แกร็บ ตอกย้ำความเป็นผู้นำซูเปอร์แอป เดินหน้ารุกตลาด B2B (Business-to-business) ส่ง “GrabForBusiness” โซลูชันที่ช่วยบริหารจัดการทุกบริการของแกร็บสำหรับลูกค้าองค์กร ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและมัดใจพนักงาน โดยชู 3 ไฮไลท์หลัก คือ ช่วยลดขั้นตอนของงานเอกสาร-เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบริหารค่าใช้จ่าย ใช้งานง่าย-สะดวกทั้งบนมือถือและเว็บไซต์ พร้อมนำเสนอบริการที่หลากหลาย-ตอบทุกความต้องการได้ครบจบในแอปเดียว เล็งเจาะตลาดลูกค้าองค์กรใน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ สถาบันการเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจเทคโนโลยีธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสุขภาพ-โรงพยาบาล
นายอเลฮานโดร โอโซริโอ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันบริการต่างๆ ของแกร็บได้เข้ามามีบทบาทและกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น บริการเดินทาง บริการสั่งอาหาร บริการสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รวมไปถึงบริการรับ-ส่งพัสดุ ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของกลุ่มผู้ใช้บริการทั่วไป แต่ยังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นในกลุ่มลูกค้าที่เป็นพนักงานสำนักงานหรือคนทำงานในองค์กรด้วย ดังนั้น แกร็บจึงได้พัฒนาต่อยอดการให้บริการเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรผ่านโซลูชันสำหรับธุรกิจที่เรียกว่า ‘GrabForBusiness’ ซึ่งออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากลุ่มนี้โดยเฉพาะ ทำให้พนักงานขององค์กรสามารถใช้บริการต่างๆ ของแกร็บได้อย่างสะดวก รวดเร็ว โดยไม่ต้องสำรองเงินล่วงหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายขององค์กร ขณะเดียวกันก็ถือเป็นช่องทางในการมัดใจบุคลากรด้วยการมอบบริการแกร็บเพื่อเป็นสวัสดิการให้กับพนักงานด้วย”
“ปัจจุบัน GrabForBusiness ได้กลายเป็นโซลูชันทางธุรกิจที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าองค์กรที่คุ้นชินกับการใช้บริการต่างๆ ของแกร็บ โดยเน้นไปที่ 2 กลุ่มหลัก คือ 1) กลุ่มที่ใช้บริการแกร็บเพื่อสนับสนุนการทำงานหรือกิจกรรมทางธุรกิจในแต่ละวัน (Day-to-day operations) เช่น การใช้บริการรับ-ส่งเอกสารหรือพัสดุผ่าน GrabExpress แทนการใช้พนักงานเดินเอกสารหรือแมสเซนเจอร์ การใช้บริการเรียกรถผ่าน GrabCar หรือ GrabTaxi แทนการโบกเรียกรถแท็กซี่หรือการใช้บริการรถเช่า การสั่งซื้ออุปกรณ์สำนักงานผ่าน GrabMart และ 2) กลุ่มที่ต้องการมอบบริการแกร็บเพื่อเป็นสวัสดิการหรือให้รางวัลกับพนักงาน เช่น การให้พนักงานสามารถสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มผ่านบริการ GrabFood ระหว่างการประชุมหรือการทำงานที่บ้าน (Work From Home) เป็นต้น” นายอเลฮานโดร กล่าวเสริม
GrabForBusiness จะเข้ามาตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรผ่าน 3 จุดเด่นสำคัญ ได้แก่
- ลดงานเอกสาร-เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ด้วยการทำงานของ GrabForBusiness ที่เชื่อมต่อข้อมูลการใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ทั้งหมด ทำให้ผู้ใช้บริการ (หรือพนักงานขององค์กร) ไม่ต้องสำรองเงินล่วงหน้า และไม่ต้องเสียเวลาไปกับการทำเอกสารเบิกจ่ายอีกต่อไป โดยทุกครั้งที่มีการใช้บริการเกิดขึ้น ระบบจะทำการบันทึกและส่งข้อมูลการใช้งานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายและเอกสารโดยอัตโนมัติ ซึ่งแกร็บจะเรียกเก็บค่าใช้บริการแบบรายเดือนกับองค์กรโดยตรง นอกจากนี้ ยังช่วยให้องค์กรวางแผนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังสามารถตรวจสอบข้อมูลการใช้งานได้อย่างละเอียด ซึ่งช่วยสร้างความโปร่งใสและป้องกันการทุจริตที่อาจเกิดขึ้นในองค์กรได้
