“นกน้อย อุไรพร” เปลือยใจมรสุมชีวิต สามีป่วยหนัก ประกาศยุบวงเสียงอิสาน ตัดใจขายบ้านตอง 5 เล่าปาฏิหาริย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้านช่วยชีวิต บอกรักหวาน “พ่อหลอด” จน “ธัญญ่า” ซึ้งน้ำตาไหล

แม่นกน้อย : ภาคบันเทิงก็รวมเราด้วย แต่กระทบมาก ได้รับแรงกระทบมากมาย ระลอกแรกหนัก ระลอกสองหนักแรง ระลอกสาม หนักมากๆ (หัวเราะ)

แม่นกน้อย : ทุกวัน การแสดงเริ่มจากสองทุ่มถึงสว่าง ถึงหกโมงเช้าค่ะ เพราะจะมีคอนเสิร์ตแล้วเล่นหมอลำต่อ คิวของคุณแม่เสียงอิสาน จะจองข้าม 3-5 ปี ไม่ใช่เดือนต่อเดือน

แม่นกน้อย : ในส่วนของเราจะอยู่ในออนไลน์ ช่องทางยูทูป เพจเสียงอิสานค่ะ จะมีการขายบัตรออนไลน์ ไลฟ์สดเป็นกลุ่มปิด เพื่อเป็นทางเลือกและทางรอด กระแสดีมากค่ะ แต่ก็น่าจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับเอฟซีหมอลำ แต่แฟนคลับของเราน่ารักมาก ก่อนหน้านี้เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องมีแสดง ไลฟ์สด ขายบัตรผ่านในกลุ่มปิดออนไลน์ แต่แฟนเพลงเอฟซีบอกว่าคุณแม่ควรทำ คิดถึงมาก ด้วยทางแฟนเพลงชี้แนะ ชี้นำ ก็นำมาปฏิบัติค่ะ

แม่นกน้อย : ไม่ได้ปรับตัวยาก เป็นเรื่องดีมากค่ะ

แม่นกน้อย : เราแสดงสด แฟนเพลงจะดูหน้าเวที มีอารมณ์ร่วมได้มองตา ใครคิดยังไง ความรู้สึกได้สื่อถึงเราด้วย แฟนเพลงได้จับมือ แต่ถ้าเราอยู่ในกลุ่มปิด มันก็แตกต่าง ไม่ได้มองหน้ากันแบบนี้ แต่แฟนเพลงบอกว่ารอหน้าจอแล้วนะ

แม่นกน้อย : ในส่วนการลงทุน วงของเราที่เกิดวิกฤตปัญหา แล้วมีคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาดูแล ซัปพอร์ต ตอนแม่เผชิญปัญหา ข่าวจะดังและดราม่ามาก ก็เป็นเอฟซีแฟนคลับที่รักวัฒนธรรมอีสาน ที่แม่และพ่อตัดสินใจจะไม่ยุบวง แต่ถ้าตอนนั้นสถานการณ์กดดัน บีบคั้น ตัดสินใจยุบวงด้วย เพราะคิดไม่ออกว่าจะมีทางไปยังไง คิดไม่ออก คนรุ่นใหม่บอกว่าเสียงอิสาน มีอะไรทำได้อีกมากมาย ไม่ต้องล้อหมุนไปข้างนอก ณ ช่วงโควิด เราน่าจะทำออนไลน์นะคุณแม่ พอได้ยินก็ชื่นใจ ลูกบอกว่ามีเงินเก็บส่วนนึง เก็บมาทั้งชีวิต อยากต่อเสียงอิสานให้คุณแม่และน้องๆ ได้อยู่รอด เป็นลูกๆ ในวง และเฮียน้อย ซึ่งเป็นแฟนคลับ เขาไม่ใช่ลูกหลานแม่ เป็นเอฟซีและรักในวัฒนธรรมอีสาน ชื่นชมศรัทธาแม่

