ไท เชอริแดน ถือเป็นนักแสดงวัยรุ่นเจนใหม่ที่เป็นที่จับตามองจากการฝากผลงานในภาพยนตร์บล็อกบัสเตอร์ที่สร้างชื่อจากการจากการรับบทนำใน Ready Player One ซึ่งเป็นผลงานโดยสตีเว่น สปีลเบิร์ก รวมถึงหนังเฟรนไชร์อย่าง X-Men: Dark Phoenix และ X-Men: Apocalypse มาในครั้งนี้เขาได้รับบทสุดท้าทายอีกครั้งในภาพยนตร์แอ็กชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ Voyagers คนอนาคตโลก ในบทบาทของ คริสโตเฟอร์ ตัวแทนวัยรุ่นที่เป็นความหวังของมนุษยชาติในการหาโลกใบใหม่ เขาเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ว่าการเดินทางในปฏิบัติการณ์ท่องอวกาศร่วมกับกลุ่มวัยรุ่นในครั้งนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล ที่ทำให้เขาต้องฝ่าอันตรายจากอวกาศที่เคว้งคว้างและภายในยานที่คุ้มคลั่งนี้ไปให้ได้
Voyagers คนอนาคตโลก ผลงานใหม่ของ นีล เบอร์เกอร์ เจ้าของผลงาน The Upside และผู้เปิดตำนาน Divergent และ Limitless สู่เรื่องราวที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เมื่อถึงคราวที่มนุษยชาติใกล้ดับสูญ เหล่าชายหญิงวัยรุ่นที่ถูกเลี้ยงมาในโปรแกรมพิเศษเพื่อเป็นอนาคตของมนุษยชาติต้องปฏิบัติภารกิจท่องจักรวาลเพื่อหาดาวดวงใหม่ให้มนุษย์ตั้งถิ่นฐาน แต่เมื่อความอ้างว้างของอวกาศและความลับของภารกิจได้ถูกเปิดเผย บรรดาวัยรุ่นที่ถูกเลี้ยงให้เชื่องมาตลอดชีวิตเริ่มฝืนคำสั่ง เลือกทำตามหัวใจตัวเอง ค่อยๆ เผยสันดานดิบที่ฝังรากลึกอยู่ในดีเอ็นเอของมนุษย์ เมื่อเหล่าพวกเขสถูกครอบงำด้วยแรงปราถนา, อำนาจ, และความกลัว ความหวังของมนุษยชาติกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย นำแสดงโดย ไท เชอริแดน (The X–Men), ลิลี โรส เดปป์ (The King), เฟียนน์ ไวท์เฮด (Dunkirk) รวมถึงนักแสดงคุณภาพอย่าง โคลิน ฟาร์เรลล์ (The Gentlemen)
ทำไมคุณถึงตัดสินใจเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ Voyagers ?
เพราะหนังเรื่องนี้ถามคำถามที่เราทุกคนใช้เวลาหาคำตอบตลอดชีวิต ผมคิดว่ามันมีประเด็นที่ลึกซึ้ง ซึ่งบอกเล่าออกมาได้ชัดเจน มีการตั้งคำถามวัดศีลธรรมซ่อนไว้ในความเป็นหนังไฮคอนเซ็ปต์ ผมว่ามันเป็นอะไรที่ไม่ซ้ำใคร เป็นสิ่งที่ให้ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้
คุณชอบอะไรในตัวคริสโตเฟอร์? ตัวละครของคุณ?
คงเป็นตรงที่เขาปรับตัวเก่ง วิเคราะห์สถานการณ์เสมอ คริสโตเฟอร์ไม่เคยปิดบังว่าเขาต้องการค้นหาความจริงที่อยู่เบื้องหลังภารกิจ หาคำตอบว่าตัวเขาเองมีบทบาทอย่างไร เขาเหมือนเป็นตัวสะท้อนแก่นหลักของเรื่องที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์มีทั้งด้านดีและชั่ว และจะดีไปเพื่ออะไรในเมื่อท้ายที่สุดลูกเรือก็ตายก่อนเป้าหมายจะสำเร็จอยู่ดี
การทำงานกับนักแสดงอย่างโคลิน ฟาร์เรลล์เป็นอย่างไรบ้าง?
เขาคือนักแสดงในอุดมคติ เขาเป็นตัวอย่างที่ดีทั้งในกองและนอกกอง นีลดึงศักยกภาพที่ดีที่สุดในตัวทุกคนออกมา ผมตื่้นเต้นเสมอที่จะได้ร่วมงานกับนักแสดงประสบการณ์สูงอย่างเขา ซึ่งทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ เยอะเลย
แล้วการกำกับของ นีล เบอร์เกอร์ เป็นอย่างไร?
จุดที่ผมประทับใจในตัวนีลที่สุดคือความเยือกเย็นและสมาธิของเขา ผมว่าตารางการถ่ายทำของหนังเรื่องนี้มันโหดมากเลยนะ ระหว่างการถ่ายทำก็มีอะไรเกิดขึ้นพร้อมกันเยอะแยะไปหมด มันไม่ใช่หนังที่ทำง่ายนเลย นีลต้องรับมือกับความท้าทายครั้งใหญ่ แต่ผมไม่เคยสงสัยในตัวเขา ผมเชื่อเสมอว่าเขาจะนำเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง ผมชอบวิธีการกำกับของเขา เขามักยกตัวอย่างอะไรที่จับต้องได้ เป็นรูปธรรม เขาช่วยให้นักแสดงทุกคนทำงานง่าย ใบริบทของความเป็นหนังผจญภัยอวกาศ หัวใจหลักมันว่ามันธรรมชาติของมนุษย์ นีลได้สร้างผลงานที่ตระการตาในขณะเดียวกับให้เราได้วิเคราะห์จิตใจของตัวละคร
ลูกเรือทุกคนต้องดื่มสิ่งที่เรียกว่า เดอะ บลู มันคืออะไร?
ทุกคนถูกทำให้เชื่อว่ามันคือวิตามินประจำวัน ที่ลูกเรือต้องดื่มทุกวัน แต่ที่จริงแล้วมันมีไว้เพื่อกดอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ, ความกลัว, ตัณหา ทุกสิ่งที่ให้มนุษย์เป็นมนุษย์ ลูกเรือไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกหลอกอยู่ จนกระทั่งคริสโตเฟอร์ค้นพบความจริง พวกเขาเริ่มขัดขืนไม่ยอมดื่มมัน และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความพิบัติที่จะตามมา เมื่อสันดานดิบของมนุษย์กลับมาอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