ป็อปสตาร์สาวมาแรงแห่งยุค Olivia Rodrigo” นักร้องสาววัย 20 ปี เจ้าของยอดสตรีม ยอดขายอัลบั้มระดับ multi-Platinum และเจ้าของ 3 รางวัลแกรมมี

ล่าสุดเธอกลับมาเพื่อตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของปรากฏการณ์เกมล่าเกมที่กำลังจะมาถึง มหากาพย์ภาพยนตร์แฟรนไชส์ที่ทั่วโลกรอคอย

“The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes” หรือ เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม

ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี ที่จะพาผู้ชมย้อนกลับไป 64 ปีก่อนการต่อสู้ของ “แคตนิสส์ เอเวอร์ดีน” เพื่อสำรวจชีวิตในวัยหนุ่มของประธานาธิบดี สโนว์

กับเรื่องราวเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักเรียนในอะคาเดมีชนชั้นสูง

และจำเป็นต้องสร้างชื่อให้ได้จากการเป็นผู้ดูแลให้กับบรรณาการเขต 12 ในการแข่งขันเดอะฮังเกอร์เกมส์ครั้งที่ 10

ดู MV “Can’t Catch Me Now” ได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=GlM6lcFbLSg

 

ภาพยนตร์ดังกล่าวยังประกาศอย่างเป็นทางการว่าได้ป็อปสตาร์สาวแห่งยุค Olivia Rodrigo มาร้องเพลงประกอบภาพยนตร์กับซิงเกิล Can’t Catch Me Now”

ความพิเศษของเพลงนี้นอกจากเจ้าตัวจะขับร้องเองแล้ว ยังลงมือเขียนเพลงนี้ขึ้นมาเองอีกด้วย เรียกได้ว่าเธอคือศิลปินรายล่าสุดต่อจาก

Taylor Swift, Coldplay และ Lorde ที่ได้ร่วมทำเพลงให้กับแฟรนไชส์ของ “The Hunger Games” นั่นเอง

อีกหนึ่งความพิเศษของโปรเจกต์นี้ Olivia Rodrigo ยังมี Taylor Swift” เป็นแรงบันดาลใจในการจุดประกายในเส้นทางศิลปินของเธอ

ซึ่งตัวของ Taylor Swift” ก็เคยสร้างปรากฏการณ์กับเพลงประกอบภาพยนตร์ใน “The Hunger Games (2012)” กับเพลง Safe & Sound” มาแล้ว

การโคจรมาสร้างสรรค์ผลงานใน “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes” ของ Olivia Rodrigo ครั้งนี้

ถือเป็นการรับไม้ต่อจากรุ่นสู่รุ่นในจักรวาล เกมล่าเกม เลยก็ว่าได้

แฟนเพลงสามารถฟัง Can’t Catch Me Now” ซิงเกิลล่าสุดจาก Olivia Rodrigo ได้แล้วทุกสตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม

และเตรียมสัมผัสปรากฏการณ์เกมล่าชีวิตที่โลกไม่เคยเห็นพร้อมกันได้ใน “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes”

สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

สามารถฟัง “Can’t Catch Me Now” ได้ที่นี่ https://thehungergames.lnk.to/CantCatchMeNow

 

ติดตาม “Olivia Rodrigo” ใน Platform ต่าง ๆ ได้ที่

FACEBOOK | INSTAGRAM | TWITTER | TIKTOK

ติดตาม “Universal Music Thailand” ใน Platform ต่าง ๆ ได้ที่FACEBOOK  INSTAGRAM  TWITTER |  TIKTOK

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบ