ข้อมูลภาพยนตร์
ชื่อเต็ม: รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน Love Battle
ประเภท: โรแมนติก คอมเมดี้
ผู้กำกับ: วิรัตน์ เฮงคงดี
นักแสดงนำ: เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา, ปรมะ อิ่มอโนทัย
ผู้จัดจำหน่าย: บริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส จำกัด
โปรดัคชั่น: บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ประเทศที่ผลิต: ประเทศไทย
ปีที่ผลิต: 2562
วันที่เข้าฉาย: 20 มิถุนายน 2562 ติดตามความเคลื่อนไหวกันได้ที่ https://www.facebook.com/LoveBattleMovie/
อารัมภบท
“ความรัก” ไม่ว่าตอนเกิดขึ้นมันจะเร่าร้อนขนาดไหน แต่สุดท้ายก็ต้องมอดลงอยู่ดี โดยมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า ความรักที่ทำให้หัวใจเต้นแรงจะสามารถอยู่ได้เพียง 600 วัน แต่แท้จริงแล้ว “ความรัก” นั้นมีวันหมดอายุอยู่จริงหรือ?
เรื่องย่อภาพยนตร์
“แทน” (ปรมะ อิ่มอโณทัย) นักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้หาค่าสถิติประกันภัยที่คำนวณแม้กระทั่งความสัมพันธ์ของคู่รัก หลังจากถูกแฟนสาวของเขาหักหลังอย่างเจ็บปวด ก็เกิดปิ๊งไอเดียประกันภัยรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Love Insurance” หรือกรรมธรรม์ประกันรักแท้ 2 ปีทวีทรัพย์ ซึ่งเป็นแบบประกันที่รับประกันเงินคืน 100% พร้อมดอกเบี้ยอีก 30% สำหรับคู่รักผู้ถือกรมธรรม์หากพวกเขาไม่เลิกกันภายในเวลา 2 ปีหลังจากเซ็นสัญญา
หลังจากเปิดตัวแนวคิดประกันรูปแบบดังกล่าว ก็ได้รับความสนใจมากมาย แต่คณะกรรมการของบริษัท ต้องการให้เขาค้นหาข้อมูลเพื่อพิสูจน์ว่าผู้ถือกรมธรรม์ส่วนใหญ่จะเลิกกันในไม่ช้าก่อนจะถึงเวลา 2 ปีตามสัญญา โดยมี “จี๊ด”(เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา) อดีตพนักงานบริษัทจัดหาคู่ ที่ถูกย้ายมาอยู่ในทีมของ “แทน” ช่วยรวบรวมข้อมูลให้ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่เชื่อว่าความรักไม่สามารถคำนวณหรือวัดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเชื่อของ “แทน” ในขณะที่พวกเขาออกเดินทางเพื่อค้นหาคำตอบว่าผู้ถือกรมธรรม์จะเลิกกันหรือไม่ การต่อสู้ของพวกเขาที่มีเดิมพันเป็นศักดิ์ศรีก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับภาพยนตร์
แนวคิดอันน่าสนใจของประกันภัยรัก ที่จะถูกเล่าผ่านผลงานจากการร่วมมือกันของมืออาชีพจากทั้งไทยและเกาหลี
ที่มาของประกันความรัก
ประกันภัยรูปแบบใหม่ที่ไม่ว่าใครก็คงไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็นมาก่อน
จะถูกนำเสนอต่อทุกคนคนผ่านภาพยนตร์ที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและความอบอุ่นหัวใจ
ในยุคปัจจุบัน ทุกอย่างล้วนเป็นไปอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจของผู้คนก็เช่นเดียวกัน ระยะเวลาของความสัมพันธ์ของคู่รักรุ่นใหม่อยู่ที่น้อยกว่า 2 ปีโดยเฉลี่ย
จากแรกตกหลุมรัก การรักษาความรู้สึกเช่นวันแรกให้นานกว่า 2 ปีไว้เป็นเรื่องยาก เพราะความรักนั้นจะค่อยๆ จางหายไป โดยมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แสดงให้เห็นว่าความรู้สึกรักนั้นจะระยะเวลาน้อยกว่า 600 วัน จึงเป็นที่มาของประกันรัก 2 ปีทวีทรัพย์
การร่วมมือการระหว่างมืออาชีพจากประเทศเกาหลีและไทย
