ผู้กำกับฯ เจมส์ วาน และ เจสัน โมมัว ผู้รับบทอควาแมน พร้อมด้วยแพทริค วิลสัน, แอมเบอร์ เฮิร์ท, ยาห์ยา อับดุล-มาทีน II และนิโคล คิดแมน กลับมารับบทในภาคต่อของภาพยนตร์จาก DC ที่กวาดรายได้สูงสุดตลอดกาล “Aquaman and the Lost Kingdom” 

 

แบล็ค แมนต้าผู้พ่ายแพ้ให้แก่อควาแมนในภาคแรก ยังคงมุ่งมั่นหาทางแก้แค้นให้การตายของพ่อ เขาจะไม่มีวันหยุดยั้งการโค่นล้มอควาแมน ครั้งนี้แบล็ค แมนต้าน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม โดยมีอาวุธอย่างตรีศูลสีดำแห่งตำนานที่สามารถปล่อยพลังอันน่ากลัวจากยุคโบราณออกมาได้ เพื่อการเอาชนะอควาแมนต้องหันไปจับมือกับออร์ม น้องชายที่ถูกขังตัวเอาไว้และเป็นอดีตกษัตริย์แห่งแอตแลนติส พวกเขาต้องก้าวข้ามเรื่องความแบ่งแยกเพื่อปกป้องอาณาจักรของพวกเขาเอาไว้ ปกป้องครอบครัวของอควาแมนและโลกจากการถูกทำลายล้างอย่างย่อยยับ

นักแสดงทุกคนกลับมาร่วมรับบทเดิมที่เคยแสดงเอาไว้ เจสัน โมมัว รับบท อาร์เธอร์ เคอร์รี/อควาแมน ตอนนี้ต้องสร้างสมดุลในภารกิจทั้งการเป็นกษัตริย์แห่งแอตแลนติสและคุณพ่อมือใหม่; แพทริค วิลสัน รับบทออร์ม ครึ่งพี่น้องและการลงโทษของอควาแมน ตอนนี้เขาต้องรับบทบาทใหม่โดยการฝืนใจร่วมทีมกับพี่ชายตัวเอง; แอมเบอร์ เฮิร์ท รับบทเมร่า ราชินีแห่งแอตแลนติสและคุณแม่ของผู้สืบทอดบัลลังก์; ยาห์ยา อับดุล-มาทีน II รับบทแบล็ค แมนต้า ผู้มุ่งมั่นแก้แค้นให้การตายของพ่อโดยการทำลายอควาแมน ครอบครัวของเขา และแอตแลนติส และ นิโคล คิดแมน รับบทแอตแลนนา ผู้นำที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและคุณแม่ที่มีจิตใจดุจนักรบ รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ ที่มารับบทเดิม เช่น ดอล์ฟ ลันด์เกรน รับทคิง เนเรอุส และ แรนดัล พร์ค รับบท ดร.สตีเฟน ชิน

กำกับฯ “Aquaman and the Lost Kingdom” โดยวาน อำนวยการสร้างฯ โดยปีเตอร์ ซาฟราน, วาน และ ร็อบ โคแวน อำนวยการสร้างบริหารฯ โดยกาเลน เวสแมน และ วัลเตอร์ ฮามาดะ

บทภาพยนตร์โดยเดวิด เลสลี่ จอห์นสัน-แมคโกลดริค เนื้อเรื่องโดยเจมส์ วาน และ เดวิด เลสลี่ จอห์นสัน-แมคโกลดริค และ เจสัน โมมัว แอนด์ โธมัส พา’อะ ซิบเบตต์ สร้างอิงจากตัวละครจาก DC อควาแมนผลิตโดยพอล นอร์ริส และ มอร์ท เวซิงเกอร์  

ทีมงานเบื้องหลังกล้องล้วนเป็นทีมงานเดิมจาก “Aquaman” ผู้กำกับภาพ ดอน เบอร์เจส (“The Conjuring 2”) ผู้ออกแบบฉาก บิล บรีสกี (“Jumanji: The Next Level”) ผู้ลำดับภาพ เคิร์ก มอร์ริ (“Furious 7”) ผู้ประพันธ์ดนตรี รูเพิร์ท เกร็กสัน-วิลเลียมส์ (“Wonder Woman”) และผู้ควบคุมดนตรี มิเชล ซิลเวอร์แมน (“Malignant”) ผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ นิค เดวิส (ภาพยนตร์ “The Clash of the Titans”, “The Dark Knight”) และผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ริชาร์ด เซล (“Doctor Strange in the Multiverse of Madness,” “Ready Player One”) ก็มาร่วมงานด้วย

วอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส นำเสอนภาพยนตร์จาก An Atomic Monster / A Peter Safran Production of A James Wan Film เรื่อง “Aquaman and the Lost Kingdom” กำหนดเปิดตัวในโรงภาพยนตร์ต่างประเทศเริ่ม 20 ธันวาคม  2023 และทางอเมริกาเหนือวันที่ 22 ธันวาคม 2023 จัดจำหน่ายทั่วโลกโดยวอร์เนอร์ บราเดอร์ส พิกเจอร์ส

คำแถลงจากเจมส์ วาน:

ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผมสร้างขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นแนวไหน มักจะย้อนกลับมาสะท้อนถึงความเป็นมนุษย์ของตัวละคร ในเรื่อง  “Aquaman and the Lost Kingdom” ต่อเนื่องจากเรื่องราวของอาร์เธอร์ เขาต้องรับหน้าที่ในฐานะกษัตริย์แห่งแอตแลนติสและเป็นพ่อ โดยปกป้องทั้งอาณาจักรและครอบครัวของเขาไว้ให้ได้

ขณะที่ภาคล่าสุดจะเป็นเรื่องราวความรักของอาร์เธอร์ ในภาคนี้จะเป็นการต่อสู้ผจญภัยของสองพี่น้องคืออาร์เธอร์และออร์ม พวกเขาต้องก้าวข้ามความแตกต่างเพื่อปกป้องโลก และต้องต่อสู้กับแบล็ค แมนต้าที่มีพลังเหนือกว่า ความรักที่เขามีต่อพ่อและความปรารถนาส่วนตัวนำไปสู่การแก้แค้น เราไม่อยากยืดขยายแค่เนื้อเรื่องและตัวละคร แต่อยากให้ผู้ชมได้ดื่มด่ำและตื่นเต้นมากขึ้นด้วย จนทำให้เกิดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สู่อีกขั้น

