เจ้าของเทวดาเพลง ครูชลธี ธารทอง ที่วันนี้ควงภรรยาตัวจริง ครูปุ้ม ศศิวิมล มาเปิดใจครั้งแรกหลังฝ่ามรสุมชีวิตถูกเด็กหลอกเอาทรัพย์สินไปนับ 10 ล้าน พร้อมเคลียร์ประเด็นร้อนฟ้องขับไล่ภรรยา อีกทั้งยังตอบทำไมถึงกลับมาสู่อ้อมอกภรรยาตัวจริงอีกครั้ง ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่อง วัน31 ที่มีชมพู่ ก่อนบ่าย และเบนซ์ พรชิตา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

ปีที่แล้ว ทั้งคู่ฟ้องหย่ากัน แต่ปัจจุบันนี้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว ก่อนกลับมามีการพูดคุยถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ยังไง?

ครูปุ้ม : 4 ปีที่แล้วมีหลายๆ เหตุการณ์เกิดขึ้น มีทั้งฟ้องหย่า ฟ้องมือที่สาม มีการฟ้องลูกศิษย์คนโปรดของครูชลธี

ได้ถามไหมว่าวันนั้นทำไมถึงตัดสินใจในเรื่องของการฟ้องหย่า?

ครูปุ้ม : 4 ปีพี่ไม่ได้คุยกับครูชลธีเลย เพราะโทรศัพท์ครูชลถูกบล็อกหมดเลยทั้งลูก และพี่ปุ้มเอง ไม่เคยได้ถามสารทุกข์สุขดิบกันว่าครูเป็นยังไง

แสดงว่าวันที่เริ่มคุยกันวันแรกเลย คือวันที่ 15 มีนาคม 2565?

ครูปุ้ม : ถูกต้องค่ะ 

วินาทีที่ได้เจอหน้ากันครั้งแรก รู้สึกยังไงบ้าง?

ครูปุ้ม : ทั้งดีใจ เสียใจ และตกใจ ปนๆ กันหลายๆ อารมณ์ ดีใจว่าครูกลับมาแล้วนะ เสียใจที่ทำไมครูเป็นถึงขนาดนี้ครูสภาพเป็นเหมือนที่ออกสื่อ ตกใจทำไมทรัพย์สินครูหมดไปขนาดนี้

 

ที่บอกว่าสภาพครูเป็นแบบนั้น ครูเป็นอะไรบ้าง?

ครูปุ้ม : แย่มากเลย ถ้าดูตามที่พี่ปุ้มลงในเฟซ ครูอ่วมไปเยอะ เดินไม่คล่อง ก็ถามว่าทำไมเดินไม่คล่อง เขาบอกเนื่องจากอยู่ที่นู้น ถูกปล่อยให้อยู่ที่แคบๆ โดยที่ไม่มีการดูแลกันเลย

บรรยากาศที่กลับมาเจอกันพูดคุยกันเยอะไหม หรือมีการร้องไห้กอดกันไหม?

ครูปุ้ม : ร้องไห้แล้วก็กอดกัน เห็นสภาพแล้ว ครูก็น้ำตาคลอมา

วันที่ 15 ที่ผ่านมาที่เจอกับครูปุ้ม ครูชลพูดอะไรบ้าง?

ครูปุ้ม : พ่อกลับมาแล้ว พ่อขอโทษในสิ่งที่พ่อทำ รู้สึกผิดในสิ่งที่ท่านทำว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี

รู้สึกยังไงบ้างวันที่ 15 ที่เจอกัน?

