แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไม่มีข้อแม้ สำหรับซุปตาร์ลูกอีสานเจ้าของฉายา “เจ้าพ่อเพลงช้ำ” แมน มณีวรรณ หลังเดินทางกลับจากทัวร์คอนเสิร์ตกับ บริษัท เอ.เอ็ม. เวิลด์ มิวสิค เอเอส ประเทศนอร์เวย์ ผู้จัดคอนเสิร์ตรายใหญ่ของยุโรป ก็ขอ “กักตัวเอง 14 วัน” ทันที โดย แมน มณีวรรณ เผยว่า
“ผมเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรปกับ บริษัท เอ.เอ็ม. เวิลด์ มิวสิค สิค เอเอส ผู้จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่ที่สุดของยุโรป ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2563 เริ่มที่ประเทศอังกฤษ เมืองแมนเชสเตอร์ ต่อด้วยนิวคาสเซิล และกรุงลอนดอน จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เบลเยี่ยม เยอรมนี และนอร์เวย์ ช่วงนั้นแต่ละประเทศเริ่มเจอวิกฤติการระบาดของไวรัส โควิด-19 หนักเลย อิตาลี ต้องปิดเมือง ส่งผลกระทบต่อการทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้มาก บางที่ได้แสดง บางที่ต้องยกเลิกไปตามสถานการณ์การแพร่ระบาด เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ทางผู้จัดจึงได้ลงมติให้ยกเลิกคิวการแสดงที่เหลือทั้งหมด ทุกคนเห็นด้วย เพราะเป็นห่วงแฟนเพลงมากกว่า เนื่องจากไวรัสชนิดนี้แพร่ระบาดเร็ว ผมจึงเดินทางกลับมาที่ นอร์เวย์ เพื่อเตรียมตัวกลับเมืองไทยโดยด่วน เพราะทางนอร์เวย์กำลังจะปิดประเทศเช่นกัน ตอนเดินทางมาถึงนอร์เวย์สังเกตุว่าที่นี่มีการรักษาความปลอดภัยและเฝ้าระวังเข็มงวดมาก ผู้เดินทางทุกคนต้องผ่านถึง 3 ด่าน ตรวจและกักกัน มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเมื่อเข้าประเทศแล้ว ห้ามออกไปไหน ให้อยู่แต่ในที่พักเป็นเวลา 14 วัน ทำให้ผมต้องเลื่อนการเดินทางกลับไทยจาก วันที่ 18 มีนาคม เป็นวันที่ 31 มีนาคม แต่ทางผู้จัดคือ คุณอารีย์ เมลบี้ ได้เจรจากับเจ้าหน้าที่ว่าผมมีแพลนกลับเมืองไทยและมีตั๋วอยู่แล้ว หลังจากตรวจร่างกายกันละเอียด เจ้าหน้าที่ก็อนุญาตให้กลับได้ ผมตั้งใจว่ามาถึงเมืองไทยแล้ว ขอแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยการกักตัวเอง 14 วันทันที วันนั้นผมออกจากสนามบิน ก็ตรงมาอุบลราชธานีเลย โดยบอกกับครอบครัวให้เตรียมห้องและสั่งห้ามทุกคนเข้ามาพูดคุยหรือเข้ามาในบริเวณที่ผมอยู่เด็ดขาด ซึ่งตอนนี้ก็เข้าสู่วันที่ 5 แล้วครับ ทุกอย่างยังโอเคดีอยู่ ทางสาธารณสุขมาตรวจ พร้อมกับให้สังเกตุตัวเอง วัดไข้เช้าเย็น รายงานผลทุกวัน
ช่วงกักตัวทำให้คิดถึงงานเพลง เพราะสัญญากับทางค่าย อาร์สยาม กำลังจะหมดลงแล้วในเดือนมีนาคมนี้ ผมมีเตรียมเพลงไว้บ้าง ยังคงเป็นแนวถนัดคือลูกทุ่งอีสาน ที่มีเนื้อหาเศร้า อกหัก เป็นตัวแทนของผู้ชายช้ำรัก ฝากติดตามผลงานในแบบฉบับของ แมน มณีวรรณ กันด้วยนะครับ และผมฝากกำลังใจให้พี่น้องชาวไทยทุกคน ฝ่าวิกฤติโควิด-19 นี้ไปได้ด้วยดี รักกัน ดูแลกัน ขอให้ทุกคนปลอดภัยครับ”