อาไท กลมกิ๊ก ที่วันนี้ควงแฟนสาว น้ำเพชร อิสรีย์ อดีตนางงามจากเวทีดัง มาเปิดโมเมนต์ขอเป็นแฟนกลางโอซาก้า พร้อมเคลียร์ประเด็นคบกันเพราะคอนเทนต์ ฝ่ายหญิงหวังเกาะกระแส อาไท จริงไหม ? ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และชมพู่ ก่อนบ่าย เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
เพิ่งขอเป็นแฟนกันเมื่อฮาโลวันที่ผ่านมา?
อาไท : วันฮาโลวีนเลยครับ
ทำไมต้องเป็นโอซาก้า?
อาไท : เพราะเป็นประเทศแรกที่ไปด้วยกันครับ แล้วผมเคยพูดไว้ในรายการต่างๆ ว่า ตอนนี้เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่วันนึงเราจะเป็นแฟนกัน และที่ผมจะขอเขาเป็นแฟนจะไม่ใช่ที่ไทย ต้องเป็นต่างประเทศ
วันนั้นเซอร์ไพรส์ไหม?
น้ำเพชร : เซอร์ไพรส์ค่ะ แต่ในใจก็แอบคิดไว้แล้วแหละ เพราะว่าเขาออกรายการเขาจะบอกตลอดว่าจะขอเป็นแฟนที่ต่างประเทศ ที่นี่แน่ๆ แต่ไม่รู้วันไหน
วันนั้นคนเยอะมาก?
น้ำเพชร : ใช่ คนเยอะมาก
วันนั้นเขาขอยังไง?
น้ำเพชร : เขาพูดกับกล้อง บอกว่าเราคุยกันมานานแล้ว วันนี้ คุณน้ำเพชร เป็นแฟนกับผมนะครับ เราก็พยักหน้าโอเค ก็เขิน ตื่นเต้น กะเทยก็เยอะไปกับแก๊งหิ้วหวี
ทำไมไม่ขอตอนเช้า หรือตอนดึกๆ ที่คนน้อยๆ?
อาไท : ตอนเช้าตัดออก เพราะตื่นไม่ทัน กลางคืนผมว่าพี่ๆ เขาอยู่ไม่ครบองค์ประชุม แต่นี่คือแก๊งหิ้วหวีเจาอยู่ครบองค์
มีคิดไหมถ้าขอเขาแล้ว วันนั้นเขายังไม่พร้อม เราจะเตรียมใจยังไง?
อาไท : ไม่เตรียมเลย เพราะรู้ว่ายังไงก็เป็นแน่ เพราะอยู่ที่ไทย ผมถามเขาตลอด แซวว่าสวยจังเลย แฟนใครครับเนี่ย เขาบอกไม่มีแฟน เพราะยังไม่มีใครขอ
น้ำเพชรบอกว่าคิดไว้ในใจไม่ได้ขอที่นี่แน่เลย ต้องเป็นที่ Universal ?
น้ำเพชร : ใช่ค่ะ ด้วยความที่เราแต่งตัวเหมือนกัน เราเป็นเจ้าหญิง เขาเป็นมาริโอ้ ก็คิดว่าต้องที่นี่แหละ บรรยากาศก็ให้ด้วย เราก็รอทั้งวัน แต่ก็ไม่ขอ สรุปที่ไหนหนอ
พอเขาไม่ขอเราคิดไหมว่า หรือเขาไม่ขอ แค่มาเที่ยว?
น้ำเพชร : ก็มีบ้าง เขาจะไปขอที่ไหนนะ แต่ก็ยังหวังอยู่ว่าวันต่อไปเป็นวันที่ขอ แต่มันคือวันฮาโลวีน แต่ก็ไม่คิดว่าเขาจะขอวันนี้ไหม
ตอนแรกอาไทเกือบไม่ได้ไปเหรอ?
อาไท : ใช่ครับ เกือบไม่ได้ไปทริปนี้ เพราะเขาบอกว่าไปเที่ยวกับพี่ๆ แก๊งหิ้วหวี อยากให้เป็นฟีลพี่ๆ ไป เพราะเดี๋ยวกลัวว่าไม่สะดวก
น้ำเพชร : ใช่ ด้วยความที่เขาเป็นแก๊ง LGBT
อาไท : เขาบอกว่ากลัวเราอึดอัด แต่เราสนิทกับพี่ๆ เขาประมาณนึงแล้ว แต่เวลาผมอยู่กับพี่ๆ แก๊งหิ้วหวี ผมก็ยังเงียบอยู่ ยังไม่ค่อยคุย จะฟังเขามากกว่า เพราะเขาเป็นคนพูดสนุกมาก
ตอนที่เป็นแฟนกันแล้ว ทะเลาะกันเลยเหรอ?
