ขึ้นแท่นนักแสดงตัวท็อปของเมืองไทย ชาย ชาตโยดม เปิดความสำเร็จในฐานะนักแสดงตัวพ่อของเมืองไทย ขึ้นจุดสูงสุดของอาชีพ ต้องแลกอะไรบ้าง ควงคู่น้องชาย มิค บรมวุฒิ” เผยนาทีเซอร์ไพรส์ ทำน้ำตาแตกกลางรัชดาลัยเธียเตอร์ มุมลึกๆ พี่น้องสุดซี้ สามารถแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันได้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 ที่มี เบนซ์ พรชิตา และ ชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ

 

สามารถแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันได้ จริงมั้ย?

ชายมิค : จริง

 

พี่ชายประสบความสำเร็จจุดสูงสุดทางการแสดง?

ชาย : ยังไปได้อีก

 

ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยตก แต่ปีนี้พีคหลายอย่าง?

ชาย : ด้วยความบังเอิญด้วยแหละด้วยหลายๆ งานถ่ายพร้อมๆ กันมาเรื่อยๆ พอออกอากาศก็มาพร้อมกันทีเดียว กลายเป็นว่าตอนนี้งานเยอะ มันถ่ายมาเรื่อยๆ เป็นช่วงจังหวะมากกว่า

 

ไม่ใช่แค่เยอะ ที่สำเร็จเป็นเรื่องที่ทุกคนพูดถึง ไม่ใช่แค่คนดูละคร มีคุณพ่อคุณแม่ปู่ย่า แม้แต่ลูกหลานก็ดูละครพี่ชาย และชื่นชมบทบาทพี่ชาย ตีบทแตก รู้สึกยังไง?

ชาย : ดีใจที่งานที่เราตั้งใจ เราเต็มที่กับงานมาตลอด แต่ไม่ได้ไปทัชใจกับทุกคนทุกบทตลอด แต่เรื่องนี้มีอะไรสักอย่าง องค์ประกอบรวมเข้าถึงจิตใจ ไม่ได้ให้แค่ความบันเทิงอย่างเดียว เข้าถึงจิตใจใครหลายคนด้วย ตอนเล่นมันส์มาก ชอบที่อยู่ในกองแล้วได้ปลดปล่อยเต็มที่ (หัวเราะ)

 

พี่มิคเม้าธ์สิ มีคนเม้าธ์พี่ชายมั้ยกับการรับบทนี้?

มิค : เม้าธ์ในทางที่ดี เช่นเล่นเหมือน แต่ก่อนหน้าจะมาออนแอร์พร้อมกัน เราคุยกันเยอะ พี่ชายรับหลายเรื่อง แต่ปรากฎว่าจังหวะมากกว่าที่ได้มาออกอากาศพร้อมกัน มันเป็นช่วงพีคที่เหมือนกับว่าหมอหลวงกำลังสนุก ก็ต่อด้วยละครเวที ต่อด้วยมาตาลดา เขาโชคดีมากที่มันผลักขึ้นอย่างเดียว มันคุ้มมากกับช่วงก่อนที่ถ่ายทำเยอะ จังหวะชีวิตคือดีมาก

 

มีอินติดกลับบ้าน?

ชาย : ชายเป็นอย่างนั้นของชายอยู่แล้ว ต้องให้กี้ (วิกกี้ สุนิสามาออกอีกคน เขาจะบอกเลยว่าอยู่ที่บ้านก็เป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้เลย เป็นพี่ชายที่เห็นในจอ

 

มิค : พี่ชายเป็นคนที่มีความเป็นผู้หญิงในตัวสูง

 

ชาย : กี้จะเป็นคนแมน ชายจะมีความเป็นผู้หญิงสูง เช่นทำกับข้าว เลี้ยงลูก

 

มิค : ร้องไห้ก็ไปก่อนทุกคน เป็นสไตล์เขา

 