ผมตื่นเต้นที่ได้กลับมาหาครอบครัว “Aquaman” ทีมนักแสดงที่เคยถ่ายทอดตัวละครเหล่านี้ได้อย่างน่าประทับใจ ทั้งเจสัน แพทริค แอมเบอร์ ยาห์ยา และนิโคล รวมถึงนักแสดงคนอื่นๆ อีกด้วย ทีมงานสร้างสรค์ที่ช่วยสร้างภาพตื่นเต้นและโลกที่ยากจะลืมเลือนได้ลง แต่ตอนนี้ความเดิมพันสูงขึ้นและโลกมีความยิ่งใหญ่มากขึ้น 

แอตแลนติสในครั้งนี้ก็มีความยิ่งใหญ่ มีสีสันสดใส และดูมีชีวิตชีวามากขึ้น อาร์เธอร์และออร์มต้องรับภารกิจที่จะพาพวกเขาก้าวสู่ดินแดนใหม่อย่าง The Lost Kingdom แอนตาร์คติกาดูจะเป็นดิ้นแดนที่มีความน่าสนใจและคุ้นตา แต่ก็เป็นสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่เคยไปเยือน และทำให้ผมอยากเข้าไปสำรวจมากขึ้น ผมตื่นเต้นที่ได้สร้างอาณาจักรนีขึ้นมา ได้เห็นรายละเอียดวิชวลใหม่ของเรื่องนี้พร้อมกับโลกใบใหม่อื่นๆ ผมขอบอกว่านี่ไม่ใช่ 1 ในผลงานภาพยนตร์ของผมที่ไร้เอกลักษณ์ด้านการสร้าง ฉะนั้นมันต้องมีสิ่งมีชีวิตที่แปลกใหม่และลึกลับให้ผู้ชมได้เพลิดเพลินแน่นอน

แต่ประเด็นสำคัญทั้งหมดคืออาร์เธอร์/อควาแมน พร้อมด้วยเสน่ห์และอารมณ์ขันที่เจสันใส่เข้าไปในบทซูเปอร์ฮีโร่นี้ แม้ว่าอควาแมนจะนั่งอยู่บนบัลลังก์ ต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เกี่ยวกับแอตแลนติส เขายังคงเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ต้องรับหน้าที่ 2 บทบาททั้งคุณพ่อและกษัตริย์ในโลกใบใหม่ที่มีความโดดเด่นและกว้างใหญ่ใบนี้

คำแถลงจากปีเตอร์ ซาฟราน:

สิ่งหนึ่งที่ผมรักในภาพยนตร์ DC คือแต่ละเรื่องจะดูสอดคล้องเหมาะสมกับเรื่องราวที่อ้างอิงมา สำหรับอควาแมนมีทั้งความอลังการ ขนาดภาพและขอบเขตที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องฝ่ายธรรมะสู้กับอธรรมโดยมีความเดิมพันอันยิ่งใหญ่ เพราะความเป็นความตายของโลกอยู่บนความเสี่ยง 

เจมส์ วานมีพรสวรรค์เหลือเชื่อด้านการถ่ายทอดสีสันและจินตนาการในโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เราอยากพาผู้ชมออกเดินทางไปพบกับบรรยากาศใหม่ทั้งด้านบนและด้านล่างผิวน้ำ ผมคิดว่าทุกคนจะตื่นเต้นเมื่อได้เห็นความแตกต่างของหนังภาคนี้ทั้งแง่หน้าตาและความรู้สึก แต่ขณะเดียวกันยังคงมีทุกรายละเอียดที่พวกเขารักจากภาคแรก ทุกอย่างให้ความรู้สึกที่สดใสและแปลกใหม่  

เจมส์ได้รวมความเป็นเรโทรไซไฟจากการ์ตูน Silver Age เข้ามาด้วย ในยุค 50 พวกเขาคิดภาพของอนาคตไว้แบบไหน เราทำให้มันดูสมัยและพลิกโฉมขึ้นอีกหน่อย คุณจะได้เห็นเทคโนโลยีแอตแลนทีนโบราณ มีการสวมเครื่องแบบและติดอาวุธของทีมแมนต้า ความยิ่งใหญ่ของกองทัพ และออคโทบอทส์ที่ฉายเดี่ยว… เจมส์ยังยึดมั่นนภาพลักษณ์และทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ได้เห็นแต่ละช่วงยุคสมัย แต่ภาพรวมทั้งหมดเต็มไปด้วยความล้ำสมัย

สำหรับการรวมภารกิจของอควาแมนตามธรรมชาตินิยายกับภาควชวลที่น่าตื่นตาต่างๆ เจมส์ได้ทอดเอกลักษณ์บางอย่างที่มีความน่าสนใจ กลายเป็นการสร้างโลกที่เล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านภาพอย่างเข้มข้น เราทำให้ซูเปอร์ฮีโร่มีทั้งความเป็นมนุษย์และยอดมนุษย์ รวมถึงฉากต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่อลังการบนความเสี่ยงที่จะนึกภาพได้ 

 

คำแถลงจากร็อบ โคแวน:

 พวกเราโชคดีอย่างเหลือเชื่อสำหรับเรื่อง “Aquaman and the Lost Kingdom” ที่สานต่อเรื่องราวจากภาพยนตร์ที่เรามีส่วนร่วมด้วย และที่เห็นได้จากบทคือเรามีการขยายโปรเจ็กต์ให้มีขนาดใหญ่มากยิ่งขึ้น หยิบทุกประเด็นออกมาเล่า ทำให้ทุกอย่างยิ่งใหญ่เท่าที่จะทำได้ ถ่ายทอดการผจญภัยที่มีความหลากหลายและความแตกต่างผ่านหลายโลกที่เราเข้าไปสัมผัสครั้งแรกให้ได้มากที่สุด  

