ห่างหายจากวงการบันเทิงไปกว่า 9 ปี จนแฟนละครคิดถึง สำหรับสาว “จอย-ศิริลักษณ์ ผ่องโชค” ล่าสุดกลับมารับบทสุดท้าทายครั้งสำคัญในชีวิตการแสดงอย่าง ละคร “บ่วงใบบุญ” ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ในบท “ใบศรี” สาวใบ้ ชีวิตสุดรันทด จนเจ้าตัวขอยกเป็นบทเอกชั้นครู นี่แหละคือบทที่รอมานานในชีวิตของการเป็นนักแสดง ถึงแม้จะเคยผิดคิวฉากแสดงอารมณ์ดราม่าต่างๆจนกระดูกคอเคลื่อน ทำให้เป็นอุปสรรคในการแสดง แต่ก็ขอไม่หวั่น เดินหน้าลุยถ่ายทำต่อ วันนี้เรามีโอกาสเจอสาวจอย เลยไม่พลาดมาอัพเดทความคืบหน้าการถ่ายทำละคร และเรื่องราวของเธอมาฝากกัน
หลายคนสงสัยว่า ทำไมต้องเป็นเรื่องนี้ ทำให้หวนคืนวงการบันเทิง?
“จริงๆ ทางช่อง8 ติดต่อจอยมาแล้ว 2 ครั้ง ตอนแรกเราก็คิดว่าเราจะเล่นดีไหม แต่ยิ่งอ่านบท ยิ่งอ่านเนื้อเรื่อง ตัวละครที่เราจะเล่น ยิ่งรู้สึก “ใบศรี” คือเราเลย เราอยากเล่นเป็นเขา จิตวิญญาณอาชีพนักแสดงเรา มันเรียกร้องเลยว่าต้องเล่น และเป็นบทที่เรารอมานาน แต่ตอนแรกที่ไม่ได้ตัดสินใจรับ เพราะกลัวว่าเราจะทำออกมาได้ไม่ดีอย่างที่ทางช่องคาดหวัง เราหายไปนาน เราจะไหวไหม คิดแบบนี้ตลอด จนช่องบอกว่าให้เวลาเราตัดสินใจอีกรอบ ขอบคุณช่อง 8 มากๆที่รอเรา แต่อย่างที่บอก พอยิ่งอ่าน มันยิ่งอยากเล่น ยิ่งรักตัวละครตัวนี้ แถมยิ่งบทชั้นครูแบบนี้ เราไม่อยากพลาด มันเป็นบทที่เราคิดว่าเราต้องเล่นให้ได้ และยิ่งบทเป็นใบ้เราไม่เคยได้เล่นด้วย ตัวใบศรีมีอะไรที่จอยสนใจมากจริงๆ พอได้มาเล่น จอยกล้าพูดเลยว่า จอยรักตัวละครตัวนี้มากจริงๆ อยากให้แฟนๆได้ดูกัน”
ช่วงเวลาที่ผ่านมาก่อนจะกลับมาถ่ายทำละคร “บ่วงใบบุญ” อีกครั้ง เป็นอย่างไรบ้าง?
“ถือว่าได้หยุดพักผ่อน และกลับมาดูแลตัวเองในช่วงนั้น เพราะก่อนหน้าที่จะหยุดยาวไปจากสถานการณ์โควิด ช่วงนั้นถ่ายละครไม่พักเลย แถมบทหิน บทยาก ซีนดราม่าก็มีทุกวัน แถมเป็นช่วงที่จอยกระดูกคอเคลื่อนจากการเข้าฉากในละคร บ่วงใบบุญ เลยได้หยุดพักร่างกายและจอยก็มีทำธุรกิจ สกินแคร์ของตัวเองอยู่ พอช่วงหยุดพักก็หันมาวางแผนด้านธุรกิจ และสื่อออนไลน์ด้านการตลาดมากขึ้นด้วย”
ทำไมถึงกระดูกคอเคลื่อน?
“มันเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ต้องบอกก่อนว่าบท “ใบศรี” เขามีชีวิตที่ค่อนข้างลำบาก ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ยังถูกคนทำร้าย ไม่อยากสปอยเยอะต้องไปดู (หัวเราะ) นั้นแหละด้วยฉากถูกทำร้ายเหล่านี้ จริงๆทั้งนักแสดงผู้กำกับ ทีมงานมีการเซฟนักแสดงกันอย่างดีนะ แต่มันมีอยู่วันหนึ่ง เราที่โดนตบตีในฉากซึ่งวันนั้นมันเข้ากันหลายคน เป็นช่วงที่เราโดนคนทำร้าย จู่ๆเราก็ปวดตุบๆที่คอมาก เราก็ไปบอกพี่บุ๋ม ผู้กำกับว่า เราปวดคอมากนะ อาจจะต้องปรับท่าทางใหม่ เขาก็บอกมีอะไรต้องรีบบอกเลยนะ ห้ามไม่บอก เพราะปกติจอย ถ้ามันไม่สุดจริงๆจะไม่บอกเลย ฉากไหนสู้หมด ได้หมด พี่บุ๋มเขาก็เข้าใจ พอกลับมาบ้านอยู่ๆก็รู้สึกชาขาซีกซ้ายบ้าง เป็นๆ หายๆ ปวดคอหนักจนเรานอนไม่ได้เลย พอหยุดสงกรานต์ก็เลยไปตรวจ จนพบว่าเจอกระดูกคอเคลื่อน หมอนรองกระดูกช่วงหลังล่างก็ทรุด และเจอว่าโชคดีที่เส้นประสาทไม่ได้ถูกกดทับ แต่ที่เราชาซีกซ้ายมันเกิดจากถูกทับชั่วคราวจากการนั่งท่าต่างๆ หมอเลยบอกว่าต้องค่อยๆปรับพฤติกรรมและประคองไม่ให้มันแย่ไปกว่านี้ ก็เริ่มจากกายภาพบำบัด และให้เจ้าหน้าที่แนะนำท่าออกกำลังกายเบาๆ เหมาะกับเรามาปรับใช้ ก็เลยถือว่าช่วงที่พักถ่ายไป เป็นการฟื้นฟูร่างกายเรา ก่อนกลับมาลุยถ่ายอีกรอบ”
แต่ช่วงนั้นก็ออกมาช่วยเหลือคนที่ติดเชื้อโควิดเยอะมาก?