ชาย : ตั้งแต่เด็ก เวลาเดินจะทิ้งก้น แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันผิดปกติ จนกระทั่งโตแล้วเข้าวงการ ช่วงนายแบบก็โดนทักว่าทำไมเดินทิ้งก้นตลอดเวลา เราก็บอกว่านี่เราเดินปกติ ธรรมชาติที่เดิน จนต้องมาเซ็ตใหม่

 

ตลอดเวลาที่พี่ชายยังไม่แต่งงาน หลายคนก็สงสัยอยู่แล้วว่าพี่ชายเป็นมั้ย พอมาเล่นเรื่องนี้เหมือนตอกย้ำว่าหรือว่า..?

ชาย : (หัวเราะกี้ยังถามอยู่ทุกวันนี้ว่าใช่ใช่มั้ย ถ้าจะบอกอะไรก็บอกตอนนี้ได้เลย เพราะเราสามารถเลี้ยงลูกด้วยกันได้ พี่ชายอยากมีชีวิตในแบบพี่ชายก็ไม่เป็นไร แต่เราเลี้ยงลูกด้วยกัน เวลาทำก็ทำต่อหน้ากี้นั่นแหละ ปัญหาอย่างนึงคือเดินใส่ส้นสูงไม่เป็น พอไปฟิตติ้งมารู้ตัวอีกทีคือเดินไม่ได้เลย ก้าวขาไม่ออก เลยขอรองเท้าส้นสูงเขามาเดินที่บ้าน ก็กี้นั่นแหละที่เป็นโค้ชให้ เดินยังไง แล้วก็สับๆ จนเข้าที่เข้าทาง

 

มิค : ทุกวันนี้เอาไปคืนหรือยัง

 

ชาย : ยัง ยังเก็บอยู่ (หัวเราะ)

 

อาชีพเราทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้แล้ว?

ชาย : เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เคยคิดเลยนะ เด็กๆ หาจุดมุ่งหมายในชีวิตไม่เจอ โตจนเข้ามหาวิทยาลัย ยังไม่รู้เลยว่าอยากเรียนอะไร อยากไปทางไหน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวเลยว่าเราเรียนอะไรที่พ่อแม่ภูมิใจแล้วกัน พ่อแม่ไปคุยกับเพื่อนๆ ได้อย่างสมมติลูกเป็นหมอก็เท่ดีนะ คิดแค่นั้นจริงๆ เลยนะ สาบาน แล้วเลือกเรียนวิศวะ เพราะคิดว่าถ้าพ่อแม่ไปคุยกับเพื่อน ก็คงจะเท่ แต่พอมาเริ่มทำงานในวงการก็ฝังใจอยู่ตลอดเหมือนกันว่าพ่อแม่จะโอเคมั้ย เขาโอเคกับสิ่งที่เราทำหรือเปล่า เพราะมันนานแล้วนะ เราทำจะ 30 ปีแล้วนะ จนเรื่องนี้แหละ คุณแม่ไลน์มาทุกวันว่าเพื่อนแม่โทรมาหานะ เพื่อนพ่อไลน์มาบอกนะว่าดูละครชายแล้วเก่งจังเลย มันเพิ่งได้สัมผัสความรู้สึกตรงนี้ว่าพ่อแม่ภูมิใจในอาชีพของเรา

เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนรักตัวพ่อเกรซมากๆ ทั้งที่ไม่ใช่ตัวละครที่หลายคนจะได้เล่น อยากถามว่าครั้งแรกที่ตัดสินใจรับ?

ชาย : ไม่ได้คิดอะไรเลย ปกติถ้าพี่จ๋า ยศสินี บ้านอาจิ๋ม มยุรฉัตร โทรมา จะเล่นทันที ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งพี่จ๋าบอกว่าให้ฟังก่อน จะเล่นเป็น LGBTQ+ นะ เราก็โอเค สนุกดี เขาบอกใจเย็นฟังก่อน แต่ว่ามีลูกด้วยนะ เราก็เออ ได้ยังไง ฟังก่อน เป็นเจ้าของแดรกโชว์และเป็นแดรกควีนด้วยนะ เราก็เริ่มเอาใหญ่แล้ว (หัวเราะเริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกว่าจะสนุก พอได้ทำจริงๆ ก็เต็มที่

 

พี่มิคเข้าวงการใกล้เคียงกับพี่ชาย?

