I KILL GIANTS

สาวน้อยผู้ล้มยักษ์

วันเข้าฉาย 3 พฤษภาคม 2561

“จงกล้า เผชิญหน้า กับมัน”

ประเภท: Drama, Fantasy, Thriller

ความยาว: 106 นาที

ผู้กำกับ: อันเดอร์ส วอลเตอร์ (Helium)

เขียนบท: โจ เคลลี (Big Hero 6), เคน นิอิมูระ (ผู้วาด I Kill Giants)

ผู้อำนวยการสร้าง: คริส โคลัมบัส (Harry Potter)

นักแสดง: โซอี้ ซัลดานา (Guardians of the Galaxy)

เมดิสัน วูล์ฟ (The Conjuring 2, Joy)

อิโมเจน พูตส์ (Green Room, 28 Weeks Later)

เตรียมพบกับภาพยนตร์มหึมาแฟนตาซีสุดล้ำเหนือจินตนาการ

ผลงานใหม่จากผู้ให้กำเนิดพ่อมดน้อย “HARRY POTTER” เวอร์ชั่นภาพยนตร์

ที่กลับมาอีกครั้งพร้อมพาผู้ชมดำดิ่งสู่โลกแห่งการต่อสู้เหนือจินตนาการครั้งใหม่ใน

“I KILL GIANTS” ผลงานดราม่าเเฟนตาซีที่สร้างจากนิยายภาพขายดีระดับเบสท์เซลเลอร์ในอเมริกา

เรื่องย่อ: บาบาร่า (เมดิสัน วูล์ฟ) หญิงสาวที่ใครๆ ต่างก็มองว่าเธอคือเด็กประหลาดที่ไม่มีเพื่อน แต่ทุกคนย่อมมีความลับเป็นของตัวเอง ความลับที่เธอไม่สามารถบอกใครได้ก็คือ เธอเป็นนักล่ายักษ์ เธอคือสิ่งเดียวที่สามารถยืนหยัดปกป้องเมืองของเธอให้รอดพ้นจากเหล่ายักษ์ที่กำลังบุกรุกจากโลกมืด แต่แล้วเมื่อเธอได้พบกับ มอลลี่ (โซอี้ ซัลดานา) อาจารย์ที่ปรึกษาคนใหม่ของโรงเรียน เธอจึงได้ตระหนักกับความจริงบางอย่างที่จะเปลี่ยนชีวิตของเธอไปอย่างสิ้นเชิง

ตัวอย่างภาพยนตร์ (ซับไทย)

I KILL GIANTS

ความยาว: 104 นาที

กำกับโดย

อันเดอร์ส วอลเตอร์

แสดงโดย

โซอี้ ซัลดานา, เมดิสัน วูล์ฟ, อิโมเจน พูตส์

อำนวยการสร้างโดย

คริส โคลัมบัส

นิยายภาพต้นฉบับ

โจ เคลลี คือผู้เขียน “I Kill Giants” (วาดโดย เคน นิอิมูระ) นิยายภาพที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Eisner ซึ่งเทียบเท่ากับรางวัลออสการ์ของโลกแห่งการ์ตูนอเมริกา และนอกจากนั้นหนังสือของเขายังกวาดรางวัลอื่นๆ อีก อาทิ “International Manga Award” ในปี 2012 และได้รับการคัดเลือกให้เป็น “ท็อป 10 นิยายภาพที่เยาวชนควรอ่าน” จากการจัดอันดับของสมาคม Young Adult Library Services Association นิยายภาพของเคลลีได้รับการดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ด้วยความร่วมมือของ Man of Action Entertainment บริษัทโปรดักชั่นของเคลลี, 1492 Pictures ของผู้อำนวยการสร้าง คริส โคลัมบัส, XYZ Films และ UMedia

บันทึกของผู้กำกับ

“I Kill Giants” คือเรื่องราวของหญิงสาวที่ต้องดิ้นรนเพื่อต่อสู้กับปีศาจทั้งที่มีตัวตนและไม่มีตัวตน เธอต้องเผชิญหน้ากับมันในขณะที่โลกของเธอพังทลายลง สยบต่อแทบเท้าของยักษ์ที่มีขนาดมหึมาเกินกว่าที่เด็กคนหนึ่งจะสามารถต่อกรกับมันได้

ผมรู้สึกประทับใจและซาบซึ้งเมื่อผมได้อ่านบทของ “I Kill Giants” มันมีความตลกที่ทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมาอยู่หลายครั้งตอนที่ผมได้อ่านบท เรื่องราวดำเนินไปด้วยการใส่ความเป็นแฟนตาซีลงไปในชีวิตจริง และทำให้ความแฟนตาซีเหล่านั้นกลายเป็นความจริงด้วยการใส่อารมณ์ความรู้สึกเข้าไป จุดเด่นของเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก มันคือสภาพจิตใจของบาบาร่า ความตั้งใจของผมในฐานะผู้กำกับคือ การแสดงให้ผู้ชมทุกคนได้เห็นถึงการเติบโตทางด้านจิตใจของเธอ เพราะว่ามันคือสิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าสนใจที่สุด