บทดั้งเดิมมาจากสองนักเขียนชาวเกาหลีใต้ “คิม มินยอง” และ “ชเว จินวอน” เรื่องนี้ถูกเลือกมาโดยโปรดิวเซอร์ “โยนู ชเว” เพื่อมาดัดแปลงให้เนื้อหาที่มีความน่าสนใจอยู่แล้ว มีความเป็นไทยมากขึ้นโดยผู้กำกับ “โจ้ วิรัตน์ เฮงคงดี” หลังจากการระดมความคิดและประชุมบทอยู่หลายครั้ง เนื้อเรื่องจึงเสร็จสมบูรณ์
เบื้องหลังการคัดเลือกนักแสดง
การคัดเลือกนักแสดงมารับบทบาทจี๊ดและแทนนั้นค่อนข้างยาก เนื่องด้วยนักแสดงต้องมีความธรรมชาติในการแสดงอารมณ์ เพื่อให้ผู้ชมได้เข้าถึงเนื้อเรื่องและแนวคิดของประกันภัยแนวใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลานักแสดงสาวที่ได้รับความนิยมจากบทบาทในผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น รักไม่เอาถ่าน (2560) เธอคือพรหมลิขิต (2560) เงาอโศก (2559) U-Prince Series (2559) Ugly Duckling Series (2559) เล่ห์รตี (2558) โดยครั้งนี้จะเป็นการรับบทนำในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก หลังจากที่ได้พูดคุยเพื่อทำความเข้าใจในตัวละครกับผู้กำกับแล้ว ความน่ารักสดใสเป็นธรรมชาติทำให้เอสเธอร์ได้รับคะแนนจากผู้ชมรอบพิเศษไปอย่างล้นหลาม
ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย ดาราหนุ่มขี้เล่นอบอุ่นมารับบทเป็นผู้ชายเย็นชาและจริงจัง ปั้นจั่นทำได้เป็นอย่างดีและแสดงเสน่ห์อีกด้านหนึ่งออกมา เบื้องหลังการถ่ายทำปั้นจั่นจะคอยเล่นคอยแหย่กับทีมงานอยู่เสมอ แต่เมื่อเริ่มถ่ายทำปั้นจั่นจะกลายเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้เงียบขรึมเย็นชาทันที
เกี่ยวกับผู้กำกับ วิรัตน์ เฮงคงดี (คุณโจ้)
หลังจากจบการศึกษาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ คุณโจ้เข้าร่วมกับบริษัท เวิร์คพอยท์ จำกัด เขาได้กำกับและผลิตรายการคุณภาพมากมาย หลังจากได้เรียนรู้วิธีการรังสรรค์ผลงานคอมเมดี้จากงานโทรทัศน์ คุณโจ้ได้สร้างภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ยอดมุนษย์เงินเดือน(2012) ที่ได้รับการชื่นชมอย่างล้นหลามจากคนดู และถือเป็นหนังเรื่องแรกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง
ในภาพยนตร์เรื่องนี้ คุณโจ้จะบอกเล่าเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ในยุคปัจจุบันผ่านมุมมองของชายหนุ่ม และหญิงสาวที่มองความรักต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ผลงานที่ผ่านมา
ภาพยนตร์
– ยอดมนุษย์เงินเดือน (2012): ผู้กำกับภาพยนตร์ และเขียนบท
– ยักษ์: ร่วมเขียนบท
โทรทัศน์
– รายการ We Kid Thailand ซีซั่น1,2 (2017, Workpoint) โปรดิวเซอร์และผู้กำกับ
– รายการเดี่ยวดวลไมค์ (2016, Workpoint) โปรดิวเซอร์และผู้กำกับ
– ซีรีส์ Office Syndrome (เกมริษยา) ซีซั่น 1,2 (2015- 2016, Workpoint) โปรดิวเซอร์
– เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่น 1,2 (2012- 2013, ช่อง3) เขียนบทและผู้กำกับ
– ซีรีส์รักนี้ผีคุ้ม ซีซั่น 1,2 (2012- 2013, Workpoint) โปรดิวเซอร์
– ละครเรื่องอภินิหารคุณยายทองคำ (2011, ช่อง7) เขียนบทและผู้กำกับ
– ละครเรื่องรักกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ (2010, ช่อง7) เขียนบทและผู้กำกับ
บทสัมภาษณ์ผู้กำกับ
– ความรู้สึกได้มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้
