นักแสดงและนักร้องสาว ปุยฝ้าย ณัฎฐพัชร์ ที่วันนี้ควงสามีหนุ่มตาม เธียรวิชญ์ เปิดจุดเริ่มต้นความรัก จากแฟนคลับสู่แฟนครับ พร้อมเคลียร์ข่าวออกจากวงการบันเทิง ไม่รับงานละครกว่า 4 ปี ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และเป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
แต่งงานมากี่ปีแล้ว?
ปุยฝ้าย : กำลังจะคบ 2 ปีค่ะ
ไปเจอกันได้ยังไง?
ตาม : พี่บอย พิษณุ แนะนำ
แต่ก่อนที่คุณบอย พิษณุ แนะนำ คุณตามเขาเป็น fc คุณฝ้ายมาก่อน?
ตาม : ใช่ๆ ผมดูตั้งแต่เขาออดิชั่น ตอนอ้วนๆ
คนเราเห็นใครสักคนในทีวี แล้วเราชื่นชอบเขา คิดเลยเหรอว่าเราต้องจีบเขาให้ได้?
ตาม : มันบังเอิญมากกว่า ถ้าไม่ได้เจอพี่บอยก็ไม่ได้เจอเขา ผมก็ถามพี่บอยว่าชอบคนนี้เขามีแฟนหรือยัง เขาบอกมึงแน่ใจเหรอ มันแปลกนะเว้ย แต่มึงลองคุยดูแล้วมึงจะรู้เอง หลังจากที่เราบอกว่าชอบ 7 เดือน ก็เจอเขาทุกเช้า เป็นไงพี่ได้เบอร์ฝ้ายยัง ได้ไลน์ฝ้ายยัง ถามอย่างนี้ทุกวัน
ทำไมต้องดึงถึง 7 เดือน?
ตาม : เหตุผลของพี่บอย เขาบอกว่าขอสกรีนดูก่อนว่ามึงเอาจริงหรือเปล่า
ปุยฝ้าย : เขาบอกว่าฝ้ายเวลามีแฟน ฝ้ายค่อนข้างจริงจัง จะเป็นคนที่ไม่ได้คบใครสะเปะสะปะ มีแฟนน้อยคน แล้วเวลาคบเราจะค่อนข้างจริงจังกับความรัก เพราะฉะนั้นเขาต้องดูก่อนว่าคนนี้มาแค่เตาะเล่นๆ หรือว่าตั้งใจจะจริงจังกับน้องตัวเอง
แล้วอะไรทำให้เราผ่านคุณบอยก่อน?
ตาม : ผมคิดว่าพี่บอยน่าจะสังเกตความสม่ำเสมอ จนผ่านมา 7 เดือนนางก็คง เออ…มันคงจริงเว้ย
ฝั่งพี่บอยได้มาพรีเซ้นต์ให้คุณฝ้ายฟังไหมว่าคนนี้เขาสนใจเราอยู่นะ?
ปุยฝ้าย : บอกค่ะ ตอนนั้นฝ้ายจะซื้อบ้านต่อพี่บอยก็เลยนัดดูบ้าน แกพูดว่าฝ้ายมีคนชอบนะ มีคนสนใจ ฝ้ายบอกไม่เอากำลังทำงาน ตอนนั้นเราโสดมานาน แล้วเรารู้สึกว่าเอ็นจอยกับการใช้แรงงานตัวเอง แล้วไม่อยากเอาความรู้สึกมาเป็นภาระ เพราะตอนมีแฟนมันเป็นภาระทางใจ เรารู้สึกแฮปปี้ เขาบอกมึงนิสัยดีมาก เรียบร้อย ก็บอกว่าขอดูรูปหน่อยแกก็เปิดรูปให้ดู
พอเห็นรูปแล้วเป็นไง?
ปุยฝ้าย : ฝ้ายก็บอกบ่มัก หนูบอกผู้ชายเกลี้ยงๆ ตาโตๆ คมๆ มันมาขีดเดียวเลย พอเราเห็นบุคลิก เราไม่ได้ตัดสินว่าเขาดีไม่ดีนะคะ อาจจะเป็นความรู้สึกแรก อาจจะไม่ได้โดนเท่าไหร่ เฉยๆ และหลังจากนั้นพี่บอยก็สะกิดตลอดเห้ย..นิสัยดีนะ แล้วเราเห็นเขามีรอยสัก เรามีทัศนคติเกี่ยวกับความรัก เรารู้สึกว่าเราถึงวัยที่จะหาความปลอดภัยในความสัมพันธ์ ไม่ได้คบด้วยความหวือหวา พอเห็นมาสักๆ จะเปรี้ยวหรือเปล่า จะเจ้าชู้หรือเปล่า เราขี้เกลียดปวดหัว
ตอนนั้นชนะใจเขาได้ยังไง?
