ออกโรงปะทุพลังอย่างต่อเนื่อง สำหรับอุกกาบาตแห่งพรรคสีส้ม คุณวิโรจน์  ลักขณาอดิศร  ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล หลังเปิดประเด็นแฉวงการ สติกเกอร์ส่วยรถบรรทุก สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในสังคม พร้อมจับมือเผยข้อมูลจาก คุณอภิชาติ  ไพรรุ่งเรือง  ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ที่ร่วมแสดงหลักฐานต่อสื่อถึงการปัญหาที่ไม่ได้รับการแก้ไข จนมีหลายหน่วยงานรับลูก ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ หวังแก้ปัญหาเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์อย่างถอนรากถอนโคน วิเคราะห์กันสด ๆ ผ่านโต๊ะข่าวรายการ เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศข่าว บ๊อบ-ณัฐธีร์  โกศลพิศิษฐ์ โดย คุณวิโรจน์ ชี้หากแก้ที่คนไม่ได้ต้องแก้ที่ระบบ…

บ๊อบ ณัฐธีร์ : หลังออกมาเปิดเผยสติกเกอร์  ซึ่งมีมานาน ทำไมจึงเลือกออกมาเปิดเผยช่วงนี้ครับ?                

คุณวิโรจน์ จริง ๆ มีมา 30 กว่าปีแล้วครับ คนที่ทำธุรกิจขนส่งมักจะพูดว่าทำค้าขายอย่าค้าความ  ถ้ากำไรพอเหลือจ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะบ้างก็พอไหว  แต่นี่เศรษฐกิจเพิ่งฟื้นจากโควิด แม้รายได้จะเพิ่มขึ้น แต่ไม่เหมือนกับอดีต แล้วตอนนี้ค่าน้ำมันก็แพงขึ้น  มีการตัดราคากัน แล้วยังถูกเรียกส่วย เหมือนทำธุรกิจโดยไม่มีกำไร ประเด็นที่เป็นฟางเส้นสุดท้ายคือมีการไหว้วานให้ไปขนของ แต่ไม่รู้ว่าข้างในคืออะไร  หากเป็นยาเสพติด คนไหว้วานก็คงไม่รับผิด มีทั้งขอซื้อบัตร  ขอซื้อตั๋ว ขอดูแลนาย ขอเงินเพิ่มบวก ๆ สุดท้ายทำธุรกิจหรือต้องเป็นทาสส่งเงินให้กับคนเหล่านั้น                                                                                     

บ๊อบ ณัฐธีร์ : นี่คือความลำบากของผู้ประกอบการ ที่บอกว่าตอนนี้ค้าขายไม่ดี  กว่าที่จะได้กำไรมาชดเชยช่วงโควิด แต่ส่วยต้องจ่ายเท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม ที่บอกว่าเป็นฟางเส้นสุดท้าย ทำให้ทนไม่ไหว?                      

คุณอภิชาติ ตั้งแต่ คสช.เข้ามา จนกระทั่งรัฐบาลลุงตู่ 4 ปีหลัง รุนแรงขึ้น  ในอดีตน้ำหนักที่แบกก็ไม่เกิน 1015 ตันจากน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด สมัยก่อนราคามันไม่สูงขนาดนี้ พอหลังจากยุคคสช. ราคาป้ายปรับขึ้น  ความหลากหลายของสติกเกอร์มากขึ้น ก็มาจากเจ้าหน้าที่เองบ้าง  ผู้ทรงอิทธิพลในพื้นที่บ้าง  ก็มีมาเรื่อย ๆ                                                             

บ๊อบ ณัฐธีร์ : ที่คุณอภิชาติบอกว่ารถบรรทุกที่อยู่ในสหพันธ์ ไม่จ่าย?                                                  

คุณอภิชาติ : ไม่จ่าย เจอการกดดัน ทั้งอ้างว่าป้ายลบเลือน  รถที่วิ่งมาจากต่างจังหวัด ผ่านสวน ผ่านฝุ่น เขาก็ตั้งข้อหาว่ารถสกปรก  แล้วดอกยางเขาก็จะมาวัดเลย ไฟที่อยู่บนหลังคาจะมี ดวง ถ้าใครติดเพิ่มให้สว่างขึ้น ก็โดน 5,000 บาท นี่เป็นสิ่งที่คนทำถูกกฎหมายโดน         

คุณวิโรจน์ ต่อให้ไม่ผิดกฎหมาย ลองคิดถึงคนขับรถ ถูกเรียกตรวจบ่อย ๆ  เสียเวลา  ส่งสินค้าไม่ทันโดนปรับ โดนลูกค้าต่อว่า โดนตัดออเดอร์ แล้วคนที่ทำถูกทั้งหมดก็โดนเรียกตรวจเรื่อย ๆ  หากเป็นพนักงานขับรถก็ไม่มีความสุข เป็นตนโดนแบบนี้ 12 เที่ยวก็ลาออกแล้ว มันเครียด นี่ยังไม่นับโทษจุกจิก

