โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ผนึกกำลังทีมแพทย์ด้านฮอร์โมนและศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เปิดตัว “Pride Clinic” เพื่อส่งมอบการดูแลเชิงสุขภาพในระยะยาว (Lifetime value) แก่กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ เพื่อให้มีทางเลือกในการดูแลสุขภาพตามความต้องการเฉพาะบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนทางกายภาพ ไปจนถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ด้วยการบริบาลมาตรฐานบำรุงราษฎร์และความปลอดภัยสูงสุด

ภญ. อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี บำรุงราษฎร์เคารพในความแตกต่างทั้งด้านเชื้อชาติ ภาษา ศาสนา วัฒนธรรม และเพศสภาพ อันเนื่องมาจากที่เรามีประสบการณ์ที่ยาวนานในการดูแลผู้ป่วยที่มีความหลากหลายจากทั่วโลก การเปิดตัว Pride Clinic จึงนับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ของบำรุงราษฎร์ในการเปิดโอกาสให้เกิดการเข้าถึงการรักษาที่ครบวงจร ปลอดภัย และได้มาตรฐาน และให้ความสำคัญในความเป็นส่วนตัวของผู้มารับบริการ อาทิ ข้อมูลประวัติการรักษา สถานที่ที่เป็นสัดส่วน และการไม่เปิดเผยตัวผู้มารับบริการ ให้แก่กลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศในทุกช่วงอายุ ภายใต้พื้นฐานความเชื่อว่า ทุกคนสามารถเป็นบุคคลที่ดีที่สุดในแบบฉบับของตนเอง หรือ Be the best version of you และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ขอร่วมแสดงจุดยืนสนับสนุนเทศกาล “Pride Month” ในเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อตอกย้ำถึงความเคารพต่อความหลากหลายทุกรูปแบบของมวลมนุษยชาติ

รศ.นพ. ทวีสิน ตันประยูร ประธานปฏิบัติการด้านการแพทย์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า “สืบเนื่องจากกระแสปัจจุบันที่มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออกและมีมุมมองในการยอมรับนับถือผู้อื่นโดยไม่ใช้เรื่องของเพศสภาพ หรือรสนิยมส่วนตัวมาตัดสิน อีกทั้งจากประสบการณ์ของทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราที่ได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มคนที่หลากหลาย ทำให้พบว่ามีความต้องการรับการบริบาลจากกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึงจากผู้ปกครองและญาติมิตร เริ่มตั้งแต่การให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยา การเตรียมความพร้อมเรื่องฮอร์โมน การทำหัตถการ และการใช้ศัลยกรรมช่วยปรับแต่งลักษณะทางกายภาพ รวมถึงการผ่าตัดเปลี่ยนเพศด้วยวิธีที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์อย่างแท้จริง และการดูแลอย่างต่อเนื่องภายหลังการผ่าตัด ภายใต้การดูแลของทีมศัลยแพทย์และแพทย์ผู้ชำนาญการที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน การเปิด Pride Clinic ในวันนี้ นับเป็นการบริบาลทางการแพทย์ล่าสุดของบำรุงราษฎร์ ที่มุ่งยกระดับให้ครอบคลุมและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่เรายังคงไว้ซึ่งคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับบริการทุกคน”  

นพ. สิระ กอไพศาล อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อและผู้ชำนาญการด้านฮอร์โมน โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ กล่าวว่า ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นเรื่องสำคัญ เช่น ยังมีความเข้าใจผิด และมีความเสี่ยงในการซื้อยาคุมกำเนิดมารับประทานเอง เพื่อทดแทนฮอร์โมนในเพศหญิง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ Pride Clinic” จึงได้รับการออกแบบให้เกิดการบริบาลแก่กลุ่มหลากหลายทางเพศที่ปลอดภัย โดยดูแลตั้งแต่ การใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อปรับลักษณะทางกายภาพหรือเตรียมความพร้อมเพื่อปรับเพศสภาพ (Hormone Therapy)ศัลยกรรมเพื่อปรับลักษณะทางกายภาพ (Masculinizing Feminizing Procedures)การผ่าตัดเปลี่ยนเพศ (Gender-Affirming Surgery)การฝึกพูดเพื่อเปลี่ยนเสียงเป็นเพศหญิง (Voice Feminizing Therapy) และการผ่าตัดกล่องเสียง (Voice Feminizing Surgery)การดูแลรักษาด้านผิวพรรณ ความงามและรูปร่าง (Aesthetic and Skin) การดูแลสุขภาพจิต (Mental health) รวมถึงการออกแบบโปรแกรมสุขภาพแบบจำเพาะสำหรับผู้มีความหลากหลายทางเพศ (Checkup Program for Unisex) ในทุกช่วงวัย เป็นต้น ซึ่งดูแลโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการในทุกขั้นตอน

