ผลการสำรวจของ Booking.com ใน 29 ตลาด จากแฟนกีฬากว่า 22,500 คน เผยว่าแฟนฟุตบอลชาวไทยเป็นหนึ่งในกลุ่มที่เชื่อมั่นกับอนาคตของทีม โดยแฟนลูกหนังชาวไทย 41% คิดว่าทีมที่ตัวเอง
เชียร์จะคว้าแชมป์รายการสำคัญระดับโลกได้
● แฟนกีฬาทั่วโลกเกือบ 1 ใน 3 สารภาพว่ายินดีที่จะยกเลิกฮันนีมูนของตัวเองหรือยอมตกงานเพื่อไม่ให้พลาดโอกาสเดินทางไปดูการแข่งกีฬาครั้งสำคัญของทีมที่เชียร์
● 82% ของแฟนกีฬาทั่วโลกเคยเดินทาง 1-5 ครั้งในปีที่แล้วเพื่อไปดูการแข่งขันสดของทีมที่ตัวเองชอบโดยแฟนบอลเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปเชียร์มากที่สุด
● ปัจจัยสำคัญที่แฟนกีฬาชาวไทยใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกที่พัก ตอนที่เดินทางไปดูทีมที่ชอบแข่ง ได้แก่ ราคาที่จ่ายไหว (73%) และทำเลอยู่ใกล้กับสเตเดียมหรือสถานที่จัดการแข่งขัน (76%)
กรุงเทพฯ 21 พฤศจิกายน 2020 – ปี 2020 จะเป็นปีที่น่าตื่นเต้นในแวดวงกีฬา โดยมีการแข่งขัน UEFA EURO 2020™ ทั่วทั้ง 12 เมืองในยุโรป รวมถึงอีเวนท์การแข่งกีฬาระดับโลกอันน่าตื่นเต้นซึ่งจะจัดขึ้นที่ญี่ปุ่นและออสเตรเลียในปีที่จะถึงนี้ บรรดาแฟน ๆ ต่างก็เตรียมพร้อมที่จะเดินทางไปชมการแข่งขันของทีมและนักกีฬาสุดโปรดบนเวทีระดับโลก
ท่ามกลางความตื่นเต้นคึกคักที่ก่อตัวขึ้น Booking.com พันธมิตรอย่างเป็นทางการของ UEFA EURO 2020™ ซึ่งให้บริการจองที่พักและสิ่งที่น่าสนใจ ได้เผยว่าแฟนกีฬาชาติใดที่มีความเชื่อมั่นมากที่สุด และจะทุ่มเทเพียงใดเพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถเดินทางไปชมช่วงเวลาอันยิ่งใหญ่ของทีมกันได้สด ๆ รวมถึงอิทธิพลของความคิดนี้ที่มีต่อพฤติกรรมการเดินทาง ตลอดจนสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกที่พักสบายเหมือนอยู่บ้านสำหรับโอกาสครั้งสำคัญยิ่งนี้
แฟนกีฬาทั่วโลกต่างตั้งหน้าตั้งตารอปี 2020 พร้อมความคาดหวังเต็มเปี่ยม
แฟนกีฬาชาวไทยหนึ่งในสี่ (41%) เชื่อว่าจะเห็นทีมชาติหรือนักกีฬาของประเทศตัวเองชนะการแข่งกีฬาระดับโลกในปีหน้า ระดับความคาดหวังนี้ในหมู่แฟน ๆ จึงสูงอย่างยิ่งเนื่องจากเตรียมพร้อมรับทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ ในปี 2020
แฟนกีฬาแข่งขันจักรยานชาวโคลอมเบียเป็นกลุ่มที่มีความมุ่งหวังมากที่สุดใน 29 ตลาดที่มีการสำรวจ โดย 63% ระบุว่าคิดว่านักปั่นทีมชาติของตัวเองจะคว้าชัยอันยิ่งใหญ่กลับประเทศในปี 2020 ตามมาด้วยแฟนรักบี้จากนิวซีแลนด์ (63%) และแฟนฟุตบอลชาวสเปนซึ่ง 59% ประกาศว่าคาดหวังให้ทีมชนะต่อไปเรื่อย ๆ ในทัวร์นาเมนต์ที่จะมาถึง
ในขณะที่แฟนบอลชาวดัตช์กลับไม่ได้มีความเชื่อมั่นในระดับเดียวกันนี้เมื่อเทียบกับแฟนชาวสเปน ทั้ง ๆ ที่เนเธอร์แลนด์ก็เข้ารอบชิงของยูฟ่าเนชันส์ลีก และเป็นผู้นำกลุ่มในรอบคัดเลือก UEFA EURO 2020™ โดยมีเพียง 17% ที่เชื่อว่าทีมของตนจะคว้าชัยในปี 2020 ทำให้แฟนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความเชื่อมั่นต่ำที่สุด
แฟน ๆ ผู้ทุ่มเทพร้อมยกเลิกทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าจะเดินทางไปดูทีมแข่งได้
ทั้งความกลัวตกกระแส (Fear of Missing Out หรือ FOMO) และความทุ่มเทที่จะเดินทางไปเชียร์ถึงสนามนำมาสู่ความยึดมั่นที่ไม่สั่นคลอน เพราะเกือบหนึ่งในสาม (33%) ของแฟนกีฬาชาวไทยยอมรับว่ายินดียกเลิกทริปฮันนีมูนหากทำให้ได้เดินทางไปชมทีมแข่งขันแมตช์ใหญ่ ๆ ถึงขอบสนาม
แฟนคริกเก็ตชาวอินเดีย (41%) แฟนบาสเกตบอลชาวจีน (41%) และแฟนบอลชาวไทย (32%) คือกลุ่ม แรก ๆ ที่ยอมรับว่ายินดียกเลิกทริปสุดโรแมนติก
