“คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่ออยู่ในบ้านคุณต้องเป็นคนนึง

ออกไปทำงานนอกบ้าน คุณก็ต้องเป็นอีกคนนึง”

ก้าวแรกที่ศักรินทร์ (พีช พชร จิราธิวัฒน์) เดินออกจากบ้านไปทำงาน ภาพหนุ่มแบงค์ผูกไทที่เดินทางจากจังหวัดอยุธยา เข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร เป็นภาพที่แม่ (เจนนิเฟอร์ คิ้ม) คุ้นชิน แต่นี่ไม่ใช่ชีวิตจริงของศักรินทร์แม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อเค้ามาถึงกรุงเทพ เค้ากลับเป็นแค่เพียงคนขับวินมอเตอร์ไซค์

ความลับของศักรินทร์ ที่เค้าต้องปิดบัง ไม่ได้มีเพียงแค่ครอบครัวเท่านั้น รวมไปถึงจ๋าย (ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล ) สาวแบงค์เพื่อนเก่าที่ศักรินทร์เคยแอบชอบสมัยเรียน เอ (ปราโมทย์ ปาทาน)แฟนของจ๋ายที่มีดีกรีเป็นถึงรองผู้จัดการแบงค์ และลุงปรีชา (ค่อม ชวนชื่น) เพื่อนของพ่อที่เป็นเสมือนคนในครอบครัว ที่คอยจับผิดศักรินทร์ทุกอิริยาบถ มีเพียงพี่หลง (โรเบิร์ต สายควัน) และกลุ่มเพื่อนวินมอเตอร์ไซค์เท่านั้นที่รู้ความลับนี้

ติดตามความลับและความตูดหมึกของศักรินทร์ได้ ในภาพยนตร์เรื่อง “ไบค์แมน ศักรินทร์ตูดหมึก” เข้าฉายวันที่ 20 กันยายนนี้ ทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

ตัวละครต่างๆ

ศักรินทร์

หนุ่มมาดกวนที่แอบมีความลับกับครอบครัว แต่ก็เป็นผู้นำของบ้าน มีภาระที่ต้องหาเงินมาใช้จ่ายภายในบ้าน มีความฝันว่าจะทำให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและเป็นหนุ่มแบงค์ตามที่แม่เคยชื่นชมพ่อ ชอบความเร็ว เป็นคนชอบพูดคำคมแบบภาษาสติ๊กเกอร์สิบล้อ

จ๋าย

สาวสวยพนักงานแบงค์มือใหม่ เป็นคนขี้งก มึนๆซุ่มซ่ามเป็นบางเวลา แต่เป็นคนจริงใจ รักใครรักจริง โดยเฉพาะกับแฟน มีความฝันอยากทำงานเป็นนักบิน เพราะอยากเจอความอิสระมากกว่าทำงานที่ลูทีนแบบพนักงานแบงค์

สุรีย์

แม่ของศักรินทร์ เป็นคนต่างจังหวัดที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย บ้านเกิดอยู่สุพรรณบุรีก่อนจะย้ายรกรากมาอยู่อยุธยา อดีตเคยมีอาชีพเป็นนักร้องตามงานต่างๆ ทุกวันนี้ผันตัวมารับจ้างซักรีด เป็นแม่ม่ายที่รักลูกและภูมิใจที่มีลูกทำงานเป็นพนักงานแบงค์

เอ

รองผู้จัดการแบงค์ แฟนของจ๋าย เป็นผู้ชายขี้แอ็ค ชอบดุจ๋ายไม่ว่าจะเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงาน อดีตเคยหุ่นดีเพราะเป็นนักกีฬา มักชอบเจ้าชู้ใส่เด็กฝึกงานสวยๆ ชอบดูถูกคนแถมยังชอบคุยกับคนที่ได้ผลประโยชน์

ปรีชา

ลุงของศักรินทร์ เป็นเพื่อนสนิทของพ่อศักรินทร์ ไปมาหาสู่กับสุรีย์และศักรินทร์อย่างกับคนในครอบครัว มีอาชีพขายตุ๊กตาตามงานวัด ชอบจับพิรุธของศักรินทร์และไม่มั่นใจว่าศักรินทร์จะเป็นพนักงานแบงค์จริงๆ

หลง

เป็นหัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รู้ความลับของศักรินทร์ทุกเรื่อง หลงเป็นคนรักเพื่อนรักฝูง มีความชื่นชมในตัวศักรินทร์ ไม่ว่าจะมีงานอะไรก็จะส่งให้ศักรินทร์เป็นคนแรก เพราะหลงชอบความขยันหาเงินและการขับรถที่ว่องไวของศักรินทร์

พฤกษ์ เอมะรุจิ (ผู้กำกับ)

