เปิดใจที่แรก ศร สินชัย ยอมรับมีลูกแล้ว ยันไม่ได้ปกปิดตั้งแต่ต้น

ศร : ครับ ผมมีอัลบั้มประมาณ 6 ชุดเนี่ยไม่เคยได้เข้าผับ พอเพลงนี้ก็ได้เข้าผับรับงานผับได้ ดังจนถึงได้ไปเมืองนอก กันเองมาก ให้การตอบรับเป็นอย่างดี

ศร : เยอะอยู่ครับ เงินมันจะอยู่ตามช่วงกระแสของเพลง ตอนเศรษฐกิจดีไม่ต่ำกว่า 15-20 งานต่อเดือน งานละ 80,000-180,000

ศร : มันก็มีครับ แต่ไม่ใช่เป็นแต่เรา เราเลยรู้สึกว่าเราต้องอยู่ได้กับมัน อย่างน้อยยังมีข้าวกินอยู่

ศร : เสียชีวิตวันที่ 28 ที่ผ่านมา เริ่มต้นคือแกติดเชื้อโควิด มารักษาตัวประมาณเดือนก็หายแต่มีโรคแทรกซ้อนก็ติดเชื้อในกระแสเลือด ติดเชื้อในปอด ท่านก็เลยเสีย ผมก็โทรหาแกบอกติดโควิดบอกให้ฉีดวัคซีนกันด้วยนะ เค้ายังแข็งแรงอยู่เลย ศิลปินก็ไปกันเยอะ เมื่อก่อนอยู่ด้วยกันดูแลเหมือนครอบครัวเมื่อพ่อลูกเลย

ศร : ผมเป็นคนไม่ชอบเรียนหนังสือ พ่อแม่เป็นชาวไรชาวนาก็พออยู่พอกิน ผมขี้เกียจเรียนที่สำคัญคืออยากเข้ากรุงเทพอยากมาหาเงิน อายุประมาณ 10 กว่าปีก็เข้ากรุงเทพ มาสมัครงานเชื่อมเหล็ก เป็นช่างเก้าอี้หวายประมาณ 3-4 ปี ก็พอส่งให้แม่เพราะเราอยู่กินกับเถ้าแก่

ศร : ผมเป็นคนที่ชอบร้องเพลง แต่ขี้อาย ไม่กล้าประกวด เวบาผมทำงานเชื่อมขึ้นกระเช้าสูงๆจะร้องเพลง เพื่อนบอกให้ไปลองสมัครงานร้องเพลง แม้แต่เถ้าแก่ที่แอบฟังเค้าก็บอกเสียงดี รับเงินเดือนฉลองกับเพื่อนก็ร้องให้เพื่อนฟัง เค้าก็บอกให้ลองสมัครที่ร้านอาหารดู ก็ไปสมัครร้านหมอลำ มีร้านจะเปิดใหม่เลยลองไปสมัครเค้าก็รับ แรกๆไม่มีเงินใส่เสื้อผ้าเก่าๆ ประมาณ 1-2 เดือนก็มีแขกให้ตังก็ไปตัดร้องเท้าเสื้อผ้าใหม่ ก็เริ่มขยับ อยู่ได้ประมาณ 2 ปีก็เปลี่ยนร้าน คนชวนเยอะ เพราะตรงนั้นจะเป็นชมรมนักจัดรายการมาบริหาร คนอื่นช่วนว่าจะไปทำเทปให้ไปมั้ย ผมไม่เคยตัดสินใจที่จะไป พอผู้จัดการคนเก่ามาชวนผมก็เลยไป

ศร : ไม่รู้ดเวยคสามภูมิฐานของท่านหรือปล่าว ผมเลยเชื่อใจ เมื่อก่อนกลัวโดนหลอก ทีนี้ก็ไปยังไม่ได้ออกเพลงให้อยู่ประมาณ 3-4 ปี แกก็พาจัดรายการวิทยุ แกด็อัดอัลบั้มชุดแรกให้ ตอนนั้นก็เป็นน้องต่าย อรทัย ยังไม่มีเพลงเหมือนกัน เริ่มต้นมาด้วยกัน ครูสลามาเจอ เลยนำอัลบั้มผมและน้องต่ายเข้าแกรมมี่

ศร : มีแล้วครับ มีช่วงร้องเพลงคาเฟ่ อายุเข้า 20-21 แฟนเป็นแดนเซอร์ ตอนนี้น้อง 23 ปีแล้ว

ศร : ผมไม่ได้ปิดนะ พี่น้องเพื่อนฝูงรู้จักหมด แต่ผมไม่ได้ไปประกาศว่ามีเมียมีลูก ถ้าถามผมก็ตอบแต่นี่เป็นรายการที่ผมบอก กับภรรยาเลิกกันตั้งแต่น้อง 2-3 ขวบ ลูกส่วนมากอยู่กับย่า

ศร : เรื่องเวลา น้องเค้ายังทำงานที่กรุงเทพ ผมออกต่างจังหวัดบ่อยเป็นอาทิตย์ ไม่มีเวลาไม่เข้าใจกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง สุดท้ายก็แยกกัน ผมอยากเป็นนักร้องมากๆ อะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้ผมเป็นนักร้องได้ผมสู้

ศร : ตอนนั้นน้องยังเด็กตอนที่แยกทาง พอเค้าโตขึ้นก็ไม่เห็นพูดอะไร เค้าไม่เคยถามมีแต่ผมถามว่าได้โทรหาแม่บ้างมั้ย ผมไม่ได้อยากแยกแต่มันไปด้วยกันไม่ได้ ผมก็ไม่ได้กีดกันเรื่องลูก เค้าก็มีครอบครัวใหม่

