กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ในยุคที่เทรนด์รักสุขภาพกำลังมาแรง ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น ทำให้เกิดฟู้ดเทรนด์ (Food Trend) ต่างๆ ที่กำลังได้รับความนิยม ตั้งแต่มังสวิรัติ ชีวจิต อาหารคลีน ฯลฯ และหนึ่งในฟู้ดเทรนด์ที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ก็คือ“Personalized Nutrition” หรือ โภชนาการเฉพาะบุคคล ซึ่งเป็นการที่แต่ละบุคคลเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะกับตนเอง เพราะแต่ละบุคคลมีรูปร่าง ขนาด น้ำหนัก ส่วนสูงแตกต่างกัน หรือมีความต้องการบางอย่างทางร่างกายไม่เหมือนกัน จึงจำเป็นต้องเลือกอาหารที่เหมาะกับแต่ละบุคคลด้วย รวมถึงเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคกลุ่ม NCDs[1] หรือโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งกำลังพบมากในปัจจุบัน โดยจากผลสำรวจของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อปี 2561 พบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังปีละ 3.2 แสนคน หรือในทุกๆ ชั่วโมงจะมีคนเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังถึง 37 คน[2] ซึ่งหนึ่งในสาเหตุหลักเกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่มีประโยชน์หรือเสี่ยงต่อการทำลายสุขภาพ
การรับประทานอาหารแบบ Personalized Nutrition คือ การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล หรือเหมาะสมกับโรคที่แต่ละบุคคลเป็นอยู่ โดยเน้นการลดหวาน ลดเค็ม หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำมันมาก รวมทั้งอาหารที่มีการปรุงแต่งด้วยการสังเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งการปรุงอาหารด้วยตัวเอง ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เรามั่นใจว่าเราได้รับประทานอาหารที่ถูกต้อง เหมาะสมและดีต่อสุขภาพของตัวเอง
ดังนั้น ฟิลิปส์ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ จึงได้จับมือกับ Shopee ผู้นําตลาดอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปทำอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ เชฟฟาง – ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช เพื่อสร้างสรรค์เมนูแสนอร่อยแบบไม่ต้องใช้น้ำมัน และดีต่อสุขภาพ ด้วยตัวช่วยสุดพิเศษอย่างหม้อทอดอากาศ Philips AirFryer ณ โรงเรียนศิลปะการอาหารและผู้ประกอบการคูลิเนอร์ ชั้น 7 ห้างสรรพสินค้าเอ็มโพเรียม
เชฟฟาง ณัฐพงศ์ หน่อชูเวช กล่าวว่า “ในปัจจุบันคนทั่วโลกรวมถึงชาวไทยเองต่างมีความตื่นตัวกับเทรนด์รักสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเลือกรับประทานอาหาร ซึ่งในบางรูปแบบจะมีการจำกัดทั้งประเภท ชนิดของอาหาร ส่วนผสม เครื่องปรุง ตลอดจนกรรมวิธีในการปรุง จนในบางครั้งหลายคนเริ่มถอดใจและไม่สามารถทำต่อได้อย่างต่อเนื่อง Philips Airfryer XXL จึงเป็นตัวช่วยที่ดีในการปรุงอาหารสามารถทำเมนูที่ชื่นชอบ โดยไม่ต้องง้อน้ำมัน แต่ยังคงรสชาติความอร่อยของวัตถุดิบด้วยกรรมวิธีแบบดั่งเดิม ในขณะเดียวกันยังดีต่อสุขภาพ เพราะสามารถลดปริมาณไขมันในอาหารให้ลดน้อยลงได้ด้วย โดยเมนูอาหารที่เราจะทำกันคือ Rosemary Lemon Grilled Chicken และ Air Fry Smore Hand Pie ซึ่งเป็นอาหารทั้งคาวและหวานที่ทำง่าย มีประโยชน์ และสามารถทานได้ทั้งครอบครัวเลยครับ”
ก่อนที่เราจะไปพบสูตรทำอาหารแสนอร่อย เรามาลองดูกันก่อนว่าวัตถุดิบที่เราเลือกมาในเมนูนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง
เนื้อไก่ มีรสชาติดีและคุณค่าทางอาหารสูง โปรตีนสูง แต่ไขมันน้อย และมีแคลอรีต่ำ ในทางแพทย์แผนจีนเนื้อไก่เป็นยาที่มีฤทธิ์ร้อน มีรสหวาน เหมาะที่จะใช้บำรุงร่างกาย ช่วยให้กระดูกและเส้นเอ็นแข็งแรง เนื้อไก่นั้นอ่อนนุ่มและยุ่ยง่าย เมื่อนำมาทำอาหารจะทำให้เครื่องปรุงต่างๆ แทรกซึมเข้าไปภายในเนื้อได้เป็นอย่างดี และด้วยเหตุที่มันมีกล้ามเนื้อที่สั้น จึงทำให้ย่อยง่าย เคี้ยวสะดวก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย[3]
มันฝรั่ง เป็นพืชดั้งเดิมที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหาร ทั้งวิตามินซีและธาตุเหล็กที่ช่วยรักษาโรคโลหิตจาง มีวิตามินบี 6 สูง ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง มีวิตามินซีสูง ช่วยป้องกันหวัด บำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันและโรคลักปิดลักเปิด หัวมันฝรั่งมีสรรพคุณช่วยบำรุงหลอดเลือด มันฝรั่งมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ แถมอุดมไปด้วยแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง และยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีมีประโยชน์ เหมาะสำหรับเป็นอาหารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์หรือคุณแม่ให้นมบุตร[4]
เลมอน เป็นหนึ่งในผลไม้ตระกูลซิตรัสที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ด้วยสีสันของเปลือกและเนื้อที่เตะตา กลิ่นหอมที่เย้ายวนใจ และยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมของการทำอาหารทั้งคาวหวาน น้ำและเนื้อของเลมอนอุดมไปด้วยสารอาหาร ทั้งวิตามินซีที่อาจช่วยลดระดับของน้ำตาลกลูโคสในเลือด ไฟเบอร์ช่วยควบคุมกลูโคสและลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โพแทสเซียมช่วยต่อสู้กับปัญหาที่เกี่ยวกับหัวใจ นอกจากนี้ยังช่วยในการย่อยอาหารและมีแคลอรีต่ำอีกด้วย[5]
พาร์สลีย์ เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารมากมาย ทั้งวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 สูง และมีวิตามินอี โปรตีน ในพาร์สลีย์ยังประกอบไปสารที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต้านสารอนุมูลอิสระ ใบพาร์สลีย์ ยังมีสารคลอโรฟิล ซึ่งเป็นสารสีเขียวที่มีคุณสมบัติต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก นอกจากนี้ยังมีสารขับปัสสาวะ ช่วยกระตุ้นการทำงานของไต มีธาตุเหล็กช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยระบบย่อยอาหารและแก๊สในทางเดินอาหารให้ทำงานได้ดี ทำให้ไม่มีอาการอึดอัด ปวดเสียด แก้โครหอบหืด ลดอาการไอ และพาร์สลีย์ ยังสามารถทำให้ผิวสวยไร้สิวได้อีกด้วย[6]
โรสแมรี มีฟลาโวนอยด์ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สารประกอบเหล่านี้ยังอาจเสริมความแข็งแรงของหลอดเลือด บรรเทาการอักเสบ และอาจลดความเสี่ยงต่อมะเร็ง หลอดเลือดแข็ง และโรคเรื้อรังอื่นๆ แถมเป็นสมุนไพรตัวสำคัญในการคลายประสาท เพิ่มกำลังวังชา และเพิ่มความจำอีกด้วย[7]
เมนู: Rosemary Lemon Grilled Chicken
ส่วนผสม
- ไก่ดิบ 1 ตัว
- เลมอน
- กระเทียม
- ผงปาปริก้า
- น้ำมันมะกอก
- พริกไทยป่น
- โรสแมรี
- เกลือป่น
- มันฝรั่ง
- พาร์สลีย์
- พาเมชานชีส
- ซอสพริกศรีราชา
- มายองเนส
วิธีทำ
- ล้างไก่และซับน้ำออกทั้งด้านในและด้านนอกตัวไก่ พร้อมเก็บปีกและขาไก่ให้แนบกับตัวไก่โดยการใช้เชือกมัดเข้าด้วยกัน ให้แน่น เพื่อให้ไก่สุกอย่างทั่วถึงเวลาที่ทำการอบ พักทิ้งไว้
- ทำน้ำหมัก โดยการขูดผิวเลมอน 1 ลูก โดยขูดเฉพาะบริเวณผิวที่เป็นสีเหลือง ห้ามโดนผิวสีขาวเพราะจะทำให้ขม จากนั้นขูดกระเทียม 2 กลีบ ใส่น้ำมันมะกอก พริกไทยป่น ผงปาปริก้า ปรุงรสตามใจชอบ และนำโรสแมรี 2 ก้าน รูดเฉพาะใบออกมาสับละเอียด ใส่ทั้งหมดลงไปในถ้วย คลุกให้เข้ากัน
- นำไก่ที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในถ้วยใหญ่ พร้อมราดน้ำหมักที่ทำไว้ลงไป โปรยเกลือป่น บีบเลมอนลงไป 2 ซีก คลุกให้เข้ากัน พักทิ้งไว้
- เตรียมมันฝรั่ง โดยการปอกเปลือกมันฝรั่งและหันออกเป็นซีก ขูดผิวเลมอนประมาณ ¼ ของลูก สับพาร์สลีย์ให้ละเอียด ใส่น้ำมันมะกอก พาเมชานชีส เกลือ พริกไทย และผงปาปริก้า ตามใจชอบ คลุกให้เข้ากัน พักทิ้งไว้
- นำไก่ที่หมักเรียบร้อยแล้ว ใส่ลงไปในเครื่อง Philips Airfryer เพื่อทำการอบ โดยตั้งความร้อนที่อุณหภูมิ 200 องศา ใช้เวลา 5 นาที เสร็จแล้วอบต่อ อีก 21 นาที ใช้ความร้อนที่อุณหภูมิ 180 องศา และเมื่อเหลือเวลาอีก 15 นาที ให้ใส่มันฝรั่งที่หมักไว้แล้วลงไปอบพร้อมกัน
- เตรียมดิปสำหรับทานพร้อมมันฝรั่ง โดยใช้ซอสพริกศรีราชาผสมมายองเนส เพิ่มความหอมด้วยการขูดผิวเลมอน ปรุงรสด้วยน้ำมะนาวเล็กน้อย
- เมื่ออบไก่และมันฝรั่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จัดใส่จานพร้อมดิปที่เตรียมไว้ แล้วจัดเสิร์ฟ
นางสาวสิริวรรณ นิจกิจจาทร ผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจ Personal Health บริษัท ฟิลิปส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สำหรับฟิลิปส์ เรามีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมอันทรงคุณค่าเพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต และดูแลสุขภาพของผู้คนให้ดีขึ้น โดยนวัตกรรมหม้อทอดอากาศ Philips AirFryer (ฟิลิปส์ แอร์ฟรายเออร์) ถือเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เราภูมิใจนำเสนอให้ผู้บริโภคชาวไทย ด้วยคุณสมบัติหม้อทอดที่ไม่ต้องใช้น้ำมัน สามารถทำได้ทั้งทอด อบ ย่าง และเบเกอรี่ ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประทานอาหารทอดได้อย่างอร่อยและดีต่อสุขภาพไปพร้อมๆ กัน ในขณะที่ ฟิลิปส์ยังคงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมของเรา วันนี้เราได้ส่ง Philips AirFryer ขนาดใหญ่พิเศษ XXL ที่อัพเกรดมาพร้อมเทคโนโลยี Twin TurboStar จึงทอดอาหารได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมันและยังช่วยลดไขมันได้ถึง 90% (เมื่อเทียบกับการทอดในน้ำมันท่วม) แต่ยังคงรสชาติอาหารที่อร่อยเหมือนเคย ซึ่ง Philips AirFryer XXL รุ่นล่าสุดนี้ มาพร้อมคุณสมบัติที่ใหญ่กว่า แรงกว่า เร็วกว่า ทำให้สามารถทำอาหารได้สำหรับทั้งครอบครัวในคราวเดียว หรือแม้แต่เมนูไก่อบทั้งตัวก็ยังสามารถทำได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว”
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และข้อมูลดี ๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.philips.co.th หรือที่เฟซบุ๊กwww.facebook.com/philipsthailand
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