วัตสัน ประเทศไทย ผู้นำร้านเพื่อสุขภาพและความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทย รุกตลาดปี 2019 ด้วยการเชื่อมต่อประสบการณ์การช้อปปิ้งทั้งหน้าร้านค้าและช่องทางออนไลน์เข้าด้วยกัน เพื่อเชื่อมโยงและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคดิจิทัล พร้อมเปิดตัวร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ “G8” ที่นำเทคโนโลยี เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์การช้อปปิ้งได้มากกว่าที่เคย
คอนเซ็ปต์ร้านสไตล์ “G8” ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ ให้มีความน่าตื่นเต้นมากขึ้น จุดเด่นที่สำคัญของร้านรูปแบบใหม่ ได้แก่StyleMe เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR) ที่สามารถให้บริการแต่งหน้าเสมือนจริง พร้อมเปิดตัว TRY ME เทคโนโลยีแสดงสินค้าผ่านรูปแบบวีดีโอ ที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย ซึ่งจะสร้างความสนุกสนานและสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า รวมไปถึง Makeup studio มุมแต่งหน้าและทดลองสินค้า โดยในปี 2019 วัตสันเพิ่มงบการลงทุนมากกว่า 630 ล้าน เพื่อพัฒนาประสบการณ์การช้อปปิ้งให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
นายพสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า “ในปี 2018 วัตสันได้ขยายสาขาร้านค้าและช่องทางซื้อสินค้าออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยมีความโดดเด่นด้านการผสานประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบ O+O (Online + Offline) สำหรับปี 2019 นี้ วัตสันเดินหน้าผสมผสานประสบการณ์การช้อปปิ้งระหว่างการซื้อสินค้าทางหน้าร้านและช่องทางออนไลน์ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้กับลูกค้า ผ่านกลยุทธ์ O+O ที่มุ่งเน้นให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างลูกค้ากับผลิตภัณฑ์ การอัพเดทเทรนด์และประสบการณ์ด้านสุขภาพความงามต่างๆ ซึ่งผลักดันการจับจ่ายในร้านค้ามากขึ้นเป็น 2 เท่า วัตสันให้ความสำคัญกับลูกค้าและไม่เคยมองลูกค้าเป็นเพียงแค่ผู้ซื้อสินค้าด้านความงามอย่างเดียวเท่านั้น เรามองลึกไปถึงการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ของเราเข้าไปกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอีกด้วย เพราะเราเชื่อมั่นว่าจากประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้ารูปแบบใหม่ที่เราได้สร้างขึ้นมา รวมถึงสินค้าที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ ความคุ้มค่าของสินค้าที่เรามอบให้ และความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ จะนำมาซึ่งประสบการณ์ใหม่และทำให้ลูกค้ามีความสุขและสนุกเมื่อมาซื้อสินค้าที่วัตสัน”
จากการเติบโตของสื่อโซเชียลมีเดีย ผู้บริโภคมีความตื่นตัวและเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผลประกอบการด้านการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ของวัตสันในปีที่ผ่านมาเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 248% วัตสันได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลาย เป็นผลิตภัณฑ์ที่เชื่อถือได้ และนำเสนอโปรโมชั่นที่ดีที่สุดผ่านช่องทางออนไลน์ซึ่งลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังอำนวยความสะดวกด้านการชำระเงินให้มีหลากหลายช่องทาง รวมไปถึงการซื้อสินค้าออนไลน์ ที่สามารถเลือกรับสินค้าที่หน้าร้านตามความสะดวกของลูกค้า (Click & Collect) และสำหรับปีนี้ วัตสันจะยังพัฒนาการขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ให้ดียิ่งขึ้นด้วยการสร้าง engagement กับผู้บริโภคด้วยการพัฒนาแอพพลิเคชันของวัตสัน เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ การนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษ รวมไปถึงช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น อิ
