หลายคนคิดว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องไกลตัว คงต้องพึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาจัดการ แต่ความเป็นจริงแล้ว ทุกคนคือพลังเล็ก ๆ ที่สามารถดูแลสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้ดีขึ้นได้ แม้แต่เด็กและเยาวชนที่ไม่คิดว่าจะเปลี่ยนแปลงอะไรให้โลกได้ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวัน
TikTok พร้อมด้วย 3 พันธมิตร จึงได้สร้างสรรค์ไอเดียดี ๆ ด้วยการชักชวนให้เด็กและเยาวชนมาช่วยกันรักษ์โลก และดูแลสิ่งแวดล้อมไปด้วยกัน ด้วยวิธีง่าย ๆ ผ่านแคมเปญ “REact For Change ลองเปลี่ยนโลก”
นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ TikTok ประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาใหญ่ที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทยในการก้าวสู่ Net Zero ในปี 2070 ซึ่งหลายคนมองประเด็นนี้ว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่ TikTok เห็นความสำคัญจึงต้องการใช้แฟลตฟอร์มที่มีมาปลูกฝังแนวคิดการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้กับคุณครูและนักเรียน
“ปัญหาสิ่งแวดล้อมถ้าทำเพียงลำพัง โอกาสสำเร็จจะเกิดยาก TikTok จึงร่วมมือกับ 3 พันธมิตรที่จะมาช่วยกันผลักดันแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ที่ดูแลโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ดูแลโครงการโรงเรียน Eco–School และ บริษัท คิดคิด จำกัด เจ้าของเว็บไซต์ ECOLIFE ที่ช่วยจัดการขยะ โดย TikTok และพันธมิตรทั้ง 3 จะร่วมมือกันสร้างการรับรู้ และการมีส่วนร่วม ด้วยการจัดกิจกรรม และใช้แพลตฟอร์ม TikTok เป็นช่องทางในการสื่อสาร” นางสาวชนิดา กล่าว
แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะจัดขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2566 โดยชวนเด็กและเยาวชนมาสร้างสรรค์คอนเทนต์ภายใต้เนื้อหา 3 RE Challenge ที่ประกอบด้วย Refill : ชวนพก กระบอกน้ำ กล่องข้าว ชวนเติมเพื่อลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง Recheck : เช็คการใช้ชีวิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมง่าย ๆ ทำได้อย่างไรบ้าง Recycle : ชวนแยกขยะประเภทต่าง ๆ แยกอย่างไร ขยะไปไหนต่อ โดยนำคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์มานำเสนอผ่านช่อง TikTok โดยเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคุณครูตามข้อกำหนดการใช้งานของTikTok
ระหว่างการจัดกิจกรรมตลอด 3 เดือน คุณครูหรือเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการ สามารถเข้ามากรอกรายละเอียดการแยกขยะในแต่ละเดือนลงเว็บไซต์ ECOLIFE เพื่อติดตามผลการลดขยะ การแยกขยะ และสามารถคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย โดยโรงเรียนที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุด 10 อันดับแรก จะได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีขยะมากกว่า 9,000 ตันต่อวัน สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้เพียงร้อยละ 30 เราจึงมีเป้าหมายที่จะจัดการขยะแบบมุ่งเน้นให้ขยะเหลือศูนย์ โดยปลูกฝังค่านิยมการคัดแยกขยะอย่างเป็นระบบ และสนับสนุนให้มีการคัดแยกขยะที่ต้นทาง รวมถึงนำไปแปรรูปเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งนับว่าสอดคล้องกับแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก
“เรารู้สึกยินดีที่ TikTok ริเริ่มแคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก และกรุงเทพมหานครได้ให้การสนับสนุนด้านการสื่อสารโครงการและประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายคุณครู และนักเรียน ในเครือข่ายโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีมากกว่า 400 แห่ง รวมทั้งจะส่งเสริมการเก็บข้อมูลการแยกขยะผ่านเว็บไซต์ ECOLIFE เพื่อคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่วนตัวเชื่อว่าพลังของเด็กคือพลังที่ยิ่งใหญ่ และมั่นใจว่าแคมเปญนี้จะเกิดอิมแพ็คที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอน” นายชัชชาติ กล่าว
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ดูแลโครงการโรงเรียน Eco–School กล่าวว่า โรงเรียน Eco–School เกิดจากความมุ่งมั่นที่ต้องการพัฒนางานสิ่งแวดล้อมศึกษาในโรงเรียน ให้สอดคล้องกับแนวทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อปลูกฝังความเป็นพลเมืองเพื่อสิ่งแวดล้อม ให้เกิดขึ้นแก่ครู นักเรียน บุคลากรในโรงเรียน รวมถึงชุมชน ปัจจุบันมีโรงเรียน Eco–School 931 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศ
“แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะช่วยส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และยังเป็นกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ทำให้นักเรียนได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่น ประสบการณ์ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ผ่านช่อง TikTok ซึ่งเมื่อเราเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนนำเสนอคอนเทนต์ในสไตล์ของเขา แล้วสื่อสารไปยังคนวัยเดียวกันที่มีความสนใจคล้ายกัน ก็เชื่อว่าจะเป็นการรวมพลังที่แข็งแกร่งขึ้น เพื่อมาช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของเราให้ดีขึ้นด้วย” นายจตุพร กล่าว
นายพิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คิดคิด จำกัด วิสาหกิจเพื่อสังคมที่ให้คำปรึกษาด้านพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมกับองค์กร และเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ECOLIFE กล่าวว่า ECOLIFE เกิดขึ้นเพื่อจูงใจให้คนเลิกรับหลอดและถุงพลาสติก โดยมีโจทย์ว่าการใช้งานจะต้องง่าย สนุก และสามารถบอกผลเรียลไทม์ว่าร้านค้าหรือสถาบันการศึกษาแต่ละแห่งสามารถลดพลาสติกไปได้มากน้อยแค่ไหน
“แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ทุกคนสามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการพกกระบอกน้ำเพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง การแยกขยะเพื่อรีไซเคิล หรือการหยุดคิดสักนิดว่าการใช้ชีวิตของเรามีตรงไหนที่จะทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้อีกบ้าง และเมื่อทุกคนดูแลสิ่งแวดล้อมแล้ว คุณครูหรือเจ้าหน้าที่โรงเรียนก็สามารถมากรอกข้อมูลในเว็บไซต์ ECOLIFE เพื่อติดตามผล และคำนวณการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว
นางสาวชนิดา กล่าวทิ้งท้ายว่า TikTok เชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์ได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ซึ่ง แคมเปญ REact For Change ลอง เปลี่ยน โลก เกิดจากกลยุทธ์ Smart Environment ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ TikTok เพื่อส่งเสริมให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการปฏิบัติตัวในชีวิตประจำวันเพื่อทำโลกของเราให้ดีขึ้น ซึ่งทุกคนสามารถติดตามคอนเทนต์ดี ๆ ภายใต้เนื้อหา 3 RE Challenge ของเด็กและเยาวชนได้ที่ช่องTikTok และเชื่อว่าคอนเทนต์เหล่านี้จะทำให้เกิดผลกระทบเชิงบวก เกิดการรับรู้ และนำไปสู่การปฏิบัติในวงกว้าง ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และสามารถติดตามผลลัพธ์แคมเปญ REact For Change ลองเปลี่ยนโลก ได้ที่ www.ecolifeapp.com
#REactForChange #TikTokรักโลก #ลองเปลี่ยนโลก
#ECOLIFEapp #ECOLIFEchallenge #ไม่เทรวม #EcoSchool