ครูชลธี : บอกกับปุ้มว่าผมกลับมาแล้ว ผมเดินทางไปซะนาน 4-5 ปี มันทำให้ผมเสียความรู้สึก คนอื่นก็เป็นทุกข์มากผมกลายเป็นทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ก็เลยคิดว่าเราควรทำอะไรที่ดีกว่านี้ ชีวิตที่ผ่านมาที่ผมไปอยู่ต่างบ้านมารู้สึกว่ามันต่างกับบ้านที่ผมอยู่กับภรรยาผม ทำอะไรก็ได้ พูดอะไรก็ได้ จะกิน จะคิดอะไรก็ได้ ไม่มีใครมาขีดเส้นใต้ผม แต่ว่าไปที่นู้นผมทำอะไรไม่ได้เลย คิดอะไรไม่ได้เลย พูดอะไรไม่ได้เลย แม้แต่โทรศัพท์อยู่ในมือก็โทรหาใครไม่ได้เลย เลยถามตัวเองว่านี่ฉันเป็นใครมาอยู่ภายใต้การกดดันอย่างนี้มันใช่เหรอ เราเป็นใคร เขาเป็นใคร หลังจากนั้นผมก็ตัดสินใจว่าควรจะกลับบ้าน ควรจะไปหาคนที่เข้าใจผมจริงๆ ที่รู้ใจผม และดูแลผมได้จริงๆ ตลอด 30 กว่าปีที่ผ่านมาจนมาถึงวันนี้เขาก็ยังดูแลผมดีอยู่ ผมกลับมาแทนที่จะโกรธผม เขากลับให้อภัย ให้กำลังใจ ซึ่งหาจากคนอื่นคงยาก เพราะผมทำเขาเจ็บมาก แล้วก็เป็นความรู้สึกที่แย่ ผมต้องขอโทษทุกอย่างที่ผ่านไป ต้องขอโทษจริงๆ ที่หลงผิดไป หลงทางไปไปลงนรกมา คราวนี้ขึ้นจากนรกแล้ว

หลายคนก็พูดกันไปต่างๆ นานาว่าสาเหตุที่ครูชลธีกลับมาเป็นเพราะไปโดนหลอกจนหมดตัวก็เลยต้องกลับมาหาครูปุ้ม?

ครูปุ้ม : พี่ว่ามันก็มีส่วนนะ เพราะว่าตอนนี้สภาพของครูชลในเรื่องของทรัพย์สิน เรื่องของสุขภาพ ถามว่าถ้าคนไม่เอาใจใส่หรือว่ามีความรักจริง รับรองไม่มีใครเอาครูแน่ พี่ว่าเหตุผลนั้นสำคัญกว่า จากที่พี่ตรวจเช็กเงินในบัญชี จากเลข 7-8 หลัก หมดเลย บังเอิญช่วงที่กลับมา ช่วงที่คุณครูนอนอยู่โรงพยาบาล มีโอกาสได้หยิบโทรศัพท์ครูมาดูสลิปการโอน วันนึง 30,000, 50,000 ติดๆ กันเลย ในการโอนออกที่เยอะมาก แล้วก็ 20 บาทยังโอนเลย เยอะจริง 300 กว่าสลิป 4 ปี ที่ปรากฏอยู่ในมือถือของคุณครู

ครูได้บอกไหมว่าเหตุผลหลักๆ ที่กลับมาหาครูปุ้มคืออะไร?

ครูชลธี : อย่างที่ผมบอกที่กลับมาเพราะผมกดดัน โดนปิดกั้นทุกอย่างหมดเลย โทษผมเองที่ผมเดินทางผิด ทั้งๆ ที่มันผิดก็ยังทำ อันนี้ต้องโทษตัวเอง ไม่ต้องโทษคนอื่น มันเป็นผลกรรมของผม ผมยอมรับตรงนี้ ก็ต้องขอโทษทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบ ผมไม่ได้ตั้งใจ จะไม่โทษใครทั้งนั้น โทษตัวผมเอง ผมพยายามทำตัวให้ดีที่สุด

ตอนที่กลับมา ช่วงแรกเจอกระแสหนักมาก ครูเครียดถึงอยากจะฆ่าตัวตาย?

ครูปุ้ม : ค่ะ 

ครูชลธี : คือเครียดเพราะตัดสินใจอะไรไม่ถูก สับสนไปตลอดชีวิต จะไปทางไหน เดินไปทางไหนดี เดินทางไหนก็ตันเดินทางไหนก็ปิด ทางไหนก็มืด ตัวของเรามีความสามารถอยู่เต็มตัวเราใช้ไม่ได้ มีสมองแต่งเพลง แต่วันนี้เราใช้สมองเราไม่ได้ เราทำยังไงดี คิดอยู่คนเดียวพูดให้ใครฟังไม่ได้ เคยระบายให้คนข้างๆ ฟังตอนที่อยู่นั้น เขาก็ไม่ยินดี ยินร้ายเขาจะบอกคิดมาก เพ้อเจ้อ เพราะความจริงที่ผมคิดมาก เพราะมันไม่ถูกต้องจริงๆ 

