เป็นอีกหนึ่งกรรมการตัดสินอันยาวนาน สำหรับ โก๊ะตี๋ อารามบอย กับรายการ “ครัวลั่นทุ่ง ศึกเชฟสะท้านทุ่ง” ทางช่อง 8 ที่ดำเนินรายการมาจนถึงรอบ “ชิงชนะเลิศ” กันแล้ว พร้อมเปิดใจยอมรับว่า รสมือของคนครัวในท้องถิ่นนั้น มัน “ว้าว” และเหมือนเป็นการ “ฟิวชั่นวัฒนธรรม” ที่เชื่อว่า วัตถุดิบหรือเมนูอาหารไทยจะดังไกลไปทั่วโลกไม่ต่างจาก “แกงมัสมั่น” ต้มยำกุ้ง หรือ ผัดไทย แน่นอน
“ รู้สึกตื่นเต้นกับการทำรายการนี้มากๆ เป็นรายการโฉมใหม่ แปลกใหม่ เพื่อพัฒนาพ่อครัวแม่ครัวที่อยู่ต่างจังหวัด เรารู้ดีอยู่แล้วว่าบ้านเราอาหารไทย วัตถุดิบมันมีหลากหลาย ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก วัตถุดิบก็มีแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่แต่ละท้องถิ่น มันก็จะมี เอกลักษณ์ มีอาหารตามฤดูกาล วันนึงได้มาทำรายการ หนูรู้สึกว่า เมื่อก่อนเราจะรู้ว่าพ่อครัวแม่ครัวที่อยู่ตามต่างจังหวัด เวลาเค้าทำงานวัด งานบวช เค้าก็จะมีรสมือของเค้า พอมาทำรายการนี้หนึ่งเลยที่หนูรู้สึกประทับใจมาก คือหนูได้กินเมนูแปลกๆ เมนูใหม่ๆ บางทีเมนูที่อยู่ในประเทศไทยเป็นเมนูสมัยเก่า ซึ่งห่างหายไปนานมาก แล้วพ่อครัวแม่ครัวที่เป็นคนนำกลับมาทำในรายการ ก็รู้สึกตื่นเต้นแล้วก็ “ว้าว” หนูเชื่อว่าคำว่า อาหารไทย จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอาหารโลก มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะอะไรเพราะว่าบ้านเรามีวัตถุดิบที่สามารถนำมากินนำมารับประทานได้ เชื่อว่าบางทีต่างชาตินี่ “ว้าว”ได้เลยนะ อย่างกระจับ เขาควาย ที่เมื่อก่อนอยู่ตามทุ่งนาแบบนี้ เราก็เอากลับมาทำเป็นอาหาร สายบัวแบบนี้ ฝรั่งกินเหรอ สายบัว ฝรั่งไม่เคยกิน เพราะฉะนั้นหนูเชื่อว่าประเทศไทย เป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำ เป็นเมืองที่วัตถุดิบเยอะแยะมากมาย เอาจริงๆข้าวกินทั้งปีทั้งชาติก็ไม่มีวันหมด
แล้วสำหรับผู้เข้าขันในแต่ละทีมที่เข้ามาแข่งขันในรายการ ตั้งแต่รอบแรกเราได้ดู มีทีมที่มีพัฒนาการดีมาก แล้วแบบแปลกหูแปลกตา คือตอนแรกเราคิดว่าเค้าไม่น่าไปได้ไกลแต่มาวันนี้เค้าได้มาเข้ารอบชิงชนะเลิศ หนูเลยรู้สึกว่าการที่เรามีรายการแบบนี้ แล้วมีเชฟมาให้คำปรึกษาแนะนำ มันทำให้พ่อครัวแม่ครัวระดับตำบล อำเภอ ระดับจังหวัดนั้นๆได้มีการพัฒนา มันเหมือนเป็นการ “ฟิวชั่นวัฒนธรรม” อาหารพื้นบ้านในสมัยก่อนที่ห่างหายไปนานนะครับ แต่นำมาปรุงใหม่ทำใหม่ในแบบฉบับที่คนสมัยใหม่ทำ เราก็จะได้รสชาติของกลิ่นอายของอาหารที่อร่อยจังเลย และมันได้สีสันสดใสการตกแต่งจานหรือเอกลักษณ์ของคนสมัยใหม่ เพราะฉะนั้นหนูเชื่อว่าอีกไม่นานชาวต่างชาติต้องรู้จัก มันจะไม่ต่างอะไรจากมัสมั่น ไม่ต่างจากต้มยำกุ้ง หรือผัดไทย เพราะฉะนั้นอยากจะฝากให้ทุกคนติดตามชมรายการนี้ ที่สำคัญผู้เข้าแข่งขันตอนแรกนี้เป็นคู่แข่งกัน แข่งไปแข่งมาจนรักกันได้ แบบเจอกันคราวหน้าเอาของมาฝากกัน กลายเป็นวัฒนธรรมที่เรารู้สึกว่ามันอบอุ่น ไม่ได้เหมือนการแข่งขัน เหมือนกับการที่เราได้มาทำอาหาร แล้วก็มาแบ่งกันกิน เหมือนคนไทยสมัยก่อน ฉันมีแกงหม้อนึงเธอมีอะไรเอามาแบ่งกัน มันกลายเป็นความอบอุ่น แล้วก็รู้สึกเป็นความผูกพันกับรายการนี้ โดยที่เราไม่ต้องปฎิบัติอะไรเลย เหมือนเด็กสมัยก่อนที่วิ่งเล่นตามงานวัด พอหิวแล้วแม่ครัวเรียกไปกินข้าว มันเป็นอารมณ์นั้นเลย รู้สึกว่ารายการนี้เราสนุกสนาน เราร่าเริงเฮฮา เราเป็นตัวของตัวเอง และหนูเชื่อว่า ความสนุกสนานที่อยู่ในกองถ่าย มันจะถ่ายทอดไปถึงคุณผู้ชมที่อยู่ทางช่อง 8 ทุกๆ คนยังไงฝากด้วยนะครับ รายการ “ครัวลั่นทุ่ง ศึกเชฟสะท้านทุ่ง รอบชิงชนะเลิศ เร็วๆ นี้ครับ
ติดตามชม รายการ “ครัวลั่นทุ่ง ศึกเชฟสะท้านทุ่ง “ รอบชิงชนะเลิศ ตลอดเดือนกันยายน นี้ ชิงเงินสดและโล่เชฟสะท้านทุ่งรวมมูลค่ามากกว่า 150,000 บาท ทุกวันอาทิตย์ เวลา 13.05 น. ทางช่อง 8 กดหมายเลข 27 #ครัวลั่นทุ่ง #ศึกเชฟสะท้านทุ่ง #ช่อง8 #ช่อง8กดเลข27