ชาย : ก็มาคู่กันเลย แรกๆ ชายเริ่มเล่นละคร เริ่มเข้าวงการ มิคก็ไปกองถ่ายด้วยกัน

 

มิค : ถ่ายโฆษณา

 

ถามจากใจ เวลาเป็นนักแสดงทำอาชีพเดียวกัน แต่บทบาทไม่เหมือนกัน โดนเปรียบเทียบกับพี่ชาย น้อยใจมั้ย?

มิค : มีเคยโดนเปรียบเทียบเพราะเล่นบทไม่เหมือนกันตั้งแต่แรก พี่ชายเขามีความเป็นผู้ใหญ่อยู่แล้ว อย่างละครเรื่องแรกที่เล่นด้วยกัน เป็นเรื่องที่สามในชีวิตมิค พี่ชายเล่นเป็นพี่ คู่ที่หนึ่ง เราเล่นเป็นคู่สอง เรื่องนั้นพี่ชายเล่นกับวิกกี้ พี่เล่นกับจอย ชลธิชา ไม่ได้ทับไลน์กันอยู่แล้ว บทที่มิคได้รับก็เฮฮาซะมากกว่า ไม่ค่อยโดนเปรียบเทียบ จะมาช่วงหลังเสียมากกว่า ที่แข่งกันเล่นบท LGBTQ เพราะว่ามันเคยเป็นบทของเรา แล้วทุกคนมาถามเราว่าเสียใจมั้ยไม่ได้เล่นมาตาลดา เราก็เสียดายนะ เพราะจริงๆ มันเป็นบทของเรา

ชาย : เดี๋ยวๆ

 

มิค : แต่พอดูเขาเล่นแล้ว ให้เขาเล่นเถอะ เหมาะกับเขากว่าเยอะเลย

 

ชาย : ละครเรื่องแรกในชีวิตเล่นเป็นเกย์นะ กับพี่หมิว รักเล่ห์เพทุบาย

 

มิค : ถึงได้บอกว่าคนเพิ่งมาคิดไม่แปลก เพราะเขาเข้าวงการเรื่องแรกก็เล่นเป็นเกย์เลย และไม่แปลกไปอีก เพราะเมียเขายังถามเลยว่าเขาเป็นมั้ย ตั้งแต่เกิดน้อยใจมันอย่างเดียวจนถึงวันนี้ คือความสูง ไม่แบ่งความสูงมาให้กูเลย เคืองเรื่องนี้ (หัวเราะทำไมชายสูงแล้วมิคเตี้ย

 

ชาย : ทุกคนในครอบครัวไซส์มิคหมดเลย

มิค : ซึ่งพ่อแม่เก่งมาก เก็บมาเลี้ยงได้หน้าตาเหมือนคนในบ้านหมดเลย

 

ชาย : (หัวเราะฝั่งคุณตาจะสูง ข้ามรุ่นมาได้คนเดียว

 

มิค : แล้วขโมยนมทุกคนกินตอนเด็กๆ ไง รู้งี้ตอนนั้นนอนขโมยนมเหมือนเขาก็คงดี (หัวเราะ)

 

ตั้งแต่เข้าวงการไม่เคยมีปมในใจ?