เราได้ความช่วยเหลือจากทีมงาน “Aquaman” หลายคน ซึ่งทุกคนต่างมีความถนัดในโลกสุดอัศจรรย์ที่เราสร้างขึ้นมา ผู้ออกแบบฉาก บิล บรีสกี เข้าใจโลกใบนี้และรู้ว่าจะรับมือกับคอนเซปต์ของเจมส์อย่างไร สามารถถ่ายทอดโลกใบนั้นในรูปแบบ 3 มิติได้ ผู้กำกับภาพ ดอน เบอร์เจสร่วมงานกับผู้ควบคุมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ นิค ดาวิส เพื่อถ่ายภาพฉากใต้น้ำต่างๆ ในรูปแบบใหม่ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งที่เราเคยทำมา มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการถ่ายภาพยนตร์ของเรา และเป็นการเปิดประสบการณ์ความสร้างสรรค์ที่แปลกใหม่อย่างแท้จริง 

นี่คือภาพยนตร์ที่คุณอยากสัมผัสโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่บนจอมหึมา… เพราะมีอะไรหลายอย่างให้เราเฝ้าดู และผมคิดว่าผู้ชมจะได้สัมผัสกับสีสันในภาพยนตร์ ความยิ่งใหญ่และการผจญภัยที่เราพาพวกเขาเข้าไปสัมผัส นี่ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่คุณจะออกไปพร้อมกับความรู้สึกว่าอยู่แต่ที่เดิมแน่นอน …

รายละเอียดการถ่ายทำ

 

โลกของอาร์เธอร์

สถานที่ต่างๆ…

  • เมื่ออาร์เธอร์ต้องเป็นทั้งคุณพ่อและผู้นำครอบครัว ประภาคารที่เขารักต้องกลายเป็นที่พักบนพื้นดินสำหรับเขา เมร่า และอาร์เธอร์จูเนียร์ ฉากที่ออสเตรเลียจากภาคแรกถูกสร้างขึ้นใหม่ที่ Warner Bros. Leavesden Studios ซึ่งที่นั่นจะใช้ถ่ายทำกันเป็นหลัก ประภาคารที่พักของครอบครัวเดอะ เคอร์รี่มีการใช้พื้นที่ฉากด้านนอกโรงถ่ายและพื้นที่ภายในโรงถ่าย ฉากด้านนอกตกแต่งด้วยมอเตอร์ไซค์ของโมโมอาบริเวณด้านหน้า ส่วนพื้นที่ด้านในมีการสร้างและตกแต่งให้ดูมีความอบอุ่นเหมาะแก่การอาศัย มีมุมสำหรับซูเปอร์ฮีโร่ของเรานั่งอยู่ข้างของเล่นเด็กและรูปถ่ายครอบครัว
  • ชีวิตใหม่ของอาร์เธอร์มีผลต่อบ้านของเขา และการทำหน้าที่กษัตริย์แห่งแอตแลนทิส ชีวิตประจำวันของเขาเกี่ยวข้องกับอาณาจักรใต้ท้องทะเลมากขึ้น ผู้สร้างภาพยนตร์พยายามแสดงให้เห็นความเป็นเมืองมากขึ้น มีพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัย มีถนนหนทาง ตลาด และร้านอาหารต่างๆ มีทั้ง “Times Square” ที่โดดเด่นด้วยสีสันสดใสและมีป้ายโฆษณา แสดงให้เห็นถึงการทำงานของฝ่ายปกครองแอตแลนทีน พร้อมทั้งครอบครัวกษัตริย์ อควาแมน เมร่า และแอตแลนนา ฉากที่น่ากลัวในโรงถ่ายมีทั้งความทันสมัยและความคลาสสิคแบบกรีก พร้อมด้วยสมาชิกสภาที่เป็นตัวแทนมนุษย์ใต้น้ำที่มีความหลากหลาย นักแสดงมนุษย์ต้องแต่งหน้าเทียมกันนานหลายชั่วโมง (และมีการต่อยอดด้วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์เพิ่มเติมในภายหลังอีก) 

 

ภาพลักษณ์…

  • ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ริชาร์ด เซล ได้อัพเดทชุดของอควาแมนที่มีเอกลักษณ์จากภาคแรก โดยยึดจากต้นฉบับเดิมเป็นหลัก เขาร่วมมือกับทีมงานด้วยใช้วัสดุที่มีความเบาและติดแผงควบคุมไว้บนชุด สำหรับเวลาโมโมอาแสดงฉากผาดโผนและต่อสู้ด้วยตัวเอง ชุดฮีโร่ของอควาแมนมีชิ้นส่วนสีทองและสีเขียวเยอะมาก ต้องใช้ทีมงาน 3 คนเป็นเวลานาน 3 เดือนเพื่อผลิตและติดแต่ละชิ้นส่วนลงบนชุด 
  • ทั้งเมร่าและแอตแลนนาต่างสวมชุดที่สะท้อนความเป็นราชินีสำหรับฉากสภาของแอตแลนติส เสื้อรัดรูปของแอตแลนนามีสีสันมากกว่า 1,100 เฉดสี ทุกส่วนตกแต่งด้วยลูกปัดโดยทีมงาน มีการจำลองแบบมาจากของจริง เปลือกหอยบนชุดของเมร่าผลิตขึ้นด้วยโพลียูรีเธน ลงสีใบไม้สีทองด้วยมือ 
  • ผู้ปกครองใต้ท้องทะเลทุกคนต้องมีตรีศูล แผนกอุปกรณ์ตกแต่งได้ผลิตตรีศูล 15  แบบ จนกระทั่งพบแบบที่เหมาะกับอควาแมน ฮีโร่เวอร์ชันจะเป็นตรีศูลสีทองของอาร์เธอร์ที่ปรับเปลี่ยนให้ทันสมัย 3 แบบ แบบแรกเป็นอลูมิเนียมที่ติดเครื่องจักรเวอร์ชันฮีโร่ อีกแบบเป็นไฟเบอร์กลาส อีกแบบเป็นยางและโฟม (สำหรับการแสดงผาดโผน) ทั้งหมดจะใช้คาร์บอนไฟเบอร์เป็นแกนกลางเพื่อความแข็งแรงและทนทาน สำหรับฉากที่ต้องมีการต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่ ตรีศูลแท่งคาร์บอนไฟเบอร์จะฉีดโฟมเข้าไปด้วย (ความแข็งแรงของคาร์บอนไฟเบอร์ผ่านการดสอบโดยนักแสดง ทุกคนจะทำตรีศูลหักหลายชิ้นในฉากการต่อสู้ที่เข้มข้น)