“ต้องขอบคุณ ซีเจ เมเจอร์ฯ, เวิร์ค พอยท์ และ เอ็ม พิคเจอร์ เป็นอย่างสูงนะครับ ที่ไว้เนื้อเชื่อใจชวนผมมากำกับหนังรัก 2 ปี ยินดีคืนเงินเรื่องนี้ ถือเป็นโปรเจ็กต์แรกเลยครับที่ได้ร่วมงานกับทั้ง 3 ค่ายพร้อมกัน อย่างซีเจ เมเจอร์ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่ามาตรฐานในการทำงานของวงการบันเทิงเกาหลีนั้นจะค่อนข้างสูง ส่วนสาเหตุที่ผมตัดสินใจรับงานนี้ หลังได้ฟังไอเดียของเรื่อง รู้สึกมันน่าสนใจไปหมดกับพล็อตแนวหนังที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครมาก่อน ทำให้เราจินตนาการต่อได้ว่าเรื่องมันจะไปในทิศทางไหน เพราะมีเค้าโครงดี มีเชื้อที่จะนำไปสู่ภาพยนตร์ที่สนุก แค่คิดก็สนุกแล้วครับ ผมจึงตัดสินใจทำเรื่องนี้”
– ทำไมถึงเลือกโปรเจ็กต์นี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ของตัวเอง
“คงเป็นเรื่องของโอกาสครับ ผมได้รับการติดต่อมาจากทาง CJ Major ทาง CJ Major มีไอเดียอยากสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ พอได้ไปพูดคุยกัน ได้ฟังไอเดียแล้วเราก็รู้สึกว่ามันมีความน่าสนใจดี ด้วยแก่นของเรื่อง ไอเดียของเรื่อง รู้สึกมันแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร มันทำให้เราจินตนาการต่อได้ว่าเรื่องมันจะไปในทิศทางไหน ด้วยความที่เราจะต้องลงมาพัฒนาบทเองอยู่แล้วด้วย ก็คิดว่ามันน่าจะไปได้ดี เรื่องนี้มันมีเค้าโครงที่ดีอยู่แล้ว มีเชื้อที่จะนำไปสู่ภาพยนตร์ที่สนุก และดีได้เรื่องหนึ่ง จึงตัดสินใจทุ่มเทให้กับเรื่องนี้ครับ”
– เนื้อเรื่องดั้งเดิมมาจากเกาหลี ขั้นตอนการปรับเนื้อเรื่องให้เป็นภาพยนตร์ไทยเป็นอย่างไร ยากหรือง่ายตรงไหนบ้าง
“ขั้นตอนในการปรับโครงสร้างของเรื่องนี้ คือเนื้อเรื่องเดิมมาจากเกาหลี มันเป็นเรื่องที่เรียกว่า เค้าขึ้นมาเป็นไอเดีย จริง ๆ มีเขียนสคริปท์เลยล่ะครับ เป็นสคริปท์ร่างแรก ยังไม่สมบูรณ์หลายอย่าง ทั้งเรื่องความยาว หรือเรื่องของบริบท หรือความแข็งแรงของเหตุผลเงื่อนไขอะไรบางอย่าง ก็เลยปรับ เราก็ขอโอกาสกับทาง CJ Major ที่เขาเป็นเจ้าของไอเดียของเรื่อง เรียกว่า ขอรื้อเลย ขึ้นโครงใหม่ โดยยึดไอเดียเดิมเป็นหลัก ไม่ว่าเนื้อเรื่องจำดำเนินไปในทิศทางไหน สิ่งที่เราจะต้องจำให้ขึ้นใจนั่นคือ ยึดไอเดียต้นฉบับไว้เป็นหลัก เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์หนังของเจ้าของเดิมได้ครับ ซึ่งจุดที่ยากที่สุดคงเป็นเรื่องของงานรีเซิร์ท เพราะว่าเราปรับให้ตัวละครมีความแข็งแรงมากขึ้น ในเรื่องของอาชีพการทำงานของนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของพระเอก มันน่าสนใจ มันมีมิติเล่นลงไปได้มากกว่าเดิม มันทำให้เห็นคาแรคเตอร์ของคนประเภทนี้ เป็นคนที่ต้องเก่งรอบด้าน ต้องเก่งเรื่องการคำนวณ ตัวเลข เหตุผลความน่าจะเป็น สถิติมากมาย ซึ่งมันก็จะเน้นความเชื่อของเขาที่ไม่เชื่อในความรักมากขึ้น ที่เหลือก็จะเป็นเรื่องของการหยิบยกเคสต่างๆ ที่พระเอกกับนางเอกต้องผ่านไปเจอทีละเคส ๆ ซึ่งแต่ละเคสก็ต้องมีจุดเด่นในเรื่องของความน่าสนใจในแบบไทย ๆ มีคอนฟิกต่าง ๆ ดำเนินไปตามเหตุการณ์”
– เรื่องการแคสติ้ง” ทำไมถึงต้องปั้นจั่นกับเอสเธอร์
“เมนหลักเลยเราเลือกจากบท คาแรคเตอร์ เราก็ไล่หานักแสดงในประเทศไทยมีใครบ้างที่น่าจะเหมาะ ก็มาลงตัวที่ 2 คนนี้ เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาเราไม่ค่อยเห็นพวกเขาในภาพยนตร์มากนัก พอเราติดต่อเข้ามาพูดคุย ส่งบทให้เขาอ่าน เขาก็มีความสนใจ จากการได้พูดคุย จากการได้เทสต์หน้ากล้อง รู้สึกว่าเขาน่าจะดี และที่สำคัญเนี่ย ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น เมื่อพอมาเจอกันแล้ว เคมีเขาทั้งคู่เข้ากันได้ดี ดูมีความเป็นคู่กัดกันดี”
