“ก้อง สหรัถ” เผยเหตุ ไม่เล่นแอปพลิเคชั่น Line ลั่นเตรียมวางแผนลาวงการบันเทิงแล้ว

ก้อง : 52 แล้วครับ

ก้อง : โห…ขอบคุณครับ ดีใจ ปลื้ม เป็นกำลังใจ

ก้อง : จริงๆ ไม่ถือว่าเจ้าชู้นะ คือเราต้องจำกัดคำว่าเจ้าชู้มันขนาดไหน ถ้าสมมติคำว่าเจ้าชู้เห็นผู้หญิงสวยแล้วเดินไป ขอแลกไลน์ แลกเบอร์ สมมติถ้าขนาดนี้พี่ไม่ถึงขนาดนี้ แต่ถ้าเห็นผู้หญิงสวยแล้วมอง สวยจังเลย ก็ประมาณนั้น

ก้อง : ผมว่าผู้ชายมาตรฐานก็มองหมดนะผู้หญิงสวย แต่พี่ไม่ได้คิดอะไร แค่มองว่าสวยจังเลย แต่เราก็ไม่ถึงขั้นเดินเข้าไปหา ขอเบอร์หน่อย ก็ไม่รุนแรงขนาดนั้น

ก้อง : ถ้าพีคสุดก็น่าจะเป็นช่วงนูโวอัลบั้มแรกๆ 1,2,3 ก็จะมีแฟนคลับ มีผู้ที่ชื่นชอบ เข้ามาแบบถึงเนื้อถึงตัว

ก้อง : ผมเชื่อว่ามีแหละ แต่ตอนนั้นอาจจะไม่รู้ตัว เพราะมันนัวเนียไปหมด แต่มีแบบฮาๆ ประเภทเราปิดประตูห้องหมดก็มีจดหมายสอดเจ้ามาแสดงความจำนงว่าต้องการอะไร ขอนิด ขอหน่อย เราก็ไม่ตอบอะไร ได้แต่อึ้งๆ ไป

ก้อง : คงไม่ถึงกับโรคจิตนะ แต่เขาคงชื่นชอบมาก ก็เคยเจออยู่เหตุการณ์นึง เขาเข้ามาหาผมถึงในบ้านเลย แล้ววันนั้นมีสตาร์ฟน้องๆ เด็กๆ ในวงที่เป็นเด็กเซตอัพเครื่องก็อยู่ด้วยกันพอดี เขาก็เปิดประตูเข้ามาในบ้าน เราก็ตกใจ ก็บอกว่าอย่าเพิ่งเข้ามา เราก็ออกไปคุยกับเขาดีๆ ว่ากลับบ้านเถอะ เราก็กำลังส่งเขากลับ เขาบอกว่า ขออะไรอย่างนึงได้ไหม ขอแต่งงานได้ไหม แล้วน้องที่อยู่ด้วยตอบทันทีเลยว่าไม่ได้ครับ

ก้อง : จริงๆ แฟนคลับเขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยนะครับ เขาก็เข้าใจ เขาเป็นแฟนคลับเรา เขาก็รู้ว่าประมาณไหนอะไรยังไงก็มีความเอื้ออาทรกันมายาวนาน

ก้อง : พี่เป็นคนอายในเรื่องของการจีบผู้หญิงมาก พี่เป็นคนเขินอะ เนื่องจากพี่อยู่โรงเรียนชายล้วนมาตั้งแต่ ป.1 ถึง ม.3 พี่ไม่เคยอยู่กับผู้หญิงเลย จนมาม.4-ม.6 ถึงได้เข้าโรงเรียนสหถึงได้มาเจอผู้หญิง การเข้าหาผู้หญิง การคุยกับผู้หญิง เป็นเรื่องยาก เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพี่มาก เพราะมันไม่คุ้น เราอยู่กับเพื่อนผู้ชายล้วน การพูด การจา มึงกุ นู่นนี่ มันก็คุยกันปกติ แต่พอวันนึบมาอยู่กับผู้หญิง พี่อึ้งไปเลยนะ ทำตัวไม่ถูก

ก้อง : จริงๆ ไม่เคยแสดงออกขนาดนั้น มันก็เริ่มจาดเป็นเพื่อนกันก่อน ก็ไม่เคยที่จะชอบผู้หญิงคนนี้แล้วเดินเข้าไปบุกจีบ หรืออะไรอย่างนี้เลย มันก็คืออยูเป๋นเพื่อนกัน เป็นกลุ่ม เป็นก้อนกัน คุยกันไป มันค่อยๆ เป็นอย่างนี้ มันไม่มีโมเมนต์เดินไปสวัสดีครับ น่ารักจังเลย มันไม่เคยทำไง แล้วก็ไม่กล้าทำด้วย

ก้อง : จริงเหรอ ผมยังไใ่เคยได้ยินเลย

ก้อง : อันนี้ขอบคุณมากใครเป็นคนตั้งเนี่ย

ก้อง : อาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้ไปทำอะไรไม่ดี แล้วก็ไม่มีเวลาที่จะไปทำเรื่องอะไรแบบนั้นด้วย ชีวิตอยู่กับงานที่ยุ่งทุกวัน แล้วชีวิตก็อยู่กับเพื่อนสะส่วนใหญ่ อยู่กับการทำงาน เล่นดนตรี ถ่ายละคร ถ่ายรายการ เป็นโค้ชเอ่ยอะไรอย่างนี้ มันมีแต่งาน ไม่มีเวลาใช้ชีวิตแบบว่างๆ

ก้อง : ลูกของน้องชาย เป็นหลานแท้ๆ ของผมเลย หลานน่ารักมาก

ก้อง : ไม่มีเลย

ก้อง : ยังเลยครับ

ก้อง : ถ้าว่างอยู่บ้านก็มีความสุขแล้ว คือพี่ทำงานเยอะ จนบางทีไม่ได้อยู่บ้าน

ก้อง : เริ่มหวั่นไหวแล้ว เอ้ อยู่ในภาวะอันตรายหรือเปล่า ไม่หรอกก็เฮฮา

ก้อง : ดีสิ เป็นกำลังใจ มันก็คือความรู้สึกที่ดีนะ เป็นความรู้สึกชื่นชอบที่ส่งเข้ามา ผมถือว่าเป็นกำลังใจทั้งสิ้น ต้องขอบคุณด้วยซ้ำ ขอบคุณความรู้สึกดีๆ ที่มีให้

ก้อง : จริงๆ เริ่มจากการเห็นคนใกล้ตัว เล่นแล้วไปเสียเวลาอยู่กับการตอบไลน์ คืออย่างไลน์กลุ่มมีนก็จะมีอยู่หลายกลุ่ม บางทีเสียเวลาในการตอบเป็นชั่วโมงไม่ต้องทำอะไร ผมรู้สึกว่ามันเสียเวลาไปหรือเปล่ากับการทำสิ่งเหล่านี้ เราเอาเวลาไปฝึกกีต้าร์ไหม หรือไปทำอะไรที่เราอยากจะทำดีกว่า เพราะงานเราก็ยุ่งอยู่แล้ว กว่าจะมีเวลาว่างสักที ต้องมานั่งกดไลน์ หรือบางทีเราไม่อยากรับรู้เรื่องบางเรื่องของคนนู่น คนนี้ คนนั้น หรือเรื่องการเมือง หรืออะไรก็ตาม บางทีเราไม่อยากรับอะ ถ้ารู้แล้วต้องมาแสดงความคิดเห็นบางทีก็อึดอัด

ก้อง : เพราะว่าชีวิตเรายุ่งวุ่นวายพออยู่แล้ว ถ้ามีเวลาว่างก็อยากจะอยู่แบบสงบ ก็เลยคิดว่าตัดไฟตั้งแต่ต้นลมมีอะไรโทรคุยกัน

ก้อง : มีเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม

ก้อง : ก็มีมาไม่นาน

ก้อง : ไม่ครับ อินสตาแกรมเหมือนเราอยากจะบอกแฟนคลับ หรือคนติดตามเราอยู่ จริงๆ เรามีเรื่องอะไรสนุกๆ ก็เล่าสู่กันฟัง

ก้อง : 6 คน

ก้อง : เราคงจะเกิดมาจากการที่เป็นเพื่อนกันจริงๆ เราไม่ได้ถูกจับมาให้เจอกัน คือเราโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก อย่างพี่กับพี่โจก็ป.1 เลย แล้วมาเจอพี่จอห์น พี่สุ พี่ใหม่ พี่ปีเตอร์ ตั้งแต่ม.4-ม.6 ก็มาเริ่มตั้งวง เล่นเป็นนูโวมาตั้งแต่ประมาณ ม.4-ม.5 แต่ตอนนั้นยังไม่มีพี่ปีเตอร์ คือเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก อยู่กันแบบเพื่อน มันก็เลยเป็นความสนิทแบบเพื่อน

ก้อง : มันก็มีเป็นธรรมดาแหละ จริงๆ งอนก็มีบ้างแหละ

ก้อง : เหลือเวลาให้ชีวิตไปเที่ยวบ้าง ไปเปลี่ยนฉากอื่นบ้าง ไม่ใช่ตื่นมาก็งานๆ ไปอยู่กับคุณแม่บ้าง พาคุณแม่ไปเที่ยวต่างจังหวดบ้าง ก็อาจจะลดทอนเหลืองานที่เราอยากจะทำจริงๆ ก็คือควเล่นคอนเสิร์ต เล่นดนตรี อะไรอย่างนี้ แต่งานหนักๆ อย่างถ่ายละครเราก็ไม่ไหวแล้ว ต้องยอมรับว่าละคนเป็นอะไรที่ค่อนข้างหนัก คือไม่ถึงกับเบรก ชัตดาวน์ รีไทน์ 100% ไปอยู่ต่างจังหวัดเลย ก็ไม่ขนาดนั้น เพียงแต่ว่าเหนื่อยมามากแล้ว ใช้ชีวิตบ้าง พักผ่อนบ้าง เที่ยวบ้าง

ก้อง : อาจจะประมาณนั้น อาจจะเล่นเบาๆ รับเชิญไม่กี่ตอน

ก้อง : ก็อาจจะ

คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง  ก้อง สหรัถ