อาไท : ใช้คำว่าวันรุ่งขึ้น ตื่นเช้ามายังไม่เท่าไหร่ ตกช่วงเย็นเราไปซื้อของฝากกลับไทย แล้วเราไปซื้อกระเป๋าลากใบใหม่ แล้วเรามีเป้มันหนักกล้อง เราเลยจะเอากล้องออกจากเป้ เข้ากระเป๋าลาก ก็เอาผ้าห่อกล้องแล้วยัดเข้ากระเป๋า เขาบอกว่าทำอะไรให้มันเร็วๆ หน่อยได้ไหม ทำช้ามากเลย หลายรอบแล้ว ชอบทำอะไรช้า ซึ่งมันก็ไม่ช้าหรอก แต่เราปราณีต
น้ำเพชร : เขาเป็นคนที่ทำอะไรช้ามากเลย ในขณะที่เราเร็ว เขาจะช้าแบบสล็อตทำงาน จนบางทีแบบเสร็จหรือยัง ช้าไปหรือเปล่า ช้ามากเลยคุณ ทำอะไร
มันจี้ดใจเราเหรออาไท?
อาไท : เราก็รู้สึกแหละ อันนี้มันควรจะปราณีตไง เขาบอกว่ารู้ว่าห่อ แต่ให้เร็วกว่านี้ได้ไหม
น้ำเพชร : เขาช้าทุกเรื่องเลย ในขณะที่เราสปีด
อาไทช้าเรื่องอะไรบ้าง?
น้ำเพชร : เรื่องแต่งตัว อาบน้ำ แปรงฟัน เก็บของ เตรียมของออกจากบ้าน
เรื่องถ่ายรูปก็ทำให้ทะเลาะกัน?
น้ำเพชร : คือเราตกลงแล้วว่าเพชรชอบให้ถ่ายรูปโฟกัสที่ตัวเรา แต่เขาชอบให้เราแยู่ริมไปถ่ายเน้นวิว คือถ่ายแบบนี้ลงแล้วมันไม่สวย เราต้องการแบบนั้น มันเป็นหลายๆ ครั้ง ทำไมรูปมันเบี้ยวจังเลย คุณชอบถ่ายรูปแนวนี้มากเลย
อาไท : เราไปดูที่เขาสอน คือมันมีตาราง 9 ช่อง เขาบอกให้แบบอยู่ซ้ายหรือขวา แล้วตรงนั้นมันเป็นทางรถไฟ เราอยากให้แฟนเราอยู่ตรงมุม แล้วเห็นเป็นทางรถไฟยาวไป เพราะถ้าอยู่ตรงกลางมันก็ไม่เห็นทางรถไฟ
น้ำเพชร : ผู้หญิงอยากให้อยู่เซ็นเตอร์ตรงกลาง
อาไท : ก็ไม่ถึงขั้นโวยวาย เขาแค่บอกว่ามันคุยกันหลายรอบแล้วว่าทำไมไม่ให้อยู่ตรงกลาง
สุดท้ายใครชนะ?
อาไท : เขา พอถ่ายรูปเสร็จปุ๊บผมก็เดินไปหาที่นั่ง เราถ่ายรูปก็อยากโดนชมว่าถ่ายสวย เราก็ไปดูไงว่าถ่ายยังไงให้สวย
เห็นว่าเกือบจะเลิกกัน เพราะน้ำเพชรถามว่า เราไม่เข้าใจกันแบบนี้เรายังอยากเป็นแฟนกันอยู่ไหม?
น้ำเพชร : ใช่ มันหลายๆ เรื่องราวที่เราไปเที่ยวด้วยกัน เรารู้สึกว่าเราอาจจะไม่น่ารักสำหรับเขา เราก็ถามเขาตรงๆ ว่ารู้จักกันขนาดนี้แล้ว ยังอยากเป็นแฟนกันอยู่ไหม ยังชอบกันอยู่ไหม เขาตอบว่ายังโอเคอยู่ เขายังไหว
อาไทตอบเลยไหม หรือเราคิดทบทวนกับตัวเองก่อน?
อาไท : ผมว่าคู่รักมันมีแหละ นิสัยที่ต้องปรับกัน มันไม่มีสิ้นสุดหรอก ที่บอกว่าเรายังไหว เพราะเราเป็นคนที่เคลียร์กับความคิดตัวเองไว เราโกรธแป๊บนึง ขอเราไปอยู่นิ่งๆ พักนึบ เรากลับมาเรายิ้มแย้มเหมือนเดิมแล้ว ขอเราไปเคลียร์ความคิดตัวเองพักนึง
รู้ว่าเขายอมแบบนี้รักเขามากขึ้นไหม?
