อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติเจ้าของฉายา จอมยุทธขลุ่ยแห่งประเทศไทย ที่วันนี้จะมาเปิดเผยชีวิตบนถนนสายดนตรีที่ยาวนานมากกว่า 30 ปี จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่บรมครูเสียงขลุ่ยมือ1 ระดับประเทศ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีชมพู่ ก่อนบ่าย, เป็กกี้ ศรีธัญญา และใบเฟิร์น พัสกร เป็นพิธีกร พร้อมเผยชีวิตวัยเด็กเป็นลูกชาวนา ลำบากถึงขั้นไม่มีไฟฟ้าใช้ อีกทั้งยังเผยวินาทีที่สูญเสียลูกสาวแบบไม่มีวันกลับ แถมยังเพิ่มดีกรีความแซ่บด้วยการเปิดตัวภรรยาสาวอายุห่างกัน 30 ปี
อาจารย์มาเป็นจอมยุทธขลุ่ยได้ยังไง?
อ.ธนิสร์ : เพราะความรัก อยากเล่นดนตรี ถามว่าทำไมถึงเลือกขลุ่ย คือไม่มีเงิน แล้วผมเป็นคนบ้านนอก ทำไร่ ไถ่นา เด็กๆ อยู่กับคุณยายทวด อยากเล่นดนตรีไม่รู้จะทำยังไง ไปไหนก็ไปกับยายทวดได้ยินเพลงธรณีกันแสง อยากเล่น แต่ไม่มีเงินซื้อเครื่องดนตรีอะไร ก็ไปขอเงินใต้เชี่ยนหมาก ก็ซื้อมาลอง เป่าทำนองสั้นๆ ไม่ได้คิดว่าจะประสบความสำเร็จ ต้องดัง แค่คิดว่าทำยังไงให้มันสนุก เรรทำ เพราะเรารักเสียงนี้ พอเกิดความรักมันก็มาถึงขนาดนี้
จากเงินใต้เชี่ยนหมากจนตอนนี้อาจารย์ได้เป็นศิลปินแห่งชาติชื่นใจไหม?
อ.ธนิสร์ : บนถนนสายดนตรี ผมมาถึงจุดนี้ได้ยังไง ผมขอย้ำเลย สิ่งที่เกิดขึ้น มันเกิดจากความรัก แล้วมันพัฒนาค้นคว้าหาอะไรเอง และที่สำคัญได้ครูดี ถือว่าโชคดีที่สุดในชีวิตเลย
แต่ที่คนรู้จักเป็นอย่างดีคืออาจารย์เป็นหนึ่งในสมาชิกวง คาราบาว แต่ช่วงหนึ่งเหมือนมีปัญหาจนทำให้อาจารย์ออกจากวง ?
อ.ธนิสร์ : ชีวิตคนที่ไหนไม่มีปัญหามั้ง มันเรื่องธรรมดา โดยเฉพาะศิลปินต้องยอมรับเลยอารมณ์มันนำเหตุผล พอเราได้ถอยออกมา เราอยากทำในสิ่งที่เราอยากทำ ผมได้จากคาราบาวมามากมายเลย โดยเฉพาะเพลง เมด อิน ไทยแลนด์ หลายๆ เรื่องการบริหารจัดการ หรือวิธีการสร้างงาน ผมเรียนดนตรีมาเยอะ ผมจบทางด้านดนตรีมาเลย ข้ามน้ำ ข้ามทะเลไปเรียนเมืองนอกมา แอ๊ด อาจจะไม่ได้จบ แต่สิ่งหนึ่งที่เขามี เราไม่มี ในห้องเรียนมันสร้างไม่ได้ ตรงนี้ความคิดสร้างสรรค์ จะแต่งเพลงทำยังไงให้คนประทับใจ ติดใจทั้งประเทศ เราไม่มี เรามีแต่วิชาการ เพราะฉะนั้นภาคสนามจริงๆ ต้องดูแลทั้งหมด ต้องทำงานด้วยกันทั้งหมด พอออกมาแล้วทำงานเองคนเดียว โคตรหนักเลย กลับไปเห็นใจเขา
ทำไมถึงออก?
อ.ธนิสร์ : เราอยากมีชีวิตแบบของเราไง เรารักในเสียงขลุ่ย เสียงดนตรี
พอออกมาแล้วทำงานหนัก แล้วหวนคิดถึง?
อ.ธนิสร์ : คิดถึงเลย เขาทำงานหนักตั้งเยอะแยะ ปัญหารับไว้คนเดียว แต่ว่าถนนดนตรีนี้เราออกมาแล้ว เรามีความเป็นตัวเอง ตรงนั้นอาจจะขำกัดความคิดเรา
ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นคืองาน?
อ.ธนิสร์ : การทำงานครับ
ตอนอยู่วงคาราบาว เพลงที่สร้างชื่อเสียงมากๆ คือเพลง เมด อิน ไทยแลนด์ ตอนนั้นขนาดไหน?