มิค : ไม่มี ถ้าเทียบกับพี่เรา แต่ถ้ากับคนอื่น กล้าพูดว่ามี สมมติบทนี้ ผู้จัดติดต่อมาว่า เหลือมิคกับคนนี้อาจเสียใจ แต่ถ้าบทอย่างเรา ขอให้พี่ตั๊ก บริบูรณ์เล่นได้มั้ย อย่างนี้ไม่โกรธ เพราะรู้เลยมันทำดี แต่ถ้าเปรียบเทียบกับพี่ชาย ไม่เคยโกรธเลย เรายิ่งส่งเสริม แต่อาจใส่ยาพิษในน้ำนิดหน่อยให้ขี้แตกบ้าง (หัวเราะ)

 

เบนซ์ : พี่น้องเขารักกันมา แต่เวลาเราเดินไปกับพี่มิคเขาจะชอบมาแซว ว่าชายเล่นละครดี ทำไมเธอไม่เล่นละครกับเขาบ้าง เขาอาจไม่รู้สึก แต่เราก็แบบ ทำไมต้องมาว่าพี่มิคด้วย เขาไม่คิดมันก็โอเค แต่เราเป็นห่วงนางว่าเขาโอเคมั้ย

มิค : เวลาพี่ชายทำดีเราก็ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน

 

ภูมิใจความเป็นพี่มิคอยู่แล้ว?

มิค : ไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร เหมือนตีกอล์ฟ แข่งขันกับตัวเองดีกว่า อย่าไปแข่งกับคนอื่น เพราะบางทีโอกาสมาไม่พร้อมกัน บทก็อาจไม่เหมาะกับเรา  

 

พี่ชายเคยได้ยินคอมเมนต์แบบนี้มั้ย?

ชาย : ไม่เคยมีคนมาพูดแบบนี้ แต่ถ้าพูดแบบนี้กับชาย ชายรู้สึก เพราะไม่อยากให้ใครมาเปรียบเทียบเหมือนกัน เพราะน้องชายก็สนับสนุนชายเต็มที่ เหมือนทุกคนในครอบครัว ต่างคนต่างสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้ามีคนพูดก็คงไม่ชอบ แต่ยังไม่มีใครพูด

 

มิค : ถ้ามีคนมาพูดต่อหน้าพี่ชายว่าพี่ชายเล่นดี แต่มิคเล่นไม่ได้เรื่อง เชื่อว่าพี่ชายจะมีคำพูดดีๆ กับคนนั้นที่มาทัก

เรื่องความสูง รู้มั้ยว่าเขาน้อยใจ?

มิค : ไม่รู้ก็บ้า

 

ชาย : เราก็ทับถมกันเต็มที่ (หัวเราะ)

 

เคยบอกพี่ชายหรือยัง หลังละครเวทีประสบความสำเร็จ ปลื้มใจกับเขาแค่ไหน?

ชาย :   ตอนขึ้นละครเวทีก็มาเพื่อซัปพอร์ต ไม่ได้มาแค่ครั้งเดียว มาดูละครทีวี 3-4 ครั้ง

มิค : มันจุกมาถึงนี่ วันแรกรอบพรีวิล ไปดู พ่อแม่ไป น้าๆ ไปกันหมด มันจุกตรงคอ พูดอะไรไม่ได้ เพราะร้องไห้แน่ พูดได้คำเดียวพร้อมเบนซ์ว่าโอ้โห รวย หลังจากนั้นก็เดินไปกอดเขา เชื่อว่าพี่ชายรู้อยู่แล้วกับความภาคภูมิใจที่พี่ชายได้ทำ เราให้อะไรเขาไม่ได้หรอก นอกจากกำลังใจ เพราะรู้ว่าสิ่งที่เขาทำมันยิ่งใหญ่ เหมือนข้ามมาอีกสเต็ป คนอาจจะว่ามิคก็ได้ว่าอวยพี่ แต่ตอนที่เขาเล่นฉากที่เขาจะตาย มิคเห็นภาพพี่ชายเป็นฮิว แจ็คแมน เล่นอยู่บนเวที มิคก็แบบเฮ้ย เด็กๆ ทุกคนอยากมีฮีโร่ในบ้าน แล้วมันเป็นพี่เราเอง เราอยากไปกอดเขาเมื่อไหร่ก็ได้ (เสียงสั่นเครือมันภูมิใจและรู้ว่าพี่ชายรู้ เราบอกเขาตลอดสู้ๆ นะเว้ย เพราะคนแบบนี้อยากอยู่กับลูก การอยู่กับละครเวทีต้องใช้เวลาทุกวัน หลายเดือน ไอ้นี่ห่างลูกไม่กี่ชม.ก็ร้องไห้อยู่แล้ว ได้แต่ให้กำลังใจว่าสิ่งที่ยูทำ คนในครอบครัวเป็นสิบกว่าคนเขาเห็นนะเว้ย และเขาโคตรภูมิใจในตัวยูเลย