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องราวที่เกี่ยวกับความกล้าหาญ มันคือเรื่องราวที่เกี่ยวกับมิตรภาพ ครอบครัว การเติบโต การเผชิญหน้ากับปีศาจที่อยู่ในใจของคุณ และเรียนรู้ที่จะต่อกรกับทุกสถานการณ์ที่คุณต้องเผชิญ การเติบโตของบาบาร่าจะแปรเปลี่ยนเป็นแรงบันดาลใจให้กับทุกคนที่ได้รับชม บาบาร่าจะกลายเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในใจของพวกคุณ และพวกคุณจะจำเธอได้ไปอีกนาน

แก่นแท้ของ “I Kill Giants” คือ ‘ตัวละคร’ และมันเป็นจุดที่ผมต้องให้ความสำคัญกับมันมาก คุณจะได้พบกับตัวละครที่คุณต้องลุ้นสุดหัวใจ ตัวละครที่ชื่นชอบการกลั่นแกล้ง แต่คนเหล่านั้นก็ยังเทียบไม่ได้กับเหล่ายักษ์ที่บาบาร่าต้องเผชิญ หญิงสาวเหล่านี้จะเป็นตัวอย่างให้กับเรา สอนเราให้รู้จักการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แทนที่จะขัดแข้งขัดขากันเอง

ทีมสร้างและนักแสดง

อันเดอร์ส วอลเตอร์ — ผู้กำกับ

เกิดที่เมืองอาฮัส ประเทศเดนมาร์ก อันเดอร์ส วอลเตอร์ คือผู้กำกับที่ได้รับรางวัลออสการ์ จากภาพยนตร์สั้น “Helium” ในปี 2014 และในปี 2013 หนังสั้นของเขาอีกเรื่อง “9 Meters” ก็เกือบได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในสาขาเดียวกัน แต่เดิมอันเดอร์สเป็นนักวาดอยู่ที่บริษัท DDB Needham ประเทศเดนมาร์ก เขาเคยศึกษาที่ School of Visual Arts เมืองนิวยอร์ก ในสาขาภาพยนตร์ เขาเป็นผู้ก่อตั้งสตูดิโอ The Dance Palace และยังมีผลงานการกำกับมิวสิกวีดีโอมามากกว่า 25 เพลงจากหลายศิลปินของประเทศเดนมาร์ก

แอนเดอร์สเป็นสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนในงาน The Academy of Motion Pictures และ Sciences and the Danish Film Academy ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคือ “I Kill Giants”

โจ เคลลี — เขียนบท

Man of Action Entertainment คือบริษัทที่รวมนักเขียนจากสองฝั่งทะเล พวกเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังตัวละครที่หลายคนรู้จักภายใต้การใช้ชื่อ Man of Action พวกเขาทั้ง 4 คนมีผลงานทั้งในฝั่ง Marvel และ DC นับตั้งแต่ Superman ไปจนถึง X-Men และมันทำให้พวกเขารู้ว่าการร่วมมือกันจะทำให้พวกเขาไปได้ไกลกว่า หลังจากนั้น Man of Action เริ่มมีผลงานอย่าง Ultimate Spider-Man และ Avengers Assemble นอกจากนั้นพวกเขายังสร้างตัวละครต้นฉบับอย่าง Big Hero 6 ซึ่งได้รับการดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นโดย Disney จนได้รับรางวัลออสการ์ Man of Action คือ ผู้สร้าง/ผู้อำนวยการสร้าง/ผู้เขียนบท ของภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนและนิยายภาพ อย่างเช่น “I Kill Giants”, “Officer Downe”, “Kafka”, “The Crusades” และ “The Great Unknown”

ผลงานระดับตำนานของโจ เคลลี อย่าง Superman ที่ตีพิมพ์ในหนังสือ Action Comics #775 ตอน “What’s So Funny About Truth, Justice & the American Way?” ได้รับการดัดแปลงกลายเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นในปี 2012 “Superman vs. The Elite” เขียนบทโดยเคลลี และเขายังมีส่วนในการตรวจทบทวนบทของภาพยนตร์ “Deadpool” ที่ได้กลายเป็นตัวละครที่คนทั่วโลกรู้จักด้วย