อ.ธนิสร์ : ขนาดปลอมเทปกันทั้งประเทศ มันประสบความสำเร็จมาก สิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจตอนนั้น แล้วผมน่าจะทำตอนนั้นคือ ไปไหนเห็นเด็กเล่นกีต้าร์เต็มประเทศ แต่ต้องมีขลุ่ยด้วย เพราะเพลงนี้ ตอนนั้นถ้าคิดได้ ถ้าผมทำขลุ่ยขาย ผมไม่ต้องมานั่งแบบนี้แล้ว
เห็นว่าอาจารย์สูญเสียลูก ตอนน้องได้ 2 ขวบ?
อ.ธนิสร์ : ทำไมผมเริ่มต้นด้วยเพลง ธรณีกันแสง อาจจะเกี่ยวกัน ตอนนั้นผมมีลูกคนแรก เขาไปเล่นกับเพื่อนๆ แล้วตกน้ำ เขาช่วยตัวเองไม่ได้ เรากอดศพลูกเห็นฟ้าเหลืองเลย นั่นคือพลิกชีวิตทุกอย่าง
อาจารย์ผ่านเรื่องราวตรงนั้นมาได้ยังไง?
อ.ธนิสร์ : เพราะความรักลูกมาก ผมเป็นพุทธเชื่อว่าจะได้เจอเขาในอีกมิติหนึ่ง ผมเลยเลิกทุกอย่าง ทำงานไม่ได้ประมาณครึ่งปีกว่า เข้าบ้านอะไรไม่ได้เลย ผมเป็นเด็กวัดมาก่อนก็เข้าที่วัด รู้ไหมกิจกรรมคนดนตรีสมัยผมเล่นตามโรงแรม มันอยู่กับแสงสี มันอยู่กับอบายมุขทั้งหมด พอหลังจากนั้นเลิกทั้งหมด เพื่อจะมาพบลูกในอีกมิติหนึ่ง เพราะความรัก
อาจารย์ไปถือศีล?
อ.ธนิสร์ : ผมเข้าวัดตลอด 2525 มาเจอหลวงพ่อที่สำคัญองค์หนึ่ง ท่านบอกว่าได้เจอลูกแน่ แต่ที่สำคัญต้องเจอเราก่อน เราก็งง คือทุกวันนี้เรายังไม่รู้จักตัวเราเลย รู้จักแต่คนอื่น เลยกลับมา นี่เราหลงตัวเอง โดยเฉพาะช่วงที่มีชื่อเสียง สิ่งหนึ่งที่ตามมามากๆ เลยคือ อีโก้ คิดว่าตัวเองเก่งที่สุด มันติดมาโดยอัตโนมัติโดยที่เราไม่รู้เรื่อง เหมือนกับลูกมาเตือนสติผมให้กลับมา
จากนั้น 20 ปีก็สูญเสียภารยา?
อ.ธนิสร์ : พรรยาไปทำบุญแล้วรถประสบอุบัติเหตุ คือชีวิตปลที่ประสบความสำเร็จมากว่า 50% มาจากเขาเลย เขาเป็นผู้หญิงที่ไม่นินทาคน แล้วปกป้องผมทุกอย่าง เขาให้ผมทำงานที่ผมรัก คือดนตรีนี้อย่างเดียว พอหมดเขาถึงรู้เลย อาชีพที่หนักที่สุดคือแม่บ้าน คนที่เป็นภรรยานี่หนักที่สุด เพราะงานไม่มีวันจบ
วันนั้นอาจารย์มีลางสังหรณ์ด้วย?
อ.ธนิสร์ : มีครับ ปกติไปไหน ผมจะให้เขาคล้องพระ แล้วให้คิดของครูบาอาจารย์ เขาบอกไม่เอา มันเครื่องปีะดับ ผมบอกไม่ใช่ นี่เป็นพระ แล้วอีกเรื่อง น้าสาวเห็นเขาเดินไปไม่เห็นศีรษะเขา ผมบอกว่าทำไมไม่บอก เขาบอกว่าคิดว่าเขาอุปทาน
อาจารย์ผ่านมาได้ยังไงทั้งสองเรื่อง จนมามีความสุขแบบทุกวันนี้?
อ.ธนิสร์ : เวลาที่ผมทุกข์อะไร คนไม่มีปัญหาเป็นไปไม่ได้ คนไม่ทุกข์เป็นไปไม่ได้ เวลาทุกข์หรือเจอปัญหาหนัก ผมนึกถึงท่านอนของแฟน เราก็ไม่เหลืออะไร เราก็ต้องไปจุดนั้น ทุกอย่างมันก็ละลายไป
ไปพบรักใหม่ได้ยังไง?
ขวัญข้าว : พอดีพาคุณแม่ไปบวชชีพราหมณ์ในช่วงปีใหม่ ปีที่แล้ว แล้วอาจารย์ก็มาไหว้พระของเขา หลวงพ่อก็เลยแนะนำให้รู้จักกัน
ตอนนั้นเห็นแล้วรู้สึกยังไง?
ขวัญข้าว : รู้สึกว่าใครอะ แล้วไปเสิร์ตดู อ่อ อาจารย์ธนิสร์
แล้วมาเริ่มรู้สึกดีๆ กันตอนไหน?
ขวัญข้าว : ก็เจอบ่อย เพราะว่าอาจารย์ไปวัดบ่อย แล้วก็เจออาจารย์บ่อย
อาจารย์จีบเราด้วยเสียงขลุ่ยบ้างไหม?
ขวัญข้าว : ก็จะเป็นแซวๆ กวนๆ ของแก แซวแม่แบบเหมือนเป็นเพื่อนกัน ก็ไม่รู้ว่ายังไง แต่อยู่ๆ วันนีงแกบอกว่าชอบเรา เราก็งงๆ
อาจารย์เจอคุณขวัญข้าวครั้งแรก อาจารย์ปิ้งเลยไหม?
อ.ธนิสร์ : ไม่นะเห็นเหมือนเด็กบ้านนอก เข้าวัดมากับแม่ ประทับใจเขาที่เขาพาแม่เขาเข้าวัด แล้วเขาเป็นคนดูแลแม่
แล้วไปปิ้งกันตอนไหน เห็นว่าอายุห่างกัน 30 ปี?
อ.ธนิสร์ : ยังไม่ถึง ไปบวก ลบใหม่ สิ่งหนึ่งคือเขาเป็นคนพูดตรงแบบชาวบ้านๆ แล้วก็มีโอกาสได้ทำงานด้วยกัน แลเที่สำคัญคิอเขารู้สึกยังไงเขาพูดอย่างนั้น บางที ทำไมพูดอย่างนี้ เราก็อายุขนาดนี้คือเขาพูดตรง มันหายากในยุคนี้
จริงๆ คุณขวัญข้าวไม่อยากมาออกรายการ เพราะมีคนเม้าท์ว่าที่มาคบกันทุกวันนี้หวังผลประโยชน์?
ขวัญข้าว : สำหรับเรื่องหวังเกาะ หวังผลประโยชน์ จริงๆ อาจจะเป็นเพราะว่าอาจารย์มีชื่อเสียง บางคนคิดว่าเราเหมือนมาเกาะเขาหรือเปล่า จริงๆ ไม่ได้เกาะนะคะ ที่บ้านก็มีที่นา มีแม่ที่ดูแลอยู่ แต่ว่าเราต้องรับผิดชอบครอบครัว เหมือนคุณพ่อเสียก็เป็นหลักให้แม่ก็ไม่ได้เกาะอาจารย์
เราประทับใจอะไรในตัวผู้ชายคนนี้?
ขวัญข้าว : อาจารย์เป็นคนคิดบวก สอนแต่สิ่งดีๆ เป็นคนดี คือเราเห็นคนทั่วๆ ไป บางคนไม่รักษาศีล แต่อาจารย์รักษาศีล 5 ครบ ก็ดี ก็เลยลองคบดู
คำครหาเหล่านี้อาจารย์เคยได้ยินเจ้าหูบ้างไหม?
อ.ธนิสร์ : ได้ยินชัดเจน ผมมาพูดกับขวัญเขาว่าชีวิตคู่มันเรื่องราวของเราสองคน ความเข้าใจเราสำคัญที่สุด ชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับปากคนอื่น ผมเป็นคนมีชื่อเสียง ด้วยวัย ด้วยอะไร เขาก็พูดไปเรื่อย แต่เราเข้าใจกัน อย่าเอาชีวิตไปฝากไว้กับปากชาวบ้าน มันจะมีแต่เรื่องทุกข์ ไม่มีเรื่องสุขเลย เราอยู่ด้วยกันเรามีความสุข จบ
แล้วให้กำลังใจคุณขวัญข้าวยังไง?
อ.ธนิสร์ : ให้เขาภาวนา จับลมหายใจเข้า ออก ไปเอาลมปากคนมามีอิทธิพลกับชีวิตเราทำไม ชีวิตเรามันเป็นของเรา ต้องตัดให้ได้ แล้วจะมีความสุข
อยากบอกอะไรกันและกัน?
ขวัญข้าว : อยากให้อาจารย์ลดการงอนนิดนึง แล้วก็บางทีเหมือนแบบพ่อ แม่เลี้ยงตามใจมาก็ไม่รู้ว่าอาจารย์เป็นคนยังไง ก็ให้อาจารย์ลดตรงนี้นิดนึง แล้วก็ดูแลสุขภาพ นอนให้มันไว
อ.ธนิสร์ : อย่าไปแคร์คำพูดคนอื่นแค่นั้นเอง ความเข้าใจมันสำคัญสุด เรื่องคนอื่นอย่าเอาเข้ามาในบ้าน เข้าบ้านแล้วปิดประตูเรื่องนอกบ้าน เรื่องในบ้านเป็นเรื่องของเราสองคน
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