การถ่ายทำ “ใต้น้ำ”…

  • สำหรับฉากที่ถ่ายทำกันใต้น้ำในภาคแรก ผู้สร้างภาพยนตร์ใช้ฉากบลูสกรีนและฮาร์เนสดึงนักสดงขึ้นไป ผลลัพธ์ที่ได้สร้างความประทับใจมาก แต่วิธีนี้ทำให้นักแสดงอึดอัดและจำกัดมุมกล้องรวมถึงการเคลื่อนไหวของวาน 
  • สำหรับภาคต่อ ทีมงานวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ใช้วิธีใหม่ที่ทำให้นักแสดงและกล้องมีอิสระมากขึ้น โดยอาศัย Eyeline Studio สร้างเทคโนโลยีใหม่อันน่าทึ่งขึ้นมา วานและทีมงานของเขาสามารถสร้างโลกใต้น้ำแบบ 360 ขึ้นมาได้ 
  • มีการใช้ที่ The Eyeline Studio ผลิตบูธพิเศษสำหรับการติดกล้อง 136 ตัว ตั้งแต่ระดับเดียวกับเท้าจนถึงศีรษะและรอบตัวนักแสดง โดยที่นักแสดงจะทำการแสดงอยู่ตรงกลางในชุดที่แต่งครบเครื่อง ช่วยทำให้เส้นผมสยายเหมือนอยู่ใต้น้ำได้ด้วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ บูธนั้นมีขนาดกว้างมากพอที่จะนำม้าติดเครื่องยนต์เข้าไปได้ เพื่อเก็บภาพนักแสดงขี่เหล่าสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลที่สร้างขึ้นด้วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ขึ้นมา 
  • บรรยากาศภายในบูธ นักแสดงจะเห็นจอพลาสมา 360 องศาที่ฉายภาพวิชวลฉากนั้น บรรยากาศนอกบูธจะมีทีมเพื่อนนักแสดงร่วมแสดงกับกล้อง คอยจับสีหน้าของนักแสดงและนำไปวางซ้อนกับภาพอวตารบนจอพลาสมด้านในบูธ 
  • วิธีการใหม่แบบนี้ทำให้นักแสดงเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และแสดงโต้ตอบกับคนอื่นได้ ทำให้วานมีอิสระในการใช้กล้องไปด้วยระหว่างขั้นตอนสร้างวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์หลังการถ่ายทำ 
  • ภาพฟุตเทจที่ได้จาก Eyeline จะถูกนำมารวมกับฉากต่างๆ ที่ถ่ายทำบนบลูสกรีน และรวมเข้ากับภาพอวาตาร ฉากต่างๆ สิ่งมีชีวิตในทะเลที่สร้างขึ้นด้วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ ผลลัพธ์ที่ได้น่ะหรือ? แอตแลนนาและเมร่านั่งคร่อมฉลาม ส่วนอาร์เธอร์นั่งอยู่บนอานของสตรอมม้าน้ำขนาดยักษ์ของเขา ระหว่างการต่อสู้กับแบล็ค แมนต้ากลางแอตแลนติสท่มกลางบรรยากาศที่ไม่เคยเห็นบนหน้าจอ จะเห็นบรรยากาศ “Times Square” ของแอตแลนติสและลงลึกไปยังสถานที่เก็บของโบราณในเมือง 

 

โลกของออร์ม

สถานที่ต่างๆ …

  • สำหรับการชดใช้ให้กับการฆ่ากษัตริย์ฟิชเชอร์แมนในภาคแรก ออร์มถูกขังอยู่เบื้องล่างที่ห่างไกลจากน้ำและขุมพลังของเขาให้ได้มากที่สุด เขาถูกขังในอาณาจักรดีเซอร์เทอร์อย่างรัดกุม ฝังอยู่เบื้องล่างทะเลทรายซาฮาร่า อาร์เธอร์รู้ว่าไม่มีใครจะช่วยตามล่าแบล็ค แมนต้าได้ดีกว่าออร์ม จึงช่วยเขาเป็นอิสระ 
  • ที่ L Stage ของ Warner Bros. Studios Leavesden ถูกปรับสภาพเป็นโรงเก็บเครื่องบินขนาด 48,600 ตารางฟีต และกลายเป็นฉากห้องขังที่ซับซ้อนของดีเซอร์เทอร์ มีโพรงกระต่ายที่เป็นทางเดินยาวหินทรายในตึก  บรรยากาศน่ากลัวด้วยคบเพลิงและโครงกระดูกแวมไพร์สภาพแห้งกรังของดีเซอร์เทอร์ 
  • เมื่อปราศจากน้ำ ออร์มใส่เสื้อผ้าเหมือนผ้าขี้ริ้ว ดูผอม มีหนวดเคราและผมเผ้ายุ่งเหยิง ในห้องขังที่ดูเหมือนโมเขาถูกเยาะเย้ยและทรมาณจากบรรดาผู้คุม มีการจำลองการแสดงที่สอดคล้องกับวิลสัน โดยทั้งสองร่างจะนำมารวมกันด้วยวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ 
  • ทางหลบหนีจากดีเซอร์เทอร์ที่พาครึ่งน้องชายของเขาออกจากห้องขังท่ามกลางกองทรายของทะเลทรายซาฮาร่า การวิ่งข้ามทะเลทรายสู่ท้องทะเล กองถ่ายต้องเดินทางไปที่ตอนเหนือของเดวอนทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ทรายธณรมชาติขานด 3 ไมล์ครึ่งของชายหาด  Saunton Sands และน้ำที่  Bristol Channel จำลองขึ้นทางตอนเหนือของแอฟริกา โชคดีที่กองถ่ายเจอแดดจัดระหว่างการถ่ายทำบนสถานที่จริง
  • ก่อนจะเดินทางไปถึงชายหาด อาร์เธอร์และออร์มถูกเหล่าผู้คุมดีเซอร์เทอร์ขี่จาจัสไล่ตาม โครงกระดูกสัตว์ขนาดยักษ์สามารถกัดเคี้ยวทะลุหินได้ บรรยากาศในโรงถ่ายที่ Leavesden เจสัน โมโมอา สเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ และทีมงานผาดโผนสนุกกับการสร้างฉากแอคชันขึ้นมา อาร์เธอร์ต้องกระโดดขึ้นไปบนจาจัสเพื่อขโมยม้าพันธุ์แกร่งของพวกขา และทำให้ออร์มหนีสู่ทะเลได้ 
  • ฉากการต่อสู้ที่นำไปสู่การถือกำเนิดใหม่ใต้น้ำของออร์มมีการถ่ายทำในทะเล Saunton Sands และในแทงค์น้ำที่ Leavesden เมื่อดำดิ่งลงไปใต้ทะเลออร์มได้ปลดปล่อยพลังความแข็งแกร่งขึ้นมาใหม่ (วิลสันร่วมงานกับเทรนเนอร์ เจสัน ลาซิสต์ เพื่อช่วยสร้างร่างกายที่ดูแข็งแกร่งแบบกษัตริย์) 