ครูปุ้ม : 2-3 วันที่ครูกลับมา แกก็ไปอ่านคอมเมนต์ที่แรงๆ แล้วบวกกันหลายๆ อย่าง ก็เลยบอกว่าอย่าพูดได้ไหม อย่าตอกย้ำได้ไหม เขาก็รับโทษ รับสิ่งที่เขาทำแล้วเหมือนอยากฆ่าตัวตาย ซึ่งทุกวันนี้พี่ปุ้มเองไม่เคยทิ้งครูไปไหนเลย เป็นห่วงตรงจุดนี้ที่ครูคิดเยอะ คิดในเรื่องของทรัพย์สินที่สูญเสียไป คิดในเรื่องของการตำหนิของสังคมที่ค่อนข้างรุนแรงเราก็ไม่มีสิทธิ์ไปอะไรเขาได้ ก็อยากจะบอกว่าอยากให้อยู่ในขอบเขตนิดนึง เพราะสภาพจิตใจครูแย่มาก

ผู้หญิงหลายคนรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของชีวิตคู่มาก เหมือนถูกหักหลังการโดนนอกใจ หลายคนคิดว่าครูปุ้มไม่น่าให้อภัยเพราะเป็นเรื่องใหญ่มาก แต่ทำไมครูปุ้มถึงให้อภัย?

ครูปุ้ม : ตั้งแต่เกิดปัญหาปี62 ทางสังคมโซเชียลต่างๆ  บอกว่าทำไมเขาหมดรักแล้ว ทำไมพี่ปุ้มไม่หย่าให้ครูชล แต่พี่ปุ้มบอกว่าพี่มีเหตุผล เพราะรู้อยู่ว่าเหตุการณ์อย่างวันที่15 มันจะเกิดขึ้น คิดอยู่ตลอด ไปดูสัมภาษณ์พี่ได้ ที่พี่ไม่หย่าเพราะพี่รักษาชีวิตครูชลนะ ถ้าพี่หย่าคิดไกลๆ

ต้องบอกว่าครูปุ้มรู้จักครูชลดีที่สุด แล้วก็รู้ว่ามันเป็นยังไง?

ครูปุ้ม : ใช่ 4 ปีต้องใช้ความอดทนอย่างมาก โดยที่มีลูกครูชล 2 คน ที่คอยเป็นกำลังใจ เพราะทุกคนจะรู้หมดว่าพี่ปุ้มเป็นยังไงก็ต้องอดทน แล้วอยากจะบอกผู้หญิงว่าบางครั้งปัญหาครอบครัว ความอดทน ความดี ความตั้งมั่นหลายๆอย่างมันจะช่วยเราได้เยอะ สุดท้ายถ้าพี่ตัดสินใจหย่า หรือศาลบอกให้หย่า ทุกอย่างครูจบ ครูจะไม่มีชีวิตมานั่งอยู่อย่างนี้หรอก พี่พูดได้เลย เพราะครูบอกว่าถ้าครูมาช้าอีก 1-2 วันเขาตาย คือครูมาวันที่ 15 วันที่ 19 ครูเข้าโรงพยาบาล แอดมิทเป็นแบบมากมาย

หนึ่งในส่วนนึงของความรักคือการให้อภัย?