แม่นกน้อย : สมัยก่อนมี 500 ชีวิต พอเปลี่ยนเป็นออนไลน์ ประมาณ 200 ส่วนนึงที่ยังรอแม่ส่งสัญญาณว่าจะล้อหมุนได้มั้ย บอกหนูมาก็พร้อมไปทันที

แม่นกน้อย : ถูกต้องค่ะ คิวไปแสดงสดค่ะ ดีใจมากค่ะ แต่ก็ยังขยับไม่ได้ ต้องรอสถานการณ์ แต่เราก็มีความหวังว่าฟ้าหลังฝนคนบันเทิง ต้องมีแสงสว่าง

แม่นกน้อย : ช่วงนึงเป็นช่วงที่คุณพ่อไม่สบาย คุณพ่อป่วย และมีโควิดรอบที่สองเข้ามาพอดี

แม่นกน้อย : ใจหายมาก ตอนนั้นลูกวงทุกคนไม่รู้ ยังอยู่ในบ้านตอง 5 อยู่ แต่แม่กับคุณพ่อคุยกันแล้ว ว่าเราไม่ไหว แต่เราจะบอกลูกว่าอย่างไร แม่ก็บอกคุณพ่อว่าจะไลฟ์สด เพราะคิดว่าลูกๆ คนช็อก ถ้าประชุมและให้ออกความคิดเห็น ลูกคงไม่ยอม การไลฟ์สดก็ประกาศให้แฟนเพลงได้รู้พร้อมกัน ไม่ได้นัดหมายอะไรทั้งสิ้น มีแค่พ่อกับแม่คุยกัน แต่คิดไว้แล้วว่าถ้าไลฟ์สดอะไรจะเกิดขึ้น คำว่าเสียงอิสาน คือตัวแทนคนอีสาน หนึ่งแฟนเพลงไม่ยอม ส่วนมากติดตามเรามา โตคาวงก็มา ตายคาวงก็เยอะ เป็นความผูกพัน ยิ่งลูกๆ ในครอบครัวเรา ไปไม่เป็นแน่นอน ก็บอกลูกพร้อมกันไม่ได้ ก็บอกผ่านไลฟ์สด

แม่นกน้อย : หลายค่ะ คำว่าบ้านตอง 5 เป็นหยาดเหงื่อของเรากับลูกที่สร้างมา ประกาศขาย 70 ล้าน น่าจะพอดีกับหนี้สิน

แม่นกน้อย : ค่ะ คุณพ่ออยู่รพ. แม่ไม่สามารถพูดกับลูกๆ ได้ ไม่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกกับลูกๆ ได้ว่าเป็นแบบไหน ไปไม่เป็น เพราะลูกก็รู้บางๆ ว่าเรามีหนี้สิน เราไปไม่ได้ ส่วนมากลูกคิดว่าแม่นกน้อย เป็นคนเก่ง แม่ต้องพาลูกไปตลอดรอดฝั่ง รอปาฏิหาริย์ แม่ต้องสวดมนต์ อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องพาลูกไปให้ได้ ด้วยความเป็นแม่จึงไม่สามารถเล่าให้ลูกฟังได้ว่าสิ่งที่เป็น มันมากกว่านั้น เราอยู่กับความเป็นจริง หากไม่มีโควิดเราไม่มายด์หนี้ 100 ล้าน แต่นี่คือเราทำมาหากินไม่ได้