น้ำเพชร : มีแต่รักเขามากขึ้นทุกวัน แล้วกลัวว่าเขาจะไม่โอเคกับเรา กลัวว่าเขาจะยังรักเราเหมือนเดิมไหม
เคยคิดจะเจอกันครึ่งทางไหม?
น้ำเพชร : คุยกันตลอด ปรับกันตลอด ด้วยความที่เขาใจเย็นเลย เพชรอาจจะทำอะไรเร็วมาจนชิน แล้วอยู่คนเดียวมาจนชิน พอมาเจอกัน มันคนละขั้วกันเลย มันได้เรียนรู้บางอย่างถ้าทำช้ามันก็ดี เขาก็เรียนรู้ว่าบางอย่างถ้าทำเร็วมันก็ดี
ก่อนหน้านี้เกือบไม่มีการขอเป็นแฟนแล้วนะ เพราะเชื่อหมอดู หมอดูบอกว่าคู่นี้ควรจะเป็นเพื่อน ห้ามเปิดตัวเป็นแฟน ไม่อย่างงั้นต้องเลิก?
อาไท : เราไปด้วยกัน ไปถ่ายรายการแม่มดดำตอนกลางคืน
น้ำเพชร : เปิดไพ่กับอาจารย์อุ๋ย
อาไท : เขาบอกว่าคู่นี้เป็นแฟนกันไม่ได้ ถ้าเป็นแฟนเลิก เป็นเพื่อนกันปังมาก เราก็ทำใจ เพราะเขาเชื่อมูมาก
แต่ตอนนั้นคุยกันแล้วว่าเราอาจจะเป็นแฟนกัน?
อาไท : ตอนนั้นเพิ่งเริ่มคุยกัน ตอนนั้นก็ถอดใจ เรารู้สึกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ เขาเป็นคนเชื่อมูอยู่แล้ว แต่มีคำคำนึงที่ทำให้ผมไม่ถอดใจ พี่ทีมงานวันนั้นเขาเดินมาบอกผมว่า อาไทไม่ต้องเครียดนะ เพราะดวงคนเราเปลี่ยนทุกๆ 3 เดือน เราก็อ้าว…มีโอกาสดิ่
ทริปโอซาก้าหลังจากนั้น 3 เดือนไหม?
อาไท : 6 เดือนครับ แต่ยังไม่ได้เปิดไพ่ใหม่ เพราะกลัวไม่ได้คู่กัน
2 คนนี้เจอกันได้ยังไง?
อาไท : เจอที่รายการก่อน เราทำรายการแล้วเราก็ชอบเขา เราเห็นเขาในโซเชียลก่อน
ทำไมถึงชอบทั้งที่ยังไม่ได้เจอ?
อาไท : ผมแพ้ทางผู้หญิงตลกแล้วสวย เขาดังในติ๊กต๊อก เราเลยมาบอกรายการที่เราทำว่าเอาคนนี้มารับเชิญหน่อยได้ไหม อยากเจอเขา เขาก็รับไว้พิจารณา หลังจากนั้นหลายเดือนนะ เราเห็นรายชื่อแขกรับเชิญ น้ำเพชร ดีใจเลย วันนั้นกะเต็มที่ เล่นตลกโชว์หญิง คนจะรู้มันจะเยอะแล้วมันจะพาว สรุปวันนั้นไปเขินเล่นอะไรไม่ออกเลย
วันนั้นได้คุยกับเขาไหม?
น้ำเพชร : ไม่ได้คุยเยอะค่ะ เพราะเพิ่งเจอกัน
วันนั้นรู้ไหมว่าเขาแอบชอบเราอยู่?
น้ำเพชร : เราไม่รู้ว่าเขาชอบประมาณไหน ปลื้มๆ เพราะมีข่าวปลื้มๆ
อาไท : ตอนเราโสด เราปลื้มคนเยอะ เรารู้ตัวเองว่าเราปลื้มได้ แต่เรารู้ว่าเราเป็นแฟนกับเขาไม่ได้หรอก เราก็ประมาณตัวเองไว้ ไปจีบเขามันยาก แต่พอเขามาฟอลโล่ไอจีเรากลับ เริ่มละ
น้ำเพชร : เขาแท็กมา แล้วเราร่วมงานกัน เราก็ฟอลกลับ
ถ้าไม่มีใจไม่มีทางฟอลโลว์กลับ?
