สาวร่างเล็กสุดแซ่บ แอร์ ภัณฑิลา ที่วันนี้จะมาเปิดใจเรื่องความรักที่กำลังหวานสุดๆ  แต่ทำไมไม่เห็นควงหนุ่มนอกวงการออกสื่อ แถมงานนี้เจ้าตัวบอกว่าพร้อมแต่งงานแล้ว ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีธัญญ่า ธัญญาเรศ และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
อัปเดตเรื่องบ้านหน่อย?
แอร์ : เพิ่งทำสัญญาสำหรับการรีโนเวทบ้านให้คุณแม่ คุณพ่อ ที่บางนา เหมือนเป็นบ้านเมื่อ 30 ปีที่แล้ว แล้วเราก็อยู่กันมาเรื่อยๆ แล้วหนูมีแพลนที่จะสร้างบ้านของตัวเองด้วย ก็เลยถ้าเราสร้างบ้านให้ตัวเองแล้ว ก็อยากให้บ้านคุณพ่อ คุณแม่สวยด้วย
งบประมาณบอกได้ไหม?
แอร์ : มันเป็นการรีโนเวทบ้านซึ่งเราใช้โครงเดิมซะส่วนใหญ่ จะบอกว่ารีโนเวทบ้านปัจจุบันนี้ต้องมี 10 ล้านนะ น่าจะประมาณ 10 กว่าล้าน
คุณพ่อ คุณแม่ว่าไงบ้าง ดีใจไหม? 
แอร์ : จริงๆ แอร์ว่าคนเป็นพ่อ เป็นแม่เขารู้สึกว่าเปลืองเงิน ไม่ต้องหรอก เขาอยู่ได้ เขาอยู่มาตั้งนานแล้ว แอร์เก็บเงินไปสร้างบ้านแอร์เถอะ แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่เราทำงานในวงการมาตั้งนาน เราก็อยากเป็นของขวัญคืนกลับไปให้เขาเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะให้อะไร แอร์ว่าการลงทุนกับบ้านมันเป็นสิ่งที่คุ้มค่ามากที่สุด สุดท้ายทุกคนก็กลับมาอยู่ด้วยกันที่บ้านอยู่ดี คุณพ่อ คุณแม่เขาก็บอกเกรงใจ อย่าเลย ไม่ต้องหรอก แต่ว่าหนูบอกว่าหนูขอแล้วกัน มันเป็นความฝันหนู หนูอยากทำให้
น่าจะเสร็จประมาณปีไหน?
แอร์ : น่าจะไม่เกิน 1 ปี คือเซ็นสัญญาไว้ไม่เกิน 365 วัน แต่เขาบอกว่ามันอาจจะเร็วกว่า เอาจริงๆ นะแม่ไม่ยอมให้ทำ หนูเลยบอกว่า มีสปอนเซอร์ทำให้หมดเลย ฟรี เขาก็เลยโอเคทำ พอหนูจะทำสระว่ายน้ำ เขาบอกไม่เอา แม่กลัวตกน้ำ แม่เขาทำฟรี เขาบอกอ่อ…เหรอทำก็ได้
ล่าสุดแอดมิทเข้าโรงพยาบาล?
