ปราบมันว่ายากแล้ว กำจัดซากของมันยากยิ่งกว่า

แนวหนัง: คอเมดี้/แอ็กชั่น/ไซไฟ

ความยาว: 115 นาที

ผู้กำกับ: ซาโตชิ มิกิ

คนเขียนบท: ซาโตชิ มิกิ

นักแสดง: เรียวสุเกะ ยามาดะ, ทาโอะ ซึจิยะ, กาคุ ฮามาดะ, โจ โอดางิริ, โทชิยูกิ นิชิดะ

 

เรื่องย่อ: เมื่อประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญหน้ากับโคตรไคจูที่ออกอาละวาดทำลายล้างมานานหลายทศวรรษ จนกระทั่งมันได้สิ้นใจนอนตายในสภาพขาชี้ฟ้า ทำให้งานนี้รัฐบาลจึงต้องหาทางกำจัดซากของมันให้ได้โดยด่วนที่สุด ก่อนที่แก๊สระเบิดจากซากไคจูจะกลายเป็นหายนะที่อาจทำให้ทั้งเกาะญี่ปุ่นจมลงก้นทะเล

 

เกร็ดไฮไลต์ของภาพยนตร์

1) ทุกคนล้วนมีภาพจำของฮีโร่ผู้ปราบไคจูยักษ์กลางมหานครโตเกียว แต่ยังไม่มีใครเคยเห็น “หลังจากที่ไคจูตายไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับซากของมัน” มาก่อน! นี่คือครั้งแรกที่คุณจะได้เห็นกับภารกิจสุดป่วนต้อนรับหายนะครั้งใหม่ที่ญี่ปุ่นยังไม่เคยเผชิญ พร้อมความตลกร้ายแนวจิกกัด เสียดสีและเย้ยหยันสังคม ผสมกับความโรแมนติกและอารมณ์ขัน

เอาไว้ในหนังเรื่องเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าเราควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ก่อนดี ผลงานล่าสุดไอเดียบรรเจิดจากผู้กำกับสายเวียร์ดตัวพ่อ “ซาโตชิ มิกิ” จาก “It’s Me, It’s Me” และ “Adrift in Tokyo”

2) ระดมดาราดังประชันฝีมือขานรับปรากฏการณ์ไคจู นำโดย “เรียวสุเกะ ยามาดะ (Fullmetal Alchemist, The Miracles of the Namiya General Store), ทาโอะ ซึจิยะ (ซีรีส์ Alice in Borderland, The 8-Year Engagement), กาคุ ฮามาดะ (If Cats Disappeared From the World), โจ โอดางิริ (Her Love Boils Bathwater), โทชิยูกิ นิชิดะ (The Phone of The Wind, The Miracles of the Namiya General Store)” และนักแสดงเข้าชิงรางวัลออสการ์ “ริงโกะ คิคุชิ (Babel, Pacific Rim, 47 Ronin)”

3) โปรดักชั่นดีไซน์ล้ำตระการตา ด้วยฝีมือนักออกแบบงานสร้างตัวท็อปของญี่ปุ่น “โทชิฮิโร อิโซมิ” จาก “Battle Royale II, Yakiniku Dragon” และ “Prisoners of the Ghostland” รอบนี้เขาขอเปลี่ยนญี่ปุ่นให้กลายเป็นสมรภูมินรกพร้อมซากไคจูล้างโลกที่ใช้เวลาในการสร้างฉากทั้งหมดนานถึง 2 เดือน และยิ่งใหญ่ที่สุดในปีนี้

4) ซีจีใส่เต็มไม่ยั้ง จัดหนักความอลังคับจอจากฝีมือผูุ้สร้างเทคนิคพิเศษมือโปรแห่งญี่ปุ่น “โคอิจิ โนงูจิ” ผู้อยู่เบื้องหลังหนังฮอลลีวูดฟอร์มยักษ์ระดับตำนานอย่าง “Waterworld (1995), Species (1995), Air Force One (1997)” และ “Godzilla: Final Wars (2004)” สู่มหึมาซากไคจูนรกขาชี้ฟาสูงถึง 155 เมตรมากกว่าเทพีเสรีภาพเกือบ 1 เท่า โดยโนงูจิเลือกใช้ทั้งคอมพิวเตอร์กราฟฟิก ผสมผสานกับเทคนิคดั้งเดิมอย่าง “โทคุซัตสึ” หรือเทคนิคดั้งเดิมที่ใช้กันมานานในวงการภาพยนตร์และละครแนวแอ็กชั่นของญี่ปุ่น โดยเฉพาะการจำลองเมืองขนาดเล็ก และให้นักแสดงสวมชุดของมอนสเตอร์สำหรับการถ่ายทำฉากทำลายล้าง ซึ่งรับประกันเลยว่าซากโคจูใน “WHAT TO DO WITH THE DEAD KAIJU? ซากนรกไคจู” จะยิ่งใหญ่เต็มตาและสมจริงบนจอภาพยนตร์อย่างแน่นอน

5) ระทึกจิกเบาะด้วยงานสกอร์ฝีมือ “โคจิ อูเอโนะ” จากหนังสยองขวัญที่หลอนคนทั้งญี่ปุ่นมาแล้วใน “Ju-On: The Beginning of the End (2014)” และ “Last Winter, We Parted (2018)” เงี่ยหูฟังไว้ให้ดี! ซากนรกไคจูมาเมื่อไหร่ ความบีบหัวใจจะบรรเลงขึ้นเมื่อนั้น!

6) สมการรอคอยจนถล่มรายได้ถล่มทลายสะเทือนซากไคจู ทำเงินเฉือนชนะหนังฮอลลีวูด “Ghostbusters: Afterlife, Uncharted” และ “Resident Evil: Welcome to Raccoon City” ขาดลอยในญี่ปุ่น พร้อมทะยานขึ้นทำเนียบหนังมาแรงที่สุดนาทีนี้ “WHAT TO DO WITH THE DEAD KAIJU? ซากนรกไคจู” ยืนยันด้วยยอดขายบัตรทะลุ 5 แสนใบเร็วที่สุดในปีนี้รองจาก Jujutsu Kaisen 0

7) เสียดสีแรงกระแทกใจคนดูกวาดทั้งเสียงชื่นชมและคำวิจารณ์ เมื่อ “WHAT TO DO WITH THE DEAD KAIJU? ซากนรกไคจู” เป็นมากกว่าหนังไคจู แต่คือการผสมผสานระหว่างส่วนที่เจ็บปวดแสบสันต์และโยงใยอยู่กับโลกความเป็นจริงอย่างโหดร้าย บวกกับความท้าทายของการเล่าเรื่องที่เดินอยู่บนเส้นลวดของเสียงหัวเราะและเรื่องคอขาดบาดตาย ผ่านการกำกับสุดแม่นยำคมฉับของ “ซาโตชิ มิกิ” จนภาพยนตร์ได้รับการขนานนามอย่างหนาหูว่า “นี่คือ Don’t Look Up ของญี่ปุ่นและปีนี้!” คอหนังชาวไทยเตรียมพิสูจน์เรื่องโปกฮาวันโลกาวินาศของซากนรกไคจู 26 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

 

ตัวอย่างภาพยนตร์ (ซับไทย)

ปราบมันว่ายากแล้ว กำจัดซากของมันยากยิ่งกว่า

What to Do With the Dead Kaiju? – ซากนรกไคจู”

26 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์

#WhatToDoWithTheDeadKaiju #ซากนรกไคจู