น้ำเพชร : เขาก็น่ารักดี
แล้วมาเล่นละครด้วยกัน?
น้ำเพชร : ใช่ค่ะ
อาไท : ความบังเอิญนะครับ อันนี้ไม่มีการบอกว่าชอบ บังเอิญว่าเราได้เล่นเรื่องนี้กับคนนี้ พี่พิมมาดา เขาไปทราบมาว่าอาไทชอบน้ำเพชร เขาเลยปรับบทให้ตอนสุดท้ายเราเป็นแฟนกัน แล้วระหว่างเรื่องได้ใกล้ชิดกัน
อาไทรู้สึกว่าไม่เหมาะสมกับนางงามคนนี้?
อาไท : จริงครับ อย่างที่บอกเราประมาณตัวเองถูก อย่างที่รู้เราก็เป็นตลกคนนึง เขาเป็นดีกรีนางงาม มันก็ยากนะ ในใจตอนนั้น
มีคำนี้ในใจเลย เปรียบเหมือนหมามองเครื่องบิน?
อาไท : ถูกต้อง คำนี้เลยพี่ ดอกฟ้ากับหมาวัด คำนี้เลย
น้ำเพชรก็รู้สึกเหมือนกัน เราไม่เหมาะกับผู้ชายคนนี้เพราะอะไร?
น้ำเพชร : ด้วยความที่เขาเป็นดารามานาน เราเพิ่งเข้าวงการมา เราไม่อยากคบกับใครในวงการด้วย เพราะเรากลัวว่าถ้าทำงานด้วยกันในอนาคต เราคบกันแล้วมาเลิกกัน แล้วมันจะทำงานด้วยกันไม่ได้ ความคิดของหนูแรกๆ ไม่ได้รู้สึกว่าหนูจะคบเขาเลย
แล้วสุดท้ายป๊ะกันตอนไหน?
อาไท : เริ่มคุยวันแรกใช่ไหม ตอนถ่ายละครเกือบครึ่งเรื่องแทบจะไม่ได้คุยกันเลย วันที่เริ่มคุยคือวันนั้นเขาถ่ายเลิกพร้อมกัน ปกติเขามากองถ่าย เขาจะเรียกรถ เขาไม่ได้มารถตัวเอง ทีนี้ผมบอกว่าให้ผมไปส่งไหม
เส้นทางมันทางเดียวกับบ้านเราไหม?
อาไท : ใช่คำว่าอ้อมมาก แต่ผมสามารถไปส่งได้ แต่วันนั้นไม่ไช่แค่สองต่อสอง ผมมีพี่ชายขับให้ แล้วมีนักแสดงอีกคนไปด้วย วันนั้นรถติดมาก รู้ทั้งรู้ว่ารถติดก็จะไป ซึ่งวันนั้นเราขับเอง ให้พี่ชายไปนั่งข้างหลัง พอหลังจากนั้นเราได้มีการ DM คุย จากปกติตอบช้าบ้าง เป็นตอบเร็วขึ้น คุยกันมากขึ้น
บนรถคุยกันไหม?
น้ำเพชร : ก็ได้แลกเปลี่ยนกัน
อาไท : ตอนนั้นไม่ได้ออกตัวว่าจีบจริงจังนะ แค่แบบไปดูหนังกับผมไหม จีบแหละ แต่เราพูดติดตลก ถ้าเขาไม่ไป เรายังอายน้อยหน่อย เพราะเราพูดเป็นมุก คุย DM กันทุกวันไม่ได้ไลน์ด้วยนะ เบอร์โทรผมต้องไปขอประสานงานกองถ่าย เพราะผมไม่กล้าขอเขา ก็คุยกันมากขึ้น เริ่มบอกว่าอยู่ไหน ทำอะไรอยู่ เริ่มส่งรูปแล้ว เราก็คิดว่างั้นเริ่มมีโอกาสแล้ว
มีคนบอกว่าเราคบกันเพราะคอนเทนต์ อยากแก้อะไรไหม?
อาไท : มันแก้อะไรไม่ได้พี่ เพราะว่ามันเกิดจากคนที่มองเข้ามา ไม่ได้เกิดจากสิ่งที่เราแสดงออกไป เขาอาจจะไม่ชินกับคนที่หน้าตาดีคบกับคนที่หน้าตาไม่ดี เขาเลยอาจจะมองว่ามันอาจจะไม่จริงหรอก อาจจะเป็นการสร้างกระแส อาจจะเป็นคอนเทนต์
น้ำเพชร : อีกเรื่องก็คือหนูชอบถ่ายติ๊กต๊อก ชอบถ่ายเขาลงตลอด มีอะไรก็จะถ่ายตั้งแต่ตอนที่ไม่ได้คบกันเลย คนอาจจะมองว่าหนูมาเกาะกระแสน้อง น้องเป็นดาราด้วย แล้วเราเป็นนางงามดราม่า
มีคอมเมนต์อะไรที่รู้สึกว่าแรงเกินไป?