ในทำนองเดียวกัน แฟนกีฬาชาวไทยเกือบหนึ่งในห้า (33%) สารภาพว่าจะยอมกระทั่งออกจากงานหากทำให้ได้ไปชมการแข่งขันของทีมนัดชิงชนะเลิศในรายการสำคัญ ตัวเลขนี้เพิ่มสูงขึ้นไปที่ 26% ในหมู่แฟนกีฬาทั่วโลกที่อายุ 18-34 ปี
จากการสำรวจในแถบลาตินอเมริกาพบว่า แฟนบอลชาวบราซิล (21%) มีแนวโน้มมากกว่าที่จะออกจากงานเพื่อไปตามทีมโปรดแข่งรอบชิงในการแข่งครั้งใหญ่ระดับโลกเมื่อเทียบกับแฟนบอลชาวอาร์เจนตินา (18%) ชาวเม็กซิกัน (18%) และชาวโคลอมเบีย (15%)
คอลูกหนังชาวเบลเยียมเป็นกลุ่มแฟนบอลที่มีแนวโน้มน้อยที่สุดที่จะยอมเสี่ยงหมดหน้าตักและตัดขาดจากงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันเพื่อเดินทางไปดูทีมคว้าชัยในรอบชิงชนะเลิศรายการใหญ่ระดับโลก โดยมีเพียง 7% ที่ยอมรับว่ายินดีจะทำเช่นนั้น
การวางแผนเดินทางไปชมแมตช์อันยิ่งใหญ่
การเดินทางไปชมทีมแข่งขันกันแบบสด ๆ นับเป็นเป้าหมายหลักอันชัดเจนสำหรับแฟนกีฬาชาวไทยหลายคน โดยมีแฟนกีฬาชาวไทยมากถึง 82% ที่ยืนยันว่าเคยเดินทาง 1-5 ครั้งแค่ในปีที่ผ่านมา และเกือบครึ่ง (46%) เคยเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อไปดูทีมหรือนักกีฬาแข่ง กีฬาที่แฟน ๆ นิยมเดินทางไปชมมากที่สุดคือฟุตบอล [Soccer] โดยมีแฟนกีฬาชาวไทย 81% ที่เดินทางไปชมการแข่งขันสดนอกเมืองที่ตัวเองอยู่ รองลงมาคือกีฬาแข่งขันความเร็ว [Motorsports] (29%) และเทนนิส (24%) ตามลำดับ
เมื่อพวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะเดินทางไปดูแมตช์ใด เหล่าแฟนชาวไทย ๆ ก็จะเริ่มมองหาที่พักตรงใจ โดยปัจจัยอันดับแรก ๆ ที่มีผลต่อการพิจารณาเลือกที่พักตรงใจ ได้แก่ เป็นราคาที่จ่ายไหว (73%) และทำเลอยู่ใกล้กับสเตเดียมหรือสถานที่จัดการแข่งขัน (76%) และผู้เดินทางหกในสิบ (63%) มองหาที่พักที่มีสปาหรืออ่างน้ำอุ่นให้แช่ผ่อนคลายหลังจบการแข่งขัน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเรื่องราคาจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับแฟนกีฬาชาวไทยแต่ 33% ก็กล่าวว่ายินดีจ่ายให้กับทริปดูกีฬามากกว่าทริปเที่ยวเป็นครอบครัว แฟนคริกเก็ตทั่วโลก (39%) แฟนกีฬาว่ายน้ำทั่วโลก (38%) และแฟนอีสปอร์ตทั่วโลก (38%) เป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นกับการเดินทางเพื่อชมกีฬาที่ตัวเองชื่นชอบ
การส่งแรงใจในวันแข่งขัน
แฟนกีฬาชาวไทยเกือบ 1 ใน 3 (21%) ใส่ของนำโชคตอนที่ไปชมการแข่งขัน ส่วน 16% ก็มีความเชื่อว่าจะต้องทำกิจวัตรบางอย่างเสมอก่อนหรือระหว่างเกมเพื่อให้มั่นใจว่าทีมตัวเองจะชนะ
นอกจากกิจวัตรต่าง ๆ แล้ว แฟนกีฬาชาวไทย 74% กล่าวว่าจะไม่ออกจากสนามกลางคันแม้ว่าจะเป็นตอนที่คิดว่าทีมตัวเองกำลังจะแพ้ก็ตาม 52% อยู่เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อทีมหรือนักกีฬา ในขณะที่ 36% อยู่ต่อเพราะยังไม่ละทิ้งความหวังว่าทีมหรือนักกีฬาจะกลับมาตั้งหลักได้และพลิกเกมในภายหลัง
อายาน เดคก์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าฝ่ายการตลาดของ Booking.com กล่าวว่า “ปี 2020 จะเป็นปีที่น่าจดจำของแวดวงกีฬาอย่างแน่นอน เพราะมีทั้งทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลสุดตื่นเต้นอย่าง UEFA EURO 2020™ (ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก) อีกทั้งยังมีการแข่งคริกเก็ตระดับนานาชาติครั้งสำคัญและอีเวนท์กีฬาสุดยิ่งใหญ่ที่จะจัดขึ้นในเอเชีย ด้วยเรามีพันธกิจในการช่วยให้ทุกคนออกไปสัมผัสโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น เราเชื่อว่าการหาที่พักที่ใช่ ไม่ว่าจะสำหรับโอกาสไหนก็ตาม เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ทุกทริปนั้นคุ้มค่าที่สุด เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมที่สุดให้แฟน ๆ ด้วยการจับมือกับ
สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) เพื่อให้จองที่พักในฝัน ตลอดจนสิ่งยอดเยี่ยมต่าง ๆ ในเมืองที่จัดการแข่งขัน เป็นไปได้อย่างง่ายดาย”
-สิ้นสุดบทความ-
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ
การสำรวจนี้ดำเนินการโดย Booking.com โดยได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นแฟนกีฬาจำนวน 22,603 คน (ส่วนมากคัดเลือกคนที่เป็นแฟนบอล) ซึ่งมีอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 29 ตลาด (ประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้เข้าร่วมแห่งละ 1,000 คน ได้แก่ ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น จีน บราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร รัสเซีย อินโดนีเซีย โคลอมเบีย และเกาหลีใต้ ส่วนประเทศ/ภูมิภาคที่มีผู้เข้าร่วมแห่งละ 500 คน ได้แก่ นิวซีแลนด์ ไทย อาร์เจนตินา เบลเยียม แคนาดา เดนมาร์ก ฮ่องกง โครเอเชีย ไต้หวัน เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน สิงคโปร์ และอิสราเอล) การเก็บข้อมูลนี้ดำเนินการระหว่างวันที่ 8 สิงหาคมถึง 2 กันยายน 2019
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ
คุณอาทิมา ตันติกุล อีเมล artima@vero-asean.com โทร +66 (0)2 684 1551-2
คุณสิรีธร เอื้อราษฎร์ อีเมล sireethon@vero-asean.com โทร +66 (0)2 684 1551-2
เกี่ยวกับ Booking.com:
Booking.com ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1996 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม โดยเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทสตาร์ทอัพขนาดเล็กของเนเธอร์แลนด์ ก่อนเติบโตเป็นหนึ่งในบริษัทผู้นำด้านการเดินทางดิจิตอลของโลก และเป็นส่วนหนึ่งของ Booking Holdings Inc. (NASDAQ: BKNG) Booking.com มีพันธกิจ คือ ช่วยให้ทุกคนได้ออกไปสัมผัสโลกกว้างได้ง่ายดายยิ่งขึ้น จึงลงทุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการเดินทาง และเชื่อมโยงผู้เดินทางหลายล้านคนเข้ากับประสบการณ์ที่น่าจดจำ ตัวเลือกด้านการเดินทาง ต่าง ๆ และที่พักน่าทึ่งได้อย่างราบรื่น ตั้งแต่บ้านพักไปจนถึงโรงแรม และที่พักประเภทอื่น ๆ อีกมากมาย ในฐานะที่เป็นตลาดออนไลน์ด้านการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเสนอบริการทั้งจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักและยอมรับมาอย่างยาวนานและจากผู้ประกอบการทุกขนาด Booking.com ได้ช่วยให้ที่พักทั่วทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงลูกค้าทั่วโลกและทำให้ธุรกิจของที่พักเติบโต Booking.com ให้บริการใน 43 ภาษา มีตัวเลือกสำหรับเข้าพักทั้งหมดมากกว่า 28 ล้านรายการ โดยในจำนวนนี้รวมตัวเลือกบ้านพัก อพาร์ตเมนต์ และที่พักน่าทึ่งประเภทอื่น ๆ กว่า 6.2 ล้านรายการ ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหนหรือทำอะไร Booking.com ก็พร้อมช่วยทำให้ทุกอย่างง่ายดายและมีบริการช่วยเหลือลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง
ติดตามเราบน Twitter และ Instagram หรือกดถูกใจเราได้ที่ Facebook หากต้องการดูข่าวสาร ข้อมูล และข้อมูลเชิงลึกล่าสุด โปรดไปที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารจากทั่วโลกของเรา
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