เราเริ่มต้นทำหนังเรื่องนี้ ด้วยการทำหนังเรื่องอื่นก่อน…

ผมชอบเรื่องราวที่สนุกสนาน ตลก อารมณ์ดี และมีแง่งามอยู่ในนั้น ชีวิตของศักรินทร์ก็เป็นแบบนั้น เรื่องราวของไอ้ตูดหมึกคนหนึ่งที่ทำตามความฝันของตัวเองที่อยากให้แม่และครอบครัวของเค้ามีชีวิตที่ดีไม่ได้ เลยต้องโกหกคนที่บ้านไปวันๆว่าทำงานแบงค์ ทั้งๆที่จริงๆแล้วเป็นแค่มอเตอร์ไซค์วินเท่านั้น โดยไม่คิดเลยว่าคำโกหกมีวันหมดอายุของมัน เรื่องราวโกลาหลต่างๆจึงเกิดขึ้น

สิ่งหนึ่งที่เราพยายามทำให้เกิดในหนังเรื่องนี้คือ “จังหวะตลก” ที่ใหม่กว่าที่ตัวเองเคยทำมาก่อน บางครั้งมันปรากฏออกมาในฉากแอ็คชั่นแบบหนีตาย ซึ่งเป็นความยากที่ท้าทายตัวเอง และต้องอาศัยความช่วยเหลือ แต่ผมก็โชคดีมากที่นอกจากมีพี่ยอร์ชคอยช่วยอยู่แล้ว คราวนี้ผมยังได้พี่เอมี่ (จันทิมา เลียวศิริกุล) พี่ต้อม (ปิยะพันธ์ ชูเพ็ชร) พี่กล้วย (ณัฐวุฒิ กิตติคุณ) เข้ามาร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง แล้วการได้พีช (พชร จิราธิวัฒน์) ฝน (ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล) พี่คิ้ม (เจนนิเฟอร์ คิ้ม) และโอ๊ต (ปราโมทย์ ปาทาน) เข้ามาสวมบทเป็นตัวละคร

ต่างๆในหนังเรื่องนี้ ก็ทำให้ภาพในหัวออกมาเป็นรูปร่างที่น่าดูมากขึ้น โดยเฉพาะกับพีชที่เป็นนักแสดงที่สร้างความพิศวงให้กับผมมากที่สุด

ตั้งแต่เริ่ม Pre Pro พีชมักจะปรากฏกายด้วยความขี้เล่นบ้าบอคอแตก แต่อาการทั้งหมดแฝงไว้ด้วยความตั้งใจจริง พีชทำการบ้านมาอย่างดี จำบทแม่น และสร้างตัวศักรินทร์ขึ้นมาในแบบของเค้าเอง

หลายครั้งที่ผมจ้องมองการแสดงของเค้าผ่านมอนิเตอร์แล้วก็ยังไม่ค่อยแน่ใจในสิ่งที่เค้ากำลังทำอยู่ ต่อเมื่อภาพทั้งหมดถูกส่งเข้าไปตัดต่อออกมาแล้วนั่นแหละ ผมจึงเห็นว่าพีชทำอะไรอย่างชัดเจน และผลที่ออกมาคือทุกคนที่ได้ดูล้วนบอกว่าพีชเจ๋งว่ะ!

อย่างที่บอกว่าผมชอบเรื่องราวที่สนุกสนาน ตลก อารมณ์ดี และมีแง่งามอยู่ในนั้น หนังเรื่องนี้เป็นอย่างที่ผมชอบทุกประการในท้ายที่สุด

พีช พชร จิราธิวัฒน์

รู้สึกยังไงกับการที่ได้มาเล่นภาพยนตร์แนวคอมเมดี้ เต็มตัวเป็นเรื่องแรก?

จริงๆแล้วผมว่าเป็นตัวละครที่ผมว่าเป็นตัวละครที่ดราม่าที่สุดในเรื่อง ในบรรดาปมเรื่องนี้ทั้งหมด เล่นจังหวะตลกที่เป็นมุกน้อยกว่าคนอื่น มันก็ท้าทายดีเพราะว่าทุกคนตลกหมดเลยแล้วผมต้องเป็นคนเดียวที่เล่นไม่เหมือนคนอื่น มันก็ยากดี ต้องกลั้นหัวเราเยอะเหมือนกัน มันก็เป็นการเปลี่ยนฟีลด้วยแหละครับ เพราะหลังจากที่ผ่านมาตั้งแต่ วัยรุ่นพันล้าน ก็จะเป็นดราม่า มาเรื่อยๆจนกระทั่งมาเรื่องนี้ ที่ได้กลับมาเล่นคอมเมดี้แบบจริงจังอีกครั้งหนึ่ง มันก็ดีนะ มันทำให้เปลี่ยนจังหวะการเล่นตัวเอง มันต้องดีไซน์เยอะขึ้นพอมันเป็นงานที่มันทำคอมเมดี้มันก็ต้องเตรียมตัวล่วงหน้าว่าต้องเล่นประมาณไหน จังหวะมุกตลกมันเป็นแบบไหน เพราะว่าคอมเมดี้มันก็มีหลายแบบ ก็ต้องหาต้องกลับมาดูหนังที่พี่ยอร์ชเคยทำว่าแบบจังหวะประมาณไหน มันก็ท้าทายดีครับ