แม่นกน้อย : ยังไม่ได้ขาย แต่ประกาศขาย

แม่นกน้อย : เหลือเกือบเท่าเดิม (หัวเราะ) วันนี้ยังประกาศขายค่ะ มีคนติดต่อมา แต่ก็ยังคุยกันไม่ลงตัว ถามว่าทำไมแม่ประกาศขายบ้านตอง 5 ตอนที่วงเสียงอิสานขาขึ้น งานจองข้ามปี 3-5 ปีไม่ว่าง ตอนนั้นคุณย่า แม่ของแม่นกน้อย ท่านยังมีชีวิตอยู่ ขอร้องแม่ว่าตอนนี้เรามีทุกอย่างแล้ว จากที่มามือเปล่าต่อสู้ชีวิต ตอนนี้เรามีบ้านอยู่ มีที่ดิน แม่เห็นหนูไปลำบาก แต่เราก็มีความสุขกับสิ่งที่เราได้ทำ นั่นคือจิตวิญญาณของแม่ ท่านขอร้องว่าให้ยุบวง แต่แม่ตอบคุณแม่ว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะยุบวง งานก็เยอะ ปั้นดินให้เป็นดาว เป็นงานท้าทายที่เราส่งเธอให้โด่งดัง พอมาถึงเวลานี้ที่จะต้องประกาศขายบ้าน พ่อหลอดบอกว่าพ่อเข้าใจว่าจิตวิญญาณของแม่ งั้นให้เลือก จะประกาศยุบวงหรือขายบ้านเพื่อใช้หนี้ หากมีเงินส่วนที่เหลือจะได้มาทำวงเสียงอิสานต่อ แม่เลือกประกาศขายบ้านตอง 5 เลือกให้เสียงอิสานอยู่

แม่นกน้อย : ถ้าขายบ้านเราจะสร้างอาณาจักรใหม่ ถ้าทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิม ลูกๆ ไม่ทิ้งเรา ทุกคนอยู่ข้างแม่

แม่นกน้อย : ส่วนที่ตัดใจ ความรู้สึกสะทกสะท้อนมั้ย แต่ระหว่างคุณพ่ออยู่รพ. กับการประกาศขายบ้าน เงินส่วนนี้จะต้องได้มารักษาคุณพ่อ

แม่นกน้อย :  บ้านหลังนี้ที่ได้มา เมื่อก่อนที่ตรงนี้เป็นป่าช้า วัดเก่า วัดร้าง เราได้มาอยู่เพราะได้ฝันว่าที่ตรงนี้เป็นที่ของเรา ปู่จะให้ เป็นที่ของหนูนะ ตอนนั้นก็เก็บเงินและไปซื้อ เจ้าของที่ถามแม่ว่าจะอยู่ได้เหรอ เราเห็นตรงนั้นรกร้าง เป็นวัดร้าง ก็ขอตรงนั้นแหละ ตอนนั้นแม่ไม่กลัวเลย และไม่เคยเจอสิ่งที่น่ากลัวเลยค่ะ

แม่นกน้อย : ตอนนี้ที่เสียงอิสานมาปรับเปลี่ยนพัฒนา สำหรับเจนใหม่ที่มาต่อยอดมากมายเหลือเกิน ดีเอ็นเอเสียงอิสาน รักหมอลำ มาสมัครเยอะมาก ตอนนี้กำลังคัดเลือก ซ้อมรำ ซ้อมร้องเพลง ออกซิงเกิ้ล จนแม่บอกว่าตอนนี้เรามีความสุขมากแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่คือปั้นดินให้เป็นดาว และให้ยิ้มตอนนี้

แม่นกน้อย : เป็นเจ้าที่ค่ะ เหมือนพระธุดงค์ท่านผ่านมา บอกว่าที่ตรงนี้เป็นที่ของปู่ขุนเดช แม่ก็นับถือ ศรัทธา อธิษฐานถึงปู่ขุนเดชตลอด ลูกหลานมาเยี่ยมก็ให้ไปไหว้ปู่ขุนเดชก่อน ลูกๆ ก็ถามว่าปู่ขุนเดชคือใคร แม่ก็คิดว่าปู่ขุนเดชคือใคร แต่ท่านเป็นปู่เจ้าที่ แม่ไปดูในละครเรื่องขุนเดช อ้าวเหรอ มีขุนเดชจริงๆ ซึ่งท่านบอกว่าเป็นบรรพบุรุษของเรา ที่นี้เป็นที่ท่าน แต่ให้แม่นกน้อยได้ไปอาศัย คุณพ่อเป็นคนฝัน