ตาม : ผมน่าจะสม่ำเสมอ มีความเป็นตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ ไปไหนก็ชวนตรงๆ ไม่ไปก็ไม่เป็นไร
โมเมนต์ที่เจอกันครั้งแรก?
ปุยฝ้าย : โคตรฮา เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น นัดกัน เดตแรกคุณบอยบอกว่าจะมาด้วย อยู่ดีๆ ก็เท แล้วแบบเดี๋ยวก่อนไปกันสองคน แล้วฉันจะยังไง เราอาจจะไม่ได้สปาร์คเขามาก เราอยากให้มีเพื่อนไปสักคนไปช่วยกันคุย คนนี้แชร์โลเคชั่นมาให้ หนูเสียเส้นตั้งแต่ตรงนั้นเลย เรารู้สึกว่าเดตแรกทำไมเขาไม่เอ่ยปากว่าเดี๋ยวไปรับ ฝ้ายบอกว่าพี่บอยเขาแชร์โลเคชั่นมา ทำไมเขาไม่มารับฝ้ายวะ พี่บอยบอกว่ามึงพิการเหรอ ไปเองไม่เป็นเหรอ ไม่ใช่เดตแนกก็ควรมารับเราป่ะเราก็คิดไปเอง พี่บอยบอกว่าไปเองดีแล้ว ถ้ามึงไม่ชอบจะได้ปลีกตัว ซึ่งตอนนั้นเรามีปัจจัยนึงที่เราไม่อยากขับรถเองเพราะว่าคอนโดฝ้ายถ้ากลับค่ำนิดนึงที่จอดรถไม่มีแล้ว เราเลยรู้สึกว่าไม่อยากเอารถเราออกไป นี่คือเหตุผลจริงๆ แต่พี่บอยว่าไม่ ให้เราขับรถไป ฝ้ายบอกนั่งแท็กซี่ได้ไหม เขาบอกไม่ได้ เดี๋ยวฝ้ายจะดูแรด เหมือนไม่เอารถไปเพื่อให้เขามาส่งเรากลับ ฝ้ายก็เลยโอเคงั้นขับรถไปเจอกัน พอไปเจอเขา เขาจอดรถรอก่อนแล้วหน้าร้านอาหารญี่ปุ่น พอเขาเห็นเราเขาก็เดินอ้อมไปหลังร้านเหมือนเข้าไม่ได้ วนกลับมาข้างหน้าใหม่ แล้วเราก็อะไรของมันวะ
เขินจนเสียทรงเหรอตาม?
ตาม : เสียอาการหน่อยครับ ตื่นเต้น
ปุยฝ้าย : เดินไปหาเขาเลยนะ เดินสวนกันแล้วเขาแกล้งทำเป็นไม่เห็นเรา หนูก็เลย พี่ตามป่ะคะ อ่อ ครับ
คุณตามตอนนั้นคิดอะไรอยู่ เห็นเขาไหม?
ตาม : เห็นพี่ เห็นตั้งแต่เลี้ยวแล้ว เราไปทำการบ้านมาว่าเขาขับรถอะไร พอเห็นเขาเลี้ยวมา เราฟอร์มไว้ก่อน ไม่เห็นพอฟอร์มเสร็จมันตื่นเต้น จริงๆไม่มีอะไรหรอก หาอะไรทำไปเรื่อย พอเห็นก็ไม่กล้าทักแค่นั้นเอง
ปุยฝ้าย : ทั้งๆ ที่คุยไลน์กันแล้ว วันนั้นเขาคุยกับเรา เขาไม่มองหน้าเลยนะพี่ หลบตาตลอด ฝ้ายบอกร้านนี้เปล่า เขาบอกว่าใช่ครับ เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนครับ
ตาม : ติ่นเต้น เราชอบเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
วันนั้นสวยไหม?
ตาม : สวยนะ คือเขาไม่ได้แต่งหน้า ไม่ได้แต่งตัวใดๆ เลย มาเสื้อยืดแขนยาว กางเกงยีนส์ ใส่หมวก สวยนะ ผมชอบผู้หญิงไม่ค่อยแต่งหน้าเยอะ
ทำไมวันนั้นไม่แต่งหน้าเลย?
ปุยฝ้าย : เป็นคนไม่แต่งตัว ไม่แต่งหน้า ถ้าทำงานถึงแต่ง แล้วก็เรารู้สึกว่า เราเป็นสไตล์นี้ เราจะไม่พยายามที่จะเห้ยเขาต้องประทับใจ
ทำไมวันนั้นไม่ไปรับปุยฝ้าย?