 

พูดแล้วน้ำตารื้น?

มิค : เสียลุค (น้ำตาไหล)

 

ชาย : ครอบครัวสำคัญที่สุดเสมอ ตั้งแต่คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยาย พี่น้อง รวมถึงภรรยา เป็นสิ่งเดียวที่ชายรู้สึกว่าสำคัญที่สุดในชีวิต จังหวะที่เราพยายามเต็มที่ ในจังหวะที่เราเหนื่อย เรากำลังท้อ ตอนอยู่บนเวทีทุกคนอาจไม่รู้ คนอาจมองภาพว่าชายกำลังสนุกกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ แต่บางทีชายแค่รู้สึกเหนื่อยจังเลย สุดท้ายพอมองลงไป เห็นคนที่เรารักและเขาภูมิใจในสิ่งที่เราทำ เราเห็นแค่นั้น (ร้องไห้ทำไมต้องมาถึงจุดนี้ทุกครั้งเลย

มิค : วันนั้นถึงได้พูดแค่ภูมิใจในตัวเขา พูดมากกว่านั้นไม่ออก

 

เบนซ์ : บางคนอาจอยากเล่นละคร อยากเป็นนักแสดง แต่พี่ชายคือรักในอาชีพนักแสดง ภูมิใจกับสิ่งที่ตัวเองทำทุกรายละเอียดทุกๆ งานและทุ่มเทมาก โดยเฉพาะละครเวที และละครทุกเรื่องที่เล่น เราสัมผัสได้ พอไปดูแล้วเราเข้าใจเขาเลย เวลาที่อยากอยู่กับลูก อยู่กับงานทั้งหมดเลย พอได้กำลังใจจากทุกคนก็มีความสุข

 

พี่เอก พี่ชายคนโต ไม่ได้อยู่เมืองไทย ก่อนหน้านี้กลับมาเดือนครึ่ง

มิค : เขาทำงานที่โน่น ก่อนหน้านี้ไม่ได้กลับมาเลย 5 ปีเต็มๆ เพราะมีโควิด

 

ชาย : ก่อนโควิดก็ไม่ได้กลับมา

 

มีประเด็นที่พี่ชายไม่ได้ไปต่างจังหวัดกับครอบครัว?

ชาย : ช่วงที่พี่เอกกลับมาตลอดเกือบ 2 เดือน ชายทำงานทุกวันเลย เจอกันประมาณ 3 ครั้ง พี่เอกลงเครื่องกลับมา ชายซ้อมละครเวทีเสร็จประมาณเที่ยงคืน ถึงได้ตามมาเจอที่บ้าน หลังจากนั้นก็ทิ้งช่วงกันไป

มิค : เราก็ไปต่างจังหวัด พี่ชายไม่ได้ไป ส่งลูกกับกี้มา แล้วมาเจอเลี้ยงฉลองวันเกิดพี่ชายอีกหนึ่งครั้ง ก่อนพี่เอกบินกลับช่วงสั้นๆ ชม.สองชม.