ครูปุ้ม : ถูกต้อง

ปีที่ครูไม่ได้อยู่กับครูปุ้ม ถือว่าเป็นการใช้ชีวิตที่หนักหน่วงเหลือเกิน

ครูปุ้ม : ใช่ค่ะ หนักมาก หนักจริงๆ เชื่อไหมเขาเอาแฟนเราไป เขาไปตั้งโปรไฟล์เป็นรูปเขาคู่กัน เขาไปไหนก็ไลฟ์สดด้วยกัน เฮฮาสนุกสนานในขณะที่เรานอนร้องไห้ ร้องจนไม่มีน้ำตา บางทีนั่งมองเพดานร้องไห้โฮออกมา เราไม่เคยร้องในชีวิต ยาคลายเครียดกินเยอะมาก กินจนเพื่อนๆ น้องๆ ที่มาดูแลบอกอย่ากิน อันตราย เขาบอกว่าถ้าพี่ไม่ลุกขึ้นมาสู้แล้วพี่จะเป็นยังไง ช่วงนั้นแย่มากๆ แล้วก็พอหลังจากครูไป 1 ปี ครูก็แถลงข่าวว่าจะหย่ากับพี่ เพื่อจะไปแต่งงานกับอีกคนนึง พี่ก็แบบมันมีอย่างนี้ด้วยเหรอ พี่ก็ถามตัวเองว่าพี่ผิดอะไร วันนั้นพี่ออกข่าวดังมาก ครูชลแถลงข่าว พี่ปุ้มนั่งหน้าบ้านตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม พี่ไม่ได้เข้าบ้านเลย นั่งแล้วมอง เราผิดอะไร

เห็นว่าความคิดเลยเถิดไปถึงขั้นไม่ไหวแล้ว ถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตาย?

ครูปุ้ม : ถูก ถึงขั้นนั้นเลย ไม่อยากอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตเพื่อใครแล้ว ที่บ้านพี่มี 2 คน ลูกครูก็จะไปทำงานหมด ก็อยู่กัน 2 คน บ้านออกใหญ่โต พี่ต้องนอนอยู่คนเดียว เข้าบ้านมาก็เห็นแต่รูปเขา ใหม่ๆ นี่ร้องไห้ทุกวัน แต่พอหลังจากเป็นข่าวเราเริ่มมีแฟนคลับ คนก็ให้กำลังใจเยอะ จุดนั้นแหละที่ทำให้เราอยู่ได้

กำลังใจมาจากไหนที่ทำให้เราออกจากวังวนที่เราจะฆ่าตัวตาย?

ครูปุ้ม : มันอยู่ในวังวนมาก ทำไมเราอยู่จุดจุดนั้นได้ จุดที่คนจะฆ่าตัวตายเป็นอย่างนี้เองเหรอ แต่เราก็บอกตัวเองว่าเมื่อเราเป็นครูเราก็สอนเด็กนะ เรื่องนี้ เรื่องไม่ดีนะ เราก็พยายามหาทางออก สุดท้ายเราก็หาทางออกได้ วันที่ครูแถลงข่าวพี่ก็ไปโรงเรียน ท่าน ผอ.ถามว่าครูไหวไหม คือพี่อยู่โรงเรียนคือจำแหน่งผู้ช่วยท่าน ผอทุกคนก็เพ่งมองที่เรา คือคู่เราเป็นคู่ที่สังคมและโรงเรียนคาดหวังเป็นอย่างมาก คือเป็นคู่รักที่อดีตพี่ปุ้มจะไปออกรายการเยอะมาก ไปวันแรกก็ก้มหน้า แล้วครูทุกท่านเข้ามากอด ลูกศิษย์เข้ามากอด ผู้ปกครองเข้ามากอด บอกครูสู้ๆ นะ ครูไม่ผิด เราถามตลอดว่าเราผิดอะไร เราบกพร่องอะไรที่ครูทิ้งเราไป

ตอนนั้นมันกดดันมากๆ ในใจครูปุ้มรู้สึกแค้นไหม?