แม่นกน้อย : อันนี้ก็ฝันเหมือนกัน ตอนแม่ล้มนี่แหละ ฝันว่ามีผู้ชายร่างใหญ่เป็นนักรบมาบอกว่าที่ช่วยและให้ ตอนนี้จะเอาคืนแล้วนะ เพราะเมียไม่ให้แล้ว แม่ก็มาคิดว่าเหรอ ท่านมีย่าด้วยเหรอ ก็คิดชีวิตจริงมนุษย์ ถ้าแม่นกน้อยมีพ่อใหญ่หลอด คนเข้ามาขอพร มาเยี่ยม แล้วทำไมไม่เอ่ยถึงยายนกน้อย จึงกำลังสร้างองค์ย่า อธิษฐานว่าถ้าย่ามีจริง แม่นกน้อยกับพ่อใหญ่หลอด จะสร้างบ้านตอง 5 ให้ลูกหลานได้สักการะ กราบไหว้ ขอปาฏิหาริย์ ก็มีคนรุนใหม่ เฮียน้อย พลังเอฟซีเข้ามาหลังอธิษฐาน ว่าไม่ให้ยุบวงนะ มีเจ้าภาพมาเซ็นสัญญา 50 คิวทองก่อน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ

แม่นกน้อย : ตอนนี้ท่านก็ทรงตัว เป็นหลายอย่างมาก ถามพ่อหลอดดีมั้ย พ่อหลอดอยู่ในสาย

พ่อหลอด : ทรงๆ ทรุดๆ ครับต้องไปจ่ายเงินเดือนหมอพยาบาลทุกเดือน

พ่อหลอด : มะเร็งทุกอย่างไม่มีแล้ว แต่ตอนนี้พ่อเข่าเสื่อม เบาหวาน ความดัน ข้อเข่าเสื่อมคุณหมอก็ฉีดสเต็มเซลล์ให้แล้ว  แต่อยู่ได้ประมาณ 10 วัน หลังจากนั้นก็ปวดเหมือนเดิม

พ่อหลอด : ปกติ ไม่ตกใจ เพราะเกิดจากการกระทำของตัวเอง ช่วงที่เป็นมะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งม้าม มะเร็งไทรอยด์ เส้นโลหิตเลี้ยงหัวใจฝอยตีบตีน ช่วงนั้นผมดื่ม ดื่มมากด้วย จึงไม่ตกใจ เพราะคิดว่าถึงเวลาเขามาทวงคืนแล้ว

แม่นกน้อย : ตกใจมาก ที่น่าตกใจมากคือคุณพ่อจะดื้อ ถ้าไม่ถึงล้มหมอนนอนเสื่อจะไม่ยอมไปหาหมอ

พ่อหลอด : เราเป็นอะไรเรารู้ตัวเอง สุดท้ายหลายคนถามว่าผมเก่งกว่าหมอเหรอ ก็ผมเป็นเจ้าของไข้ ผมต้องเก่ง ไม่ต้องอธิบายครับ

พ่อหลอด : แม้ทุกวันนี้ก็ยังพูด พรุ่งนี้บ่ายสองจะตายนะ ใครรักใคร เคารพนับถือซึ่งกันและกัน เงินบริจาคมา เราจะได้กินร่วมกัน ในขณะที่เรามีชีวิตอยู่ ไม่งั้นพรุ่งนี้บ่ายสองผมจะตายแล้ว