 

ที่สำคัญทีมศัลยแพทย์ที่ต้องใช้หัตถการในการผ่าตัดเปลี่ยนเพศ ยังมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี และทำการผ่าตัดมาแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ซึ่งแพทย์เฉพาะทางนี้ได้จบด้านศัลยกรรมตกแต่งหรือศัลยกรรมพลาสติก (Certified Board Plastic Surgeons) ในขณะที่ประเทศไทย ยังมีแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการรักษาด้วยฮอร์โมนบำบัดจำนวนไม่มากนัก ซึ่งแพทย์ที่สามารถปฏิบัติงานควรเป็นแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีความเข้าใจและใส่ใจในสุขภาพของคนกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉพาะ จึงจะสามารถให้คำปรึกษาด้านสุขภาพได้ ซึ่ง Pride Clinic ตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการ

นพ. รัฐภรณ์ อึ๊งภากรณ์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านผิวหนังและความงามศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ บางกระเจ้า กล่าวเพิ่มเติมว่า “โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ยังมีบริบาลดูแลในช่วงการพักฟื้นภายหลังผ่าตัดอย่างต่อเนื่อง โดยมีทีมที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ ภายใต้โครงการรักษ ตั้งอยู่ที่บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวมแห่งแรกในเอเชีย ด้วยจุดเด่นคือการผสมผสานระหว่างการนำเทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์สมัยใหม่ (Advanced Medical Science) มาใช้ร่วมกับ ศาสตร์การแพทย์แบบองค์รวม (Holistic Wellness) ที่เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และจัดโปรแกรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะบุคคล ซึ่งดูแลโดยแพทย์ และผู้ชำนาญการด้านศาสตร์การแพทย์แขนงต่างๆ ไว้อย่างครอบคลุม ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมไปถึงการปรับสมดุลของร่างกาย ดูแลผิวพรรณ ความงาม น้ำหนักตัว และการชะลอวัยให้ดูดีในแบบฉบับของแต่ละบุคคล”

 

อย่างไรก็ดี ในฐานะต้นแบบและแรงบันดาลใจของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ เกรซ นวรัตน์ เตชะรัตนประเสริฐ ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมากลุ่ม LGBTQ+ มีทางเลือกจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลการเปลี่ยนแปลงตัวเองที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มีวิสัยทัศน์ในการให้บริการครบวงจรเพื่อเป็นทางเลือกให้กับกลุ่ม LGBTQ+ ได้เป็นตัวของตัวเองในแบบที่ปลอดภัย และได้รับการดูแลจากแพทย์ที่มีประสบการณ์โดยตรง

เขื่อน ภัทรดนัย เสตสุวรรณ  กล่าวว่า บริการของ Pride Clinic นอกจากมีความครอบคลุมความต้องการแล้ว ทางโรงพยาบาลฯ ยังให้ความสำคัญกับข้อมูลความเป็นส่วนตัว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับกลุ่มนี้ ทั้งยังมีบริการให้คำปรึกษาทางด้านจิตเวชด้วย

รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น กล่าวว่า ยังมีคนในกลุ่ม LGBTQ+ อีกมากที่กลัว และไม่กล้าใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ ซึ่งทำให้เกิดปัญหากับคุณภาพชีวิตตามมา Pride Clinic จึงเป็นพื้นที่ที่ทำให้บุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ มาแล้วรู้สึกสบายใจ และปลอดภัยเพราะเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงความเท่าเทียมอย่างแท้จริง สำหรับคนที่ไม่ใช่กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ อย่างในกลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองก็สามารถมาใช้บริการที่นี่เพื่อขอคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เรียนรู้ และทำความเข้าใจในการอยู่ร่วมกับบุตรหลานที่เป็น LGBTQ+ ได้อย่างมีความสุข

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1378 หรือติดต่อคลินิก Pride (Pride Clinic) ตั้งอยู่ที่อาคาร A (อาคารคลินิก) ชั้น 16เคาน์เตอร์ A (16A) โดยเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น. หรือ email: prideclinic@bumrungrad.com

————————————–

สามารถชมการแถลงข่าวย้อนหลังได้ที่ เพจบำรุงราษฎร์ ตามลิงก์ด้านล่างนี้ค่ะ