ครูปุ้ม : แค้นทั้งคู่เลย แค้นแต่ไม่อาฆาตนะ แต่แค้นมาก

ครูชลธี : ครูคิดอะไรผมไม่รู้หรอก เพราะเขาคิดไม่ดัง

ครูปุ้ม : ตรงนี้ครูอาจจะไม่รู้ เพราะครูไม่ได้รับการติดต่อจากพี่ปุ้มเลย

ครูชลธี : ความรู้สึกมันบอกว่าการกระทำของผมมันโหดร้ายมาก เกินกว่าจะให้อภัยด้วยซ้ำไป แต่ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว อย่าคิดเลย เพราะว่าอะไรก็แล้วแต่เกิดได้ก็ต้องดับได้ มีสูงได้ก็ต้องมีต่ำได้เป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตต่อไปนี้จะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว มันเป็นบทเรียนราคาแพงมากๆ สำหรับคนระดับอย่างเราคนทั้งประเทศยอมรับ ทำไมตัวเองไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้คนทั้งประเทศดู ผมอยากจะบอกผ่านรายการนี้ว่า เพื่อนผู้ชายของผมทุกคนในโลกจะคิดอะไรก็แล้วแต่ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่าคิดเลย ถ้าคุณอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็เลิกกันซะ ต่างคนต่างไป แต่อย่าไปทำอย่างนี้เลย ซึ่งผมมาคิดได้ว่าผมก็ควรทำอย่างนั้น ผมถึงกลับมา บอกเขาว่า ขอโทษ ขอโทษเหลือเกิน เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีเลย สำหรับผู้ชายทั้งโลก ผมทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก

ความรู้สึกของครูปุ้ม  ตอนนั้นที่บอกว่าแค้น มันรุนแรงขนาดไหน

ครูปุ้ม : วันที่เกิดเหตุการณ์ย้อนไปมันหลายๆ อย่าง เราแค้นหลายๆ เรื่อง อย่างลูกชายป่วย โทรไปหาพ่อ เพราะวันนั้นผ่าตัด น่าจะค่าใช้จ่ายเป็นแสน โทรหาเลขาไม่เคยบอกพ่อเลย พ่อไม่เคยรู้เรื่องเลย พี่ปุ้มต้องซัพพอร์ตน้อง ถ้าเราไม่ช่วยน้องก็ตาย ทุกคนพยายามบอกว่าสิ่งที่แกทำไม่ถูกต้อง แต่ไม่รู้อะไรบังตาแก

เห็นว่าหนึ่งในเพื่อนที่พยายามบอกถึงขั้นเลิกคบกันไปเลยคือครูแดง บุรีรัมย์?

ครูปุ้ม : ใช่ค่ะ เขาพูดกันตามภาษาเพื่อนเนอะ ไอธีมึงไปหาปุ้มมันเถอะ ปุ้มมันเป็นคนดีนะ เขาก็พยายามบอก แต่ก็ไม่ฟัง จนครูแดงโทรหาพี่บอกว่าจารย์ปุ้มผมพูดแล้วนะ เขาไม่ฟัง ทุกคนหวังดีหมด รู้ว่าครูกำลังโดนอะไร

ลูกๆ เคยนั่งคุยกับคุณพ่อไหม?

ครูปุ้ม : คือเขาไม่ได้เจอกันเลย เจอครั้งนึงที่ศาลเยาวชนที่ครูชลฟ้องหย่าพี่ปุ้ม เป็นภาพที่ลูกน้อยใจมาก พ่อเดินไปกับน้องของเลขา แล้วลูกสองคนเดินเข้าไป แล้วพ่อสะบัดมือ แล้วบอกว่าน้าพ่อไม่เอาเราแล้ว ความรู้สึกตรงนั้นลูกก็ถอยไม่รู้อะไรดนใจครูให้เป็นขนาดนั้น

มันมีเรื่องขึ้นศาล ตอนนั้นครูปุ้มก็ชนะคดีเรียบร้อยแล้ว?

ครูปุ้ม : ใช่ค่ะ

ปัจจุบันนี้ยังเหลือคดีอะไรอยู่บ้าง?

ครูปุ้ม : พี่ฟ้องมือที่สองครั้ง ครั้งที่ชนะ ครั้งที่สอง เมื่อ 4 เมษายน ก็ชนะอีก พี่เองก็ไม่ได้รับอะไร ทีนี้ถึงขั้นตอนการสืบทรัพย์

ครูชลธี : เขาน้อยใจผม ผมรู้ตั้งแต่ที่ผมออกจากบ้าน แต่ตอนนั้นผมเหมือนถูกผีสิง บังตาหมดเลย เลยไม่รับรู้ ไม่เห็นเรื่องทำให้ลูกเขาน้อยใจ ตอนหลังถึงได้รู้ ได้เจอเขาบ้าง เขาปิดกั้นผมไม่ให้เจอลูกเลย ความจริงผมรักลูกนะ ลูกผมจบปริญญาหมดเลย อยากจะบอกว่าลูกคือลูกของพ่อ พ่อรักลูกมาก ผมอายุเกือบร้อยแล้ว แปดสิบกว่า เดี๋ยวสักพักจะเซ็นพินัยกรรมมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้ลูก ลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด ทองในธนาคาร แล้วอะไรก็แล้วแต่ให้ลูก ให้ปุ้มเขาดูแล

ก่อนหน้านี้ครูชลได้ฟ้องลูกศิษย์รัก คือคุณเสรี รุ่งสว่าง ตอนนั้นฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์เพลงเหรอ?