ผลงานหนังสือการ์ตูนล่าสุดของเคลลีคือ การ์ตูนแนวตลกร้าย Bad Dog, การตูนแนวต่อสู้กับมังกรท่ามกลางการทรยศหักหลังในยุคเสื่อมโทรมของแมนฮัตตัน Four Eyes, และการ์ตูนแนวอาชญากรรมระทึกขวัญที่เต็มไปด้วยเซ็กซ์ ความรุนแรง และความบ้าคลั่ง BANG! TANGO เคลลีได้ตีพิมพ์ผลงานขายดีของ New York Times อย่าง Spider-Man/ Deadpool ของค่าย Marvel และยังมีผลงาน Poughkeepsie ที่ได้รับเงินระดมทุนบริจาคจาก Kickstarter ด้วยในปีนี้

จี เอ็ม เคน นิอิมูระ — ผู้วาด

เคน นิอิมูระ คือนักเขียนการ์ตูนผู้ยืนอยู่ปลายทางที่ ญี่ปุ่น อเมริกา และยุโรป ได้มาบรรจบกัน สไตล์การวาดภาพของเขาเต็มไปด้วยอิสระ มีชีวิตชีวา และน่าขบขัน ซึ่งเป็นสไตล์การวาดเฉพาะตัวของเขาเอง

เขามีชื่อเสียงในวงการการ์ตูนจากนิยายภาพ I Kill Giants ซึ่งวาดโดยนิอิมูระ และแต่งโดยโจ เคลลี นิยายภาพของเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Eisner และได้รับรางวัล International Manga Award ในปี 2012 ซึ่งภายหลังได้รับการดัดแปลงให้เป็นภาพยนตร์ โดยมีกำหนดฉายในปี 2018

นิอิมูระยังเป็นผู้แต่งของมังงะ Henshin ที่ตีพิมพ์ในญี่ปุ่น ภายใต้สำนักพิมพ์ Shogakukan และมังงะเรื่องใหม่ของเขา Umami ก็มีกำหนดวางเล่มในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่จะถึงนี้

คริส โคลัมบัส — ผู้อำนวยการสร้าง

คริส โคลัมบัส คือผู้กำกับ ผู้เขียนบท และผู้อำนวยการสร้าง ที่เคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ผลงานการกำกับของเขารวมถึง “Harry Potter And The Sorcerer’s Stone” ที่เขาเป็นผู้ดึงนักแสดงหน้าใหม่อย่าง แดเนียล เรดคลิฟ, เอ็มม่า วัตสัน และ รูเพิร์ต กรินต์ เข้าสู่วงการแสดง คริสได้สร้างผลงานเอาไว้มากมาย อาทิ “Harry Potter And The Chamber Of Secrets”, “Home Alone”, “Mrs. Doubtfire”, “Stepmom”, “Rent” และภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายเรื่อง ชื่อของเขาเริ่มมีอิทธิพลในวงการภาพยนตร์จากการเขียนบทในภาพยนตร์ของ สตีเว่น สปีลเบิร์ก อย่าง “Gremlins” และ “The Goonies” ในปี 2011 คริสได้อำนวยการสร้างในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ “The Help” ที่ได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 สาขา

เมดิสัน วูล์ฟ — บาบาร่า

เมดิสัน เริ่มต้นชีวิตนักแสดงของเธอในหนังของ วิล เฟอร์เรล และ แซค กาลิเฟียนนาคิส “The Campaign” และในอีกหลายเรื่องช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เธอต้องรักษาสมดุลย์ระหว่างการแสดงและการเรียน เธอได้รับบทใน “On The Road” ของผู้กำกับ วอลเตอร์ ซัลเลส แสดงร่วมกับนักแสดงเกรดเอ อย่าง แซม ไรลี่ย์ และ คริสเตน สจ๊วต หลังจากนั้นในช่วงปี 2014 และ 2015 เธอได้ปรากฏตัวหลายต่อหลายครั้งในรายการโทรทัศน์ บทที่ทำให้เธอเป็นที่น่าจดจำมากที่สุดมาจากบทของ ออเดรย์ ฮาร์ท จากซีรีย์ยอดนิยม True Detective นอกจากนี้เธอยังได้ปรากฏในซีรีย์ Zoo ของช่อง CBS และ Astronaut Wives Club ของช่อง ABC ด้วย

ผลงานที่ผ่านมาในช่วงไม่นานมานี้ของเมดิสันประกอบไปด้วย ผลงานของเดวิด โอ รัสเซล “Joy” ร่วมแสดงโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์, “Trumbo” ที่เธอได้แสดงร่วมกับ เฮเลน เมียร์เรน และ จอร์ห กู้ดแมน นอกจากนี้เธอยังได้แสดงในบทของตัวละครหลังจากภาพยนตร์ของค่าย New Line “The Conjuring 2” กำกับโดย เจมส์ วาน ที่ได้ฉายไปในปี 2016