ภาพลักษณ์ต่างๆ…

  • สำหรับภารกิจความช่วยเหลือ อาร์เธอร์มีพลังวิเศษจากชุดใหม่ที่ได้มาจากแอตแลนนา ชุดรัดรูปสีฟ้า สีเทอร์ควอยส์ และสีม่วงที่เหมือนบอดี้สูทถูกผลิตขึ้นมาให้มีน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นรับกับชุดรัดกล้ามเนื้อด้านบน วัสดุที่ใช้ทำให้ดูเปลี่ยนสีและสะท้อนแสงได้ มีการสะท้อนถึงเทคโนโลยีวิเศษ พร้อมด้วยความมหัศจรรย์ของวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์ (และการได้แรงบันดาลใจจากเซฟาโลพอดส์) ชุดนั้นทำให้อาร์เธอร์ล่องหนได้ ชวนให้นึกย้อนกลับไปหาชุดที่อควาแมนสวมในการ์ตูน Silver Age ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้วานและทีมออกแบบสำหรับด้านภาพลักษณ์ของหนัง
  • อาร์เธอร์เองก็ได้รับมอบหมายเรื่องเซฟาโลพอด โทโพ แฟนหมึกที่ตีกองจะจำเขาได้จากภาคแรกที่ครั้งนี้ยังคงมีภารกิจให้ทำ โทโพต้องสื่อสารระหว่างบ้านกับแอตแลนทิส และใช้ความยืดหยุ่นและจำนวนของขา รวมถึงการพรางตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติช่วยทำให้ออร์มเป็นอิสระ สำหรับการถ่ายทำโทโพต้องอาศัยฉากสีฟ้าและทีมงานสร้างชุดคลุมสีฟ้าขึ้นมา โดยทีมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์จะสวมภาพลงไปในกายหลังอีกที 
  • หลังจากห่างหายไปและฟื้นสภาพกลับคืนมาใหม่ ออร์มจะสวมชุดม่วงอมดำและรองเท้าหนัง มีการสะท้อนถึงความซื่อสัตย์ของเขา เท้าของเขาจะดูงดงามแบบทหาร ขณะเดียวกันก็รวมความเป็นฮีโร่จากหลายภาพยนตร์และหนังสือการ์ตูนยุค 1950 และ 60 มีการเล็มหนวดและผมของเขาจนดูสะอาดตา 

 

โลกที่ต้องเผชิญ

สถานที่ต่างๆ…

  • สำหรับภาคต่อที่มีความยิ่งใหญ่ขึ้น ผู้สร้างภาพยนตร์ตั้งใจจะขยายขอบเขตประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นด้วย อยากถ่ายทอดความแปลกใหม่และความตื่นเต้นของภาพ มีบรรยากาศที่แปลกตาทั้งเหนือและใต้ผิวน้ำ ขณะเดียวกันก็ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ที่โดดเด่นจากภาคแรก มีการเพิ่มรายละเอียดของแอตแลนทิส มีโลกที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เริ่มจากห้องขังดีเซอร์เทอร์ช่วงที่ออร์มต้องร่วมมือกับอาร์เธอร์
  • ออร์มได้พาอาร์เธอร์สู่ป้อม Sunken Citadel ซึ่งเป็นป้อมใต้น้ำของโจรสลัดและพวกลูกจ้างในทุกรูปแบบ ตั้งแต่มนุษย์ไปจนถึงสิ่งมีชีวิตในทะเล ที่นั่นเขาจ้างแบล็ค แมนต้าเป็นครั้งแรก ร้านเหล้าและคาสิโนบริหารโดยคิง ฟิช  Sunken Citadel คือคำตอบแห่งท้องทะเลสำหรับบาร์สุดคลาสสิคในภาพยนตร์ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ มีการถ่ายทำบนบลูสกรีนพร้อมกับฉากสีฟ้าและทีมนักแสดงที่สวมชุดสีฟ้า รวมถึงอาศัยสตูดิโอ Eyeline สำหรับฉากการทะเลาะระหว่างอาร์เธอร์และออร์มที่ต้องเผชิญหน้ากับคิง ฟิชและเหล่าอันธพาลใต้น้ำของเขา เจมส์ วานสร้างสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลที่ได้แรงบันดาลใจจากมนุษย์ พร้อมกับอีสเตอร์เอ้กบางส่วนสำหรับแฟนๆ 
  • สำหรับการร่วมมือกัน ทั้งคู่ต้องเดินทางไปยังเกาะร้างที่มีข่าวลือเรื่องแมนต้า ในการสร้างป่าที่ฮีโร่ของเราเผชิญหน้ากันครั้งแรก แผนกศิลป์ต้องสร้าง Book of Genesis ขึ้นมาและจำลองป่าในโรงถ่าย  Leavesden มีการใช้ทั้งโมเดลและต้นไม้จริง มีการร่วมมือระหว่างผู้สร้างโมเดลและช่างทาสีเพื่อสร้างป่าเขตร้อนที่ปกคลุมบรรยากาศขึ้นมา 
  • เมื่ออาร์เธอร์และออร์มเดินทางผ่านป่า จะเริ่มเห็นว่าบรรยากาศพันธุ์ไม้ผลิตปกติ จนพบว่าตัวเองถูกโจมตีโดยสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่และดอกไม้สีสันสวยงามแต่แฝงไปด้วยภัยร้าย มีตั๊กแตนขนาดใหญ่ยักษ์คอยไล่ล่า ฉกที่มีความซับซ้อนนี้ลงเอยด้วยการที่ทั้งคู่ข้ามช่องว่างเพื่อหลบหนี ต้องใช้เวลาเตรียมตัวและคำนวณพื้นที่สร้างฉากด้านนอกหลายวัน และมีการใช้ลวดสลิงสำหรับนักแสงและแขวนกล้องสำหรับเก็บภาพฉากแอคชัน 
  • กองถ่ายเดินทางไปยังฮาวายเพื่อเก็บภาป่า He`eia ของจริงและ Manoa Valley Falls ที่ He`eia State Park มีพื้นที่ 18.5 เอเคอร์ ตั้งอยู่ใกล้กับ Kaneohe บนชายฝั่ง Oahu ที่มีลมพัด ที่นั่นเป็นป่าเขียวชอุ่มที่มีความชื้น เหมาะจะใช้เป็นฉากของเกาะที่สร้างขึ้นมา น้ำตก Manoa Falls มีความสูง 150 ฟุต มีพื้นที่ว่างเหมือนสระขนาดเล็กจนมักจะถูกเรียกว่า “หุบเขาสายรุ้ง” เพราะมักจะเห็นสายรุ้งที่เกิดจากแสงแดดและละอองน้ำ
  • ช่วงเว้าของชายหาดฮาโลนา มีชื่อเสียงจาก “From Here to Eternity” ถูกใช้เป็นบริเวณที่ออร์มและอาร์เธอร์ขึ้นมาจากทะเลสู่ชายฝั่งเมืองภูเขาไฟ 
  • ทั้งคู่เข้าสู่ป่าบนเกาะภูเขาไฟไปลึกมากขึ้น ฉากสุดท้ายของ “ป่าลึกลับ” ที่พวกเขาข้ามผ่านสร้างขึ้นบนโรงถ่ายที่ Leavesden เมื่อเข้าใกล้ถ้ำของแมนต้าที่อยู่กลางเกาะมากขึ้น ยิ่งถูกทำร้ายและเห็นความเปลี่ยนแปลงของพืชพรรณชัดเจนขึ้น ป่าลึกลับแห่งนี้เป็นฉากที่น่าขนลุกเพราะมีต้นองุ่นเลื้อยและต้นไม้ประหลาด อีกทั้งยังมีลำธารไหลผ่าน แผนกศิลป์ใช้เทคนิคการสร้างฉากและใช้มือลงสีระบายฉากหลังสร้างความน่าประทับใจขึ้นม พื้นที่ Jules Verne-esque ดูไม่ต่างจากในหนังสยองขวัญของเจมส์ วาน (ป่าลึกลับเป็นหนึ่งในฉากโปรดของทีมงานที่ลงมือสร้าง ท้าทายความสมจริงและได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอย่างที่เห็นได้บนหน้าจอ) 