ครูปุ้ม : ฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์เพลง แต่จริงๆ แล้วคุณเสรีอยู่กับครูนานมาก นานกว่าที่พี่ปุ้มแต่งงานกับครูอีก การฟ้องครั้งนี้จุดใหญ่ไม่ได้มาจากครูหรอก แต่ครูก็มีส่วนหนึ่งเนอะ แต่ว่ามันก็มีพรายกระซิบบางอย่างที่ฟ้องนะๆ แต่ตอนนี้ตำรวจไม่สั่งฟ้องแล้ว เพราะมันเป็นลายมือครู ทุกอย่างจบลงแล้ว คุณเสรีเหมือนลูกชายแกเลย คุณเสรีเสียใจมากในเหตุการณ์ครั้งนี้ เรื่องมันจบไปแล้วเหลืออย่างเดียวเขาสองคนจะเจอกันเมื่อไหร่ จะคุยกันเมื่อไหร่

ตอนนั้นครูปุ้มออกโรงปกป้องคุณเสรีเต็มที่เลย?

ครูปุ้ม : ใช่ค่ะ ออกโรงจนเขาเอาไปประกอบศาลฟ้องหย่าพี่ พี่ก็งง แต่ศาลเขาบอกว่าสามีภรรยา คิดคนละอย่างไม่ผิดเรามีสิทธิ์ที่จะคิด เพราะพี่รู้อยู่ว่าอะไรคืออะไร แต่ว่าคนที่คอยเสี้ยม คอยบอกครู ให้ครูฟ้อง สังเกตไหมอดีตที่ผ่านมาจะไม่ได้ยินข่าวว่าครูชลไปฟ้องใครเลย มีแต่คนฟ้องแก แต่พอไปอยู่นั้น 4 ปีครูชลฟ้องคนนั้น คนนี้ เราก็เลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น เราเลยพยายามแสดงตัวว่าเราอยู่ข้างที่ถูกต้องนะ ไม่ใช่เราไม่รักครูชลนะ แต่เราพยายามส่งสารบอกว่าพ่อทำไม่ถูกนะ แต่เราก็ไม่สามารถติดต่อครูชลได้เลย

ครูชลธี : ผมอยากจะพูดตรงๆ นะ ผมไม่เคยเซ็นอะไรเสรี อนุญาตไปบางครั้งบางคราว ไม่กี่เพลง แต่ตอนหลังเอาเพลงผมไปเกือบ 100 เพลง แล้วลงชื่อว่าเป็นลิขสิทธิ์ของเขา ก่อนจะทำอะไรลงไป เขาน่าจะมาคุยกับเจ้าของลิขสิทธิ์บ้าง พอผมพูดอะไรขึ้นมาก็มีปฏิกิริยา เขาเป็นลูกสิทธิ์ผม ถ้าไม่มีผมเสรีไม่เกิด ผมบอกตรงๆ แต่ว่าบางครั้งเสรีก็อวดรู้เรื่องกฎหมาย ผมอยู่กับกฎหมายลิขสิทธิ์มาทั้งชีวิต ผมผ่านการต่อสู้เรื่องลิขสิทธิ์มาเยอะ ทำไมผมไม่รู้ตรงไหนผิด ตรงไหนถูก ผมยังฟันธงตรงๆ เลยว่าเสรียังทำอะไรไม่ถูกต้อง อย่าทำต่อมันเสียความรู้สึก ถ้ายังเคารพกันอยู่อย่าทำต่อ ถ้าทำต่อต้องมาบอกผมมาคุยกับผมให้เป็นเรื่อง เป็นราว 

เรื่องนี้ครูปุ้มอยากให้จบยังไง?

ครูปุ้ม : อยากให้เขาคุยกัน

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์ศุกร์ 13.05-14.05 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ครูชลธีครูปุ้ม

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