แอร์ : ที่เห็นรูปนั่นคือกระบวนการของการเก็บไข่ เรารู้สึกว่าด้วยอายุที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แล้วเราไม่รู้ว่าจะแต่งงานหรือมีลูกเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นการแพลนว่าเราจะเก็บไข่เอาไว้ เผื่อว่ามันจะสมบูรณ์กว่าตอนที่เราจะไปเก็บตอนอายุเยอะๆ ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้หญิงปัจจุบันที่เป็นผู้หญิงทำงาน ซึ่งตอนที่เราไปเก็บไข่คุณหมอพบว่าในมดลูกของเรามีถุงน้ำอยู่ จริงๆ แอร์เป็นคนมรซีสต์ ผู้หญิงทุกคนแทบ 100% แทบจะมีซีสต์อยู่แล้ว ถ้าสมมติเราได้ไปตรวจ แต่อันนี้คุณหมอไม่ได้แพลนก่อนว่าจะเจาะ แต่ว่าด้วยทางเข้าไปมันเห็น คุณหมอบอกมันเป็นถุงน้ำที่มันไม่ใช่ก้อนเนื้อ ถ้าเป็นก้อนเนื้อมันมีโอกาสพัฒนาไปเป็นก้อนเนื้อร้ายหรือมะเร็งได้ แต่ถุงน้ำมันเป็นของเหลว เพราะฉะนั้นเบื้องต้นที่คุณหมอทำก็คือดูดเอาน้ำข้างในออกมาก่อน ก็ออกมาค่อนข้างเยอะ ที่เห็นเป็นหลอดๆ ก็ออกมา 3 หลอดกว่าใหญ่มาก แต่มันอาจจะมีโอกาสกลับมาโตได้อีก ต้องตรวจเรื่อยๆ
ไปฝากไข่ วางแผนจะมีบุตร จะแต่งงานเร็วๆ นี้หรือเปล่า?
แอร์ : การเก็บไข่เอาไว้ก่อน แอร์ถือว่าเป็นการวางแผนแล้วกัน เพราะว่ามันจะได้ไม่เป็นการกดดันเราว่าเราจะแต่งงานเมื่อไหร่ แต่สุดท้ายแอร์ว่าผู้หญิงทุกคนคงไม่ได้อยากมีลูกตอนอายุเยอะๆ หรอก แต่ว่าเราบังคับผู้ชายไม่ได้ หรือว่าจะได้ไม่เป็นการกดดันเขาว่ารีบมาขอเรา เพราะเราอายุเยอะอะไรแบบนี้
เก็บไข่ได้กี่ใบ?
แอร์ : 14 ใบ
คุณแฟนนอกวงการเขาเห็นด้วย หรือสนับสนุนในการฝากไข่เราครั้งนี้ไหม?
แอร์ : เขาก็เห็นด้วย แล้วคุณหมอก็มีบิ้วด้วย แบบโอเคนัดผ่าตัดแล้วว่าจะต้องเก็บไข่ในวันนี้ คุณหมอบอกว่าในการเก็บไข่ของผู้หญิงไปแช่แข็งไว้ก่อน มันจะต้องมีการผสม คือเอาของผู้ชายมาผสมกับของผู้หญิง แล้วฉีดเข้าไปอีกที หมอบอกว่าในกระบวนการนี้อาจจะเสียไข่ไปบ้าง หมายความว่าถ้าเราเก็บได้ 14 ไม่ใช่ว่าเราจะเอาออกมาใช้ได้ 14 เลย อาจจะมีการเสีบ้าง หมอถามว่าจดทะเบียนเลยไหม เขาบอกว่าถ้าเราจดทะเบียนก่อนแปลว่าถูกกฎหมาย เราสามารถเอาของผู้ชายมาผสมแล้วแช่คู่ ถ้ามันผสมเป็นตัวอ่อนมันจะมีประสิทธิภาพและมีโอกาสรอดมากกว่า ฉันก็เลิกลั่กสิ เธอจะจดทะเบียนกับฉันเลยไหม แม่ยังไม่รู้เรื่องเลย นึกออกไหม ไม่ได้ขอแล้วอยู่ๆ ไปจดทะเบียนกัน
สรุปเรายังไม่ได้ผสมใช่ไหม?
แอร์ : ยังๆ หนูยังไม่ผสม
เดี๋ยวนี้การเก็บไข่ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่แล้ว?
แอร์ : เกือบ 2 แสน แล้วแต่ละที่มีโปรโมชั่น
พร้อมลั่นระฆังวิวาห์หรือยัง?