 

ชาย : ก็เสียดาย มันเป็นช่วงเวลาที่ในใจชายรู้สึกอะไรหลายอย่างมาก โอกาสที่เราจะรวมตัวกัน เป็นความฝันของชาย คุยกันตั้งหลายครั้งแล้ว อยากให้คุณพ่อคุณแม่พาเราไปเที่ยวทั้งครอบครัวที่ต่างจังหวัด แล้วมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ

 

มิค : ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะพี่เอกไม่ได้กลับมาหลายปี เริ่มมีลูกมีหลาน เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นไม่เคยได้ไป แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไป พูดแทนทุกคนในบ้านว่าทุกคนคิดถึงพี่ชาย ช่วงที่เขาไม่ได้มา พี่เอกนั่งอยู่บ้านมิค นอนบ้านมิคทุกวัน คุยกันทุกวันว่าเสียดายที่พี่ชายไม่ได้มา ยูไม่ต้องเสียใจ เพราะคุณพ่อ คุณแม่ พี่เอก รู้ว่าสิ่งที่ยูทำยิ่งใหญ่มากกว่าแค่มาเจอกัน ต่อให้ยังไง เจอกัน 3-4 ครั้งก็มีค่ามากพอแล้ว ไม่ใช่ว่ายูไปเที่ยวไม่ว่างมา สิ่งที่ยูกำลังทำ ยูทำเพื่อทุกคนอยู่แล้ว (ร้องไห้)

 

ชาย : ความรู้สึกของชาย ทุกอย่างที่เราทำอยู่ มันเหมือนจะเทียบเท่าได้อยู่กับครอบครัวได้ยังไง (เสียงสั่นเครือแล้วเราไม่มีโอกาส เราไปไม่ได้จริงๆ (ร้องไห้)

 

ได้คุยอะไรกับพี่เอกบ้างไม่ได้เจอกันนาน?

มิค : ตอนซ้อมละครเวทีเสร็จแล้วไปเจอพี่เอก เป็นยังไงบ้าง

 

ชาย :   พี่เอกเป็นเหมือนเดิม แค่คิดถึงแหละ เพราะโตมาด้วยกัน พอถึงเวลาแยกกันนาน จนเรารู้สึกว่าเราจะไม่มีโอกาสมาอยู่รวมกันจริงๆ เหรอ เขาอยู่ 2 เดือนถือว่านานมากแล้วนะ เป็นโอกาสน้อยครั้งในชีวิตที่จะได้อยู่รวมกันจริงๆ ยิ่งตอนนี้หลานเต็มบ้านไปหมด มันหาโมเมนต์นี้ยาก

 

มิค : พี่ชายอยู่เต็มๆ เลยก็ 2 วัน ก็คือนัดถ่ายรูปครอบครัว กับวันที่เลี้ยงวันเกิดพี่ชายล่วงหน้า นั่นเป็นสองครั้งเท่านั้นใน 50 กว่าวัน ที่พี่ชายได้อยู่ด้วยกันเยอะ

 

ชาย : ถึงพลาดไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน แต่ประสบการณ์ที่ได้อยู่ด้วยกันอยู่รวมกัน นั่งกินข้าวด้วยกัน แค่มองไป เราไม่จำเป็นต้องมานั่งจับกลุ่มคุยกันทุกคน แค่มองไปในมุมต่างๆ แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว

 

มิค : ตอนพี่เอกพี่ชายคุยกัน เหมือนอยากคุยกันแต่เขินๆ

 

ชาย : พี่เอกก็เงียบ ชายก็เงียบ (หัวเราะ)

 

พี่มิคพี่เอกทำเซอร์ไพรส์พี่ชายจนร้องไห้?