“ใช่ ใจตอนนั้นโฟกัสเรื่องโควิดมาก จอยจะมีกลุ่มสายบุญของเรา เขาจะขยับไปช่วยที่ไหนบ้าง เราก็จะดูว่าเราพอช่วยเหลืออะไรได้บ้าง แต่ไม่ได้ออกไปกับพวกเขา เพราะจอยเป็น 1 ในกลุ่มโรคเสี่ยงที่ต้องดูแลตัวเองให้ห่างจากโรคโควิดเป็นพิเศษ เกี่ยวกับระบบหายใจ ก็พยายามเซฟตัวเองอยู่กับที่ ไม่ออกจากบ้านเลย อะไรที่ส่งกำลังใจให้คนอื่น ช่วยซัพพอร์ตอะไรได้ เพื่อที่จะออกไปพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างพวกเจลแอลกอฮอล์ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่จอยทำอยู่แล้ว ก็จะส่งไปสมทบตามสถานที่ต่างๆ เช่น เชียงราย นนทบุรี วัด และโรงพยาบาลต่างๆ ร่วมกับเพื่อนๆสายบุญที่เคยบวชชีพราหมณ์ด้วยกัน และแฟนคลับเราก็มาร่วมช่วยกันด้วย ทำมากทำน้อยก็ถือได้ช่วยกัน ตอนนั้นพวกเราก็รวมเงินกันแล้ว ได้ไปบริจาคเครื่องผลิตออกซิเจนให้กับโรงพยาบาลรามาธิบดี เราก็ทำกันเต็มที่ เท่าที่จะทำกันได้ เพราะช่วงนี้ทุกๆคนก็ต้องรัดเข็มขัดกัน ขอแค่ได้ช่วยก็สุขใจแล้ว”
ถึงแม้ถ่ายละครช่วงนี้ ก็ไม่พ้นที่จะช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วม?
“ตอนนั้นเป็นช่วงของจังหวัดชัยภูมิ โดนผลกระทบหนักกันสุดๆ พวกพี่ๆสายบุญตั้งกลุ่มกันขึ้นมาว่า กลุ่ม “แรงน้ำใจ” จัดเป็นสตรีมมิ่งนำศิลปินมาร้องเพลงกันหารายได้ เข้าที่โรงพยาบาลบําเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เรามองกันว่าเขาได้รับความเสียหาย พวกข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์พยุงชีวิตต่างๆ รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ทั้งหลายมันพัง เลยมีหัวบุญพี่ๆที่รู้จักผุดไอเดียนี้ขึ้นมา กระจายข่าวสารต่างๆในกลุ่มต่างๆ จนส่งต่อกันมาถึงจอย เราก็ขอแจมด้วย แต่ด้วยตัวจอยที่เคยบอกว่า จอยต้องระวังการติดโควิดค่อนข้างสูง เราก็เลยแค่วิดีโอคอลเข้าไปเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือมาร่วมกันบริจาค ล่าสุดก็มาเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อย่างวันนี้ เพื่อนๆจอยก็ไปกัน แต่เราก็ไปไม่ได้ติดถ่ายละคร เราก็จะทำตามกำลังทรัพย์ แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไรใหญ่โต แต่ด้วยความที่คนในกลุ่มค่อนข้างเยอะ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ มันก็สำเร็จได้ขึ้นมา
ฝากผลงานหน่อย?
“จอยอยากให้ทุกๆคนได้ติดตามละคร “บ่วงใบบุญ” มากๆ เพราะจอยตั้งใจกับบท “ใบศรี” เต็มที่เลย และไม่ใช่แค่ตัวจอย กับนักแสดงคนอื่นเหมือนกัน ทุกคนตั้งใจเหน็ดเหนื่อย และเต็มที่กับละครเรื่องนี้กันทุกคน แถมบทละครเรื่องนี้เข้มข้นมากๆเลย ไม่อยากสปอย แต่ในใจจอยอยากสปอยมากๆนะ(หัวเราะ) เพราะมันสุดยอดมากจริงๆกับบทนี้ และเนื้อหาของละครเรื่องนี้ ฝากติดตามผลงานของการกลับมาของจอยในบท “ใบศรี” กันด้วยนะคะ ได้ชมกันปีหน้าแน่นอน”
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