 

โลกของแบล็ค แมนต้า

สถานที่ต่างๆ…

  • การค้นหาข้อมูลของแบล็ค แมนต้าและดร. ชินเกี่ยวกับเทคโนโลยีของแอตแลนทีนนำพวกเขาสูแอนตาร์กติกา สำหรับการสร้างแอนตาร์กติกาให้ดูสมจริงช่วงซัมเมอร์ที่อังกฤษใน Leavesden Studios แผนกศิลป์ต้องสร้างทุ่งทุนดราน้ำแข็งขึ้นมาข้าม 2 โรงถ่าย และบนพื้นที่ว่างของสตูดิโอด้ย พื้นที่น้ำแข็งถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้เป็นที่ตั้งที่พักและยานพาหนะของแมนต้า พัดมขนาดยักษ์จะพัด “หิมะ” ให้ลอยทั่วฉากและพัดผนังของเตนท์ ทีมงานต้องสวมแวนกันแดดเพื่อป้องกันดวงตาจากแสงสว่างบนฉากสีขาว ส่วนนักแสดงต่างเหงื่อท่วมเพราะต้องสวมชุดกันหนาวสุดไฮเทค (ทีมวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์จะสร้างภาพแอนตาร์กติกา กรีนแลนด์ และไอซ์แลนด์ขึ้นมาเพื่อเก็บภาพฟุตเทจบนอากาศ และเก็บภาพบนพื้นดินที่เป็นบรรยากาศน้ำแข็ง) 
  • มีช่วงที่ทั่วยูเคขาดแคลนขี้ผึ้ง (ใช้สำหรับทำน้ำแข็ง) ระหว่างถ่ายทำ ตอนนั้นทีมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ต้องบุกถึงร้านค้าขนาดใหญ่ในท้องถิ่นชาวสวีดิชเพื่อซื้อเทียนสีขาวนับร้อยแท่ง
  • การพบอาณาจักรที่สาบสูญของแมนต้าทำให้เขาได้พบกับเทคโนโลยีแอตแลนทีนโบราณ ซึ่งเป็นช่วงเวลานานนับหลายพันปี แต่ยังคงห่างไกลเทคโนโลยีกว่าเมืองที่มีผู้อาศัย วานท้าทายทีมงานในการสร้างเทคโนโลยีที่ดูทันสมัยและต้องมี “วัตถุโบราณ” เป็นส่วนประกอบในนั้นด้วย 
  • ที่ M Stage ของ WB Studios Leavesden ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกขนาดใหญ่อีกอย่างคือนาฬิกาขนาด  35,000 ตารางฟีต ที่นี่ใช้ปักหลักเป็นถ้ำของแมนต้า ทำให้นึกถึงที่ซ่อนตัววายร้ายของบอนด์ ถ้ำนี้อยู่ใจกลางเกาะภูเขาไฟที่เขาเลือกอาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดเทคโนโลยีสมัยก่อน แผนกศิลป์ใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อสร้างฉากใบหน้าที่เป็นหินขึ้นมา พร้อมด้วยบันไดหินสู่ห้องควบคุมตาข่ายของกา ในฉากยังตกแต่งด้วยพวกอาวุธ เกราะ และสิ่งอื่นที่พบจากอาณาจักรที่สาบสูญไป ที่นั่นอาร์เธอร์และออร์มพบกับแบล็ค แมนต้าครั้งแรก (นักแสดงและทีมแสดงผาดโผนต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ระหว่างฉากต่อสู้) 
  • การค้นพบอีกสิ่งจาอาณาจักรโบราณคือออคโตบอทส์ ยานพาหนะส่วนตัวที่ใช้ได้บนบกและบนน้ำ มีแขนเหล็กเหมือนปลาหมึก ซ่อนอยู่ในคลังแสงของแมนต้า ตั้งแต่ช่วงการออกแบบ ยานพาหนะเหล่านี้คือหนึ่งในภาพที่ชัดเจนของวาน และทีมงานสร้างจากวัตถุที่มาจากอาณาจักรที่หายสาปสูญ 
  • มีการใช้ทีมสเปเชียลเอ็ฟเฟ็กต์ 12 คน ในช่วงเวลา 4 เดือนเพื่อสร้างออคโตบอทส์ทั้ง 3 ขึ้นมา โดยแต่ละตัวจะมีชิ้นส่วน 45 ชิ้นโดยมีโครงเหล็กอยู่ด้านใน (ออคโตบอทส์ตัวแรกจะใช้ทำงานด้านใน ตัวที่สองจะใช้สำหรับฉากที่เกี่ยวกับน้ำ และมีความนุ่มด้านในสำหรับการแสดงผาดโผน ส่วนตัวที่สามจะมีการตกแต่งแค่เพียงด้านนอกสำหรับถ่ายภาพเป็นฉากหลัง)