คุณอภิชาติ แล้วปัญหาที่ตามมาคือถ้าหาจุดผิดพลาดไม่ได้ก็จะจับพนักงานขับรถตรวจปัสสาวะ ก็ให้ตรวจ บางทีไม่มีเลยแต่ทำให้มีได้  ค่าเคลียร์เรื่องปัสสาวะประมาณ 56 หมื่นบาท ถ้าโดน

คุณวิโรจน์ ถามว่าทำไมที่ผ่านมา พอเป็นข่าวก็หายไปพักหนึ่ง  จริง ๆ สติกเกอร์มีมานานแล้ว  พอเป็นข่าวก็หายไป 6 เดือนถึง 1 ปี   เพราะเขาปราบอย่างเดียว ย้ายผู้การทางหลวงเซ่น บางทีอาจจะผิดจุด เพราะระบบไม่ได้ถูกแก้        

บ๊อบ ณัฐธีร์ : อย่างนี้ถ้าจะแก้ระบบ เห็นบอกว่ามีแนวทาง ที่เขาขอย้ายตัวเองเพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ                                                                                                                               

คุณวิโรจน์ : ท่านแรกท่านพงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ทีนี้การย้ายตัวเองมันเป็นการแก้ปัญหาที่คน แต่ถ้าระบบมันไม่แก้ สุดท้ายก็เหมือนเดิม ต้องปราบปรามจริงจัง ทุกคนไม่แย้งอยู่แล้ว แต่สำหรับนโยบายในการอุดหนุน สังเกตตอนน้ำมันขึ้น รัฐบาลที่ผ่านมาไม่พยายามใช้นโยบายอุดหนุนแบบพุ่งเป้า เช่นอุดหนุนเรื่องเงินชดเชย หรือเงินหนุนหนุนค่าพลังงานให้รถโดยสารสาธารณะ รถขนส่ง เพื่อให้ราคาไม่สะท้อนมายังค่าสินค้าและบริการ ซึ่งมันจะกระทบกับค่าครองชีพ ส่วนใหญ่มักจะอุดหนุนทุกหัวจ่าย แต่เราไม่ได้เพิ่มเติมการอุดหนุนมายังกิจการขนส่งและรถโดยสารสาธารณะ                

บ๊อบ ณัฐธีร์ : ต้องถามผู้ประกอบการ มีความมั่นใจกับก้าวไกล กับคุณวิโรจน์มั้ย ว่าจะแก้ไขปัญหาส่วยได้?          

คุณอภิชาติ : มั่นใจเต็มร้อย เพราะอดีตที่ผ่านมาเวลาเขารับเรื่องของเรา ก็บอกเพียงจะติดตามและส่งให้ แต่นี่คุณวิโรจน์เจาะลึกเลย ลุยเองด้วย จริงๆ วันแรก ๆ ที่เผยแพร่ตะวันยิ้มหรือกระต่าย ยังคิดว่าเล่นมุกอะไรกัน สิ่งที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมขณะนี้เพราะประชาชนได้พิสูจน์แล้วว่า 8-9 ปีที่ผ่านมา เราไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่ถอยหลังลงคลอง เพราะฉะนั้นอะไรที่จะเปลี่ยนภาคธุรกิจให้ดีขึ้น จังหวะนี้แหละ  ส่วนการไม่มีประสบการณ์ ทุกคนไม่ได้มีมาตั้งแต่เกิด ในเมื่อมีการเรียนรู้ก็ทำให้เรามั่นใจว่าทำจริง                   

คุณวิโรจน์ คิดว่าตอนนี้เบาลงแล้ว แต่ที่ต้องแก้ต่อคือการไม่ให้เกิดขึ้นอีก และผู้ประกอบการที่สุจริตต้องอยู่รอดได้ อย่างที่เราบอกว่าจะทำนโยบายอุดหนุนอย่างพุ่งเป้า ให้ได้รับการดูแลให้สามารถทำกำไรได้โดยสุจริต ไม่มีกฎระเบียบอะไรให้เจ้าหน้าที่ไปจุกจิก ก่อความเดือดร้อนรังควาญเพื่อรีดเอาส่วย แก้ทั้งระบบคือ 1.ปราบปราม 2.แก้ไขกฎหมาย 3.มีการใช้เทคโนโลยี 4.ยกเลิกระบบตั๋วและการซื้อขายตำแหน่งในแวดวงตำรวจและข้าราชการ ถ้าเราทำทั้ง ธงนี้ได้ก็จะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างยั่งยืน                                                                      

ติดตามรายการ เจาะข่าวเด็ด สเปเชียล” (The Day News Update Special) โดยผู้ประกาศ บ๊อบ ณัฐธีร์ โกศลพิศิษฐ์” เจาะลึกกันแบบสด ๆ ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทางช่อง MONO29 หรือที่แอปพลิเคชัน MONO29 สามารถรับชมรายการย้อนหลังได้ที่ https://youtu.be/oqTTcJcttH0

#Mono29 #บ๊อบณัฐธีร์ #เจาะข่าวเด็ดสเปเชียล #ตะวันยิ้ม #ส่วย #วิโรจน์ #พรรคก้าวไกล

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