วัตสัน มุ่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คลอบคลุมทั่วประเทศไทย และหลังจากเฉลิมฉลอง 500 สาขา ในปี 2018 วัตสันตั้งเป้าที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีก 50 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และจะมีการปรับโฉมร้านวัตสันทั้งหมด 75 สาขา และพิเศษสำหรับปีนี้ ลูกค้าจะมีประสบการณ์การช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ เพราะวัตสันได้ออกแบบร้านคอนเซ็ปต์ล่าสุด “G8” โดยสามารถมาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ได้แล้วที่ สาขาไอคอนสยาม สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ และสาขาสยามสแควร์
ในส่วนของสมาชิกวัตสัน มีการเติบโตมากขึ้นถึงกว่า 5 ล้านคน ในปีที่ผ่านมา โดยในปีที่แล้ววัตสันได้เปิดตัวโปรแกรมสมาชิก Watsons elite (สมาชิกระดับวีไอพี) ซึ่งเรามีแผนที่จะนำประสบการณ์พิเศษ รวมทั้งโปรโมชั่นและกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งต่อสิทธิพิเศษพร้อมกับประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้กับสมาชิก elite อาทิ เช่น ส่วนลดพิเศษเนื่องในโอกาสวันเกิด Watsons wonderful days หรือกิจกรรมเวิร์คช้อปสุดพิเศษเฉพาะสมาชิก Watsons elite
นอกจากนี้ สำหรับช่องทางโซเชียล มีเดียของวัตสัน ซึ่งได้แก่ Watsons LINE Official Account / Watsons Thailand Facebook Page และ Watsons Thailand Instagram ได้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากปีที่แล้ว ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกกว่า 7 ล้านคนบนโซเชียลมีเดีย เพราะการเชื่อมต่อกับลูกค้าคือสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2019 จะเป็นอีกหนึ่งปีสำคัญสำหรับ สินค้าตราวัตสัน (Own Brand) จากปีที่แล้วสินค้าตราวัตสันเติบโตขึ้นกว่า20% และสำหรับปีนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่นวัฒนกรรมผลิตภัณฑ์จากญี่ปุ่นและเกาหลี และยังมุ่งมั่นที่จะเป็น “ Mask Destination” สำหรับคนที่ชื่นชอบการมาสก์หน้า เพราะเราเป็นผู้นำในเรื่อง “มาสก์” ที่มีความหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม
เป็นเวลากว่า 23 ปี ที่วัตสันได้เห็นความสำคัญของ “คน” โดยเฉพาะกับเด็กและสตรี กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) จึงเป็นหัวใจของธุรกิจวัตสัน ภายใต้ 4 หัวใจหลักที่วัตสันยึดถือมาโดยตลอด ได้แก่ สถานที่ทำงาน สถานที่ซื้อขาย สภาพแวดล้อม และชุมชน วัตสันมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนสตรีและเด็กไทยผ่านโครงการระดมทุนในกิจกรรมต่างๆ เพื่อมอบให้กับสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯ (บ้านพักฉุกเฉิน) ในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ และในปี 2019 วัตสันมีการสนับสนุนมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม (Operation Smile) สนับสนุนการผ่าตัดให้เด็กที่มีความพิการด้านปากแหว่งเพดานโหว่ เพื่อให้สอดคล้องกับกิจกรรมเพื่อสังคมของ A.S. Watson Group ภายใต้แคมเปญ Give a Smile
“จากความสำเร็จในปีที่แล้ว วัตสันจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้เลย หากขาดแรงสนับสนุนที่ดีจากลูกค้าทุกท่าน ด้วยความตั้งใจทั้งหมดที่เรามี วัตสันจะยังคงรักษามาตรฐานและการบริการลูกค้าผ่านประสบการณ์การซื้อสินค้าแบบไร้รอยต่อ (Seamless experience) เพื่อสร้างการเติบโตและเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันคุณภาพชีวิตของผู้คนในประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้น” นายพสิษฐ์ กล่าวสรุป
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