โซอี้ ซัลดานา — คุณมอลลี่

โซอี้ ซัลดานา คือ ดาราที่แท้จริงแห่งวงการฮอลลีวูด เธอสร้างชื่อเสียงจากความสามารถในการแสดงอันหลากหลาย และเลือกแสดงในบทที่เธอรู้สึกชื่นชอบ ซัลดานาพึ่งปิดกล้องของ “Avengers: Infinity Wars” ไป เธอรับบทเป็น ‘กาโมรา’ ตัวละครที่หลายคนชื่นชอบ ซึ่งมีกำหนดฉายในปี 2018 ซัลดานาใช้พรสวรรค์ด้านการให้เสียงของเธอในภาพยนตร์อนิเมชั่นของ Lionsgate “My Little Pony: The Movie” ซึ่งมีกำหนดฉายในเดือนตุลาคม 2017 ในช่วงเดือนกรกฏาคม 2017 ที่ผ่านมา ซัลดานาได้แสดงร่วมกับ คริส แพร็ตต์, วิน ดีเซล และ แบรดลีย์ คูเปอร์ ใน “Guardians of The Galaxy Vol.2” ซึ่งเธอได้กลับมารับบทของนักฆ่าต่างโลก ‘กาโมรา’ อีกครั้ง ภาพยนตร์สามารถทำรายได้อย่างถล่มทลาย กวาดรายได้ทั่วสหรัฐไปได้มากกว่า 380 ล้านเหรียญ

ที่ผ่านมา ซัลดานาได้แสดงใน “Live by Night” ที่กำกับโดย เบน เอฟเฟลค แสดงร่วมกับ เบน เอเฟลค และ เซียนนา มิลเลอร์ ในปี 2009 เธอยังได้แสดงใน “Star Trek: Beyond” ภาพยนตร์ภาค 3 ของแฟรนไชส์ชื่อดังที่กำกับโดย เจ เจ อับรามส์ เธอรับบทเป็น ‘เนียวตะ อูฮูรา’ แสดงร่วมกับ คริส ไพน์ ภาพยนตร์ทำรายได้สูงถึง 185 ล้านเหรียญ

บทบาทที่ทำให้ซัลดานาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกมาจากบท ‘เนย์ทีรี’ ในผลงานของผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน “Avatar” ภาพยนตร์ไซไฟระทึกขวัญที่ทุบสถิติบ็อกซ์ออฟฟิศ ร่วมแสดงโดย ซีกอร์นี วีเวอร์ และ แซม เวอร์ธิงตัน “Avatar” ได้กวาดรางวัลไปมากมาย อาทิ รางวัลสาขา ผู้กำกับยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากลูกโลกทองคำปี 2010 และได้รับรางวัลออสการ์ 9 สาขาจากการเข้าชิง 10 ซึ่งรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซัลดานาได้มีกำหนดเข้าร่วมแสดงในภาพยนตร์ภาคต่อของ “Avatar” ซึ่งมีกำหนดฉายในปี 2019

อิโมเจน พูตส์ — คาเรน

อิโมเจน เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงนำหญิงจากซีรีย์ผลงานของผู้กำกับ คาเมรอน โครว์ Roadies ซึ่งเป็นผลงานเปิดตัวการกำกับซีรีย์ของเขา ซีรีย์นี้เล่าถึงการใช้ชีวิตบทท้องถนนของทีมงานที่ติดตามวงดนตรีร็อค Roadies ฉายผ่านทาง Showtime เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2016

อิโมเจนยังได้แสดงร่วมกับ ไมเคิล แชนนอน ในผลงานการกำกับของ แมทธิว เอ็ม รอส “Frank and Lola” เปิดฉายครั้งแรกที่เทศกาล Sundance Film Festival ปี 2016 โดยมี Universal เป็นผู้ซื้อสิทธิ์ในการเผยแพร่ไป อิโมเจนยังได้เล่นในบทของ ‘แอมเบอร์’ จากผลงานของผู้กำกับ เจเรมี่ ซอลเนียร์ “Green Room” ภาพยนตร์ได้เปิดฉายรอบปฐมทัศน์ที่ Cannes Film Festival ปี 2015 และเธอยังได้แสดงร่วมกับ แอนดี้ แซมเบิร์ก ใน “Popstar: Never Stop Never Stopping” ที่ทาง Universal ได้เผยแพร่ในเดือนมิถุนายน 2016

ก่อนหน้านี้ อิโมเจน ได้แสดงในบทของ ‘เดลลา’ ร่วมกับ คริสเตียน เบล และ นาตาลี พอร์ตแมน ใน “The Knight of Cups” และเธอก็ยังได้แสดงในภาพยนตร์ของ จอห์น ริดลีย์ “All Is By My Side”

บทสัมภาษณ์ โจ เคลลี่ คนเขียนนิยายภาพและมือเขียนบท I Kill Giants

เริ่มแรก ฉันอยากจะถามเกี่ยวกับนิยายภาพ ไอเดียนั้นมาได้อย่างไรและนำไปพัฒนาต่ออย่างไรบ้าง