ตาม : ผมรู้สึกว่าถ้าผมเสนอตัวไปอย่างนี้ มันจะเหมือนจู่โจมมากเกินไปหรือเปล่า
เห็นว่ากว่าจะได้ไลน์ กว่าจะได้คุยกันมันยากมาก?
ปุยฝ้าย : มันผ่านวีดิโอคอลก่อน เพราะพี่บอยก็ยังไม่ได้ให้ไลน์ ให้เราวีดิโอคอลกัน นู้นนี่นั่น ก็ยังไม่มีการแลกไลน์กันสักที
แล้วได้ไลน์ยังไง?
ปุยฝ้าย : ก็เป็นแผนอีกแหละ คือฝ้ายฝากซื้อของที่ฮ่องกง แล้วโทรไปพี่บอยซื้อยัง เห้ย…เฮียนวดวะ แต่ไอตามมันออกไปเดินเล่น เอางี้ มึงเอาไลน์มันไปแล้วทักไปให้มันซื้อ
ตาม : มันคือความบังเอิญครับ
แผนนี้ได้ผลไหม?
ปุยฝ้าย : มันกลายเป็นว่าได้ฝากเขาซื้อ แต่เราเกรงใจมาก บอกพี่ห้ามซื้อให้นะ ต้องเก็บเงินนะ เพราะตอนนั้นเราไม่ได้ปักหลักว่าคบเขาเลย เราคุยด้วยความจริงใจจริงๆ ว่าเดี๋ยวขอโอนเงิน หลังจากนั้นก็คือมีไลน์กัน แต่เขาก็สุภาพ เขาไม่จู่โจม เขาอาจจะบอกว่าสวัสดีครับ ทำอะไรอยู่ นู้นนี่นั่น คุยทั่วไปปกติ
ตอนนั้นเขาฝากซื้ออะไร?
ตาม : น้ำหอมพี่ แต่ผมไม่ได้คิดเงินเขา
แต่พอได้คุยกันกลับรู้สึกว่าคุณตามไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นที่เคยรู้จักมาเลย?
ปุยฝ้าย : ตั้งแต่วันแรกที่เจอเขา ด้วยความที่เราไม่ได้เขินอาย เราเป็นตัวเอง 100% หนูกินทุกอย่างที่หนูอยากกิน หนูไม่สนใจว่าเขาจะมองหนูยังไง พอคุยไรู้สึกว่าข้างในเขาจิตใจดีมาก เรากลับรู้สึกเป็นห่วงเขา มาคุยกับเรากลัวทำเขาเสียใจ เราก็เลยบอกเขาตั้งแต่วันนั้นเลยว่าฝ้ายไม่ได้คิดกับพี่แบบแฟนนะ เรารู้สึกว่าเขาเป็นคนดี เขาบอกว่าไม่เป็นไรเราเป็นเพื่อนกันก็ได้ครับ แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ
ตาม : ตั้งแต่เจอกันวันแรก จนถึงวันขอแต่งงาน ไม่มีวันไหนไม่เจอกันเลย
ปุยฝ้าย : ขยาดไม่ชอบนะ แต่เจอทุกวัน
มีหยอดคำหวานให้คุณฝ้ายไหม?
ตาม : ผมเป็นคนใช้คำหวานจีบผู้หญิงไม่ค่อยเก่ง
ปุยฝ้าย : พอหลังจากเจอวันนั้น เราก็นิ่งๆ กับเขา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ด้วยความที่เขาเป็นคนดี เรารู้สึกว่าที่ผ่านมาผู้ชายที่เข้ามาจีบเรา ทำให้เรารู้สึก เห้อ เจตนามันชัด บางทีมาก็ดูแบบน่ากลัว เรารู้สึกว่าเราต้องเอาสภาพหัวใจเราไปปวดหัวกับผู้ชายอย่างนี้ แต่คนนี้ทำไมมันเหมือนน้ำที่นิ่งๆ มันสงบ เจอกันไม่มีการโดนตัวเราเลย จนเราถามว่าแตะตัวฉันบ้างได้ไหม คนนี้เขาซื่อมาก สุภาพมาก นิ่งมาก เรารู้สึกว่าไม่มีเสน่ห์โคตรๆ แต่อีกมุมเรารู้สึกปลอดภัยที่คุยกับเขา
แล้วจุดไหนที่รู้สึกว่าอยากจะคบกับคนนี้?
ปุยฝ้าย : ไม่มีพี่ มันคุยกันทุกวัน คุยไปเรื่อยๆ แล้วมันค่อยๆ ซึมไปไม่รู้ว่าคบกันเมื่อไหร่ ไม่เคยตกลงเป็นแฟนกัน
ตั้งแต่ร้านโอมากาเสะแล้วแต่งงานเลยเหรอ?
ปุยฝ้าย : ใช่ค่ะ
ตาม : หลังจากคุยๆ กันมาสัก 6-7 เดือน พี่ขอเป็นแฟน
ปุยฝ้าย : เธอไม่เคยขอฉันเป็นแฟน เนียนไปเรื่อยๆ ไปสวีเดนยังไม่ขอเป็นแฟนเลย
ตอนนั้นขอเป็นแฟนตอนไหน?
ตาม : น่าจะประมาณ 5 เดือน พอขอเป็นแฟนปุ๊บ เขาบอกว่าไวไป หลังจากนั้นผ่านไปอีกสักหน่อยประมาณ 8 เดือนยอมตกลงเป็นแฟน
การแต่งงานในครั้งนี้ต้องใช้คำว่า คุณพระช่วย?
ปุยฝ้าย : ไปทำบุญด้วยกัน แล้วมีพระผู้ใหญ่รูปหนึ่งที่ท่านเหมือนทำนายทายทักแล้วแม่นยำมากๆ แล้วเจอกันครั้งแรกท่านบอกพี่ตามว่าโยม รีบจับจองเป็นเจ้าของนะ เพราะคู่เขาอีกชาตินึงกำลังง้างธนูแล้ว
ตาม : หลวงพ่อท่านก็เรียกเลย ตามๆ มานี่ๆ รีบไปขอเขานะ ยังไม่ต้องแต่งก็ได้จองไว้ก่อน ไม่งั้นฝรั่งตาน้ำข้าว นู้นนี่นั่น
หลังจากที่ท่านบอกนานไหมถึงแต่ง?
ตาม : ไม่นานๆ ประมาณ 4-5 เดือน
ตอนนั้นตามมั่นใจเลยไหมอยากใช้ชีวิตที่เหลือกับผู้หญิงคนนี้?
ตาม : มั่นใจพี่
ปุยฝ้าย : เขาบอกว่าเขาปักหมุดที่เราไว้แล้ว แต่เรายังไม่ได้ปักหมุดที่เขา เรายังงงๆ เคยบอกว่าเธอจะหาเรื่องขอฉันแต่งงาน ถามกูก่อนนะ เดี๋ยวกูเซย์โนมาแล้วเขินนะ ก็ยังคุยกันขำๆ แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะขอวันนั้น
สุดท้ายโมเมนต์โรแมนติกก็เกิดขึ้น?
ตาม : ตื่นเต้นมาก มีการวางแผน คนแรกเลยโทรหาพี่บอยก่อน พี่ถ้าผมจะขอฝ้ายแต่งงานที่ไหนดี พี่บอยก็แนะนำพี่มีที่นึง ค่อนข้างโรแมนติกอยู่ บนเรือ ผมก็โอเคประมาณวันนี้ๆ นะ คุยกับพี่บอยเสร็จปุ๊บโทรหาแม่ แม่จะขอลูกสาวแม่แต่งงานนะ ตามนั้นนะด้วยความสนิทกันมาก แม่แกก็บอกว่าแล้วแต่มึงเลย เอาไปเถอะ มึงคิดดีแล้วนะ
ปุยฝ้าย : แต่แม่เขาชอบพี่ตามมากอยู่แล้ว ปกติเขาไม่ได้รักใครง่ายๆ แล้วตัวพี่ตามเองเขาก็รักแม่เรา ก็เลยคุยกันเยอะ เลยสนิทกัน
พอแม่บอกโอเคปุ๊บ วันขอเป็นยังไง?
ตาม : ลงเรือที่เอเชียทีค พอนัดแผน สถานที่เรียบร้อยกับพี่บอย บอกเพื่อนๆ ที่สนิททั้งเพื่อนฝ้ายและเพื่อนผมว่าเป็นประมาณนี้นะ ช่วงนั้นเป็นจังหวะที่ฝ้ายกับแม่ฝ้ายงอนๆ กัน เราก็ห่วงว่าแม่จะมาไม่ได้ แต่แม่เองให้ความร่วมมือดีมากๆ วันนั้นทั้งตื่นเต้นและดีใจที่แม่ลูกได้กอดกัน รักกัน
ก่อนหน้านั้นไม่คุยกันนานเท่าไหร่?