มิค : พี่เอกกลับมา รอบพิษสวาท เดอะมิวสิคัลหมด แต่โชคดีเขาต่อรอบ พี่ชายก็ถามในกลุ่มว่าอยากมาดูวันไหน พี่เอกบอกไปดูได้เปล่า ก็บอกพี่เอกว่าอยากเซอร์ไพรส์พี่ชายหรือเปล่า เดี๋ยวจัดการให้ อย่าตอบพี่ชาย

ชาย : ถามหลายรอบมาก (หัวเราะ)

 

มิค : จนวันนึงกี้ไปเจอพี่เอก ทั้งที่เตี๊ยมทุกอย่างเสร็จแล้ว กี้เดินมาหา พี่เอกคะ ตกลงพี่เอกอยากดูวันไหนคะ อยากดูหรือเปล่าคะ แล้วพี่เอกก็เหมือนนึกขึ้นได้ ก็บอกว่าต้องดูคิวอีกทีว่าอยู่บ้านวันไหน เหมือนยั้งทัน เพราะระหว่างนั้น เบื้องหลังถ้ากี้เป็นคนจอง พี่ชายจะรู้ว่าไปวันไหน มิคแอบไปคุยกับทีมงานซื้อตั๋วไว้เสร็จหมดแล้วโดยไม่ให้พี่ชายรู้ว่าจะไปดูวันนี้ กี้ก็ไม่ให้รู้ ดังนั้นวันนั้นเลยแอบไปกัน บ้านภรรยาพี่เอก มิค และพี่เอกไป พอไปถึงพี่เอกถามว่าชายเขาเห็นเราใช่มั้ย มิคก็บอกว่าไม่เห็น เขาจะไม่รู้ว่าเรานั่งอยู่ตรงไหน เขาจะรู้ตอนเราแหกปากตอนจบ นั่งดูไปเรื่อยๆ จนจะจบ พอจบเสร็จเราถึงแหกปากให้พี่ชายเห็นว่าเรามา

ชาย : ชายไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะปกติทุกรอบ ทีมงานจะถามว่าพี่ชาย วันนี้มีแขกมั้ย ถ้ามีแขกจะได้รอเพื่อถ่ายรูป

 

มิค : ที่น่าสงสารกว่านั้น มิคโทรไปถามพี่แอ้ ว่าพี่ชายรู้มั้ย พี่แอ้บอกว่าไม่รู้น้องมิค เมื่อกี้ถามน้องชายว่าวันนี้มีแขกมั้ย น้องชายยังบอกว่าไม่มีเลย ก็บอกว่าดีพี่ บอกไปเลยว่าไม่มี เดี๋ยวผมจะทำทุกวิถีทางให้พี่ชายรู้เองว่าผมอยู่ในนั้น

 

ชาย : แล้วทุกรอบ ทุกคนจะออกมายืนเรียงกัน ตบมือโค้ง แล้วจะมีเสียงเฮ้ๆ เราก็คิดว่าใครเนี่ย ไร้มารยาทมาก (หัวเราะเขามาดูละครเวทีต้องมีมารยาท ต้องเกรงใจคนอื่นเขาบ้าง หันไปดูอ้าว!

 

มิค : ก็วี้ดๆ ให้คนทั้งฮอลล์หันมาดูพี่

 

ชาย : พอเห็นเขานั่งอยู่ก็ตกใจ ไม่คิดเลยว่าใครมา ตกใจตรงที่ พอมองไปพี่เอกมาด้วย พยายามถามอยู่หลายรอบมากว่าจะมาดูมั้ย จะจองตั๋วให้ สุดท้ายก็มาเซอร์ไพรส์

มิค : จะถามทีมงานตลอดว่าใครมาดูพี่เรามั้ย เราอยากให้มีคนไปเพื่อให้เขารู้สึกว่า เขาเล่นเสร็จแล้วมีคนมาหา

 

ตอนน้ำตาแตกคือตอนไหน?

มิค : เขาเห็นว่าเรามา ก็เชิญให้ขึ้นไปถ่ายรูปด้วยกันบนเวที พี่เอกไม่เคยหน้าใกล้พี่ชายขนาดนี้ ใน 30 ปี

 

ชาย : ดีใจมาก

ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

คลิปสัมภาษณ์ ชาย – มิค 

https://youtu.be/PIpppnxyYo0?si=T4pCE4Pgzj6EQlDC

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