โจ เคลลี่: คำตอบคือผมเป็นพ่อคน ผมมีลูกสอง ลูกสาวของผมอายุจะประมาณ 5 หรือ 6 ขวบ และผมได้เผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และทำให้ผมคิดถึงประเด็นสำคัญเท่าที่คนๆหนึ่งคิดได้ ผมคิดถึงมันผ่านสายตาของลูกสาวที่แก่นเซี้ยวและแข็งแกร่ง และผมกำลังพาเธอเข้าสู่วัฒนธรรมกีคที่ผมรัก และไม่ได้ยึดติดนัก เธอมีความเข้าใจในหนังเจ๋งๆ แต่ไม่ได้พาเธอเข้าสู่โลกของหนังสือการ์ตูน ดังนั้นตัวละครของบาร์บาร่ามาจากจากการวาดภาพเธอให้เป็นคนที่มีอายุมากกว่า วาดภาพให้เธอเป็นใครสักคนที่มีความชาญฉลาดและปากไว แต่เป็นคนที่สนใจเกมแบบ Dungeons& Dragons และเกมแฟนตาซี อะไรประมาณนั้น และสร้างโลกของ I Kill Giants และเชื่อว่ายักษ์กำลังมา แล้วเธอต้องฆ่ามัน

โอเค เจ๋งไปเลย แล้วช่วยเล่ากระบวนการในการดัดแปลงหนังสือสู่ภาพยนตร์

โจ เคลลี่: ได้ ผมโชคดีพอที่ได้พบกับ เคน นิอิมูระ ที่เป็นผู้สร้างร่วมและเขาก็วาดนิยายภาพได้สวย ผมเขียนบทเรียบร้อยแล้ว เมื่อผมเขียนสคริปท์นิยายภาพ ผมก็ชอบมันมาก ผมจึงเขียนใหม่ให้เป็นสคริปท์ที่ลงรายละเอียด ตลอดการพูดคุยกับผู้คนในหนังเรื่องนี้ โดยเฉพาะผู้กำกับ อันเดอร์ส วอลเตอร์ เราก็พูดถึงองค์ประกอบที่จะทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่าง เพราะคุณสามารถทำอะไรได้ในหนังสือโดยอิงจากความสัมพันธ์ระหว่างระหว่างผู้อ่านและหนังสือการ์ตูน สิ่งที่คุณจินตนาการ กับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างช่องการ์ตูน และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย ความรู้สึกจากสิ่งเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อคุณได้รับชมภาพยนตร์ที่คุณไม่สามารถควบคุมการดำเนินเนื้อเรื่องได้ บางสิ่งบางอย่างที่อยู่ในหนังสือจะทำลายข้อสงสัยที่ว่า สิ่งที่บาบาร่ากำลังเผชิญคือเรื่องจริงหรือจินตนาการของเธอ ผมคิดว่าคำถามนี้เกิดขึ้นตลอดเวลาที่ได้รับชม เพราะว่าเรื่องราวนี้เล่าจากมุมมองของเธอเอง ดังนั้นเราจึงต้องเลือกจุดที่เหมาะสมสำหรับการหยิบมาใส่ในหนัง และเปลี่ยนภาพเหล่านั้นให้กลายเป็นฉากในภาพยนตร์ เพราะว่าฉากเหล่านั้นมีคุณค่าในด้านการบรรยายในสิ่งที่เราไม่ต้องการให้เธอสื่อสารด้วยวิธีพูด เราต้องการให้เธอสื่อสารผ่านทางสภาพจิตใจ และการสิ่งอื่นๆ ที่คุณจะได้รับชมในภาพยนตร์ มันจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับผมครับ

ฉันรู้ว่าหนังสือออกตีพิมพ์เมื่อสองสามปีก่อนและมีแฟนจำนวนมากที่ติดตามหนังสือเล่มนี้ คุณเคยรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณต่อแฟนมากกว่าตัววัตถุดิบดั้งเดิมหรือเปล่า หรือไม่เป็นเพราะตัวคุณเองยึดติดวัตถุดิบดั้งเดิม

