กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 23 พฤศจิกายน 2563 – เมื่อพูดถึงเรื่องของความสวยความงาม ทุกคนจะต้องนึกถึงเคล็ดลับหรือวิธีการต่างๆที่จะทำให้ตัวเองดูดีขึ้น ตลอดจนการเข้าหาแพทย์และคลินิกเสริมความงามเพื่อมองหาตัวช่วยที่จะทำให้เห็นผลลัพธ์ในการสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองมากขึ้น ทำให้เทคโนโลยีความงามเชิงการแพทย์รุดหน้าและมีการปรับเปลี่ยนเทคนิคในการเสริมความงามเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจมากขึ้นในทุกวัน และแน่นอนว่าเทรนด์ความงามก็ตอบโจทย์ความต้องการที่เป็นเฉพาะบุคคลมากขึ้น เป็นการตอกย้ำมุมมองความงามยุคใหม่ ว่าที่จริงแล้ว ความสวยที่สาวๆใฝ่หาไม่ใช่การมองหาเครื่องมือที่จะทำให้เราสวยเหมือนใคร แต่คือการมองหาเครื่องมือเพื่อเพิ่มความมั่นใจ Confidence to be…ในแบบที่เราเป็น
เบื้องหลังการส่งเสริมความมั่นใจให้กับผู้หญิงมากกว่า 8 แสนคน ในประเทศไทย
“…9 ใน 10 ของผู้หญิงไทย เผยว่าตัวเองไม่สวยและไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เราจึงมีหน้าที่ที่จะบอกต่อและตอกย้ำเพื่อให้ผู้หญิงทุกคนมีความมั่นใจในความสวยแบบที่เป็นตัวเอง เป็นตัวคุณ Confidence to be… ”
คุณเปิ้ล เภสัชกรหญิงกิตติวรรณ รัตนจันทร์ ผู้จัดการใหญ่ เมิร์ซ เอสเธติกส์ ไทยแลนด์ บริษัทผู้นำนวัตกรรมความงามจากเยอรมนี ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในวงการเวชภัณฑ์และนวัตกรรมความงามกว่า 20 ปี และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการส่งเสริมความมั่นใจให้กับผู้หญิงไทยมากกว่า 8 แสนคน ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี ได้สร้างแรงผลักดันให้สาวไทยมั่นใจในคาแรคเตอร์และความงามของตัวเอง ก่อเกิดขึ้นเป็นความรู้สึกดีๆ ที่ทำให้พวกเธอยิ่งดูดีมากขึ้นกว่าที่เคยเป็น ตอกย้ำเทรนด์ความงามด้วยความมั่นใจในความสวยที่เป็นตัวเอง และสิ่งที่สาวๆมองหา เมิร์ซ เอสเธติกส์ มีคำตอบและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของหนุ่มสาวในไทยได้
“จากการทำงานในบริษัทยา สู่บริษัทที่เป็น Aesthetics ซึ่งเปรียบเสมือนลูกครึ่งระหว่างบริษัทยาและ FMCG และด้วยเทรนด์ความงามที่มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เราจึงไม่สามารถที่จะอยู่นิ่งได้ ต้องปรับแนวคิดใหม่ ต้องกล้าที่จะก้าวออกจากกรอบความคิดเดิม กล้าที่จะยอมรับความผิดพลาด เพื่อสร้างโอกาสและหาจุดยืนให้กับองค์กรในสถานการณ์แบบนี้ เรามีแนวคิดที่อยากจะนำพาอุตสาหกรรมความงามก้าวสู่การสร้างแรงบันดาลใจ ความมั่นใจ และความสุขให้กับผู้หญิงไทยทั่วประเทศ ด้วยการจับมือกับพันธมิตรคลินิกเสริมความงามและคุณหมอชั้นนำในประเทศไทย กว่า 900 แห่ง เพื่อเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมความงามทั้งในรูปแบบเชิงโครงสร้างและความเชื่อ ด้วยกลยุทธ์ที่สร้างให้ผู้บริโภคได้รู้เท่าทันและสามารถเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้ และยังเปลี่ยนความเชื่อเรื่องความสวยให้กลายเป็นความมั่นใจในแบบที่เป็นตัวเอง ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีความสุขมากยิ่งขึ้น ผ่านนวัตกรรมความงามที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดจากเมิรซ์ ได้แก่ เครื่องมือยกกระชับ จากสหรัฐอเมริกา สารลดเลือนริ้วรอย โบบริสุทธิ์ 0% Impurities จากเยอรมนี และสารเติมเต็มผิว เนื้อเนียนเป็นธรรมชาติ จากสวิสเซอร์แลนด์
