โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ โรงแรมหรูแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่ริเริ่มแนวคิด Luxury Wellness Center สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ที่มุ่งมั่นในการให้การบริบาลสุขภาพแบบองค์รวมด้วยมาตรฐานระดับโลกและด้วยนวัตกรรมภายในปี พ.ศ. 2565 และเพื่อยกระดับการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพของไทย

 

ทั้งนี้ บำรุงราษฎร์ได้นำจุดแข็งในเชิงการแพทย์และการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันแบบองค์รวม โดยได้ร่วมกันออกแบบโปรแกรมการแพทย์เชิงป้องกัน (Preventive Medicine) ให้กับผู้เข้าพัก พร้อมติดตั้งระบบ Teleconsultation ในห้องพักทุกห้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้เข้าพักกรณีเกิดการเจ็บป่วย หรือมีอาการกำเริบจากโรคประจำตัว ตลอดระยะเวลาการเข้าพักที่โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ซึ่งผู้เข้าพักสามารถพูดคุยปรึกษาแพทย์บำรุงราษฎร์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Teleconsultation หรือให้โรงพยาบาลฯ เข้าไปรับที่โรงแรมกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเทรนด์สุขภาพยุคใหม่ที่จะเข้าไปดูแลผู้มาใช้บริการพักผ่อนในโรงแรม เพื่อเพิ่มความมั่นใจด้านความปลอดภัยในเรื่องสุขภาพให้แก่ผู้เข้าพักและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงแพทย์ของบำรุงราษฎร์ซึ่งมีความชำนาญและสั่งสมประสบการณ์มายาวนานกว่า 40 ปี ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล

นพ. อิศร สุขวนิช ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า เนื่องด้วยทุกวันนี้ นับจากสถานการณ์โควิด-19 ประชาชนเริ่มให้ความตระหนักและใส่ใจเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น และในอนาคตเรื่อง Healthcare จะเข้าไปอยู่ในทุกส่วนของการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเรื่องของความสะอาด มาตรฐานความปลอดภัย และมาตรการที่ตรวจคัดกรองต่างๆ ซึ่งโรงแรมถือเป็นอีกธุรกิจที่ถูกจับตามอง

สำหรับโรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ นั้น ถือเป็นองค์กรหนึ่งที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพมาก สะท้อนได้จากแนวคิดด้าน Wellness ที่มีความโดดเด่น รวมถึงให้ความสำคัญในการออกแบบศูนย์บริการด้านการดูแลและฟื้นฟูสุขภาพครบวงจร “สินธร เวลเนส บาย รีเซ็นส์” (Sindhorn Wellness by Resense) ด้วยพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร ด้วยการผสมผสานสิ่งอำนวยความสะดวกในเชิงสุขภาพ ซึ่งครอบคลุมถึง ชั้นของโรงแรมฯ โดยมีสปาและพื้นที่ทรีทเมนต์เพื่อสุขภาพ รวมทั้งสปาฮัมมัมหรือการอาบน้ำแบบโมร็อคโค ประสบการณ์ไฮโดรเทอร์มอลที่ถูกออกแบบมาเพื่อฟื้นฟูระบบไหลเวียน กระตุ้นสุขภาพหัวใจ ดีท็อกซ์ร่างกาย และการเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน จึงเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือ โดยบำรุงราษฎร์ ได้นำจุดแข็งในด้านการแพทย์เข้ามาเกื้อกูลกัน เพื่อสนับสนุนจุดแข็งของประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพอย่างครอบคลุม

 

มร. ธาดิอุส  ไวร์ รองผู้จัดการ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ กล่าวว่า “การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับด้าน Wellness ของโรงแรมอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้ผู้เข้าพักได้รับประสบการณ์สุดพิเศษในด้านการแพทย์และสุขภาพจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เนื่องจากเป็นที่ยอมรับว่าเป็นโรงพยาบาลที่ได้การรองรับมาตรฐานในระดับเวิลด์คลาส ส่งผลให้การท่องเที่ยวพักผ่อนของผู้เข้าพักทั้งชาวไทยและต่างชาติมีความหมายและมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น”

มร. ริชาร์ด กรูว์ ผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์สุขภาพ โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ กล่าวว่า “แนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับแนวคิดของโรงแรมในด้าน Wellness ที่ส่งเสริมให้คนมีสุขภาพที่ดี โดยได้เปิดบริการ สินธร เวลเนส บาย รีเซ็นส์ (Sindhorn Wellness by Resense) ในส่วนของโยคะ พิลาทิส สตูดิโอออกกำลังกาย รวมการปั่นจักรยานในสตูดิโอ มิติ หรือ Virtual cycle studio รวมถึงมีห้องทรีทเมนต์ถึง 26 ห้อง และโปรแกรมทรีทเม้นต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทันสมัยด้วยวิธีการปรนนิบัติและบำบัดร่างกายขั้นสูง พิถีพิถันใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเน้นในเรื่องโปรแกรมการดีท็อกซ์ครบวงจร การปกป้องและฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอย่างใกล้ชิดอีกด้วย”

 