โจ เคลลี่: ใช่ ผมคิดอย่างที่คุณพูด ผมเป็นแฟนตัวยง นี่มาจากความกล้าของผมและแม้ว่าผมจะเชื่อมั่นก็ตาม มันมีคำพูดที่ว่าผู้ชมคือผู้ร่วมงานครั้งสุดท้าย ดังนั้นไม่ว่าผู้อ่านหรือคนดูหนัง พวกเขาต่างถือกรรมสิทธิ์ของสิ่งนั้น แฟนๆ ผู้คนที่ชื่นชอบ ผมมีรอยสักนะ รอยสัก I Kill Giants แล้วผมไม่ใช่คนแรกที่มีรอยสัก I Kill Giants แต่ผมก็ตระหนักรู้เพราะผมเป็นพวกเขาและสิ่งที่ผมรักเกี่ยวกับที่ว่ามันเป็นหนังสือหรือโปรเจกต์ที่ผมเขียนขึ้น ผมรู้สำหรับตัวเองว่าสิ่งหนึ่งสามารถยืดหยุ่นได้อย่างไรก่อนที่มันไม่ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่คุณตกหลุมรักเพราะผมเป็นแฟนทุกแนวและทุกอย่าง ดังนั้นเมื่อเห็นบางอย่างถูกแปล ผมจึงสวมบทหน้าที่เป็นแฟนเช่นเดียวกับคนเขียบท ผมจึงตระหนักรู้แน่นอนและความหวังของผมคือคนที่ได้อ่านหนังสือจะได้ความรู้สึกแบบเดียวกัน พวกเขารู้เรื่องราวและจะเห็นฉบับที่แตกต่างซึ่งเป็นเพื่อนคู่เคียงที่ดีเยี่ยม ผมคิดว่ามันจะยกระดับประสบการณ์ที่พวกเขามีต่อหนังสือเพราะมันเป็นการให้เกียรติ มีคำพูดและฉากหลายอย่างที่ออกมาจากหนังสือ และทุกคนก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม ผมคิดว่าแฟนๆจะปลื้ม

ใช่ สิ่งที่ฉันติดใจคือความใกล้เคียงระหว่างหนังสือและตัวหนัง และฉันมั่นใจนั่นเป็นเพราะคุณเกี่ยวข้องในฐานะคนเขียนบทนอกเหนือจากคนเขียนหนังสือ แต่ฉันก็สงสัยเพราะฉันอ่านหนังสือก่อนดูหนัง และฉันคิดว่าหลายคนจะมีประสบการณ์แบบนั้น แต่คุณสามารถมีประสบการณ์กับเรื่องราวแค่ซักครั้ง ฉันจึงมั่นใจว่าคุณมีความคิดเห็นอคติ แต่คุณอยากให้ผู้คนอ่านหนังสือก่อนหรือดูหนังก่อนเพราะคุณสามารถมีประสบการณ์กับเรื่องราวนี้เป็นครั้งแรกซักครั้ง

โจ เคลลี่: นั่นเป็นคำถามที่ดีเยี่ยม ผู้คนที่ผมรู้เหมือนตัวคุณเองที่ได้อ่านหนังสือจะได้อะไรมากมายจากหนังเรื่องนี้ ผมยังไม่เคยเห็นใครที่พูดว่า “ฉันสนุกกับหนังไม่ได้เพราะฉันรู้เรื่องราวหมดแล้ว” ผมจึงมีคำตอบว่าไม่ว่าอย่างใดอย่างหนึ่งก็โอเค ผมคิดว่าคุณสามารถดูหนังและหาหนังสือมาอ่านแล้วเห็นว่ามันแตกต่างอย่างไร เพราะอย่างที่ผมบอก หนังสือนั่นน่ะ มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่นิยายภาพทำได้มากกว่าตัวหนัง และมีความเป็นศิลปะในแนวทางที่แตกต่างซึ่งมีนสนุกกับการได้สำรวจ และบาร์บาร่าก็มีความแข็งแกร่งกว่าบ้างในหนังสือซึ่งมันเจ๋งดี แต่หนังเรื่องนี้มีความลุ้นระทึกทางความรู้สึกในคราวเดียวกันจนผมคิดว่ามันเป็นเอกลักษณ์สำหรับผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังที่เราคุ้นชิน มันคือการดัดแปลงหนังสือการ์ตูนที่ไม่ใช่แนวซูเปอร์ฮีโร่ นั่นจึงเป็นความตื่นเต้นในตัวมันเอง

บทสัมภาษณ์ เมดิสัน วูล์ฟ นักแสดงดาวรุ่ง กับบทบาทท้าทายใน I Kill Giants

ผลงานโดดเด่นที่ผ่านมา On the Road, Trumbo, Joy และ The Conjuring 2

คุณกลายเป็นส่วนหนึ่งของ I Kill Giants ได้อย่างไรและสิ่งที่ดึงดูดคุณต่อบทของบาร์บาร่า

เมดิสัน วูล์ฟ: ฉันได้รับการออดิชั่นเป็นปกติ เมื่อฉันอ่านบท ฉันก็ตกหลุมรักบาร์บาร่าและเส้นเรื่อง ฉันคิดว่าสิ่งที่ดึงดูดฉันคือเธอมีความซับซ้อน เธอมีมิติหลายระดับ

แน่นอน บาร์บาร่าเป็นฮีโร่ที่มีความลึกซึ้ง เป็นสาวห้าวที่บ้าระห่ำ แต่เปราะบางภายใต้หน้าฉากที่แข็งกร้าว คุณเตรียมตัวสำหรับบทบาทนี้อย่างไรและบาร์บาร่าเป็นตัวละครที่ยากลำบากไหมในการเข้าถึง

เมดิสัน วูล์ฟ: ใช่ค่ะ มันเป็นการออดิชั่นที่ยากที่สุดเท่าที่ฉันเคยทำ มันใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการบันทึกเทปและแสดงออกมาเท่าที่ฉันมั่นใจ บางทีสิ่งที่ฉันทำในการในการเข้าถึงมิติของเธอ ฉันอาจเดาได้ว่าคุณพูดว่า ฉันแค่อ่านบทและเลือกส่วนเล็กๆที่ว่าฉันอาจเป็นคนเปราะบางหรือเป็นสาวห้าวหรือคนหัวรั้น เพราะบุคลิกเหล่านั้นแค่มาจากจุดที่เฉพาะเจาะจงเป็นพิเศษมากๆ เมื่อดูจากภายนอก เธอเป็นแค่คนนอกที่แข็งกร้าวคนหนึ่ง

คุณคุ้นเคยกับนิยายภาพหรือเคยอ่านหรือเปล่า คุณมีอิสระในการเพิ่มเติมลงไปในต้นฉบับหรือเปล่าและคุณถ่ายทอดตัวละครในแบบของคุณเองอย่างไร

เมดิสัน วูล์ฟ: ใช่ค่ะ ฉันเคยได้ยินนิยายภาพมาก่อนที่ฉันออดิชั่น และเมื่อฉันผ่าน ฉันก็อ่านนิยายและมันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเลย ฉันชอบมันมากค่ะ

นี่อาจเป็นบทที่ยิ่งใหญที่สุดในการงานของคุณ คุณรู้สึกกดดันหรือเปล่าเพราะคุณต้องเป็นฝ่ายนำและเป็นศูนย์กลางตลอดเวลา

เมดิสัน วูล์ฟ: แน่นอนค่ะ มันอาจจะตึงเครียดตลอดเวลาแต่ฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร ฉันรักทุกส่วนแม้กระทั่งส่วนที่ยากที่สุด ฉันชอบการท้าทายที่ดีและบาร์บาร่าก็ให้ฉันได้ค่ะ

เหตุการณ์ไหนที่ท้าทายที่สุดในการถ่ายทำ และการถ่ายทำนั้นต้องอาศัยแรงกายมากไหมและคุณเล่นฉากเสี่ยงตายมากไหม

เมดิสัน วูล์ฟ: ใช่ค่ะ มีหลายฉากที่อาศัยแรงกายเยอะ หนึ่งในฉากที่ยากที่สุดที่ฉันจำได้คือบาร์บาร่าต้องลงในน้ำและสู้กับยักษ์ มันเย็นเยือกและพวกเขาก็ใช้เครื่องเป่าลม เครื่องทำฝน ฉันและเด็กคนอื่นๆอยู่ในชุดเว็ทสูทและเราก็หวีดร้อง นั่นอาจจะท้าทายที่สุดสำหรับฉันค่ะ

นอกเหนือจากฉากต่อสู้ยักษ์และฉากแฟนตาซี มันมีแก่นกลางทางความรู้สึกสำหรับหนังเรื่องนี้ คุณจำเป็นต้องสร้างแรงขับเคลื่อนทางครอบครัวให้น่าเชื่อถือ ฉากของคุณร่วมกับอิโมเจน พูตส์มีความสำคัญสำหรับหนัง แต่คุณไม่ได้ใช้เวลามากนักในการอยู่ในฉากเดียวกันกับเธอ มันยากไหมในการสร้างความผูกพันแบบพี่น้อง และการทำงานกับอิโมเจน พูตส์และโซอี้ ซัลดาน่าเป็นอย่างไร ในการเป็นส่วนหนึ่งของทีมนักแสดงหญิง

เมดิสัน วูล์ฟ: มันยอดเยี่ยมมากค่ะ จริงๆแล้วอิโมเจนและโซอี้สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันมาก ฉันคิดว่าอิโมเจนเป็นแรงบันดาลใจจริงๆ มันก็เลยไม่ยากสำหรับเราที่จะผูกพัน ทั้งชายและหญิงในกองถ่าย เราต่างมีเคมีที่ดีเยี่ยม มันสนุกมากที่ทำงานร่วมกับเธอ ดังนั้นเมื่อถึงฉากเหล่านั้น (ที่คุณอ้างถึง) เราเลยผูกพันและรู้จักซึ่งกันและกันอย่างดี เรารู้สึกสบายใจต่อกันและกัน ฉันจึงคิดว่านั่นเป็นส่วนสำคัญของการทำให้ทุกอย่าง “ไหลลื่น”

นอกเหนือจากฉากกรีนสกรีนและเล่นฉากเสี่ยงตาย ประสบการณ์ที่น่าจดจำในกองถ่ายระหว่างการถ่ายทำ I Kill Giants คืออะไร

เมดิสัน วูล์ฟ: ก็คงเป็นการถ่ายทำร่วมกับรอรี่ แจ็คสันและซิดนี่ย์ เวดที่เล่นเป็นเทเลอร์ (อันธพาลประจำโรงเรียน) และโซเฟีย (เพื่อนของบาร์บาร่า) เราใกล้ชิดในกองถ่ายและสนุกสนานร่วมกันทั้งในกองและนอกกองค่ะ

คุณคาดหวังว่าผู้ชมจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้

เมดิสัน วูล์ฟ : ฉันหวังว่าทุกคนจะได้รับสารที่ว่า “เราแข็งแกร่งกว่าที่เราคิด” ฉันคิดว่ามันเป็นหนึ่งในประโยคสุดท้ายที่บาร์บาร่าพูดไว้ในหนังเรื่องนี้ค่ะ

คุณมีผู้กำกับที่ชื่นชอบหรือเปล่า หรือผู้กำกับที่คุณหวังว่าจะร่วมงานซักครั้ง

เมดิสัน วูล์ฟ : หนึ่งในผู้กำกับที่ชื่นชอบและเคยร่วมงานด้วยก็คงเป็นผู้กำกับ I Kill Giants อันเดอร์ส วอลเตอร์ เขาเป็นคนสนุกสนาน อีกคนที่ฉันสนุกกับการทำงานด้วยก็คือเจมส์ วาน คนที่กำกับ The Conjuring 2 ฉันชอบที่ทำงานร่วมกับพวกเขาเพราะไม่เฉพาะเป็นคนที่ยอดเยี่ยมแล้ว พวกเขาเป็นผู้กำกับที่น่าทึ่งด้วย ฉันรู้สึกว่าในการถ่ายทำนั้น มันเป็นการประสานกันของไอเดียเพื่อให้ได้การแสดงที่สมบูรณ์ แทนที่จะเป็นการบอกนักแสดงว่าให้ทำอะไร มันออกจะทำนองว่า “คุณคิดอย่างไรกับสิ่งนั้น” ฉันก็ชื่นชมในฐานะนักแสดงคนหนึ่งค่ะ

ที่มา (Lee’s): http://screenanarchy.com/2018/03/i-kill-giants-interview-madison-wolfe-discusses-her-most-challenging-role-yet.html

ชนิดของยักษ์

Ur (เออ์)

ยักษ์ตัวแรกของโลก ธรรมชาติเป็นผู้ให้กำเนิดยักษ์ตนนี้ที่มีความสูงถึง 32,000 เมตร เพราะความโดดเดี่ยวและอ้างว้าง มันจึงฉีกเนื้อของตัวมันเอง เศษเนื้อเหล่านั้นได้กลายเป็นยักษ์ตนอื่นๆ Ur จึงเรียกได้ว่าเป็นบิดาแห่งยักษ์ทั้งมวล

Swamp Giant (ยักษ์หนองน้ำ)

มันคือยักษ์ที่ดุร้าย ยักษ์หนองน้ำจะสังหารคนทั้งหมู่บ้านและแทนที่คนเหล่านั้นด้วยตุ๊กตาที่ทำจากเถาวัลย์

Frost Giant (ยักษ์น้ำแข็ง)

เป็นยักษ์ที่ปกคลุมไปด้วยขนที่ทำจากน้ำแข็งที่มีชีวิต มันจะใช้ไตของมนุษย์ปรุงรสกวางเรนเดียร์เพื่อกินเป็นอาหาร

Mountain Giant (ยักษ์ภูเขา)

มันคือนักล่าที่เด็กทุกคนจะต้องกลัว ข่าวร้ายคือยักษ์ตนนี้มีนิสัยชอบอาบเลือดสดๆ ของเด็ก ข่าวร้ายกว่าคือมันร้องเพลงได้แย่มาก แต่ข่าวดีคือไม่มีใครพบเห็นยักษ์ประเภทนี้มาหลายศตวรรษแล้ว

The Titan (ไททันแห่งความตาย)

ยักษ์ที่ชั่วร้ายที่สุด มีความโหดเหี้ยมมากที่สุดในบรรดายักษ์ทั้งหมด เสียงหัวเราะของมันสามารถทำให้เลือดในสิ่งมีชีวิตทุกชนิดเดือด และมีดวงตาที่สามารถดับดวงอาทิตย์ได้

(โดยทั่วไป ยักษ์จะมีความสูงระหว่าง 9-20 เมตร)

ที่มา: หนังสือภาพ I Kill Giants (Chapter: 2)