  • ออคโตบอทส์จะมีกรเคลื่อนไหวบนฐานที่มี 6 แกน (ทำให้เคลื่อนไหวทางด้านหน้าและด้านหลัง ด้านข้างและแนวตรง รวมถึงหมุนรอบ 3 ทิศทางทั้งม้วนตัว ตั้งขึ้น และเอียง) ลี กรัมเม็ตต์ ผู้ช่วยผู้กำกับฯ คนแรกได้สร้างอัลดุล-มาทีน, พาร์ค, จานี เจา และ ดอลฟ์ ลันด์เกร็น ผู้กลับมารับบทกษัตริย์เนเรอุส สำหรับการผจญภัยไปกับออคโตบอทส์ของพวกเขา มีการอธิบายนักแสดงถึงการเคลื่อนไหวของลวดสลิงเวลาขี่ และนั่นสร้างความท้าทาย (ที่สนุกสนาน) ระหว่างการถ่ายทำ 
  • สำหรับเรือใต้น้ำขนาดยักษ์ของแมนต้า วานได้แรงบันดาลใจจาก Silver Age of Comics ของดีซี รวมถึงภาพยนตร์ไซไฟยุค 1956–1970 วานอิงภาพยนตร์สยองขวัญอิตาเลียน “Planet of the Vampires” สำหรับเรือขนาดยักษ์ของแบล็ค แมนต้า ชุดลูกเรือรับจ้างของเขา ภาพลักษณ์ภายนอกของเรือขนาดยักษ์เหมือนปลากระเบนหรือฉลามหัวค้อน เรือที่มีความทันสมัยดูคล้ายกับยานใต้น้ำ พรางตัวได้ง่ายในมหาสมุทรแม้จะมีขนาดใหญ่ก็ตาม 
  • สำหรับการสร้างเรือแมนต้าต้องสร้างส่วนต่างๆ ขึ้นมาในหลายโรงถ่าย จุดศูนย์กลางของเรือคือหอบังคับการที่ควบคุมแมนต้าและเรือโทกระเบนของเขา (เจา) ความกว้างของห้องครัวบนเรือมีขนาด 36,000 ตารางฟุตทั้งโรงถ่าย แผงควบคุมสีดำยาวที่มีทั้งแสงไฟ ปุ่ม หน้าจอ และแผงควบคุมต่างๆ ที่จัดการโดยทีมของแมนต้า 6 คน พื้นที่นี้ยังรวมส่วนทำงานของ ดร.ชิน ผู้นั่งแท่นควบคุมบัลลังก์ตัวร้ายที่ดูเหมือนเก้าอี้กัปตัน 

ภาพลักษณ์…

  • ภายในฐานที่มั่น แมนต้ามีทีมนักวิทยาศาสตร์และทหารรับจ้างตรวจสอบเซนเซอร์ที่ตรวจจับร่องรอยเทคโนโลยีของแอตแนทีน ภายในศูนย์กลางหอควบคุมที่ถูกปิดล้อมด้วยกระจกอย่างมิชิด จะมีชุดของแบล็ค แมนต้า ซึ่งมีทั้งรอยแตกของกระจกที่สร้างรอยแผลเป็นบนใบหน้าของแมนต้า 
  • สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ชุดของแมนต้ามีการปรับโฉมใหม่อย่างเต็มตัว โดยสร้างมาจากวัสดุที่หลอมขึ้นจากร่างกายของยาห์ยา อัลดุล-มาทีน มีหน้าตาดูทันสมัยและกันน้ำได้ หมวกนิรภัยของเขาก็ดูเงางามและสวมง่ายขึ้น แม้ว่าจะสร้างความท้าทายให้นักแสดงเวลาใส่ก็ตาม (ทีมงานเสื้อผ้าและอุปกรณ์ตกแต่งต้องดัดแปลงพัฒนการออกแบบตลอดเวลาการถ่ายทำ จนช่วงที่ถ่ายทำเสร็จ หมวกนิรภัยที่ได้รับการพัฒนาจะมีกล้องตัวเล็กๆ ซ่อนอยู่ด้านใน เพื่อให้นักแสดงเห็นบรรยากาศรอบตัวบนจอเล็กๆ) 
  • สำหรับอัลดุล มาทีน ชุดที่ดูเงาและมีน้ำหนักเบาขึ้นดูน่าชื่นชม เพราะชุดก่อนมีความหนักและมีอุปกรณ์ติดอยู่กับชุดเผื่อเวลาศัตรูไล่ล่า ตอนนี้เขามีเทคโนโลยีใหม่และตรีศูลสีดำ ทำให้เขามีพลังเหลือล้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องอุปกรณ์ใด
  • ชุดลูกจ้างของแมนต้าสะท้อนถึงการออกแบบชุดฮีโร่ของเขา ทำให้ดูเหมือนเป็นเครื่องแบบ เป็นบทพิสูจน์ถึงเทคโนโลยีโบราณที่พวกเขาขุดขึ้นมา เช่น พวกหมวกดำน้ำและอาวุธต่างๆ 
  • ตอนที่แมนต้าพบกับแสงสะท้อนกลางหิมะแอนตาร์กติค เขาสัมผัสได้ถึงพังของตรีศูลสีดำ อุปกรณ์นี้มีความแตกต่างถึง 26 เวอร์ชัน มีอันหนึ่งที่เป็นตรีศูลอลูมิเนียมที่มีเครืองจักร อีกหลายเวอร์ชันถูกผลิตขึ้นมา สามารถนำมาใช้ในฉากต่อสู้หรือทั้งหมดได้ (แบล็ค แมนต้าใช้ประโยชน์จากมันเต็มที่) เวอร์ชันหนึ่งถูกใช้เป็นมีดดาบ ซึ่งจะมีใบมีดซ่อนอยู่ด้านใน   