ในส่วนของความร่วมมือทางการแพทย์ในครั้งนี้ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ร่วมกันออกแบบโปรแกรมสำหรับผู้เข้าพัก ถึง โปรแกรม โดยโปรแกรมที่โดดเด่น คือ โปรแกรมการตรวจทางพันธุกรรม (หรือ DNA & Personalized Health Screeningเนื่องด้วยเทคโนโลยีทำให้ทุกวันนี้เราสามารถป้องกันและทำนายโรคในอนาคตได้ โดยโปรแกรมนี้จะช่วยระบุโรคที่มีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษหรือโรคที่สามารถเกิดขึ้นกับตัวเราได้ในอนาคต การตรวจก็จะช่วยให้มีวิธีดูแลป้องกันการเกิดโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ นอกเหนือจากโปรแกรมตรวจหาความเสี่ยงที่อาจเกิดโรคในอนาคต ซึ่งเป็นการตรวจเชิงป้องกันแล้ว บำรุงราษฎร์ยังออกแบบโปรแกรมตรวจสุขภาพแบบเจาะลึก (Vitality Program) เป็นการตรวจหาโรคในปัจจุบัน โดยออกแบบผสานกันระหว่างการตรวจ medical check up บวกกับไมโครนิวเทรียนท์ (Micronutrients) ในระดับฮอร์โมน ร่วมกับการตรวจทางพันธุกรรม (Genetic) ซึ่งจะแตกต่างจากตรวจสุขภาพโดยทั่วไป เนื่องจากเป็นการตรวจที่ลงลึกถึงระดับยีน ที่ผู้เข้าพักสามารถเข้าร่วมโปรแกรมสุขภาพได้ ตั้งแต่การเข้าพักที่โรงแรมเป็นเวลา วัน คืน

ในปัจจุบัน การตรวจหาโรคทางพันธุกรรม สามารถตรวจได้จากทางน้ำลาย หรือจากเลือด โดยกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ

1.    กลุ่มที่มีประวัติครอบครัวป่วยเป็นโรคมะเร็ง ควรมาตรวจทำนายโรคทางพันธุกรรม ซึ่งบำรุงราษฎร์จะมีชุดตรวจพันธุกรรมโรคมะเร็ง 10 ชนิด อาทิ มะเร็งเต้านม มะเร็งโพรงมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ หรือ มะเร็งกระเพาะ ฯลฯ ซึ่งจะเป็นมะเร็งในส่วนที่สามารถตรวจพบได้จากทางพันธุกรรม

2.    กลุ่มที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ซึ่งอยู่ในกลุ่มโรคทางพันธุกรรม บำรุงราษฎร์จะมีชุดการตรวจคัดกรองโรคหัวใจ เช่น หัวใจโต หัวใจผิดจังหวะ เส้นเลือดโป่งพองผิดปกติ หรือครอบครัวมีประวัติเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งมักจะเป็นโรคทางพันธุกรรมซ่อนอยู่ แต่ไม่ทราบมาก่อน

3.    กลุ่มที่ต้องการมีความปลอดภัยในการใช้ยา เพราะผลตรวจทำให้ทราบว่าแพ้ยาอะไร ไม่ต้องลองเสี่ยงในอนาคต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ แนะนำว่าควรได้รับการตรวจเพื่อแพทย์จะได้ให้คำแนะนำอย่างถูกต้องว่าร่างกายเราเหมาะกับการใช้ยาแบบไหน ถึงจะให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

 

โดยผู้เข้าพักสามารถเลือกโปรแกรมสุขภาพได้ ก่อนที่จะจองแพคเกจเข้ามากับทางโรงแรม ซึ่งจะได้รับการดูแลสุขภาพที่หลากหลายมิติและได้รับสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่า โดยจะมีการนัดปรึกษาล่วงหน้า (Pre counselling) เพื่อให้ทางโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ออกแบบโปรแกรมการดูแลสุขภาพให้เหมาะสมเป็นเฉพาะรายบุคคล (personalize) มากยิ่งขึ้น หรือสามารถเลือกเป็นแบบ A La Carte ในวันที่เข้าพักก็ทำได้เช่นกัน โดยทางบำรุงราษฎร์สามารถอำนวยความสะดวกให้ผู้เข้าพักโดยมีบริการเจาะเลือดให้ที่โรงแรม และมีบริการรถรับ-ส่งในกรณีที่ผู้เข้าพักมีความประสงค์ที่จะตรวจสุขภาพเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลฯ

นอกจากนี้ ผู้เข้าพักยังสามารถเข้าถึงบริการการให้คำปรึกษาจากแพทย์ของโรงพยาบาลฯ ได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านระบบโทรเวชกรรม (teleconsultation) ซึ่งทางโรงแรมได้ติดตั้งอุปกรณ์แท็บเล็ตที่เชื่อมต่อระบบพร้อมใช้งานไว้ในห้องพักทุกห้อง จำนวน 285 ห้อง โดยแพทย์จะสามารถวินิจฉัยอาการเบื้องต้น รวมทั้งแนะนำแนวทางการรักษา และข้อมูลสุขภาพต่างๆ ให้แก่ผู้เข้าพักได้แบบเรียลไทม์ 

 

นพ. อิศร สุขวนิช กล่าวปิดท้ายว่า “การร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นเทรนด์สุขภาพมิติใหม่ ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ร่วมกันออกแบบโปรแกรมการแพทย์เชิงป้องกันสำหรับผู้เข้าพักในโรงแรม โดยครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาแนะนำ การตรวจสุขภาพเบื้องต้น การวินิจฉัยโรค การดูแลเชิงป้องกัน การดูแลรักษาตั้งแต่อาการไม่หนักจนถึงอาการหนัก รวมถึงกรณีที่ต้องการให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ก็สามารถแจ้งผ่าน Hotel call หรือให้เข้ามารับตัวเพื่อย้ายไปดูแลต่อที่โรงพยาบาลได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นเทรนด์สุขภาพมิติใหม่ ที่ช่วยลดระยะเวลาที่เข้ามายังโรงพยาบาล ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพในยุค New Normal ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพในประเทศไทยอย่างครอบคลุม”

 

————————————-