แอร์ : มันก็อายนะเวลาออกทีวีแล้วต้องพูดว่า ก็รอให้ขออยู่นะคะ มันอายนะ แต่เราก็รู้สึกว่าด้วยคุณวุฒิ วัยวุฒิของเรามันก็ทำงานมาขนาดนี้แล้ว แล้วเราก็รู้ว่าเรามีความมั่นคงในระดับหนึ่ง คือก่อนหน้านี้เราจะรู้สึกว่ามันจะต้องเก็บเงินเท่าไหร่เหรอในการจะสร้างครอบครัว ในการที่จะต้องมีลูก ต้องมีเงินเท่าไหร่ แต่แอร์ก็มองไปว่าจริงๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องมีพร้อมขนาดนั้น สมมติเราตั้งเป้าไว้สูง ถ้าเรารอขนาดนั้นก็ไม่ต้องมีลูกแล้ว แอร์ก็เลยรู้สึกว่ามัยไม่มีความสมบูรณ์แบบ 100% หรือความพร้อมแบบ 100% ขนาดนั้น เพราะฉะนั้นตอนนี้ก็ขอได้เลย
แสดงว่าเรามั่นใจกับคนนี้มากๆ?
แอร์ : ด้วยความที่เราคุยกันมาสักพัก แต่แอร์ว่าอายุเราเปลี่ยน จริงๆ แอร์รู้จักกับเขาไม่ได้นานมากนะ ก็ประมาณ 2 ปีกว่าๆ แต่ด้วยอายุ การทำงาน และความคิดเราโตขึ้น
รู้จักได้ยังไง?
แอร์ : เป็นความบังเอิญ จะบอกว่าแอร์หรือ เฟิร์น พัสกร อยู่ในแก๊งสาวโสดที่ชอบปาร์ตี้มาก หรือไปนั่งชิลกัน ด้วยความสาวโสดแล้วเราก็เหงา ไม่อยากอยู่บ้านก็ไปนั่งรวมตัวกับเพื่อนตุ๊ดบ้าง แล้วปรากฎว่ามีวันนึง นั่งๆ อยู่เพื่อนก็โทรมาตามตอนเที่ยงคืนว่า เพื่อนอยู่ร้านนี้นะไปไหม เราก็เลยรู้สึกว่าแวะไปก็ไม่ติดนะ เอาสิ เดี๋ยวแวะไปหา ฉันอยู่กับคุ๊ดนะ เธอโอเคหรือเปล่า โอเคมาเลย พอหนูไปมันเหมือนเป็นไพรเวทปาร์ตี้ มันเหมือนเป็นงานวันเกิดแล้วเขาปิดทั้งร้าน หนูเดินเข้าไปหนูก็ตกใจให้เรามาในร้านที่เป็นไพรเวทได้ยังไง แต่ว่ามีโต๊ะเหลืออยู่เราก็เดินแอบๆไปนั่งอยู่ข้างๆ แล้วไม่มีใครสนใจเราเลย เหมือนเราเป็นอากาศ เหมือนเขาจัดงาน เขาก็ร้องเพลงวันเกิดของเขาไป แล้วเราก็มานั่งสั่งของเรา แล้วบ่นกับตุ๊ดว่าตามมาทำไม แล้วอยู่ดีๆ เพื่อนที่ชวนแอร์มาก็ไปบอกนักร้องว่าขอเชิญคุณแอร์ ภัณฑิลา ขึ้นมาร้องเพลงให้กับเจ้าภาพด้วย แล้วเราแบบ…ใครอะ เจ้าภาพคือใคร เหมือนเอาเราไปร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ให้เขา หนูก็เรียกชื่อผิด ชื่อถูก แต่ด้วยสัณชาจญาณและสปีริตของการเป็เอ็นเตอร์เทนเนอร์ ก็เลยขึ้นไปร้องจัดให้ 3 เพลง เสร็จแล้วบอกเพื่อนว่ากลับบ้านเถอะ งานนั้นผู้ชายเต็มไปหมด แต่เราไม่รู้จักใครเลย เราก็เลยคิดว่าเรากลับดีกว่า