อาไท : ถ้าผมไม่ค่อยมี ผมเคลียร์เร็ว คืออ่านแล้วเคลียร์ อะไรที่ไม่เกิดประโยชน์ผมช่างเลย ที่ผมได้อ่านคร่าวๆ คือ ไอ้อ้วนเขาไม่เอามึงหรอก พอมึงหมดเงินเขาก็ไม่อยู่กับมึงแล้ว
ฝั่งน้ำเพชรก็โดนหนัก เขาคิดว่าเรามาเกาะกระแส?แม้แต่แม่ เพื่อนๆ เราก็คิดว่าเราจะไปหลอกอาไท?
น้ำเพชร : ใช่ แม่ก็บอกว่าอย่าไปหลอกน้องเขานะ หนูบอกแม่ หนูคุยจริง ไม่ได้หลอก แม่ก็ดูในอินเตอร์เน็ต ชาวเน็ตบอกว่าเราจะไปหลอกน้องเขาหรือเปล่า ก็เลยบอกแม่ เดี๋ยวพิสูจน์ให้ดูก็เลยพาเขาไปเจอที่บ้าน
ไปเจอครอบครัวซึ่งกันและกัน?
อาไท : ก็ตื่นเต้นดี ไปนั่งกินข้าวบ้านแม่เขา
วันนั้นเอาอะไรไป?
อาไท : ไม่ได้เอาอะไรไป ให้เขาทำให้กินด้วย ไปเจอแม่เขาครั้งแรก มือเปล่าเลย จะเตรียมไวท์ เตรียมช่อดอกไม้ไปก็ไม่เหมาะ เพราะเป็นงานศพคุณตาเขา ผมไปเจอแม่เขาครั้งแรกที่งานศพของคุณตาเขา ก็ไปสวัสดีแม่เขา วันนั้นไม่ค่อยได้คุยกัน
แล้ววันที่ได้ไปเจอครอบครัวอาไท?
น้ำเพชร : มือเปล่าเหมือนกันค่ะ ที่บ้านเขาเซอร์ไพรส์จัดลูกโป่งให้ มีเค้ก
อาไท : วันเกิดเขา
คู่นี้คบมา 6 เดือน แต่เพิ่งขอเป็นแฟนเมื่อฮาโลวีน เท่ากับอาทิตย์กว่า แต่คุยเรื่องแต่งงาน เรื่องมีลูกแล้ว?
น้ำเพชร : ไม่ได้ถึงกับคุยขนาดนั้น แต่เป็นการวางแผนการใช้เงิน วางแผนการทำงานมากกว่า
อาไท : เขาเคยพูดว่าถ้าสมมติรอด 5 ปีไปได้ก็อยากแต่ง
ทำไมต้อง 5 ปี?
น้ำเพชร : เราไม่เคยคบใครเกิน 2-3 ปี
อาไท : แล้วเราวางแผนเรื่องอื่นด้วย เราเป็นคนชอบวางแผนอยู่แล้ว ถ้าเราไม่วางแผน เรารู้สึกว่าเราใช้ชีวิตไปโดยไร้จุดหมาย จากปกติเราวางแผนคนเดียว พอมีเขาเราก็วางแผนคู่กันว่าเราทำธุรกิจร่วมกันไหม แต่ตอนนี้มีช่องยูทูบด้วยกันแล้ว แล้วคุยกันว่าในอนาคตอยากมีลูกไหม อยากมีกี่คน เพราะผมอยากมีลูก ใจอยากมี 1 คน แต่เขาอยากมีหลายคน ตอนแรกเราตั้งใจว่า 3 คน เพราะถ้าไม่มี 1 ก็มี 3 เลย จะไม่มี 2 เพราะกลัวเขาทะเลาะกันแล้วไม่มีคนห้าม
แต่เขาตั้งกฎไว้ 5 ปี ไหวไหม?
อาไท : ไหว ปรับกันไปเรื่อยๆ ผมเคยพูดนะถ้าวันนึงต้องเลิกกันก็เลิก เราไม่ได้แคร์คอมเมนต์อะไรขนาดนั้น
ติดตามชมรายการคุยแซ่บShow ทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama
คลิปสัมภาษณ์ อาไท – น้ำเพชร