…ไม่เพียงเท่านี้ เราให้ความสำคัญกับ Stakeholders ของเราทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น พนักงานของเรา ที่เราดูแลเหมือนคนในครอบครัว มีทัศนคติและเป้าหมายเดียวกัน คลินิกและคุณหมอ ที่เปรียบเสมือนพาร์ทเนอร์ที่จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน โดยเราจะเข้าไปช่วยวางแผนและดูแลกลยุทธ์ แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามความถนัดหรือความต้องการของแต่ละคลินิกที่ไม่เหมือนกัน พร้อมคอยอัปเดตเทรนด์ความงามและร่วมกันคิดค้นโปรแกรมทรีตเม้นท์ใหม่ๆเพื่อให้ตอบโจทย์เทรนด์ในปัจจุบันและเพื่อมอบประสิทธิภาพกับผู้บริโภคสูงสุด และกลุ่มสุดท้ายคือผู้บริโภคที่เข้ารับบริการที่คลินิกเสริมความงาม ที่เรายังคอยสร้างการรับรู้และนำเสนอนวัตกรรมที่ดีที่สุด พร้อมทั้งสร้างแรงบัลดาลใจให้เกิดความมั่นใจและความสุขในแบบที่เป็นตัวเอง
นอกจากนี้เรายังได้สร้างความเชื่อมั่นด้วยการนำเสนอแหล่งข้อมูลคลินิกที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองในการใช้นวัตกรรมเสริมความงามแท้จากเมิร์ซ ผ่านทางเว็บไซต์ https://www.merzclubthailand.com/ ให้กับผู้บริโภคได้ประกอบการตัดสินใจเพื่อเลือกเข้ารับบริการเสริมความที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถืออีกด้วย และด้วยความทุ่มเททั้งหมดนี้ รวมทั้งโอกาสและการเติบโตของตลาดความงามที่เรามองเห็น เราเชื่อมั่นว่าจะสามารถก้าวไปสู่ 1 พันล้านบาท ได้ ภายในระยะเวลา 3 ปี” คุณกิตติวรรณ กล่าวสรุป
เจาะลึก 4 เทรนด์ความงามในอนาคต กับ คุณเปิ้ล ผู้เปรียบเสมือนบิ้วตี้กูรูในประเทศไทย
1. Selfcare/สวยรักษ์ตัวเอง: คำนิยามของเทรนด์นี้คือ …เพราะรักตัวเองมากขึ้น จึงดูแลตัวเองมากขึ้น… อย่างเรื่องของความสวยความงาม จะเห็นได้ว่าผู้คนทั่วโลกทั้งเซเลบ ดารา หรือคนธรรมดาทั่วไปมองว่าการเข้ารับโปรแกรมเสริมความงามเป็นหนึ่งใน Selfcare routine และไม่อายที่จะโพสต์ว่าได้เข้ารับบริการชนิดใดไปแล้วบ้าง ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่แค่การแสดงออกว่าเรากำลังดูแลความสวยความงามของตัวเองเท่านั้น แต่ยังแสดงออกว่าเรากำลังรักษ์ในตัวเองมากขึ้น และจัดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่พลิกจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก
2. Hyper-Personalize Beauty: เป็นเทรนด์ความต้องการความสวยเฉพาะบุคคล ที่ทุกคนต้องการมองหาผลิตภัณฑ์หรือโปรแกรมเสริมความงามที่ออกแบบมาเพื่อคน ๆ นั้นโดยเฉพาะ อย่างการเสริมความงามด้วยเครื่องมือยกกระชับ ที่มีหน้าจอวิเคราะห์ชั้นผิว ทำให้สามารถออกแบบการรักษาที่เฉพาะเจาะจงในแต่ละบุคคลได้อย่างเหมาะสม เป็นต้น
3. Skin Quality: ปัจจุบันผู้คนไม่ได้อยากเสริมความงามเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงโครงหน้าของตัวเองมากนัก แต่เป็นความต้องการที่อยากที่จะมีใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองมากกว่า แต่ผิวต้องสดชื่นสดใส อ่อนเยาว์ และแลดูสุขภาพดี เรียกได้ว่า เป็นการใส่ใจในคุณภาพผิวจากภายใน มากกว่าการมุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกเพียงอย่างเดียว เพราะการมีคุณภาพผิวที่ดีคือความงามที่ยั่งยืน
4. Clean Beauty: การเลือกผลิตภัณฑ์ความงามแบบไร้ซึ่งสารพิษ เช่น สกินแคร์ที่ปราศจากทั้งแอลกอฮอล์ สารกันเสีย น้ำหอม และสีย้อม เป็นต้น ในการเสริมความงามก็เช่นกัน สารลดเลือนริ้วรอยแบบ 0% Impurities นั้นกำลังมา โดยล่าสุดตัวแม่แห่งวงการฮอลลีวูด อย่าง กวินเน็ธ พัลโทรว์ ก็ได้ออกมาแนะนำการใช้โบบริสุทธิ์แบบ 0% Impurities เช่นกัน
เห็นแบบนี้แล้ว เชื่อว่า สาวๆหนุ่มๆที่รักการดูแลตัวเองจะต้องได้วิธีการดูแลตัวเองแบบไม่มีตกเทรนด์ แถมมีข้อมูลดีๆไว้ประกอบการตัดสินใจก่อนเข้ารับบริการเสริมความงามที่ได้คุณภาพอย่างแน่นอน หากท่านใดที่สนใจอยากรับฟังข้อมูลเพิ่มเติมแบบฉบับเต็ม สามารถเข้าไปรับชมได้ที่ https://bit.ly/33a3nMi หรือติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ เมิร์ซ เอสเธติกส์ หรือตรวจสอบคลินิกเสริมความงามได้ที่ https://www.merzclubthailand.com/