- ใช้งานง่าย-สะดวกทั้งบนมือถือและเว็บไซต์: GrabForBusiness ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าองค์กร ทั้งบนโทรศัพท์มือถือ (mobile app) และบนเว็บไซต์ (web app) ไม่ว่าจะเป็น การใช้งานสำหรับบุคคล เช่น การเรียกรถเพื่อเดินทางไปประชุม ซึ่งทำได้ผ่านทางแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือส่วนตัวของพนักงาน หรือการใช้งานในรูปแบบกลุ่ม เช่น การสั่งอาหารเพื่อการประชุมหรือเลี้ยงพนักงาน หรือการสั่งซื้อสินค้าหรืออุปกรณ์สำนักงานจำนวนมาก ซึ่งสามารถทำได้ผ่านเว็บไซต์ ไม่เพียงเท่านั้น องค์กรยังสามารถเพิ่มหรือลดสิทธิการใช้งาน รวมทั้งการกำหนดงบประมาณของพนักงานแต่ละบุคคลได้แบบเรียลไทม์ด้วย
- บริการหลากหลาย-มีครบจบในแอปเดียว: ในฐานะผู้นำซูเปอร์แอป แกร็บมีบริการที่หลากหลายซึ่งตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรในหลายๆ ด้าน โดย GrabForBusiness ครอบคลุม 5 บริการสำคัญ นั่นคือ บริการการเดินทาง ทั้งประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ บริการรับ-ส่งเอกสารและพัสดุแบบออนดีมานด์ผ่าน GrabExpress บริการสั่งอาหารเดลิเวอรีผ่าน GrabFood และบริการสั่งซื้ออุปกรณ์สำนักงานและของใช้ต่างๆ ผ่าน GrabMart
“ในปีนี้ แกร็บเตรียมรุกตลาด B2B อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใน 6 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มสถาบันการเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจพลังงาน และธุรกิจสุขภาพ-โรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรชั้นนำที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ GrabForBusiness เป็นจำนวนมาก อาทิ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) เป็นต้น โดยเราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาบริการและโซลูชันต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ GrabForBusiness สามารถตอบโจทย์การใช้งานขององค์กรได้อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น” นายอเลฮานโดร กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GrabForBusiness ได้ที่ https://www.grab.com/th/business/
###
เกี่ยวกับแกร็บ
แกร็บ (Grab) คือ ผู้นำซูเปอร์แอปในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อ้างอิงข้อมูล “มูลค่าธุรกรรมรวมในตลาด” หรือ GMV ทั้งบริการจัดส่งอาหาร บริการการเดินทาง และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในปี พ.ศ. 2564 โดยยูโรมอนิเตอร์) ปัจจุบัน แกร็บนำเสนอบริการต่างๆ แบบออนดีมานด์ ครอบคลุมทั้งบริการการเดินทาง การจัดส่งอาหาร สินค้าและพัสดุ ตลอดจนบริการทางการเงินในรูปแบบดิจิทัล เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการหลายล้านคนทั่วทั้ง 480 เมืองใน 8 ประเทศ อันได้แก่ กัมพูชา ไทย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย เมียนมาร์ เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เพื่อให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ของพาร์ทเนอร์คนขับและพาร์ทเนอร์ร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น การสั่งอาหารหรือการสั่งซื้อสินค้า การจัดส่งพัสดุ การเรียกรถรับ-ส่งหรือแท็กซี่ ไปจนถึงการทำธุรกรรมทางการเงินแบบออนไลน์ เช่น การขอสินเชื่อ การทำประกัน การบริหารความมั่งคั่ง และการบริการทางการแพทย์ทางไกล เป็นต้น แกร็บก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2555 โดยมีวิสัยทัศน์ในการมุ่งขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านการสร้างโอกาสและส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจให้กับทุกคน จวบจนปัจจุบันแอปพลิเคชันแกร็บได้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วบนโทรศัพท์มือถือนับหลายล้านเครื่อง และแกร็บจะยังคงยึดมั่นเจตนารมณ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งให้กับผู้ถือหุ้น ควบคู่ไปกับการสร้างการเปลี่ยนแปลงเขิงบวกให้กับสังคมทั่งทั้งภูมิภาค ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแกร็บได้ที่ www.grab.com