แล้วเพิ่งรู้ว่าเราพูดชื่อเจ้าของงานผิด เขาชื่อโจ๊ก หนูก็บอกว่าขอให้พี่โจ้มีความสุขมากๆ นะคะ หนูก็รู้สึกเลิกลั่กไม่ใช่ที่ของเรา เรากลับบ้านดีกว่า แต่ว่าในระหว่างที่จะออกนอกร้านก็จะมีกลุ่มผู้ชายที่เขายืนอยู่หน้าร้าน แล้วเรากำลังจะเดินออก เราก็สวัสดีนะคะ เดี๋ยวกลับแล้วนะคะ เพื่อนตุ๊ดก็เลยสะกิดมันมีช้างเผือกของกลุ่มอยู่ เดินเข้าไปสวัสดีเขาเดี๋ยวนี้ แอร์ก็ไม่เอาๆ อาย กลับบ้านเถอะ อิเพื่อนก็อยากให้เรามีแฟน เพราะตอนนั้นเราค่อนข้างจะเปลี่ยวใจอยากให้มีเพื่อนคุย เราก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่เชื่อไหมพอเดินออกมาจากร้าน หนูก็ยังเต้นกับเพื่อนระหว่างเดินไปเรียกรถ เพราะตอนนั้นประมาณตี 2-3 ให้คนขับรถกลับไปแล้ว ต้องไปเรียกรถที่หน้าปากซอย แล้วกำลังเต้นอยู่ระหว่างนั้นมีผู้ชายเดินมา ขอโทษนะครับพอดีเพื่อนอยากรู้จัก เราก็ถามยังไงคะ เขาก็เลยถามว่าขไลน์ได้ไหม เราก็แบบหยั่งเชิงก่อน ขอเป็นไอจีก่อนได้ไหม เขาบอกว่าพอดีเขาไม่ได้เล่นไอจี แอร์ก็แบบ…เอาไงดีแล้วมองตุ๊ด ตุ๊ดก็บอกว่าให้ๆ ไปก่อน เดี๋ยวค่อยบล็อกเอา หนูก็เลยให้ไป แต่หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกันนะ อันนี้คือจุดเริ่มต้นไปเจอกันงานวันเกิด ถามว่าแว๊บแรกใช่สเปคไหม ก็ไม่ใช่สเปคด้วย ก็คือเฉยๆ แล้วเรารู้สึกว่าเจอคนในที่เที่ยว หรือว่าร้านตามผับ รู้สึกว่าเขาต้องมาเล่นๆ แน่ๆ แต่ว่าหลังจากนั้นมาอะไรไม่รู้ทำให้เราเจอกันตลอดเวลา ทั้งที่เราไม่ได้นัดกัน เช่น หนูไปนั่งร้านนี้ นั่งอยู่ประมาณชั่วโมงนึงละก็ไม่ได้สนใจอะไร แล้วหันไปอีกทีคือเขานั่งอยู่โต๊ะข้างๆ บ่อยมาก หนูนั่งๆ ยืนๆ เต้นๆ อยู่กับมะตูม อ่าว…เขามาอยู่โต๊ะข้างๆ บ่อยจนเรารู้สึกว่าจะจะบ่อยขนาดนี้มารวมโต๊ะ  มันก็เลยรู้สึกว่าเหมือนเริ่มเป็นเพื่อนกันจริงๆ จากที่ไม่ค่อยได้ตอบไลน์เขา ถามคำตอบคำ ก็เริ่มสนิทมากขึ้น แต่สุดท้ายทั้งนี้ทั้งนั้นก็เลือกเองไม่ได้ ไปให้หลวงพ่อเลือกให้
คือคุณพาผู้ชายไปหาหลวงพ่อ?
แอร์ : ใช่ คือคุยกันสักพัก แล้วเธอนึกออกไหม เจอในที่เที่ยวก็ไม่พร้อมละ แล้วเรารู้สึกว่าตอนนั้นมันมีคนมาจีบเราอีกคนนึง มันเป็นอะไรก็ไม่รู้ ตอนโสดคือเงียบกริบ แต่พอมีผู้ชายคนนึงเข้ามาปุ๊บก็มีอีกคนเข้ามา
อีกคนหล่อไหม?
แอร์ : อีกคนก็เฉยๆ ไม่ใช่สไตล์เหมือนกัน แต่ว่าอีกคนนึงจะอายุมากกว่าแอร์ 4-5 ปี แต่คนที่คบปัจจุบันคือเด็กกว่าแอร์ 4 ปี ตอนแรกใจเราเอียงไปทางแบบว่าคนที่อายุมากกว่า เพราะเรารู้สึกว่าเขาดูหน้าจะพร้อมออกเรือน ดูมั่นคง ไม่อยากเที่ยว ไม่อยากหวือหวาอะไรอีกแล้ว ถ้าเด็กมันยังอยากเที่ยว อยากเล่นอยู่ เอาเพื่อนพาทั้งสองคนสลับวันกัน เฟิร์นเลือกสิระหว่างอายุมากกว่ากับน้อยกว่าเลือกใคร เฟิร์นก็เลือกเด็ก มะตูมเธอเลือกสิ ทุกคนเลือกเด็กหมดเลย เราก็แบบเหรอ ผู้ใหญ่เขาก็มีมุมดีๆ นะทำไมไม่มีใครเลือก ตัดสินใจไม่ถูกก็เลยพาไปหาหลวงพ่อที่อยุธยา ก็พาไปทั้งคู่ แต่คนละวัน
หลวงพ่อว่ายังไงบ้าง?
แอร์ : หลวงพ่อตกใจ คือตอนแรกพาผู้ใหญ่ไปก่อนวันจันทร์ วันพุธไปอีกแล้ว สรุปแล้วพระบอกว่าให้คบกับเด็ก เด็กดีกว่า เขาจะเชื่อฟังเรา เขาจะเกรงใจเรา อยู่ด้วยกันดวงจะเกื้อหนุนกัน อยู่แล้วจะสบายใจ หนูก็เลยกลับมาแคนเซิลคนนั้นไปเลย
แล้วทำไมไม่เปิดตัวสักที?
แอร์ : หนูไม่ได้ไม่เปิดตัวนะ แต่ถ้าถามว่าทำไมไม่เปิดตัวกับสื่อ หมายถึงลงรูป ด้วยความที่ผู้ชายของหนูไม่ชอบถ่ายรูปเลย ไม่มีรูป เคยเปิดมือถือเขาไม่มีรูปเซลฟี่ตัวเองเลย
แอร์เคยชวนเขาถ่ายรูปไหม?
แอร์ : แอร์เคยถ่าย แบบเอามือถือมาหน่อย ถ่ายรูปกัน สักพักเขาบอกเปิดแอร์ดรอปหน่อย เดี๋ยวส่งรูปให้ สักพักแอร์หันไปมองเขากำลังลบรูปที่ถ่ายกับเราทั้งหมด แอร์ถามลบทำไม ไม่เก็บเอาไว้บ้างเหรอ เขาบอกก็มีอยู่ในเครื่องแอร์แล้วไง เดี๋ยวเครื่องมันจะหนัก ปกติเขาจะไม่เก็บอะไรแบบนี้เลย เขาเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป ไม่มีโมเมนต์สวีทอะไรเลย
น้อยใจไหมที่เห็นเขาลบรูปเรา?
แอร์ : หนูก็บังคับให้เก็บไว้ 2 รูป เขาไม่ได้อะไรหรอก คงอาจจะแบบมันไว้ใจได้หรือเปล่า หรือมันมีความแปลกๆ หรือเปล่า ทำไมไม่เก็บรูปเรา ด้วยเราคุยกับเขาตลอดเวลา แล้วด้วยธรรมชาติเขาเป็นคนแบบนี้ ไปไหนก็พยายามรายงาน แล้วเราก็รู้สึกว่ามันก็ไม่จำเป็น อีกอย่างแอร์มองว่า แอร์ไม่อยากหน้าแตก แอร์เคยคบกับแฟน แล้วแอร์เคยลงรูปกับแฟน แล้วสุดท้ายพอมันไปต่อด้วยกันไม่ได้ สำหรับตัวแอร์เองนะ เวลาพูดไปแล้วคนมันเห็นเยอะ แล้วเวลาเขาไปเป็นแฟนกับคนนั้น คนนี้ แต่ละคนก็จะมาบอกเรา ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากรู้ เขาเป็นอดีตไปแล้ว แอร์ก็เลยรู้สึกว่าถ้ามันไม่ได้อยู่ในจุดที่แต่งงานกันก็ไม่ต้องพูดแล้วกัน ถ้ามันแต่งงานแล้ว หรืออนาคตมีลูก มันไม่ได้มีอะไรที่เป็นความลับ แต่ว่าแค่เขาอาจจะไม่ได้ชอบ แล้วเราก็ไม่อยากไปขัดเขา
พาเขาไปเปิดตัวกับครอบครัวเราหรือยัง?