แม่นกน้อย : ท่านมุกเยอะ ด้วยความอยู่กับนักแสดง แต่ท่านเรียกแม่ไปคุยสองต่อสอง ว่าตอนนี้พ่อรู้ตัวดี ว่าสุขภาพพ่อไม่ไหว พ่อล้ม แม่รู้สึก แต่ก็เตรียมตัวเหมือนกัน คนเราเกิดมาทุกคนก็ต้องตาย แต่ใจหายมาก เพราะสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ ประกาศขายบ้านตอง 5 ถอดหัวโขนให้สังคมได้รู้ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวเรา ที่เราทำเพราะรักท่านมาก เรายอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ประมุขบ้านตอง 5 มีชีวิตอยู่แข็งแรง จะเสียอะไรไปเราไม่ห่วง เราไม่ยึดติดทั้งสิ้น ขอให้มีเงินรักษาคุณพ่อ

แม่นกน้อย : ใช่ค่ะ ตอนพ่ออยู่ห้องไอซียู ป่วยหนัก ผ่าตัดม้าม ตัดอะไร ท่านเซ็นผ่าของท่านเอง แม่ไปรำ แม่ก็ฝันว่ามีผู้ชายมารับท่าน รับแม่ด้วย ไปด้วยกัน คุณพ่อไปก่อน ทางคนมารับแม่ แม่ชีแต่งชุดขาว บอกว่าแม่นก พ่อหลอดไปก่อน ในฝันแม่บอกว่าอย่าเอาพ่อกับแม่ไปเลย เพราะภาระดูแลลูกๆ มากมายเหลือเกิน ให้อยู่ต่อได้มั้ย คนที่มารับบอกว่าแม่ก็ร้องเพลงนกจ๋าให้ฟัง แม่ก็ร้องให้ฟัง คนที่มารับบอกว่าเขาจำได้แล้ว นี่แม่นกน้อย อุไรพร อย่าเอาไปเลย ปล่อยแม่กับพ่อกลับซะ แม่จึงเชื่อปาฏิหาริย์มาก คุณพ่อสามรอบนี้ปาฏิหาริย์ของท่าน

พ่อหลอด : ด้วยความรัก ผมเข้าใจแม่นก แต่บางครั้งเราอาจฝืนโรคภัยไข้เจ็บก็ไม่อยากฝืน บางครั้งไม่มีลูกอยู่ก็เรียกแม่มาหาและพูดกัน จะบอกว่าบางคืนพ่อปวดมาก เจ็บมาก แต่ถ้าพ่อเป็นอะไรขึ้นมาให้เราเข้าใจกันว่าพ่อไปแล้ว บางครั้งพ่ออาจไม่ได้สั่งลา ขอบอกตรงนี้ไว้เลย ไม่น่าจะนาน ก็คุยกันตลอด

พ่อหลอด : ไม่รู้จะยังไง เป็นพฤติกรรมส่วนตัวตั้งแต่เด็ก เสียงดังมุทะลุ เป็นแบบนี้ตลอด จะไม่เชื่อใครมากกว่าตัวเองด้วยซ้ำ ตอนนี้เดิน 10-20 ก้าวต้องหยุด เพราะเดินไม่ไหว

พ่อหลอด : ตั้งแต่ 2518 ไปรับเขามาจากบ้านศรีสะเกษ ตอนนั้นไม่รู้จักด้วยซ้ำ ได้แค่กระแสว่าแม่นกน้อยออกจากวงการแล้วไปทำนา ความคิดผม ตอนนั้นทำงานให้บริษัทโอสถสภา อยู่อุดรฯ ก็อยากทำวงรวบรวมหาคนรู้จักได้ 10-20 คน จะเป็นไปได้มั้ย แล้วในจำนวนนั้นก็มีแม่นกน้อย

แม่นกน้อย : น่าจะเชื่อเรื่องพรหมลิขิต ตอนนั้นแม่ออกจากวงดนตรี เพราะคุณทวดอยากให้ไปบ้าน ไปทำนา ไปแต่งงาน พอแม่กลับไปบ้าน บ้านใกล้เรือนเคียงก็พูดว่ากูว่าแล้ว มันไปไม่รอด มันซมซานกลับมาบ้าน แม่