ต่อเนื่องปีที่ 3 สำหรับการนำภาพยนตร์สุดคลาสสิคกลับมาฉายบนจอภาพยนตร์อีกครั้งในโปรแกรมพิเศษ House Classics by AIS Play เฉพาะที่โรงภาพยนตร์ House สามย่าน กับภาพยนตร์ ที่คอหนัง ตัวจริง ที่ไม่ควรพลาด 
เริ่มที่เดือนมีนาคมกับภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกที่ดีที่สุดตลอดกาล “Brief Encounter” ภาพยนตร์ ขาวดำปี 1945 เรื่องราวของคนสองคนที่มาเติมสีสันให้กันและกันในวันอันแสนธรรมดาวันหนึ่ง ณ สถานีรถไฟมิล ฟอร์ด ลอรา หญิงสาวที่แต่งงานแล้ว บังเอิญได้พบกับ อเล็ก แพทย์หนุ่มที่มีครอบครัวแล้วเช่นกัน การ “พบกัน ชั่วระยะเวลาสั้นๆ” ตามชื่อเรื่องนั้น ได้ก่อให้เกิดเป็นความรักที่ทั้งคู่ไม่อาจลืมเลือน ผลงานของผู้กำกับ เดวิด ลีน เรื่องนี้เป็นเพชรเม็ดงามของวงการหนังอังกฤษ และเป็นหนังรักโรแมนติกที่ครองใจผู้ชมมาทุกยุคทุกสมัย แม้อายุ ของมันจะย่างเข้าสู่ปีที่ 80 แล้วก็ตาม 
ถัดมาในเดือนพฤษภาคม พบกับ “A Room with a View” ภาพยนตร์โรแมนติกช้ำรักปี 1985 หนึ่งใน ผลงานที่ ประสบความสำเร็จสูงสุดของเมอร์ชานต์-ไอวอรี หนังชิง 8 รางวัลออสการ์ ยืนโรงฉายนานกว่าครึ่งปี แลtทำให้หนัง พีเรียดโรแมนติกกลับมาได้รับ ความนิยมอีกครั้ง ดัดแปลงจากนิยายของ อี.เอ็ม.ฟอร์สเตอร์ ซึ่งเวอร์ชั่น ภาพยนตร์สร้างโดย เจมส์ ไอวอรี ผู้ที่เขียนบทภาพยนตร์ “Call Me by Your Name” ปี 2017 ภาพยนตร์เรื่องนี้คือเรื่องราวของเด็กสาวชาวอังกฤษที่ได้พบรักกับชายหนุ่มรูปหล่อระหว่างเดินทางไป เที่ยวอิตาลี แต่เมื่อเธอกลับบ้านที่อังกฤษ ก็พบว่าพ่อแม่ได้ หมั้นหมายเธอไว้แล้วกับชายหนุ่มอีกคน 
มิถุนายนกับเทศกาล #PrideMonth กับภาพยนตร์คลาสสิค ที่เป็นประวัติศาสตร์หน้าสำคัญของ Queer Cinema พบกับ “Hedwig and the Angry Inch” ภาพยนตร์ปี 2001 โดยผู้กำกับ “จอห์น คาเม รอน-มิตเชลล์” หนังเควียร์มิวสิคัลเรื่องดังยุค 2000 สร้างจากละคร เพลงชื่อ เดียวกันนี้ เล่าเรื่องของ เฮดวิก สาวทรานส์สุดแซ่บจาก เยอรมันตะวัน ออก ที่ลี้ภัยคอม มิวนิสต์มาเป็นนักร้องเพลงร็อกในอเมริกา เธอผิดหวังกับความรัก กับความฝัน กับโลกทั้งใบ และ กับ “หนึ่งนิ้วอันเกรี้ยวกราดตรงหว่างขา” ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่าตัดแปลงเพศอันผิดพลาด หนังตระเวนกวาด รางวัลไปทั่วโลก เป็นหนึ่งใน 10 หนังยอดเยี่ยมของปี 2001 จากนักวิจารณ์หลายสำนัก ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 
เรื่องสุดท้าย (แต่ยังไม่ท้ายสุด) ในเดือนกรกฎาคม กับภาพยนตร์ที่หลายคนรอคอยที่จะสัมผัสเรื่องราว “ความ เหงา” และ “ความรัก” บนจอภาพยนตร์ อีกครั้งใน “Lost in Translation” ภาพ ยนตร์ ปี 2003 ของ “โซเฟีย คอปโปลา” โดย มี บิล เมอร์เรย์ รับบทนำ ในหนัง และเป็นภาพยนตร์แจ้งเกิด “สการ์เล็ตต์ โจแฮนสัน” ให้เป็น นักแสดง A-List แห่งวง การฮอลลีวู้ดหนังขึ้นหิ้งสำหรับคนขี้เหงา (และมีอายุครบ 20 ปีในปีนี้) เขาเล่นเป็นนักแสดง ชายตกอับที่ต้อง มาถ่าย โฆษณาในโตเกียว – เมืองที่ไม่มีใครยอมพูดภาษาอังกฤษกับเขาเลย จนกระทั่งเขาได้เจอกับ ชาร์ล็อตต์ หญิงสาวอายุคราวลูกที่ติดสอยห้อยตามแฟนหนุ่มมาญี่ปุ่น พวกเขากลายเป็นคนสองคนที่คุยกันรู้เรื่อง และจาก “ความเหงา” สิ่งที่คล้ายจะเป็น “ความรัก” ก็ก่อตัวขึ้น ผู้กำกับ โซเฟีย คอปโปลา ให้คำจำกัดความหนังเรื่องนี้ของเธอว่ามันเกี่ยวข้องกับ “อะไรบาง อย่างที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับอะไรได้เลย ตัวมันเองจึงพยายามมองหาจังหวะในการเชื่อมต่อกับสิ่งอื่นอีกครั้ง”
.
รอติดตามวันฉายและไลน์อัพภาพยนตร์คลาสสิคเพิ่มเติม
ที่เพจ Facebook/Twitter/Instagram : House Samyan และ www.housesamyan.com
#HouseClassics #AISPLAY #HouseSAMYAN
#BriefEncounter #ARoomwithAView #HedwigandtheAngryInch #LostinTranslation
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ
