลายเพลง เช่น “วันที่เธอไม่อยู่” (ใหญ่ Monotone), “อยากได้ตุ๊กตา” (วง EniE9), “เธอไม่รู้เลย” (วง EniE9), “LoveSick” (วง Mild), “รักฉันเพราะอะไร” วง Blue Shade) และผลงานการกับโฆษณาให้กับแบรนด์ดังมากมาย เช่น ท่อน้ำไทย, น้ำมะพร้าว if, ห้างสรรพสินค้า Lotus, เก้าอี้ Rachel
รวมถึงผลงานภาพยนตร์สั้นที่ได้รับรางวัลอีกหลายชิ้น เช่น “น้ำแข็ง-ใส” (รางวัลชนะเลิศโครงการ Sony หนังสั้นฤดูร้อน), “หญิงชรากับนิทานวันหนึ่ง” (รางวัลวิจิตรมาตรา รางวัลชมเชยช้างเผือก มูลนิธิหนังไทย), “กระบือลือลั่น” (รางวัลชมเชยช้างเผือก มูลนิธิหนังไทย และเข้าร่วมเทศกาล The 6th Independent Film Festival Made in Busan เกาหลีใต้), ผง-ชู-รส (เข้าร่วมเทศกาล International Film Festival Rotterdam 2006) และอีกมากมาย
ล่าสุด เขากลับมากำกับภาพยนตร์เรื่องยาวอีกครั้งใน “ไรเดอร์” (2567 / สหมงคลฟิล์ม) หนังตลกสยองขวัญกับภารกิจเดลิเวอรีความหลอนลั่นสนั่นฮา 10 ธันวาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์
บันทึกผู้กำกับ (Rider’s Note)
เคยได้ยินมาว่า “ไรเดอร์” เป็นอาชีพที่เจอผีบ่อยที่สุดอาชีพหนึ่ง เลยได้เข้าไปศึกษาหาข้อมูลจนได้รู้ว่าไม่ใช่แค่เจอผีบ่อย แต่เป็น “อาชีพที่เจอผีบ่อยมากที่สุดเป็นอันดับ 1”
จนวันหนึ่งมีโอกาสได้ทำหนังเกี่ยวกับไรเดอร์ บอกได้เลยว่าผมสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเรามักจะเห็นไรเดอร์อยู่เต็มไปหมดในบ้านเรา ยิ่ง “ไรเดอร์เจอผี” ก็มักจะได้ยินได้ฟังเรื่องเล่าอยู่บ่อยๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องคิดเป็นอย่างมากนั่นก็คือ “การเล่าเรื่องให้เป็นภาพยนตร์” นอกจากต้องคำนึงถึงเรื่องของอาชีพไรเดอร์แล้ว ความสนุกของเรื่องก็ต้องเป็นส่วนสำคัญด้วย
ไอเดียไรเดอร์เจอผีพร้อมกับความตลกจึงเป็นโจทย์สำคัญในภาพยนตร์เรื่องนี้ โชคดีที่เราได้มีโอกาสร่วมงานกับ “มาริโอ้ – ดีเจอาร์ต – เซียนหรั่ง และ น้องฟรีน” เพราะทีมนักแสดงคือส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลมกล่อม ถ่ายทอดความสนุกและน่ากลัวออกมาได้อย่างที่คิดเอาไว้
หวังว่าคนดูจะสนุกไปกับภาพยนตร์เรื่อง “ไรเดอร์” (Rider) นะครับ
ขอบคุณครับ…
“กังฟู-นิติวัฒน์ ชลวณิชสิริ” (ผู้กำกับภาพยนตร์)