 

โลกใบใหม่

สถานที่ต่างๆ…

  • เราได้เรียนรู้ว่าในเรื่อง “Aquaman” มี 7 อาณาจักรในแอตแลนติส ได้กแ แอตแลนติส ซีเบล อาณาจักรฟิชเชอร์เม็น อาณาจักรเทรนช์ อาณาจักรไบรน์ อาณาจักดีเซอร์เทอร์ส และอาณาจักรที่หายสาปสูญ: นีครัส 
  • ช่วงที่แมนต้าโผล่มาจากน้ำแข็งในแอนตาร์กติกาและพบกับตรีศูลที่หัก เขาปลุกคอร์แดกซ์ผู้นำแห่งนีครัสที่อยู่ในความสงบเป็นเวลานาน 
  • เราได้รู้จากตอนที่ย้อนภาพกลับไปว่าคอร์แดกซ์และกษัตริย์แอตลานแห่งตำนาน (บรรพบุรุษของอาร์เธอร์และออร์ม) ต่างเป็นพี่น้องกันในแอตแลนติสโบราณ เราได้เห็นความกระหายอำนาจของคอร์แดกซ์ เขาสร้างตรีศูลที่มีมนต์ดำขึ้นมาเพื่อยึดครองแอตแลนติส เมื่อคอแดกซ์พ่ายแพ้ในการต่อสู้กับแอตลานพี่น้องของเขาเอง เขาและทั้งเมืองถูกแช่แข็งโดยมนต์สะกดจากเลือด และมีเพียงผู้สืบทอดของแอตลานเท่านั้นที่จะปลดปล่อยให้เป็นอิสระได้
  • การถ่ายทำฉากต่อสู้ในประวัติศาสตร์ มีการสร้างปราสาทนีครัสให้ดูมีความเฟื่องฟูตามอดีต ใช้พื้นที่โรงถ่าย 2 แห่งขนาดใหญ่ นักแสดงสมทบหลายร้อยคนและนักแสดงผาดโผนแสดงอยู่ด้านหลังในฉากการต่อสู้ที่มีอาวุธของชาวแอตลานทีนและนีครูเซียนเต็มตัว 
  • ที่โรงถ่ายที่ 2 มีการสร้างบรรยากาศภายในปราสาทขึ้น มีห้องสำหรับกษัตริย์ยุคกลาง กระเบื้องมีความมันวาวและบัลลังก์ที่มองเห็นห้องโถงขนาดใหญ่ทั้งหมด 
  • สำหรับการถ่ยทำฉากนีครัสยุคปัจจุบัน ทั้งปราสาทถูกตกแต่งใหม่ และมีน้ำแข็งขึ้นปกคลุมตั้งแต่ด้านบนจรดด้านล่าง แท่งน้ำแข็งขนาดยักษ์อยู่บนผนัง ทั้งฉากถูกน้ำแข็งปกคลุมและมีหิมะที่สร้างความน่ากลัวให้ปราสาทช่วงฤดูหนาว 

 

ภาพลักษณ์…

  • ช่างตีเหล็กต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่อสร้างเกราะสำหรับคอร์แดกซ์ขึ้นมา มีการใช้ทองเหลืองและใช้ค้อนมือตีทองแบบโบราณ ชิ้นส่วนโลหะจะถูกหลอมและใช้โพลียูรีเธนผลิตขึ้นมา (เพื่อความสบายและลดเสียงการต่อสู้) ชิ้นส่วนที่หลอมไว้จะถูกนำมาเชื่อมต่อกัน โดยใช้หนังและวิธีโบราณแบบอื่น ผู้ออกแบบเครื่องแต่งกาย ริชาร์ด เซล ได้แรงบันดาลใจจากปลาพิรารูคูที่ยาวมากในบราซิล ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง มีความยาวถึง 3 เมตร จำลองความงดงามโดยไมต้องใช้หนังของพวกมัน ทีมเครื่องแต่งกายหลอมผิวของปลานับร้อยมาจากหนังพิรารูคูเพียงตัวเดียว โดย “หนัง” เหล่านี้จะเห็นได้บนชุดทหารแอตแลนทีนโบราณ 

แบล็ค แมนต้าผู้พ่ายแพ้ให้แก่อควาแมนในภาคแรก ยังคงมุ่งมั่นหาทางแก้แค้นให้การตายของพ่อ เขาจะไม่มีวันหยุดยั้งการโค่นล้มอควาแมน ครั้งนี้แบล็ค แมนต้าน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม โดยมีอาวุธอย่างตรีศูลสีดำแห่งตำนานที่สามารถปล่อยพลังอันน่ากลัวจากยุคโบราณออกมาได้ เพื่อการเอาชนะอควาแมนต้องหันไปจับมือกับออร์ม น้องชายที่ถูกขังตัวเอาไว้และเป็นอดีตกษัตริย์แห่งแอตแลนติส พวกเขาต้องก้าวข้ามเรื่องความแบ่งแยกเพื่อปกป้องอาณาจักรของพวกเขาเอาไว้ ปกป้องครอบครัวของอควาแมนและโลกจากการถูกทำลายล้างอย่างย่อยยับ

หมวดหมู่: Action, Adventure, Fantasy
เรทผู้ชม: G
 125 นาที
ผู้กำกับ: James Wan
นักแสดง
 Patrick Wilson
 Amber Heard
 Nicole Kidman
 Jason Momoa
 Yahya Abdul-Mateen II