ปุยฝ้าย : อาทิตย์กว่าๆ แต่ก่อนหน้านั้นฝ้ายจะคุยกับแม่ทุกวัน เหมือนเรายังเป็นเด็กอยู่ มีอะไรก็บอกเขาหมด แค่ไม่คุยกัน 2-3 วันคือแย่แล้ว
มาเจอแม่อีกทีบนเรือ?
ปุยฝ้าย : แม่ใส่มาสคอตมาเป็นชุดกระต่าย
ต้องทำเซอร์ไพรส์นู้นนี่นั่น จัดการกับตรงนั้นยังไง?
ตาม : ผมกับพี่บอย เราเตรี๊ยมกันมาดี อย่างแหวนนางก็ช่วยซ่อนให้ วางคิวให้ อแมนด้า ภรรยาพี่บอยก็ให้ความร่วมมือด้วย
ปุยฝ้าย : วันนั้นที่ฝ้ายไป เพราะ อแมนด้า โทรหาฝ้ายนะ เพราะว่าฝ้ายขี้เกียจออกจากบ้าน ฝ้ายเป็นมนุษย์ถ้ำ พออแมนด้า โทรมาไปก็ได้
อยู่ดีๆ ก็ขึ้นเรือไป แต่งสวยแบบนี้เลย?
ปุยฝ้าย : จริงๆ หนูเปลี่ยนกางเกง ตอนแรกใส่กางเกงขาดๆ สบายๆ แล้วลากแตะสไตล์หนู พี่ตามบอกว่าต้องแวะไปหาเพื่อนที่สยาม ช่วยเปลี่ยนกางเกงแบบสุภาพให้หน่อย แต่หัวก็ไม่ได้สระนะ
แล้วประโยคแรกที่ฝ้ายพูดคืออะไร?
ปุยฝ้าย : ทำอะไรของมึงเนี่ย มันตกใจ หันใปตกใจกระโดดหนี แล้วหันไปถาม ทำอะไรของมึงเนี่ย แล้วคือหนูกับพี่ตามเวลาคุยกันบางคนไม่เข้าใจ ทำไมเราพูดจาไม่สุภาพกับเขาเลย เราวัยใกล้กันมาก แล้วมีความเป็นเพื่อนสูงมากเราคุยกันเหมือนเพื่อนมาก
ตอนนั้นตกใจไหม ที่เขาบอกมึงทำอะไรของมึงเนี่ย?
ตาม : ตอนนั้นหูดับแล้ว ตื่นเต้น
ปุยฝ้าย : เขาบอกถึงเวลาแล้วนะ ต่อไปพี่ดูแลหนูเองไม่ต้องเหนื่อยแล้ว หนูก็เหมือนพยักหน้า
แต่งงานมา 2 ปีแล้ว ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่ด้วยกันเหรอ?
ตาม : ช่วงนี้งานก่อสร้างทางเหนือรับมาเยอะ แล้วคุณพ่ออายุเยอะแล้ว ก็เลยต้องเข้าไปดูแลแทน
แล้วฝ้ายไม่ไปแพร่กับเขาเหรอ?
ปุยฝ้าย : เราก็มีภารกิจทำงานอยู่ที่นี่เหมือนกัน แล้วก็มีลูกๆ แมวๆ ที่เราทิ้งไม่ได้ ไปบ้าง แต่ไม่ได้อยู่นานเท่าเขา
เวลาไม่ได้อยู่ด้วยกัน คู่รักแต่งงานมันมีปัญหาอะไรไหมในระยะทางการคบหา?
ปุยฝ้าย : ไม่มีเลย 100% ต้องใช้คำนี้ เพราะว่าเราไม่เคยทุกข์ใจเวลาเขาไม่อยู่ เขาไม่เคยทำอะไรให้เราไม่สบายใจมันก็เลยเชื้อใจ 100% ไม่เคยทะเลาะกันเลย
ไม่รับละครมา 4 ปีเร่งปั๊มลูกหรือเปล่า?
ปุยฝ้าย : ไม่เลยจริงๆ ที่ไม่ได้รับละคร เพราะว่าก่อนหน้านั้นเราทำเยอะ ถ่ายละครเยอะ มันอาจจะเจอจุดอิ่มตัวเล็กๆบวกกับโควิดเราหยุด พอหยุดเราได้พักจริง เรารู้สึกว่าเวลาเราสงบเราดันชอบตัวเองแบบนั่น และหลังจากที่เราไม่รับงานละครมา 4 ปี ก็มารับละครเวที อลม่านหลังบ้านทรายทอง ที่เขาเล่นมาแล้ว 100 รอบ เราจะเป็นรอบที่ 101
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์–วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