– เหตุการณ์ความประทับใจในกองถ่าย
“ผมคิดว่าเป็นภาพรวมในการทำงานมากกว่า เป็นมิติของการร่วมแรงร่วมมือกัน เนื่องจากเรื่องนี้ พูดตรง ๆ ว่ามันมีการวางแผนการถ่ายมาค่อนข้างยาวนาน แล้วก็มีการขยับเลื่อนอะไรกันมา จนสุดท้ายเนี่ย เราเจอโจทย์การทำงานที่ค่อนข้างยาก ก็คือมีเวลาถ่ายกันแค่ 2 เดือน แล้วเป็น 2 เดือนที่โหดมาก ธันวากับมกรา ซึ่งธันวาวันหยุดก็จะหายไปเยอะแล้ว แต่โชคดีว่าเอสเธอร์กับปั้นจั่น เค้าเทคิวให้ 2เดือนนี้ ก็จะไม่มีงานอื่นติดพันเยอะมาก พอคิวมันอัดมา เราก็ต้องเร่งอัดถ่ายให้ได้มากที่สุดในระดับมาตรฐานที่เราตั้งกันไว้ คือไวและต้องดีมากเท่านั้น 2 เดือนนี้ทำงานกันทุกวัน ถ้าไม่ถ่ายก็ต้องเตรียมงานถ่าย ผมประทับใจความทุ่มเท ความมีใจรักในงานของทีมงานทุก ๆ ฝ่าย รู้สึกว่าเราน่าจะเป็นคนที่สบายที่สุดเลย ทุกคนพยายามซับพอร์ทในมิติของตัวเอง เพื่อหนังจะได้ออกมาดีตามที่ทุกคนคาดหวัง”
– เรื่องราวสั้น ๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้
“สำหรับภาพยนตร์ รัก 2 ปี ยินดีคืนเงิน ในแบบฉบับของผมก็จะเป็นเรื่องของการต่อสู้กันระหว่างคนที่เชื่อในความรัก และคนที่ไม่เชื่อในความรัก ผ่านตัวพระเอกที่ชื่อ แทน รับบทโดย ปั้นจั่น ปรมะ คาแร็กเตอร์ของแทนเป็นคนที่ไม่เชื่อในความรัก เนื่องจากมีประสบการณ์จากการถูกแฟนสาวของเขาทอดทิ้งอย่างเจ็บปวด ทำให้เขาต้องต่อสู้กับ จี๊ด ผู้ที่ตลอดเวลายังเชื่อ และ
ศรัทธา ว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง ซึ่งจะเกลียดการเอารักแท้มาเป็นเรื่องขำ ๆ สนุกสนาน หรือเป็นข้อต่อรองเป็นช่องทางการทำมาหากิน รับบทโดย เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เรื่องราวจะเป็นเหตุการณ์แบบสถานการณ์พาไป จากการที่พระเอกได้ออกแบบกรมธรรม์ขึ้นมากรมธรรม์หนึ่ง โดยมีเงื่อนไขว่า ถ้าคู่รักที่มาซื้อกรมธรรม์นี้ ภายใน 2 ปีไม่เลิกกัน รับเงินประกันคืนไปเลยร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมดอกเบี้ยอีกสามสิบเปอร์เซ็นต์ทันที แต่ถ้าเลิกกันก็ได้คืนครึ่งเดียว ด้านพระเอกทำทุกวิถีทางให้ทุกคู่ที่ซื้อต้องจบชีวิตรักลง ส่วนนางเอกผู้ที่เกลียดกรมธรรม์ที่หากินกับความรักแบบนี้มาก ก็พยายามทำทุกวิถีทางที่จะขัดขวางเช่นกัน เรื่องการแบทเทิลทั้งคู่เลยเกิดขึ้น จนเรื่องราวมาถึงทางแยกสุดท้ายแล้ว เมื่อทั้งคู่ต้องตัดสินใจระหว่างความเชื่อเรื่องรักที่ต่างกันแบบสิ้นเชิง กรมธรรม์รักจะพิสูจน์ความเข้าใจของทั้งสองคนนี้ได้ไหม ต้องติดตามครับ”
“อยากเชิญชวนทุก ๆ คนมาดูหนัง รัก 2 ปียินดีคืนเงิน กันดูนะครับ การันตีได้เลยว่าจะเป็น 2 ชั่วโมงที่มีความสุข จะได้รับความบันเทิงเต็ม ๆ กับเรื่องราวความรักที่แปลกใหม่ แต่สนุก ตลก ฮา น่ารัก ตลอดทั้งเรื่อง เหมาะที่จะมากับคู่รักมาก เพราะคู่ของคุณอาจจะได้เห็นมุมมองในเนื้อเรื่องของความรักหลากหลายขึ้น ยิ่งถ้ามาดูกับคนรักน่าจะทำให้รักกันมากขึ้นด้วย เตรียมไปชมกันได้ 20 มิถุนายนนี้ พร้อมกันทุกโรง ทั่วประเทศ”
นักแสดงและตัวละครต่าง ๆ
************************************************************************
คลิปเปิดตัวภาพยนตร์
“จี๊ด” อดีตนักจับคู่ผู้ศรัทธาในรักแท้ รับบทโดย เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา
“ ความรักเอาตัวเลขมาวัดไม่ได้หรอก ต้องใช้สมองและหัวใจ”
จี๊ด ผู้ที่หน้าที่การงานในบริษัทจับคู่กำลังเป็นไปได้สวย มีชีวิตที่ล้อมรอบไปด้วยความรักที่ดีและสวยงาม จากการได้ช่วยจับคู่ให้ลูกค้าสำเร็จได้แต่งงานกันหลายคู่ แต่จู่ๆ งานแต่งของลูกค้าที่เธอจับคู่ให้ก็ถูกพังลงโดยผู้ชายที่ชื่อ แทน ซ้ำร้ายหลังจากเหตุการณ์นั้น เธอยังต้องถูกส่งให้ไปร่วมทำงานกับแทนอีก เธอจึงจะพิสูจน์ต่อแทนให้ได้ว่า รักแท้มีอยู่จริง
เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา เป็นนักแสดงที่ทุกคนต่างคุ้นหน้าคุ้นตาจากการปรากฏตัวในผ่านทางผลงานทางช่อง 3 เอสเธอร์เป็นที่รู้จักจากบทบาทมากมาย และจากการแสดงที่น่ารักสดใสและเป็นธรรมชาติ โดยภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องที่สองของเอสเธอร์ โดยบทจี๊ดจะมีความน่ารักขบขัน ผู้ชมจะอมยิ้มไปกับบุคลิกอันสดใสของจี๊ดอย่างแน่นอน
ความรู้สึกที่ได้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องนี้
“รู้สึกดีใจตั้งแต่ทาง ซีเจ เมเจอร์ ติดต่อมาให้เล่นแล้วค่ะ ซึ่งถึงแม้จะเป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่รับเล่น แต่ก็ถือว่าบทบาทที่ได้รับโดนใจสุด ๆ เลยค่ะ รู้สึกว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างน่าสนใจแล้วก็แปลกใหม่ ไม่เคยเห็นเรื่องอะไรที่มันพล็อตที่มันแปลกขนาดนี้ ก็เลยตัดสินใจรับค่ะ ดีใจนะคะ รู้สึกว่าเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งที่ได้เรียนรู้ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เจอทั้งโปรดิวเซอร์ทางซีเจ เมเจอร์ ได้ทำงานกับทีมพี่โจ้ ผู้กำกับ ไปพร้อม ๆ กัน”
บทที่ได้รับในเรื่องนี้
“ในเรื่องนี้รับบทเป็นจี๊ดค่ะ จี๊ดเป็นคนที่เชื่อมั่นในความรัก ว่าไม่สามารถเอามาตีมูลค่าได้ หรือไม่สามารถเอามาคำนวณเป็นอัตราส่วน หรือระยะเวลาปีได้ ก็คือเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก เชื่อว่าทุกอย่างย่อมมีทางแก้ปัญหาได้ ซึ่งจะไปขัดกับบทที่พี่ปั้นจั่นเล่นค่ะ พอทั้งคู่ได้โคจรมาเจอกัน คนนึงจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อกรมธรรม์รัก 2 ปีเลิกกัน แต่อีกคนจะทำให้ลูกค้ากลับมาแก้ไขปัญหาแล้วก็รักกัน มันก็เลยเป็นเรื่องของการแข่งกัน แบทเทิลกัน สุดท้ายก็เลยมีการท้าทายกันเกิดขึ้นว่า ใครจะแพ้ใครจะชนะ ต้องไปติดตามกันในหนังค่ะ รับรองได้ว่าจะเห็นเรื่องราวความรักในหลาย ๆ รูปแบบค่ะ ที่สำคัญพูดเลยว่าส่วนตัวประทับใจมาก ๆ กับหนังเรื่องนี้ เป็นงานภาพยนตร์ที่ตัวเองได้รับบทบาท คาแร็กเตอร์ อุปนิสัย เหมือนกันกับตัวเอสเธอร์เลยค่ะ ยิ่งเรื่องของความรักค่อนข้างเหมือนเลย เพราะว่าเป็นคนเชื่อมั่นในความรักค่ะ”
รู้สึกยังไงที่ได้ร่วมงานกับ ซีเจ เมเจอร์ฯ
“ดีใจนะคะ รู้สึกว่าเป็นการทำงานอีกแบบหนึ่งที่หนูได้เรียนรู้ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ แล้วก็ได้เจอทั้งโปรดิวเซอร์ทางซีเจ เมเจอร์ และทีมพี่โจ้ ผู้กำกับ ที่ต้องทำงานร่วมกันค่ะ เป็นการผสมผสานที่ลงตัวดี ซีเจ เมเจอร์คือบริษัทบันเทิงที่ค่อนข้างมีระดับมาตรฐานของการทำงานที่ดีมีคุณภาพสุด ๆ ทุกงานละเอียดมาก ๆ เขาทำการบ้านมาดีมาก ๆ การวางเฟรม การนับเฟรม เรื่องแสง เรื่องมุม เรื่องการกำกับ เรื่องการแสดง เอาใจใส่ทุกขั้นตอน แรก ๆ ก็ตกใจเหมือนกัน (หัวเราะ) แต่ดีค่ะ ตกใจในทางที่ดี เป็นสิ่งที่เป็นมาตรฐานค่ะ”
ทำงานกับปั้นจั่นเป็นยังไงบ้าง
“กับพี่ปั้นจั่นตอนแรก ๆ เราก็คิดว่าเขาเป็นคนที่ค่อนข้าง คูล ๆ สุขุม เป็นผู้ใหญ่ อาจจะไม่พูดเยอะ แต่พอได้มาร่วมงานกันจริง ๆ พี่ปั้นจั่นเป็นคนที่เฟรนด์ลี่มาก แล้วก็เป็นคนแอ็กทีฟมาก พลังเยอะมาก แล้วก็เป็นคนตลกมาก เล่าเรื่องอะไรก็ขำไปหมด ซึ่งพอคุยด้วยทำงานด้วยแล้ว สนุกมาก ๆ ค่ะ”
คิดว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ความรักของคนสมัยนี้ มักรักเร็วเลิกเร็ว
“หนูว่าเพราะด้วยสังคมเราทุกวันนี้มันค่อนข้างแบบว่าติดต่อกันไวมาก จะคุยกันได้ก็เร็วมาก เดี๋ยวนี้มีแบบว่า ไลน์ เบอร์ แป๊บเดียว คนค่อนข้างโซเชียลกันแล้วเดี๋ยวนี้ ก็เลยทำให้เราเรียนรู้กันไว รู้จักกันไว ใจเย็นกันช้าลง ใจร้อนกันมากขึ้น มันก็เลยอาจจะทำให้เลิกกันไวด้วย ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่กว่าคน 2 คนจะติดต่อกันได้เนี่ย จดหมายก็ค่อนข้างนาน หรือว่าอีเมล์ นานครั้งจะมีโทรศัพท์คุยกันบ้างค่ะ”
ทำไมคนดูถึงไม่ควรพลาดที่จะไปดูหนังเรื่องนี้
“เป็นพล็อตเรื่องที่แปลกใหม่ แล้วก็มีความสนุก ภาพสวย ในเรื่องเราจะได้เห็นความรักในหลาย ๆรูปแบบ อยากให้ติดตามชมมาก ๆ เลยค่ะ เป็นอีกเรื่องนึงที่ตั้งใจทำงานมาก ๆ นักแสดงทุกคนทุ่มเทกันมากทำงานกันหนักมาก ๆ ฝากให้กำลังใจพวกเราด้วยนะคะ อย่าลืมไปติดตามชมกันนะคะ รัก 2 ปียินดีคืนเงิน เริ่มฉายวันที่ 20 มิถุนายนนี้เป็นวันแรก ทุกโรงภาพยนตร์ค่ะ”
ฉากประทับใจ
“จริง ๆ ประทับใจหมดเลยค่ะ อย่างที่บอกว่าเรื่องนี้ได้บทที่คาแร็กเตอร์เป็น เอสเธอร์ สุปรีย์ลีลา มาก ๆ ทำให้เรามั่นใจที่จะเล่นอารมณ์นั้นอารมณ์นี้น่ะค่ะ และที่ประทับใจสุด ๆ ก็คือ ซีเจ เมเจอร์ เขามีดีเทลค่อนข้างละเอียดมาก ๆ บางทีเราไม่เคยเห็นการทำงานของเขา ถึงกับอุทาน โอวว..เขาทำกันอย่างนี้เลยเหรอ จะต้องมีการปรับตัวทั้งสองฝ่ายมาก ๆ ค่ะ แต่ว่าหนูรู้สึกได้ ณ ตอนนั้นเลยนะ ว่าเป็นการปรับตัวไปในทางที่ดีขึ้นมาก ๆ มันเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับหนูเลย รู้สึกสนุก และน่าตื่นเต้นทุกครั้งที่ไปกองค่ะ”
************************************************************************
“แทน” นักคณิตศาสตร์ประกันภัยผู้เชื่อเพียงแค่ตัวเลขและสถิติ รับบทโดย ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย
“ไม่มีอะไรบนโลกที่คำนวนไม่ได้ แม้แต่ความยืนยาวของความสัมพันธ์”
แทน เป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่เชื่อในเหตุผลและหลักการ หลังจากที่เขาถูกบอกเลิกอย่างเจ็บปวดจากแฟนเก่า เขาก็ไม่เชื่อในรักแบบที่ไม่หวังอะไรตอบแทนอีกเลย เพื่อพิสูจน์ความไม่เชื่อในรักแท้ของเขา เขาจึงคิดค้นประกันภัยความรักขึ้นซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก แต่แล้ววันหนึ่งจี๊ดก็เริ่มเข้ามามีส่วนในชีวิตเขาและค่อยๆ ท้าทายกับความเชื่อของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
ปั้นจั่น ปรมะ อิ่มอโนทัย ได้เริ่มต้นในสายงานบันเทิงในฐานะนักร้องในวงบอยแบนด์ชื่อดัง “Nice To Meet You” ในปี 2007 และได้มีบทบาททางการแสดงทั้งในโทรทัศน์และจอเงินมากมาย โดยผลงานภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกคือ It Gets Better (2012) คนเห็นผี (2014) ปั๊มน้ำมัน (2016) คนขับรถ (2017) ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงฝีมือการแสดงที่ดีของปั้นจั่น ในภาพยนตร์เรื่องนี้ บทของแทนจะค่อนข้างซับซ้อน ด้วยบุคลิกที่เย็นชา ดูแข็งกระด้างแต่แท้จริงแล้วมีจิตใจที่อ่อนโยน