แอร์ : เรียบร้อย ที่ผ่านมาคุณพ่อ คุณแม่ชิลอยู่แล้ว ลูกชอบใครก็จะชอบด้วย แต่จะคอยดูอยู่ห่างๆ เปิดตัวไหม แอร์อยากคบแบบให้ผู้ใหญ่รับรู้ แอร์ไม่ได้อยากคบแบบเด็กๆ
กับผู้ชายคนนี้มองอนาคตจริงจังขนาดไหน?
แอร์ : จริงจังนะ จริงๆ เป็นคนจริงจังกับความรัก แต่ด้วยอายุ มีแฟนไม่มีใครอยากเลิกหรอก แอร์เลยมองว่าถ้าเราคบแอร์อยากเป็นตัวของตัวเองจริงจังไปเลย ให้เขารู้ว่าเราเป็นคนแบบนี้
คบกันมาเท่าไหร่แล้ว 2 ปีกว่าเหรอ?
แอร์ : จริงๆ แอร์เจอเขาประมาณ 2 ปีกว่า แต่ถ้าถามคบเท่าไหร่ ณ ตอนนี้นะคะน่าจะปีกว่า สองปี หลายๆ คนตกใจคบกับผู้ชายมา สองปีกว่า มันเคยมีบางสำนักข่าวที่พาดไปว่าคบกันมาสองปีกว่า จะบอกว่ามันไม่ถึง เดี๋ยวพี่ที่พาไปอยุธยาด้วยเขาตกใจ
พี่ว่าอาจจะเป็นเพราะเป็นผู้หญิงสายบุญ ก็เลยทำให้เจอผู้ชายที่ถูกใจ?
แอร์ : เชื่อไหม เมื่อก่อนหนูเคยนั่งร้องไห้กับเฟิร์น กับเพื่อนๆ เราว่าเราไม่ได้เป็นคนจิตใจไม่ดี ทำไมเราไม่เจอผู้ชายดีๆ เลย ก่อนหน้านี้ถามว่ามีผู้ชายเข้ามาไหม มี แต่แปลกๆ ทั้งนั้น มีเข้ามาหลอกเอาเงิน เห้ย…เราว่าเราก็ทำบุญนะ เป็นเด็กกตัญญู ตั้งใจทำมาหากิน ไม่เคบโกงใคร ทำไมมีแต่คนเข้ามาแบบแปลกๆ ร้องไห้กับเพื่อนว่าฉันทำอะไรผิด ทำไมผู้ชายที่เข้ามาเป็นแบบนี้
ช่วงโควิดช่วยหาเตียงด้วย?
แอร์ : ใช่ มันเกิดขึ้นมาตอนที่แอร์จะต้องกัดตัว แล้วมันไม่มีอะไรทำ แล้วอยู่คอนโดห้องสี่เหลี่ยม ห้ามออกไปไหน สังคมรังเกียจมากๆ  คืออยู่แต่ห้อง เวลาสั่งข้าวมาเขาจะเอามาแขวนไว้ที่ประตู เราหยิบแล้วก็กิน แค่นั้น แล้วเราคู้สึกว่าถ้าเราพอที่จะใช้เวลาว่างของเราทำเพื่อคนอื่นบ้างได้ไหม ตอนนั้นตัวแอร์ก็ไม่ได้ติด แต่ว่าแค่ไม่ติดยังเครียดเลย แล้วคนติดตอนนั้นมันหาเตียงไม่ได้ เขาจะเครียดขนาดไหน ก็เลยประกาศไปว่าใครที่อยากให้แอร์ช่วยประสานหาเตียง เดี๋ยวแอร์จะช่วยโทรอีกหนึ่งแรงนะ คนติดต่อเข้ามาเยอะมาก ถ้ารวมกับรอบสองที่แอร์ได้เปิดรับ 7 วันคนแอดเข้ามา 4000 คน ร้องไห้อีก คือเครียดมาก มันกดดัน อันนี้เป็นในเรื่องเขาป่วยแล้ว เขารอการรักษา แล้วถ้าเราไปช่วยเขาไม่ทัน มันหมายถึงชีวิตเขาเลย
เคสหนักๆ ที่เจอเป็นยังไงบ้าง?