ฝน ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล

รู้สึกยังไงกับการได้รับบทเป็นนางเอกในภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก?

จริงๆนี่เป็นหนังเรื่องที่ 2 ที่ฝนมีโอกาสเล่นหนัง แต่ว่าเป็นนางเอกเรื่องแรก ตื่นเต้นมาก เริ่มจากงานแรกในชีวิตในวงการก็คืองานหนัง และก็ไม่เคยได้เล่นหนังจริงจังอีกเลย นี่เป็นนางเอกเรื่องแรกมันดูยิ่งใหญ่มากสำหรับฝน ฝนก็ตั้งใจทำให้เต็มที่มาก นอกเหนือจากการตั้งใจทำงานก็คือไปไหว้พระ เพราะเราไปถ่ายกันที่ จังหวัดอยุธยา ก็เลยมีโอกาไปไหว้พระไว้ ขอพรให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จ จะได้ไปไหว้พระอีกรอบ ใครดูก็รู้ว่าสายบุญนี่เอง เรื่องงานนี่ตั้งใจอยู่แล้วแต่ว่าเรื่องกำลังใจมันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าเราคาดหวังไว้สูงมากๆ เพราะทุกอย่างมันลงตัวสำหรับเรา บทสนุก กองถ่ายสนุก ทุกอย่างออกมาดี เราก็หวังว่าผลลัพธ์มันจะออกมาตามที่เราตั้งใจไว้ก็เลยมีการไปทำบุญกันเล็กน้อย ถึงปานกลาง ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ

เจนนิเฟอร์ คิ้ม

รู้สึกยังไงกับการได้มาเล่นภาพยนตร์เรื่องแรก

นอกเหนือจากการที่เราจะต้องทิ้งตัวตนของเราเพื่อที่จะสวมบทบาทตัวละครตัวนั้นจริง ซึ่งไม่ใช่เราให้เหมือนที่สุดให้แนบเนียนที่สุดแล้วเนี่ย สิ่งหนึ่งที่พี่ว่ามันน่ารักที่สุดคือความเป็นพี่เป็นน้องความเสมอภาค จริงอยู่ที่มองออกไปแล้วเห็นภาพคนถือรองเท้าให้ กางร่มให้ ถือกระป๋องน้ำเดินตาม ดูเหมือนแบบเราได้รับการปฏิบัติแบบยิ่งกว่าซุปเปอร์สตาร์ จริงแล้วไม่ใช่ เรากินข้าวแบบเขากินเลย เรากินน้ำเหมือนเขากินเลย เราเข้าห้องน้ำเดียวกับห้องน้ำเขาเลย เราทำทุกอย่างเหมือนเขาเป๊ะเลย คือแบบระหว่างพี่กับช่างไฟทำเหมือนกันเลย ยืนข้างๆกันคุยกันยืนตากแดดรอคุยกันเพราะเราต้องอยู่ด้วยกันนานๆ พออยู่ด้วยกันนานๆสิ่งหนึ่งที่เราเป็นคือ เราจะเริ่มมีสติที่จะอยู่นิ่งไม่ได้อยู่กับแค่ตัวเอง เราจะเริ่มอยู่กับคนอื่น มองคนอื่น แล้วก็รู้สึกว่าเป็นทีมงานที่ทุ่มเทไปด้วยกัน

ถ้าเกิดหนังเรื่องนั้นมันดังมันเป็นที่พูดถึง ทุกคนจะมีกำลังใจมากแล้วมีความรู้สึกว่า แค่นี้แหละที่อยากได้ คนพูดว่าหนังเรื่องนี้ดีทุกคนจะรู้เลยว่าเคยมีส่วนร่วมอยู่ในนั้นแม้กระทั่งอาจจะไม่ได้เห็นตัวจริงๆของพวกเขา อาจจะเห็นแค่ชื่อยาวตอน End title ชื่อยาวเป็นร้อยยาวๆ พี่ก็คิดว่ากำลังใจที่ดีที่สุดก็คือการที่คนไทยสนับสนุนหนังไทย