ความรู้สึกกับการได้เล่นภาพยนตร์เรื่องนี้
“ดีใจมากครับที่ได้รับโอกาสนี้ เล่นหนังมา 3-4 เรื่องจะเป็นแนวดราม่าไม่ก็เป็นสไตล์อินดี้ เรื่องนี้เป็นโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องแรกของผมก็ว่าได้ ดูได้ทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ สำหรับเนื้อหาหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของ ผู้ชายกับผู้หญิงสองคนที่มีความคิดต่างกันโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับความรัก คนนึงเชื่อศรัทธาในความรัก อีกคนนึงผิดหวังจากความรักมาแล้วก็ไม่เชื่อจากความรักเลย มันเลยเป็นคอนฟลิกที่ค่อนข้างเข้มข้นสูงมาก มีความขัดแย้งกันมากมายในเรื่องนี้ สำหรับตัวผมพอหลังจากที่ได้บทไปศึกษาแล้ว เรารู้สึกได้ทันทีว่ามันท้าทายและกดดันมาก ๆ เป็นภาพยนตร์ที่มีแก่นของเรื่องเป็นแนวใหม่ แค่คิดว่าจะได้เล่นบทแบบนี้ก็สนุกแล้วครับ”
คาแร็คเตอร์เรื่องนี้รับบทเป็นอะไร ต่างจากตัวงเองมั้ย
“ในเรื่องรับบทเป็น แทน ครับ แทนเป็นคนที่เคยมีประสบการณ์ไม่สมหวังในความรัก โดนผู้หญิงทิ้งมาก่อน ก็เลยเป็นปมในใจ ทำให้เค้าไม่เชื่อในความรักอีกแล้วจากคนที่เคยเชื่อ และเพราะเป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัย เลยเอาตัวเลขมาสรุปเป็นสถิติแม้แต่เรื่องของความรัก เป็นคนคิดกรรมธรรม์รัก 2 ปีขึ้นมาตามสถิติว่า ความรักจะรอดหรือจะร่วง แค่ 2 ปีรู้กัน และยังคำนวณทุกอย่างเป็นตัวเลขหมดแม้กระทั่งความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตัวเองกับจี๊ดที่เอสเธอร์เล่น ซึ่งบทนี้มันต่างจากตัวจริงของผมมากเลยทีเดียว แทนคิดทุกอย่างเป็นสูตรหมดว่าจะต้องได้ผลลัพธ์เท่านี้ได้ผลกำไรเท่านี้ เอาเรื่องเกี่ยวกับความรัก ความชอบมาคำนวณเหมือนกัน แต่ตัวผมจริง ๆ อีโมชันนัลล้วน ๆ ครับ(หัวเราะ) เพราะตัวจริงของผมเป็นคนที่เชื่อเรื่องความรักครับ เพราะความรักเป็นพลังให้เราทำหลาย ๆ อย่างได้ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความรักจากครอบครัว ความรักจากแฟนคลับ จากคนรอบข้าง หรือว่าจะเป็นความรักจากแฟนเรา”
คิดว่าทำไมเขาถึงเลือกเราเป็นตัวแสดงบทแทน
“อาจจะเป็นเพราะผมเป็นคนตลกมั้ง แล้วทางพี่โจ้เองก็เห็นว่าผมมีความตลกสนุกสนาน ก็เลยให้ผมมาเล่นภาพยนตร์คอมเมดี้ แต่ว่าส่วนใหญ่ผมเองไม่ว่าจะเล่นละคร หรือภาพยนตร์ได้เล่นบทดราม่าหมดเลย ซึ่งบทคอมเมดี้เป็นบทที่ยากสำหรับผม แต่ในเมื่อเขาเลือกเรา ก็ต้องตั้งใจให้ดีที่สุด มีแอบคิดนะว่าเราเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เขาเลือกไว้แต่แรกแล้วหรือเปล่า (หัวเราะ) ก็ขอบคุณมากที่เลือกผมเข้ามาเล่น ขอบคุณมากครับ”
กับการร่วมงานกับเอสเธอร์ล่ะ
“สำหรับการทำงานก็สนุกสนานกันเองดี กับเอสเธอร์ก็รู้จักกันมาก่อนแล้ว แต่ยังไม่เคยร่วมงานกันมาก่อน แรก ๆ ภาพในหัวเราคือน้องเป็นผู้หญิงนิ่ง ๆ เงียบ ๆ ปกติทั่วไป ซึ่งแรก ๆ ตอนเปิดกล้องก็เหมือนจะเป็นอย่างนั้น อาจจะยังไม่คุ้นกันมาก แต่เมื่อเริ่มสนิทกันแล้ว ผู้หญิงคนนี้เป็นคนมีของครับ ขึ้นอยู่ว่าเขาจะปล่อยอะไร มากน้อยแค่ไหน เดาทางยากเลยครับ”
ฉากประทับใจ