แอร์ : คือแอร์ทำแค่ประสานหาเตียง คือส่งเรื่องต่อไปหาพี่บุ๋ม ปนัดดา เป็นองค์กรทำดี แล้วพี่บุ๋มก็จะส่งให้ สปสช.ต่ออีกที เราก็ต้องรวบรวมเคสแล้วส่งไป บางคน แอร์ไปฟอลโลอัพเขาว่สเป็นยังไงบ้าง มีคนติดต่อเข้าไปหรือยัง เขาก็ส่งรูปโลงศพกลับมา ไม่เป็นไรค่ะ คุณพ่อเสียแล้ว เราจะรู้สึกว่ามันเศร้าจังเลย เราพยายามช่วยแล้ว แต่เราช่วยเขาไม่ทัน มีช่วงนึงคุณหมอบอกเลยว่ามีภาวะซึมเศร้านะ ให้หยุดก่อน ไม่งั้นตัวเองก็จะแย่ คือนอนไม่หลับ คือวันๆ จะนอนคิดว่าเราจะช่วยใครได้อีก เราอยากหาโรงพยาบาลสนามเอง เราพอจะมีเงินอยู่ เราช่วยใครได้ไหม ให้เขาแยกกันกักตัวได้ไหม คิดทั้งวันแล้วนอนไม่หลับ จนหมอบอกให้หยุด
เรื่องหลอนๆ เจอผีคือยังไง?
แอร์ : เป็นคนที่ค่อนข้างวิทยาศาสตร์มาก แล้วเรารู้สึกว่าเวลาเราเห็นอะไรแว๊บๆ เห็นอะไรห่างตา เราจะรู้สึกว่าตาฝาด คือผีอะมีจริงไหม มี แต่สำหรับแอร์ ความเชื่อของแอร์ ผี วิญญาณมีจริง แต่เรารู้สึกว่าเราเป็นคนดวงแข็ง แต่ว่ามันมีเหตุการณ์ครั้งนึงที่เรารู้สึกว่าอันนี้ไม่ปกติ วันนั้นไปถ่ายละคร กับญาญ่า ณเดชน์ ก็ไปถ่ายที่ทะเล เขาก็ถ่ายกันอยู่ แล้วแอร์เสร็จก่อน เขาก็เลยบอกว่าแอร์กลับไปพักก่อนก็ได้ แอร์ก็ไปนอนตั้งแต่ประมาณ 6 โมง เราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ประมาณ 2 ทุ่ม ตื่นมาจะเดินไปหาเพื่อน ก่อนที่เราหลับ ก่อนนอนก็เปิดดีวีดีดู  สักพักหลับไป ในระหว่างนั้นเหมือนรู้สึกตัวขึ้นมา แล้วสิ่งที่เราเห็นตอนเราลืมตาคือเรามองไปที่ทีวี มันก็เขียนคำว่า DVD เด้งไปมา แล้วหันไปมองที่เตียงข้างๆ ด้วยความที่มันเป็นเตียงคู่ เรานอนแล้วเราหันหน้ามาทางเตียงข้างๆ  ผู้จัดการบอกจะมาหาแล้วเดี๋ยวจะมานอนเป็นเพื่อน แต่ก่อนเราหลับไปผู้จัดการเขายังไม่มา แล้วเรามองไปเห็นคนแก่ผู้ชายนอนมองหน้าหนูอยู่ แล้วเขาทำท่าเหมือนกรี๊ดแต่ไม่มีเสียง เราก็ตกใจมาก คืออะไรอะ แล้วเราก็หลับตาเหมือนท่องนะโม แล้วพยายามลืมตาขึ้นมา สิ่งที่เห็นคือเหมือนเดิม เป็น DVD เด้ง แล้วเราก็ค่อยๆ หันไปมองข้างๆ เป็นภาพเดิม ตอนนั้นกลัวมาก ไม่รู้จะทำยังไง