เปิดตำนานเรื่องเล่าสุดแปลก เชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคพ่อปู่อินและแม่ย่าเกศรา ซึ่งเป็นทางเชื่อมระหว่างเมืองบาดาลกับพญานาคในถ้ำแคบและเล็กมีลักษณะคล้ายลำตัวพญานาค มีน้ำไหลเจิ่งนองตลอดทางในถ้ำจนไปถึงแม่น้ำโขง ที่ชื่อว่า “ถ้ำดินเพียง” ณ วัดศรีมงคล อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย โดยชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคชื่อพ่อปู่อินแม่ย่าเกศรา โดยสิ่งที่ทีมงานจะพาไปพิสูจน์ในครั้งนี้ เพราะว่าภายในวัดที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง มีถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ลึกลงไปในพื้นดิน จึงมีชื่อเรียกว่าถ้ำดินเพียง การเดินทางเข้าไปปในถ้ำแห่งนี้ใช้ระยะทางเพียง 200 เมตร จากปากทางเข้าถ้ำ โดยมีทางเข้าออกเพียงทางเดียว ไม่สามารถเดินย้อนกลับไปมาได้ ก่อนเข้าถ้ำทีมงานก็ได้กราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับพ่อปู่อินกับย่าเกดที่เป็นพญานาคที่คนแถวนั้นเคารพนับถือก่อน เพื่อให้การเดินทางเข้าไปอย่างปลอดภัย

                นฤพล อาจหาญ พิธีกร “แปลกยามเช้า” ช่อง 8 เล่าความลำบากในการถ่ายทำให้ฟังว่า “ภายในถ้ำจะมีทั้งหมด โถงตอนเข้าไปตอนแรกก็ตกใจมากๆ เพราะทางเข้าถ้ำนั้น มันแคบ มีน้ำไหลเป็นทางตลอดเวลา มันแคบไม่เหมือนกับถ้ำอื่นๆ ที่ทางเข้าจะเป็นโถงกว้างๆ แคบถึงขึ้นเรียกได้ว่า ต้องนั่งยองๆ แล้วค่อยๆเดินเข้าไป แคบจนน่ากลัว ตอนแรกยอมรับเลยว่า แอบกลัวจนต้องขอเจ้าหน้าที่กลับขึ้นไป แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้ เพราะมันเป็นทางเข้าออกทางเดียว เลยตัดสินใจ เอาล่ะต้องไปต่อ จะได้ไปทำข่าวให้แฟนข่าวช่อง ได้เห็นว่ามันเป็นอย่างไร

ทางแคบมากครับ
ทางเดินในถ้ำ
ทางเดินแบบนี้ตลอดทางภายในถ้ำ
ผมสู้ตายครับ

ลอดท้องช้าง 3 เศียร มันบีบหัวใจมาก

                เมื่อเข้าไปแล้วก็จะเจอโถงแรกก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่วัดได้มีการนำไฟนีออนมาตกแต่งให้เป็นสีสันสวยงาม โถงแรกก็จะเป็นโถงสำคัญ เป็นที่อยู่ของ พ่อปู่อินหรือที่อยู่ของพญานาค ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับโลงศพ เหมือนเป็นที่ฝังศพ พอค่อยๆ ลัดเลาะเข้าไปโถงที่ 2 ก็จะยิ่งแคบเข้าไปอีก เป็นที่อยู่ของแม่ย่าเกษรา มีลักษณะของหินภายในถ้ำ หิน เค้าเชื่อกันว่า เป็นหีบศพ เป็นหีบสมบัติของแม่ย่าเกษรา เราต้องเดินวนเพื่อขอพร ต่อจากนั้นก็ไปที่โถง โถง ก็เชื่อว่าเป็นห้องของธิดาบ้างอะไรบ้าง แต่เมื่อเราเดินไปถึงจุดหนึ่ง ซึ่งเป็นจุดที่เค้าเชื่อกันว่าเป็นทางเชื่อม ไปยังแม่น้ำโขงเคยมีคนเคยเดินเข้าไปเป็นสามเณรที่เป็นเรื่องเล่าในอดีตว่า เดินไปประมาณ วัน วันที่ ไปโผ่ลที่แม่น้ำอีกฝั่งหนึ่งของประเทศลาว เพราะว่าถ้ำแห่งนี้อยู่ติดกับแม่น้ำโขงเลย ลักษณะทางเดินมีน้ำเจิ่งนองเหมือนเชื่อมอยู่กับแม่น้ำโขงจริงๆ สิ่งที่ผมสังเกตุได้ระหว่างเดินทางเข้าไปในถ้ำใช้เวลาประมารณ ชม. เศษ ปรากฎว่าลักษณะทางมันเหมือนเป็นทางที่ไม่ใช่สำหรับคน เป็นเหมือนสำหรับพญานาคจริงๆ เพราะลักษณะของภายในถ้ำมันจะดูกลมๆ โค้งม้วนขนาดเท่ากับลำตัวพญานาค ตามความเชื่อพอดี แต่จุดที่พีคที่สุดก็คือ ประมาณช่วงกลางทางไปเจอจุดที่เค้าเรียกกันว่า จุดลอดใต้ท้องช้างสามเศียรเอราวัณ คือจุดนี้ มันแคบมากเป็นจุดที่มันบีบหัวใจผมจริงๆ มันแคบจนถึงขั้นว่า มันผ่านไปได้เฉพาะลำตัว คือค่อยๆ เอาหัวออกไปก่อน จากนั้นค่อยๆ บิดตัว ค่อนข้างทุลักทุเลมาก เพราะน้ำก็ไหลตลอดเวลา ถึงจะผ่านเข้าไปค่อนข้างยากที่สุด ซึ่งเค้าบอกว่าคนที่ตัวใหญ่มากๆ ก็ไม่อนุญาตให้เข้า เพราะการเดินทางเข้าไปค่อนข้างลำบาก จะมีเจ้าหน้าที่ของวัดเป็นคนนำทางพาเข้าไป แต่ละจุด จนสุดท้ายแล้วก็ออกมาได้ครบตลอดทาง เค้าบอกว่าให้ขอพรพ่อปู่แม่ย่าให้เดินทางออกมาได้ ถือว่าเป็นการสำรวจถ้ำ เพื่อให้คุณผู้ชมได้เห็นภาพที่คนไปเชื่อถือว่าเป็นเมืองบาดาล

ฝากสุดท้ายนะครับ คือการเดินทางไปทำข่าวครั้งนี้ เป็นการไปทำข่าวสกู้ป อยู่ในคอลัมน์พิเศษ คือ คอลัมน์ แปลกยามเช้า จะเป็นเรื่องราวแปลกๆ ที่ผู้ชมอาจจะยังไม่เคยรู้ไม่เคยเห็น ไม่เคยไปมาก่อน ไม่ว่าเรื่องอาหารการกิน วัฒนธรรม สถานที่ ซึ่งผมก็จะไปสำรวจที่แปลกๆ ไปยากๆ มาให้แฟนช่อง ได้ชม และนี่คือตัวอย่างของความยากในการลงพื้นที่ไปทำคอลัมน์นี้ สิ่งที่จะได้ออนแอร์ต่อไปนี้ ผมรับรองว่าจะคุ้มค่าสำหรับภาพที่จะได้เห็น เพราะมันไม่ใช่ทุกคน ที่จะสามารถเข้าไปได้และเราก็เป็นตัวแทนพาคุณผู้ชมไปท่องเมืองบาดาล ที่เค้าเชื่อกันว่าเป็นเมืองบาดาลนั่นเอง จะเป็นช่วงท้ายรายการ คุยข่าวเช้ารุ่งอรุณ ติดตามชมคลิปการถ่ายทำครั้งนี้กันได้ในวันเสาร์ที่ มิถุนายน นี้ เวลา 06.00 น. ทางช่อง ครับ 

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