ศร : ไม่ครับ ส่วนมากเค้าจะคุยกับลูกเค้า ลูกชายบอกเค้ามีแฟนใหม่ได้น้อง 2-3 คนละ

ศร : ก็มีบ้างบางที ยอมรับช่วงที่มีท้องผมให้ภรรยาไปอยู่กับย่าที่มหาสารคาม บางทีน้องๆแดนเซอร์พนักงารเสิร์ฟมาหยอกมาล้อความผูกพันธ์อะครับ คบเป็นรายบุคคล

ศร : ไม่รู้ครับ ทุกวันนี้ยังไม่รู้เลยครับ มีเพื่อนด้วยกันนักร้องผู่หญิงขู่ว่าจะบอกเมีย แต่คิดว่าเค้าคงไม่ได้บอก

ศร : ส่วนมากเค้าก็ให้เป็นพวงมาลัย คืนละ 4-5000 ก็มี ช่วงนั้นมันปิดสว่างมีเวลาคุยกับแขก เที่ยวได้ทั้งคืนก็มีแขกสลับสับเปลี่ยน แขกคล้องมาลัยเราก็ขอบคุณ แต่ถ้ามาลัยมีเงินก็ขอบคุณนั่งคุย เยอะสุดพวงละเป็นหมื่นก็มี วันเกิด 2-30,000 ได้เงินมาช่วงนั้นก็เข้าบ่อนเล่นไพ่ก็ค่อนข้างหมด

ศร : เยอะอยู่นะครับ เพราะร้องเพลงคาเฟ่ 2-3 ปี คิดว่าเยอะเหมือนกัน ผมเล่นหวยบางทีเป็น100,000-200,000 ก็มี

ศร : เสียดายมากครับ ถ้าเราร้องเพลงเก็บเงิน ทำวงก็หมดเงินไปเยอะ แต่ได้เงินอยู่เรื่อยๆใครจะไปรู้ว่าโควิดจะมา ทุกวันนี้คิดได้ก็ไม่ได้อะไรมากมายกับการพนัน สงสารลูกด้วย

ศร : มันสู้ไม่ได้เราไปแล้วเราเสีย สุดท้ายคิดได้เอง การพนันไม่ได้อยู่ดีเราจะเล่นไปทำไม ร้านอาหารที่ได้เยอะๆก็ไม่เหลือ อีกอย่างลูกด้วยสงสารลูก มันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเค้า

ศร : ไม่ครับ ร้องเพลงก็ไม่เป็น ผมชวนมารายการก็ไม่มา เค้าเป็นคนขี้อาย

ศร : ตอนนี้น้องเรียนวิศวะคอม ผมไม่ได้บังคับน้องให้เดินตามรอยเรา แล้วแต่งานที่น้องชอบ ถ้าชอบคงทำงานตรงนั้นดีที่สุดแล้วเหมือนที่ผมร้องเพลง

ศร : ผมเป็นทุกอย่างกับลูก เป็นเพื่อน เป็นพ่อ เป็นพี่ เป็นแม่ทุกอย่าง น้องเค้าจะไม่ค่อยมีปัญหาเป็นคนง่ายๆ

ศร : มีคุยๆเล่นๆอยู่ครับ ยังไม่คิดว่าจะเอามาเป็นแม่ของลูก ให้ลูกโตก่อนมีครอบครัวก่อน

ศร : ไปต่างประเทศครับยุโรป ร้องเพลงอยู่ร้านอาหารมันใกล้ชิดกันมาก เวทีเตี้ยๆ คนดื่มหรือเปล่าเค้าอาจจะหมั่นเขี้ยว โดนเต็มๆครับ เป็นผู้หญิงสวยอายุมาก ตอนนั้นเราก็ตกใจหลบ ก็โดน 2-3 รอบ เค้าคงอยากหยอกอยากเล่น ตกใจอยู่เมืองไทยไม่ค่อยมี เต็มที่จับมือดึง กอดคอหอมแก้ม

ศร : ไม่ครับไม่โกรธ เค้าคงรักเราแหละถึงอยากจะอยู่ใกล้

ศร : ใช่ครับออกจากค่ายมาประมาณ 3 ปีแล้ว จบกันด้วยดีผู้ใหญ่น่ารักมาก นิสัยดี

ศร : ในมุมมองของผมชอบด้านร้องเพลงอยู่แล้ว แต่ผมอายุมากแล้ว มันเกี่ยวกับงานผมเปิดช่องยูทูปเป็นค่ายเล็กๆ ผมอยากนำศิลปินคนรุ่นใหม่ที่มีฝันให้โอกาสเค้าก็เลยมีโอกาสได้ทำตรงนี้ ตอนนี้มีศิลปิน 4 คนในค่าย

ศร : การไปอยู่เมืองนอกผมก็ไม่ค่อยถนัดหรอกครับ ที่ไปช่วงโควิดบ้านเรามันหาเงินลำบากผมเลยอยากไป มีแพลนจะไปอเมริกาอยู่ อันนี้ไปเที่ยสไปร้องเพลงไปหาเงิน ไป 6 เดือน

ศร : ร้องครับ ตราบใดที่ยังมีแรงร้องเพลง คือยังร้องอยู่ครับให้พี่น้องแฟนเพลงตลอดไป ไม่แขวนไมค์แน่นอน

คลิปสัมภาษณ์  ศร สินชัย