แต่สิ่งที่ทำได้ก็คือหลับตาสวดมนต์ใหม่ แล้วหลับตาครั้งนี้เรารู้ว่านะโมไม่รอดละ อาระหังสัมมา ก็ต้องมา เปลี่ยนบทสวด แล้วเหมือนเรากระดุกกระดิกไม่ได้เลย ลืมตาขึ้นมาก็เห็นเป็นภาพเดิม แล้วเราพยายามหลับตาแล้วเอาใหม่นึกถึงพ่อ แม่ แล้วบอกว่า พ่อ แม่ ช่วยด้วย กลัว ถ้าแอร์ทำอะไรผิดไปแอร์ขอโทษ ถ้าหนูทำอะไรไม่เหมาะไม่สมก็ขอขมา หนูขอโทษ หนูไม่ได้ตั้งใจ ปรากฎว่าคราวนี้หนูลืมตาขึ้นมา ความรู้สึกหนูคือหนูลุกขึ้นมาแล้ว แล้ววิ่งไปจับประตูแล้วบิด พอลืมตาขึ้นมาอีกทีมันเหมือนฝันซ่อนฝัน วนเป็นลูป ทุกครั้งที่รู้สึกว่าตื่นแล้วก็หม่ได้ตื่น ทุกครั้งที่ตื่นแล้ว ภาพแรกที่เห็นคือ DVD เด้ง กลับไปเห็นคนแก่ หลับตาสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกที DVD เด้ง คนแก่ หลับตา หนูคือฮึบสุดท้ายแล้ว สะบัดตัวแรงๆ ลุกขึ้นมาแบบ…เกิดอะไรขึ้น แล้วสิ่งที่หนูเห็นสิ่งแรกคือ DVDเด้งเหมือนเดิม ฉันก็กลัว ถ้าหันไปข้างๆ เจอคนแก่ทำยังไง แล้วค่อยๆ หันไป เธอไม่มีคนแก่แล้ว ฉันก็ค่อยๆ หยิบมือถือมา เพิ่งทุ่มกว่า หนูก็เลยกดไปหาทีมงานว่ามีใครอยู่ที่ตึกนี้ไหม มาหาแอร์หน่อย เขาก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เราก็ไม่กล้าพูดว่าเจอผีอำ แล้วก็โทรหาผู้จัดการให้มาหาหน่อย เขาบอกลูกสาวไม่ไปแล้วนะลูก นอนคนเดียวได้ไหม หนูนอนคนเดียวไม่ได้ นึกออกป้ะ แล้วในที่สุดมีพี่ทีมงานมาหา กลัวอะ หนูเลยบอกทีมงานขอเปลี่ยนห้องได้ไหม คนอื่นอยู่ตรงไหนหันบ้างหนูไม่ไหวแล้ว คือกลัวมาก แต่ว่ากลับมาเหมือทำบุญ เราอาจจะไปนอนทับที่ใครหรือเปล่า แต่โบราณเขาว่าอย่าไปนอนตอนโพล้เพล้ ไม่งั้นเดี๋ยวตะวันทับตาหรืออะไร วันนั้นก็คือนอนกับทีมงาน สติหลุดไม่ไหว ไม่เปิดทีวีอะไรอีกเลย อันนั้นน่าจะเป็นประสบการณเดียวในชีวิต แต่ภาพมันติดตามาก คนแก่เขากำลังกรีดร้องเหมือนเขาเจ็บปวดอะไรอยู่ก็ไม่รู้
ติดตามชมรายการ “คุยแซ่บShow”  ทุกวันจันทร์-วันศุกร์  เวลา13.40-14.40 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ แอร์ ภัณฑิลา

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