“มันคละ ๆ รวม ๆ กันครับ แต่ที่ประทับใจมากที่สุดเป็นเรื่องราวที่เหมือนชื่อหนังภาษาอังกฤษครับ love battle เป็นเรื่องราวบรรยากาศในกอง ก็จะมีการสู้รบปรบมือกันตลอด ทีมงานกับผู้กำกับ ผู้กำกับกับทางซีเจ เมเจอร์ หรือว่าจะเป็นผู้กำกับกับผมเอง กับเอสเธอร์เอง เพราะเราทุกคนไม่เคยร่วมงานกัน มาร่วมงานกันครั้งแรก มีปรับจูน แล้วก็พยายามถกเถียงแล้วก็หาวิธีการทำงานให้สมูทราบรื่นออกมาให้ดีที่สุด เพราะว่าทุกคนอยากให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาดีที่สุด แล้วก็ให้คนดูได้อะไรกลับไปเยอะที่สุดครับ ซึ่งในที่สุดพวกเราก็ทำได้ครับ ทำได้ดีมากด้วยกล้าพูดเลย เลยประทับใจจุดนี้ที่สุดครับ”
ตัวจริงปั้นจั่นเชื่อเรื่องความรักมั้ย
“เชื่อครับ ตัวจริงเชื่อเรื่องความรักครับ เพราะความรักเป็นพลังให้เราทำหลาย ๆ อย่างได้ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความรักจากครอบครัว ความรักจากแฟนคลับ จากคนรอบข้าง หรือว่าจะเป็นความรักจากแฟนเรา คนรักเรา”
เหตุผลที่ไม่ควรพลาดชมภาพยนตร์เรื่องนี้
“ความรักไม่มีผิดไม่มีถูก บางทีรักมากเกินไปมันก็ไม่ดี รักน้อยไปก็ไม่ดี ไม่คิดเลยก็ไม่ดี คิดมากไปก็ไม่ดี ฉะนั้นผมว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้คนที่ดูออกมาจะบาลานซ์ความรักของตัวเองได้ว่า เราควรจะอยู่ในเลเวลไหนเพราะว่าในเลเวลนี้มันก็จะมีคนที่รักสุดโต่ง กับรักโดยใช้การคำนวณ มันเลยทำให้เห็นข้อแตกต่าง ฉะนั้นมันต้องเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และก็บาลานซ์กัน ถึงจะถือเป็นความรักยั่งยืนยาวนาน แล้วก็มีความสุขครับ รัก 2 ปียินดีคืนเงิน ก็จะมีโปรแกรมฉายแล้วทุกโรงภาพยนตร์ ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้ อย่างที่บอกไปอยากให้ทุกคนมาดูปั้นจั่นเล่นกับเอสเธอร์ แล้วยังมีนักแสดงอีกมากมาย หวังว่าทุกคนจะมีความสุขออกไปหลังดูภาพยนตร์เรื่องนี้จบ แล้วก็เห็นมุมมองความรักที่ตัวเองยังไม่มี พร้อมกับเสียงหัวเราะ ได้แง่คิดข้อคิดออกไปด้วย จะได้แบบว่าไปมีความรักอย่างมีความสุขจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้ครับยังไงก็ขอฝากภาพยนตร์เรื่องนี้เอาไว้กับทุกคนด้วยมีกำหนดฉาย 20 มิถุนายนนี้ครับ หวังว่าคนดูออกจากโรงแล้วจะมีความสุขกับอีกมุมมองของความรักที่เวลาก็ตัดสินไม่ได้นะครับ”
*************************************************************
ข้อมูลของบริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (CJ Major Entertainment)
บริษัท ซีเจ เมเจอร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (CJ Major Entertainment) เป็นบริษัทผลิตภาพยนตร์ไทย ภายใต้การร่วมมือกันระว่างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ๊ป และ ซีเจ อีแอนด์เอ็ม (CJ E&M) บริษัทเอ็นเตอร์เทนเมนท์ยักษ์ใหญ่ในเอเชียจัดตั้งขึ้นในปี 2016
ภาพยนตร์เรื่องแรก “20 ใหม่หัวใจรีเทิร์น” ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างมากในฐานะภาพยนตร์คุณภาพ
บริษัทมีจุดมุ่งหมายคือการสร้างความหลากหลายแก่อุตสาหกรรมหนังไทย โดยสนับสนุนกำลังผู้สร้างในประเทศไทยและรวบรวมผู้มีความสามารถในด้านต่าง ๆ เพื่อสร้างภาพยนตร์ไทยที่มีคุณภาพเพื่อผู้ชมทั้งในและต่างประเทศ
ที่อยู่: 1839 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 FB: https://www.facebook.com/cjmajor.th/ IG: http://www.instagram.com/cjmajor.th